ละอองแสงสีเหลืองอำพันเปล่งประกายระยิบระยับเติมเต็มความมืดอันว่างเปล่า เมื่อเอื้อมมือออกไปสัมผัส เหล่าละอองแสงก็ฟุ้งกระจายลอยล่องอ้อยอิ่งสู่ท้องฟ้าเบื้องบนและเลือนหายไปราวกับว่านี้คือต้นกำเนิดของหมู่ดาว

        ละอองแสงที่งดงามบางส่วนยังคงลอยผ่านหน้าเหมือนจะนำไปยังที่ไหนสักแห่ง ฉัน’ กึ่งเดินกึ่งวิ่งไล่ตามละอองแสงระยิบระยับนั้น ณ ที่ซึ่งละอองแสงทั้งหมดมารวมกัน ที่สุดแล้วก็ได้พบกับ ‘เธอคนนั้น

        หญิงสาวในชุดแต่งกายโบราณ ผมหยักศกสีดำสนิทยาวถึงกลางหลัง คาดผ้าแถบที่คล้ายเกาะอกสีเหลืองอ่อนปักลวดลายเผยช่วงเอว ผ้าคลุมไหล่สีน้ำตาล กระโปรงทรงบานยาวกร่อมข้อเท้าสีน้ำตาลเข้มปักลายดิ้นทอง ยากที่จะระบุว่าเป็นชนชาติหรือชนเผ่าไหน และที่น่าตกตะลึงก็คือเธอหน้าเหมือนฉันอย่างกับแกะ!

“รับไว้สิ”

        เธอบอกพร้อมกับยื่นบางอย่างให้

        ฉันรับสิ่งนั้นมาพร้อมกับมองผู้ที่อยู่ตรงหน้า

        “มันถึงเวลาแล้ว เก็บไว้ให้ดีล่ะ” เธอยิ้มให้ฉัน และเมื่อก้มดูสิ่งที่อยู่ในมือ

        “ลูกแก้ว?”

        ลูกแก้วขนาดประมาณเท่าเหรียญ 10 บาทสีเหลืองอำพันใส ภายในมีลวดลายคล้ายเส้นไหมสีทอง มันเปล่งประกายราวกับเป็นกลุ่มดาวบนท้องฟ้า ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกอิ่มเอมใจ แม้เต็มไปด้วยคำถามมากมายแต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมา ตรงหน้าฉันก็มีเพียงความว่างเปล่า ลูกแก้วในมีเริ่มเปล่งแสง ละอองแสงสีอำพันกระจายไปทั่วบริเวณ เปล่งแสงสว่างจ้าจนทุกอย่างกลายเป็นสีขาวโพลน

 

        แก้ว สะดุ้งตื่นขึ้นมาในตอนเช้าทั้งที่มือยังกำแน่น แต่เมื่อคลายออกดูก็ไม่พบอะไร เมื่อตระหนักได้ว่าทั้งหมดเป็นเพียงความฝัน เธอจึงลุกไปเข้าห้องน้ำ ดำเนินชีวิตตามปกติ

        เงาสะท้อนในกระจกห้องน้ำย้อนเอาความฝันประหลาดเข้ามาในหัว คนที่หน้าเหมือนกับเธอราวกับส่องกระจก... ถ้าหากว่าเธอผอมเพรียว ไม่มีสิว ผิวดี และผมยาวกลางหลังเธอจะสวยแบบนั้นหรือเปล่า? ถ้านับทั้งหมดนั้น แก้วเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าผู้หญิงในความฝันหน้าเหมือนเธอ ตอนนี้ผมของเธอพึ่งยาวประบ่าเท่านั้นเอง คนในฝันดูจะสูงกว่าเธอนิดหน่อย ในขณะที่เธอสูงแค่ 151 ซม. บางคนก็เข้าใจว่าเธออยู่ ม.ต้น ซึ่งอาจจะเป็นข้อดีของคนเตี้..ย...ไม่ ๆ!! คนหน้าเด็ก...ต้องบอกว่าหน้าเด็กต่างหาก!

        แก้วในชุดนักเรียนมัธยมปลายของโรงเรียนรัฐบาลทั่วไป แต่ต่างไปหน่อยตรงที่เสื้อที่ใส่ออกจะหลวมๆ ไม่สมส่วนเพราะเป็นชุดมรดกตกทอดมาจากพี่สาว กระโปรงก็แอบซีดนิดๆ ถ้าเทียบกับเพื่อนๆ คนอื่น แก้วเดินลงมาจากชั้น 2 ของบ้าน

“สวัสดีครับคุณผู้ชม ขอต้อนรับเข้าสู่รายการ แหกโต๊ะข่าวใส่สีตีไข่ วันนี้ที่จังหวัด ฮ.ชาวบ้านเขาแตกตื่นกันหนักมากเลยนะครับ เพราะว่ามีคุณลุงคนหนึ่งครับ เขาอ้างว่าเห็น ผีเปรต เมื่อคืนครับ” นักข่าวชายพิธีกรประจำรายการจีบปากจีบคอพูดอย่างออกรส...

