1 ตอน 01
โดย zhaofah
.
ชีวิตพนักงานพนักงานออฟฟิศมันเหมือนจะง่าย แต่มันก็ไม่ได้ง่าย ท่ามกลางความวุ่นวายของคนหาเช้ากินค่ำในเมืองหลวง วันๆ ของนักศึกษาจบใหม่ไฟแรงอย่างคว้าจันทร์ช่างว่างเปล่า เช้าตื่นไปเข้างานตั้งแต่ไก่ยังไม่ทันโห่ เที่ยงก็พักไม่พอต่อคิวร้านยำสุดฮอต เย็นก็เลิกงานตรงเวลาแต่รอรถเมล์สามชั่วโมงก็ไม่มา ชีวิตมันรันทดอะไรอย่างนี้
"โทรหาแม่ดีกว่า" เขาตัดสินใจหาอะไรฆ่าเวลารอรถเมล์สายสิบสองเจ้าประจำที่ตนจะต้องขึ้น
[ว่าหยังลูก] เสียงผู้หญิงที่คุ้นเคยดังออกมาจากปลายสาย
"กินข้าวแล้วบ่แม่" เขาเอ่ยถามเรื่องทั่วไป ไม่มีอะไรพิเศษนัก
[กินแล้วบักหล่า พ่อเฮ็ดลาบปลาดุกให้แม่กับน้องกิน เจ้ากินแล้วบ่] ปกติที่บ้านของคว้าจันทร์ พ่อจะเป็นคนทำอาหาร เพราะแม่เขาทำไม่เป็น เป็นเวิร์คกิ้งวูแม่นแบบเก๋ๆ
"ยังอยู่แม่ ถ่ารถเมล์อยู่ จั้กสิมาตอนได๋ อยากเป็นคึจังนิยายอยู่แหม ทะลุมิติแล้วก็รวยหลายพันล้าน ไปนำกันอยู่บ่] เขาพูดอย่างขำๆ
"จั้กเพินเว้าหยัง..." ไม่ทันที่แม่จะบ่นอะไรต่อ
รอบตัวคว้าจันทร์เกิดช่องว่างบิดเบี้ยวบนอากาศ ราวกับว่าไม่มีใครมองเห็นนอกจากตัวเขาเอง จากนั้นเขาก็รู้สึกเหมือนตัวเองพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วราวกับเหยียบคันเร่งถึงสามร้อย รอบตัวมีแต่ความมืดมิด ร่างกายไร้ความเจ็บปวด
เขาคิดว่าเขากำลังฝันกลางวัน คว้าจันทร์หลับกลางอากาศหรือเปล่า ทำไมทุกอย่างมันมืดไปหมดแบบนี้ สักพักเขาก็หยุดนิ่ง จากที่เคยเคลื่อนที่เหมือนติดเทอร์โบก็สงบลง แต่ทุกอย่างยังคงมืดมิด อะไรวะเนี่ย
[ยินดีต้อนรับเข้าสู่ช่องว่างระหว่างมิติ เรากำลังนำท่านเข้าสู่โลกคู่ขนานใบที่398 สิ่งที่ท่านต้องทำในระหว่างนี้ ได้แก่ บรรยายรูปลักษณ์ของท่านที่จะปรากฏในมิติใหม่ พื้นฐานครอบครัวที่ท่านต้องการ อายุและการศึกษา]
คว้าจันทร์ตกใจจนตาถลน นี่หมายความว่าสิ่งที่เขาพูดเล่นไปก่อนหน้านี้เป็นจริงทั้งหมดเหรอ เขาเพียงพูดเล่นๆ เท่านั้นนะ เมื่อทุกสิ่งดูไม่น่าเชื่อ เขาจึงยกมือหยิกตัวเองเพื่อหวังที่จะลืมตาตื่น แต่มันเจ็บมาก เพราะเขาหยิกไปเสียเต็มแรง
"นี่เรื่องจริงเหรอเนี่ย"
[จริงเสียยิ่งกว่าจริง] ฝ่ายนั้นที่เขาไม่รู้ว่าเป็นใครตอบกลับมา
"แล้วกลับไปไม่ได้เหรอ"
