#ยังไม่ตรวจคำผิด

#นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

 

 

นี่ก็ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์ตั้งแต่ที่เกลหรือมิเกลทะลุมิติเวลาในโลกอนาคตในอีกพันปีข้างหน้า ร่างที่เขาเข้ามาอยู่มีชื่อว่าเอเกลเป็นมนุษย์สัตว์แมว

อ่านไม่ผิดหรอกตอนนี้เกลเป็นมนุษย์สัตว์เพราะโลกในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปมากมาย เผ่าพันธุ์มนุษย์จึงวิวัฒนาการตามมารูปแบบต่างๆ แน่นอนว่าไม่ได้มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่วิวัฒนาการสิ่งมีชีวิตอื่นๆ บนโลกต่างก็วิวัฒนาการกันทั้งนั้น

มนุษย์วิวัฒนาการในมีอายุยืนยาวมากกว่า100ปี มียีนส์ของสัตว์ต่างๆ ซึ่งทำให้มนุษย์มีลักษณะบางอย่างของสัตว์ เช่น มีหู มีหาง มีกรงเล็บ หรือมีประสาทสัมผัสที่ดีขึ้นกว่าปกติ แต่ไม่สามารถกลายร่างเป็นร่างสัตว์ได้ แต่ก็มีบางเผ่าพันธุ์ที่ทำได้ แน่นอนว่าก็มีมนุษย์ที่ไม่มีเอกลักษณ์ของสัตว์ หรือก็คือมีรูปลักษณ์เป็นมนุษย์ปกติ แต่ในสมัยนี้มนุษย์จำพวกนี้มีน้อยและมักถูกมองว่าเป็นพวกที่มียีนส์ด้อย

สิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่วิวัฒนาการมาด้วยก็คือพวกสัตว์ต่างๆ ในอดีต ในยุคนี้พวกเราเรียกพวกเขาว่าบีสต์ เป็นสัตว์ที่มีร่างกายเป็นมนุษย์แต่ก็มีศีรษะ มือ เท้าและอื่นๆ เป็นสัตว์ตามเผ่านั้นๆ ไป นอกจากบีสต์สัตว์ปกติในอดีตแล้ว ยังสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วหรือแม้แต่สัตว์ในตำนานอย่างเช่น ไดโนเสาร์และมังกร

แน่นอนว่ามีสิ่งมีชีวิตในตำนานอีกมากมายที่มีชีวิตอยู่ในยุคนี้ เอลฟ์ คนแคระ แม่มด ก็มีหมด

ก็อย่างข้อมูลที่ว่ามานี่แหละ เกลใช้เวลากว่า3วันถึงจะทำความเข้าใจได้ทั้งหมด ถ้าถามว่าครั้งแรกที่ตื่นมาแล้วรู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหนไม่รู้เกลสติแตกไปเลยทีเดียว แน่ล่ะนอนหลับไปแล้วตื่นขึ้นมาที่ไหนไม่รู้ใครมันจะไม่สติแตกบ้างล่ะ

เกลใช้เวลากว่า2วันในการพยายามทำทุกอย่างให้ตัวเองกลับไปยังที่ที่ตัวเองจากมา เช่น วิ่งชนกำแพง พยายามทำให้ตัวเองจมน้ำ และอื่นๆ อีกหลายอย่าง จนสุดท้ายก็ยอมรับว่าตัวเองกลับไปยังยุคที่จากมาไม่ได้ จึงได้เริ่มหาข้อมูลของโลกยุคนี้ และร่างที่ตัวเองเข้ามาอยู่

เอเกลคือร่างที่มิเกลเข้ามาอยู่ เอเกลเป็นคนหนุ่มที่จบใหม่ จะเรียกว่าจบใหม่ได้มั้ยนะก็ในเมื่อเอเกลจบมาได้ 3 ปีแล้ว หรือก็คือเอเกลในตอนนี้มีอายุประมาณ 25 ปี เจ้าของร่างเรียนจบคณะอาหารและโภชนาการ ซึ่งปัจจุบันไม่ค่อยมีใครเรียนกันแล้ว และที่เจ้าของร่างเลือกเรียนคณะนี้เพราะว่าค่าเทอมมันถูก