[เราสามารถพาคุณไปข้างหน้าได้ แต่พาคุณย้อนกลับไปไม่ได้] ถ้ารู้ว่าปากตัวเองจะศักดิ์สิทธิ์ขนาดนี้ เขาคงบอกเลขตรงๆ ให้แม่หกตัว แล้วไปเหมามาเลยเป็นร้อยๆ ใบน่าจะดี เป็นมหาเศรษฐีกันไปเลย
"แล้วจะได้แบบที่บอกทั้งหมดเลยเหรอ ถ้าพูดไป" คว้าจันทร์ย้อนกลับไปสิ่งแรกที่อีกฝ่ายพูดอีกครั้ง ในเมื่อกลับไม่ได้ ก็ต้องเดินหน้าเท่านั้นแหละวะ
[มิติจะเป็นฝ่ายตรวจสอบและให้ตามความต้องการของท่าน แต่ก็ให้ตามที่เหมาะสม] โถ่ กะจะขอเป็นเศรษฐี วันๆ ไม่ทำการทำงาน นอนให้คนนินทาเล่น
"ถ้างั้นขอเลือกหน้าตาแบบนี้แหละ หล่อแล้ว"
[แน่ใจเหรอครับ] ทางนั้นตอบกลับมาทันที ทำเอาคว้าจันทร์ลมออกหู นี่มันจะบอกว่าเขาไม่หล่อเหรอวะ
"งั้นเปลี่ยนก็ได้ ขอจมูกโด่งขึ้นอีกหน่อย เอาให้เข้ากับหน้านะ แล้วก็ปากกระจับจุ๊บุๆ หุ่นดีแบบไม่ต้องพยายามออกกำลังกายตลอดไปเลยยิ่งดี"
[ก็ขอเยอะอยู่นะครับ] ไอ้ระบบบ้านี่มันกวนเหมือนกันนะ
"เออหน่า ส่วนครอบครัว ขอพาคนที่บ้านไปด้วยสิ ส่วนพื้นฐานก็ขอเป็นไม่มีหนี้สิน มีกิจการให้อยู่กันได้สบายๆ นะ" คว้าจันทร์ใช้โอกาสนี้ปลดหนี้ปลดสินที่พ่อกับแม่มีอยู่เลย ที่บ้านเขากู้เงินมาจำนวนหนึ่งเพื่อเปิดธุรกิจของพ่อ ซึ่งก็คือร้านหมูกระทะ ทำให้ตอนนี้มีหนี้สินติดตัวกันอยู่ อาจจะไม่มากในสายตาคนอื่น แต่สำหรับเขาแล้ว จะมากจะน้อยย่อมไม่ดีทั้งนั้น
"อายุก็ขอเท่านี้แหละ ขี้เกียจกลับไปเรียนใหม่ ส่วนการศึกษา อืม อยากเก่งภาษา เอาหลายๆ ภาษาเลยนะ แล้วก็เรื่องที่เรียนจบมานี่ก็ด้วย" เขาเรียนจบจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี การงานที่เคยทำก็ไม่ได้เงินเดือนแย่มาก แต่คว้าจันทร์เพิ่งเรียนจบและทำงานได้เพียงสามเดือน เลยไม่สามารถเรียกเงินได้สูงนัก เขาคิดว่าความรู้ที่เรียนมา ยังไงก็คงมีประโยชน์อยู่แล้ว รู้ ย่อมดีกว่าไม่รู้
[ทำไมไม่เรียนเอาล่ะครับ] ระบบมิติพูดด้วยเสียงเฉื่อยชา
"ก็บอกว่าขี้เกียจไง" เขาตอบกลับทันควัน เรียนมาทั้งชีวิต เรียนจนจบแล้ว จะให้กลับไปเรียนอีกเหรอ ไม่เอาหรอก
[เมื่อท่านเลือกครบถ้วนแล้ว จะเสร็จสิ้นงานของมิติ ตรวจสอบข้อมูลและพูดคำว่ายืนยัน มิติจะทำการส่งท่านเข้าสู่โลกคู่ขนานที่398]
"แค่นี้เหรอ แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าได้อะไร ไม่ได้อะไร" คว้าจันทร์งุนงงเล็กน้อย
[เมื่อไปถึงก็จะรู้เอง] อยู่ๆ ก็มีหน้าต่างระบบขึ้นมา เป็นข้อมูลทั้งหมดที่เขากล่าวไปเมื่อตะกี้ เขากวาดสายตาอ่านซ้ำๆ อย่างละเอียดอยู่สองสามรอบ แล้วจึงพยักหน้าอย่างพอใจ เท่านี้แหละ
"ยืนยัน"
[ยินดีต้อนรับและลาก่อน] ทันทีที่กล่าวจบ เขาก็พุ่งทะยานไปข้างหน้าด้วยความเร็วแสงอีกครั้ง แต่คราวนี้ตกใจน้อยกว่าหน่อยและสักพักก็รู้สึกง่วงจนตาปิดไปเอง
ตะวันทอแสงยามเช้า เสียงนกร้องบรรเลงเสียจนหนวกหู แทนที่จะได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม คว้าจันทร์ลืมตาขึ้นท่ามกลางแสงสว่าง เขาจำได้ว่าตัวเองซื้อม่านกันแสงไว้แล้ว ทำไมมันไม่กันล่ะ
"อะไรวะ" แต่ก่อนที่จะหงุดหงิดไปมากกว่านั้น ความทรงจำทั้งหมดก็ไหลย้อนกลับเข้ามาในหัว เขาจึงรีบลุกขึ้นไปเปิดม่านเพื่อดูบรรยากาศรอบๆ ทันที
ภาพที่เห็นทำเอาเขาอ้าปากค้าง มันต่างจากโลกเดิมตรงไหนวะ เขางุนงงและสงสัย แต่ก็เริ่มเพ่งมองแต่ละจุดให้ละเอียดอีกครั้ง ที่นอกหน้าต่างนั่นไม่มีเสาไฟฟ้าระโยงระยาง แสดงว่าเขาไม่ได้อยู่ที่เมืองหลวงของประเทศไทยอย่างแน่นอน
อีกทั้งบรรยากาศที่เขามองเห็นก็ต่างจากเมืองกรุงเป็นอย่างมาก เพราะเขาดันมองเห็นสนามหญ้า ที่น่าจะเป็นสนามของบ้านหลังนี้ที่เขาเหยียบอยู่นี่แหละ ใหญ่โคตร ไม่ทันจะได้ตะลึงกับอย่างต่อไป คว้าจันทร์ได้ยินเสียงคนคุยกันอยู่ข้างนอก เขาเลยค่อยๆ เปิดประตูและชะโงกหัวออกไปดู แล้วก็เจอกับครอบครัวของเขาเอง
"บักหล่า! เจ้าก็อยู่สั่มบ่ โอ้ย แม่สิเป็นลม เฮาอยู่ไสหนิลูก" เพราะทุกคนทำสีหน้าแปลกๆ คว้าจัทร์จึงรู้ว่าคงโดนดึงมาแบบไม่คาดคิด ทำให้อยู่ๆ มาโผล่ที่นี่ด้วยตามคำขอของเขา
"สิเล่าให้ฟัง" พวกเราทั้งหมดนั่งล้อมวงกันอยู่หน้าบันได จากนั้นคว้าจันทร์ก็เริ่มเอ่ยเล่าเรื่องราวที่ตนเองได้รับรู้มาให้ฟัง
"ป๊าด คึสิมาปากดีแท้" พ่อเอ่ยชม แต่เขาไม่คิดว่ามันเหมือนคำชมเท่าไหร่เลยนะ
"คันซั่นเอาจังได๋ต่อล่ะบาดนี่" น้องสาวของเขาอย่างสอยดาวเอ่ยถามออกมา
"ไปสำรวจบ้านก่อน จังว่ากัน" เมื่อตกลงกันแล้ว ครอบครัวสี่คนก็แยกย้ายกันไปสำรวจในห้องที่ตนนอนอยู่เมื่อกี้ เผื่อว่าจะรู้อะไรมากขึ้น ไอ้ระบบมันกวนตีนจริงๆ อยู่ๆ ก็พาเข้ามา แถมตื่นมายังไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับโลกนี้เลยด้วย ไหนบอกจะรู้เองไงวะ รู้ตรงไหน ไม่รู้โว้ย!