เอเกลเสียพ่อแม่ไปเพราะสงครามบุกรุกดินแดนของเซิร์ก ทำให้เอเกลต้องอยู่ในการดูแลของญาติหรือก็คือพี่สาวของพ่อ เอเกลไม่ได้รับการเลี้ยงดูที่ดีนัก จากป้า แน่นอนว่าไม่มีใครอยากดูแลกาฝากแบบเจ้าของร่างดีนัก แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้ถึงขั้นที่ยอมรับไม่ได้

เมื่อเข้าเรียนมหาลัยเอเกลก็แยกตัวออกมาจากป้า โดยการหาห้องเช่าใกล้ๆ มหาลัยและหางานทำเพื่อหารายได้ให้ตัวเองไปด้วย ส่วนเงินชดเชยที่ได้จากรัฐจากการเสียชีวิตของพ่อแม่นั้น ป้าแบกมาให้เอเกลครึ่งหนึ่งและเก็บครึ่งหนึ่งไว้โดยให้เหตุผลว่าเป็นค่าเลี้ยงดูที่เอเกลมาอยู่ด้วย

ส่วนงานที่เอเกลทำมีทั้งงานในร้านอาหาร ร้านเหล้า ร้านสะดวกซื้อ แต่ที่เอเกลชอบที่สุดคือการไปเป็นพี่เลี้ยงเด็กในเนอสเซอรี่ใกล้ๆ ห้องเช่า

และนั้นเป็นจุดที่เอเกลอยากเปิดศูนย์รับเลี้ยงเด็กเป็นของตัวเอง ใช่ไม่ใช่แค่เนอสเซอรี่รับเลี้ยงเด็กเป็นบ้างช่วงเท่านั้น แต่เป็นการเปิดศูนย์ให้ความช่วยเหลือเด็กๆ ที่ถูกทิ้ง หรือถ้าพูดให้เข้าใจก็คือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้านั้นเอง

พูดมันก็ง่ายแต่ทำมันยากมาก สิ่งที่ยากที่สุดคือเรื่องของงบประมาณหรือก็คือเงินนั้นเอง ด้วยตัวเองเจ้าของร่างเองไม่มีทางหาเงินได้มากมายพอที่จะเปิดศูนย์เลี้ยงเด็กได้

แต่โชคก็เข้าข้างเขา เอเกลถูกสลากดวงดาวรางวัลที่ 5 ถึงจะไม่มากมายอะไรแต่ก็มากพอหาซื้อที่ดินที่ราคาไม่แพงมากจากที่รัฐประกาศขายได้ และยังเหลือเงินในการสร้างศูนย์รับเลี้ยงอีกด้วย

ดูเหมือนทุกอย่างจะเป็นไปได้ด้วยดี จนเมื่อศูนย์ใกล้จะเสร็จก็เกิดเรื่องขึ้น

มีเซิร์กเข้ามาในพื้นที่แถวที่เมืองของศูนย์ที่เอเกลสร้างอยู่ ทำให้เกิดความเสียหายมากมายในเมือง หนึ่งในสิ่งที่เสียหายคือศูนย์ที่กำลังจะเสร็จของเอเกล จากเรื่องที่เกิดขึ้นรัฐบาลได้จากค่าชดเชยให้เอเกลเป็นเงินขึ้นหนึ่งของราคาค่าก่อสร้าง

มันจึงทำให้เอเกลไม่มีเงินจ้างช่างมาทำศูนย์ใหม่ในแบบเดิมที่ต้องการได้ เอเกลจึงตัดสินใจที่จะขายที่ดินตรงนั้นไปแล้วหาซื้อที่ดินที่อื่นแทน

ผลคือเอเกลได้ที่ดินราคาถูกในดวงดาววงนอก

ดวงดาววงนอกเป็นที่ตั้งของดวงดาวมากมายที่ยังได้รับการพัฒนาที่ดีมากนัก ดาวที่เอเกลซื้อที่ดินคือดาว X-07 เป็นดาวที่มีต้นไม้ปกคลุมมากกว่า 70% ของดาว และที่ดินที่เอเกลได้มานั้นอยู่ติดกับป่ามาก ต้องพูดว่ารายล้อมไปด้วยป่าถึงจะถูก

แต่สิ่งที่เลวร้ายกว่านั้นคือที่ดาวดวงนี้ไม่มีใครที่สามารถทำศูนย์รับเลี้ยงให้เอเกลได้เลย และหากจะจ้างคนจากดาวอื่นก็มีค่าใช้จ่ายมากมาย เอเกลจึงต้องทำมันด้วยตัวเอง

ใช่แล้วเจ้าของร่างเดิมตั้งใจที่จะสร้างศูนย์รับเลี้ยงเด็กด้วยตัวเอง และนี่ก็เป็นสาเหตุที่เจ้าของร่างเสียชีวิตจนทำให้มิเกลเข้ามาอยู่ในร่าง

คิดดูสิ มีที่ไหนคนที่ไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน พยายามที่จะสร้างมันคนมาด้วยตัวเอง เจ้าของร่างทนเหนื่อยมาได้ตั้ง 2 อาทิตย์ก็ถือว่าดีมากแล้ว

“เห้ออออ” มิเกลถอนหายใจ

สิ่งที่มเอเกลคนก่อนสร้างเสร็จก่อนตายคือบ้าน จะเรียกว่าบ้านได้รึเปล่านะ มันเป็นเหมือนเพิงที่บังแดดได้แต่บังลมบังฝนไม่ได้มากกว่า

ดีหน่อยที่อย่างน้อยเจ้าของร่างก็ยอมจ้างคนมาสร้างห้องน้ำ ออกจากนั้นแล้วเจ้าของร่างก็เอาเงินกว่า 80% ของที่เหลือไปซื้ออุปกรณ์สร้างบ้าน แต่เท่าที่มองก็ทำได้แค่บ้านไม้เท่านั้นแหละ แล้วศูนย์รับเลี้ยงก็คงต้องสร้างจากไม้เหมือนกัน

พูดถึงเอเกลแล้ว ก็ถึงเวลาพูดถึงมิเกลแล้วสิ

มิเกลในอดีตเป็นเจ้าของเนอสเซอรี่เล็กๆ อยู่ในตัวเมืองของต่างจังหวัด และมันก็ช่างพอดีเหลือเกินที่บ้านของมิเกลเปิดบริษัทรับเหมาก่อสร้าง

“ไหนๆ ก็เข้ามาอยู่ร่างคนอื่นแล้วก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไร ก็ทำตามที่เจ้าของร่างอยากทำแล้วกัน มิเกลไฟท์! โอ้วววว!” มิเกลในร่างเอเกลพูดกับตัวเอง

“อย่างแรกที่ต้องทำก็คือทำบ้านใหม่ก่อนสินะ” พูดจบมิเกลก็เริ่มจับเครื่องมือและเริ่มรื้อเพิงที่เจ้าของร่างสร้างไว้ออก

หลังจากรื้อเพิงออกเสร็จแล้วเคลียร์พ้นที่รอบๆ มิเกลก็เริ่มด้วยการขุดหลุมเพื่อลงเสาบ้าน จนเวลาผ่านไปถึงบ่ายแก่ๆ มิเกลจึงหยุดพัก

“ไม่น่ารื้อเพิงนั้นเลย แล้วคืนนี้จะนอนยังไงละเนี่ยไอ้เกลเอ๊ย” มิเกลบ่นขนาดที่ขยี้ผมสีดำสนิทของตัวเอง “เอาวะ วันนนี้ต้องลงเสาให้เสร็จ”

จนเวลาล่วงเลยไปจนถึงตอนที่มิเกลลงเสาบ้านเสร็จ “เห้ออ เสร็จสักที”

มิเกลพูดขนาดทิ้งตัวลงนอนแผ่บนพื้น จากที่มิเกลมองดูและคำนวณคร่าวๆ วัสดุที่เอเกลซื้อมาไม่มีทางพอแน่ สร้างบ้านหนึ่งหลังอาจจะพอ แต่ไม่พอสร้างศูนย์รับเลี้ยงเด็กแน่นอน ต้องหาเงินสินะ

“จะว่าไปเอไอของเกลก็ไม่ได้อัพเกรดมานานมากแล้วแฮะ” มิเกลยกข้อมือขึ้นมามอง

ที่ข้อมือของมิเกลคือสมาร์ทวอทซ์ที่ทุกคนในยุคนี้มี และแน่นอนในแต่ละเครื่องจะมีเอไออยู่ อุปกรณ์พวกนี้ใช้แทนมือถือและกระเป๋าเงิน เพราะมันเป็นทุกอย่างให้กับคนในยุคนี้