ผ่านไปเกือบชั่วโมง หลังจากการรื้อค้นห้องของตัวเอง คว้าจันทร์เจอสิ่งที่น่าจะเป็นเครื่องมือสื่อสารในโลกนี้แล้ว มันเป็นของที่คล้ายๆ กับสร้อยข้อมือ แต่พอเขาพูดกับตัวเองว่าอะไรวะ มันก็ดันตอบกลับมาได้เหมือนในนิยายที่เคยอ่าน เขาจึงมั่นใจว่าสิ่งนี้คงจะเป็นอุปกรณ์ที่ไม่ต่างจากโทรศัพท์มือถือ
"ฮัลโหล ตอบได้ไหม" เขาก้มหน้าพูดกับกำไลข้อมือ
[ไม่ต้องก้มหน้ามาพูดก็ได้ครับ แค่ใส่ไลฟ์เบรสไว้ก็สามารถสื่อสารกับผมได้แล้วครับ] หน้าแตกไปหนึ่ง ก็ไม่เคยใช้นี่หว่า
"เออๆ แนะนำตัวแล้วก็โลกนี้ให้ฟังหน่อยสิ"
[ผมชื่อมูนนี่ เป็นไลฟ์เบรสส่วนตัวของคุณคว้าจันทร์ครับ ไลฟ์เบรสรุ่นนี้และตัวผมเป็นรุ่นล่าสุดที่ถูกพัฒนาขึ้นในจักรวาลนี้ครับ] จากนั้นเจ้าเอไอในไลฟ์เบรสก็อธิบายต่อไป
และข้อมูลทั้งหมดที่ได้ฟังมา ทำให้คว้าจันทร์เข้าใจได้ว่า ตอนนี้เขากำลังเหยียบอยู่บนดาวที่ชื่อว่าไครัส เป็นดาวอันดับสามในจักรวาล โดยที่การจัดอันดับนี้ไม่ได้หมายถึงใกล้ ไกล หรือความใหญ่โต แต่วัดโดยความเจริญของดวงดาว ซึ่งลำดับที่สามก็ถือว่าเป็นดาวที่ค่อนข้างเจริญเลยทีเดียว เจ้ามูนนี่ยังบอกให้ฟังอีกว่า เขาเรียนจบจากมหาวิทยาลัยไครัส ในคณะเดิม ซึ่งก็ตรงตามที่ขอ และตอนนี้คว้าจันทร์กำลังอยู่ในช่วงหางานอยู่
"แล้วเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวฉันล่ะ" ยังไงก็ต้องมีฐานข้อมูลบ้างสิ ไม่งั้นพวกเขาจะกลายเป็นบุคคลต่างดาว ไม่มีทะเบียนบ้านนะ
[คุณพ่อ คุณแม่ของเจ้านายเปิดร้านอาหารโบราณอยู่ใจกลางเมืองเลยครับ ขายดีมากด้วย ส่วนน้องสาวของเจ้านายก็กำลังเรียนอยู่ปี2 มหาวิทยาลัยไครัสเหมือนกันครับ ข้อมูลที่ละเอียดกว่านี้ต้องไปสอบถามกับเอไอของพวกเขานะ] เมื่อได้ยินว่าตนเองยังเป็นคนในพื้นที่อยู่ เขาก็สบายใจ แค่นี้ก็แปลกประหลาดมากพอแล้ว
"แล้วที่ว่าหางานอยู่ ฉันสมัครไปบ้างยัง" เขาถามต่อ
[คุณเพิ่งลืมตาตื่นมาบนโลกนี้เมื่อกี้เองนะครับ] เหมือนถูกด่าว่าโง่ คว้าจันทร์จิกตามองไลฟ์เบรสบนข้อมือตัวเอง เดี๋ยวก่อนเถอะ ให้เขาปรับตัวเข้ากับโลกนี้ให้ได้ก่อนนะ จะฉลาดให้ดู เหอะ
talk: ขอประเดิมตอนแรกไว้ก่อนค่า ส่วนข้อมูลของโลกนี้ ทุกคนจะรู้ไปพร้อมๆกับยัยคว้าจันทร์เลยนะคะ
ชื่อคว้าจันทร์กับสอยดาว เราเคยเขียนไว้ในนิยายเรื่องก่อนหน้านี้นานมาก ประมาณ4-5 ปีได้ ใช้นามปากกาเก่า แต่ลงไปได้ไม่กี่ตอนเอง เรายังไม่อยากตัดใจจากชื่อนี้เพราะชอบมาก เลยขอเอามาใช้กับเรื่องนี้แทนนะคะ ใครที่เคยเห็นผ่านๆตาก็ให้รับรู้ว่าคนนั้นคือเราเองค่า
#สตรีมเมอร์นักทดลอง
@zhaofah
Comments (0)