สมาร์ทวอทซ์ที่ได้รับการอัพเกรดเป็นรุ่นปัจจุบันจะสามารถโต้ตอบกับเจ้าของเป็นเสียงพูดได้ และแน่นอนว่าเจ้าของร่างไม่มีเวลาเจียดเงินไปอัพเกรดมันแน่นอน

ขนาดที่ใช้สมาร์ทวอทซ์หาข้อมูลการหาเงินที่รวดเร็วทันใจอยู่นั้น มิเกลก็ไปสะดุดตากับหนึ่งอาชีพในนั้น

มันคือการเป็นสตรีมเมอร์

แน่นอนว่าการสตรีมในยุคนี้ต้องมีอะไรที่น่าสนใจมากกว่าในยุคก่อน และหลังจากที่ศึกษาดูแล้วมิเกลก็เริ่มเปิดการประชุม

“การประชุมเรื่องปากท้องครั้งที่ 1 เริ่มขึ้นได้” มิเกลร่างหลักพูดเปิด

“ฉันขอเสนอการเปิดช่องสตรีมเมอร์เป็นอาชีพที่ควรทำตอนนี้มากที่สุดเพราะว่ามันได้เงินเร็วกว่าอาชีพอื่นๆ” มิเกลที่มีหนวดทรงอะบราคาดาบร้าพูดขึ้น

“ฉันก็เห็นด้วยๆ” มิเกลที่ใส่หมวกทรงสูงและมิเกลที่ผมยาวพูดขึ้นพร้อมกัน

“แล้วเราจะสตรีมเกี่ยวกับอะไรล่ะ?” มิเกลเวอร์ชันผู้หญิงถามขึ้น

“ทำอาหารสิ” มิเกลผมยาวพูดขึ้น

“ไม่สิ ต้องเดินป่า” มิเกลหนวด

“ไม่ ต้องเลี้ยงเด็กสิ” มิเกลผู้หญิง

“จะอันไหนก็ดีทั้งนั้นแหละ” มิเกลหลักพูด

“งั้นก็สตรีมทั้งหมดเลยสิ” มิเกลหมวกพูดขึ้นบ้าง “ก็เริ่มสตรีมชีวิตประจำวันของเราสิ ตอนนี้มันออกจะน่าสนใจไม่ใช่เหรอ?”

“น่าสนใจ? สร้างบ้านเนี้ยนะ? ใครจะมาดู” มิเกลผู้หญิง

“อาจจะเวิร์คก็ได้ มันต้องไม่มีใครเคยทำแน่” มิเกลหนวด

“งั้นเอาเป็นสตรีมเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของเรา เริ่มตั้งแต่สร้างบ้านไปเลยสินะ” มิเกลร่างหลักพูด และมิเกลคนอื่นๆ ก็พยักหน้าเห็นด้วย

ด้วยเหตุนี้การประชุมครั้งที่ 1 จึงจบลง

หลังจากนั้นมิเกลก็ทำการสั่งซื้อกล้องสตรีมกลางแจ้งระดับกลางไป จนตอนนี้เงินในบัญชีของเขามีอยู่เพียง 10,000 เหรียญ เท่านั้น

หลังจากกล่าวขอขมาเจ้าของร่างในใจเกี่ยวกับการเอาเงินของอีกฝ่ายมาใช้แบบนี้ มิเกลก็เปิดช่องสตรีมที่มีชื่อช่องว่า

‘ชีวิตประจำวันของเอเกล’

“ไหนๆ ก็ชีวิตใหม่แล้ว สู้เขา มิ- ไม่สิ เอเกล!!”

 

 

 


สวัสดีค่ะ

ขอฝากเนื้อฝากตัว และฝากเรื่องนี้ด้วยนะคะ

เนื้อเรื่องจะค่อยๆ ดำเนินไปนะคะ (ค่อยๆ มากเอาตั้งแต่สร้างบ้านเลยทีเดียวฮาฮ่าฮ่าาาา)

ต้องขอบอกก่อนเลยว่าตรงที่สร้างบ้าน เราแต่งขึ้นมาจากความคิดของตัวเองนะคะว่ามันจะเป็นยังไง หากผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัยด้วยค่ะ

ปล.คอมเม้นท์(หรือจะโดเนท)เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