“คือคุณลุงคนนี้เขาอ้างว่าเห็นผีเปรตตัวเป็นๆ เดินไปมาอยู่หน้าวัดแห่งหนึ่งนะครับ เท่านั้นไม่พอครับ!! ลุงยังอ้างว่าเห็น’ ยมทูต’ มารับวิญญาณผีเปรตกลับนรกด้วยครับ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะครับ เราไปฟังเสียงคุณลุงกันดีกว่าครับ

ภาพตัดไปที่คุณลุงคนหนึ่งในสภาพ สำรวมโกนหัวนุ่งขาวห่มขาวอยู่ในสถานที่ซึ่งน่าจะเป็นศาลาวัด

“ไม่ได้โกหกแน่นอนครับ” ลุงให้สัมภาษณ์ด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเป็นสำเนียงภาษาถิ่น “เมื่อคืนครับ ผมเห็นจริงๆ ผีเปรตตัวมันสูงมาก สูงกว่าบ้านคนแถวๆ นั้นเลย มันเดินลากขามาทางผม ตัวมันเปื่อยยุ่ยไหลตกมาตามทาง ผมกลัวมาก ก้าวขาไม่ออก มันใกล้เข้ามาเหมือนจะมาเอาผมไปอยู่ด้วย แต่ก็มีท่านยมทูต..ก็แสดงตนออกมาครับ ท่านเสกไฟนรกขึ้นมาเผามัน แล้วก็ส่งมันไปนรกครับ ไฟนรกมันแดงสว่างไปหมด” ลุงเล่าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เริ่มเก็บท่าทางไม่อยู่

“ไม่ได้เมาครับ ผมยอมรับว่าไปกินเหล้ากับเพื่อนมาแต่ตอนเกิดเหตุไม่ได้เมาแน่ๆ ..”

“ผมจะเลิกกินเหล้า จะทำความดี ถ้าเป็นไปได้ผมจะบวชเผื่ออุทิศให้ท่านยมทูต ท่านคงมาเตือนผมให้ทำดีละทางชั่ว”

ภาพตัดกลับมาที่ห้องส่ง นักข่าวชายยังคงทำหน้าตาแตกตื่น “นั่นแหละครับท่านผู้ชม ทางรายการขออนุโมทนากับคุณลุงด้วยนะครับ เรื่องแบบนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะครับ ชาวบ้านแถวนั้นเชื่อกันว่า ถ้าพบเห็นผีเปรตแสดงว่ากำลังจะมีเคราะห์....”

 

        แก้วแอบส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่าย ทำไมคุณป้าของเธอถึงชอบดูข่าวรายการนี้นัก เนื้อข่าวก็เหมือนชื่อรายการนั้นแหละ แหกข่าว ตอกไข่ ใส่สี มอมเมาประชาชน

        “เสร็จแล้วเหรอแก้ว ทำไมวันนี้ตื่นไวล่ะ” ป้าตอง ญาติทางแม่ที่เป็นผู้ปกครองของแก้วในตอนนี้เอ่ยถาม ก็จริงอยู่ที่ว่าปกติแก้วจะตื่นเกือบสาย หรือไม่ตื่นเลยถ้าป้าไม่ปลุก

        “หนูฝันแปลก ๆ ก็เลยตื่นน่ะ” แก้วตอบป้าตองแบบไม่ได้ใส่ใจนัก

        “ฝันอะไร ๆ เห็นข่าวมั้ย?! จังหวัดเราออกข่าวดังไปทั่วแล้วนะ เมื่อคืนมีคนเห็นผีเปรตตรงวัดสามแพร่งด้วยเกี่ยวกันรึเปล่า?” ป้าถามด้วยเสียงตื่นเต้น

        “ไม่เกี่ยวหรอก ฝันว่ามีผู้หญิงโบราณเอาลูกแก้วสีทอง ๆ มาให้” แก้วตอบขณะใส่ถุงเท้า แต่ป้าตองที่ตบเข่าฉาดทำให้แก้วสะดุ้ง!

        “ไอ้แก้ววว!! นั้นมันฝันเด็ด!! มีเจ้าที่เจ้าทางเจ้านางให้โชคแล้วนั้น!!! เอ๊ะ! แต่ถ้าเป็นคนมีคู่เขาว่าฝันว่ารับลูกแก้วมาแสดงว่าจะท้องได้ลูกสาวนะ!! ไอ้แก้วหรือว่าเอ็ง....”

        “โอ้ยยย ไปกันใหญ่แล้ว” ป้าทำท่าจะพูดยาวแก้วจึงรีบขัด “หน้าอย่างหนูเนี่ย ถ้าหนูมีแฟนขึ้นมาสักคนป้าน่าจะดีใจนะ ถ้าจะเอาไปตีหวยก็อย่าซื้อเยอะล่ะ หนูไปละนะ” แก้วหยิบแว่นมาใส่ เธอสายตาสั้นแต่ก็ไม่ได้มากจึงไม่ใส่แว่นตอนอยู่บ้าน แก้วไหว้ป้าพร้อมสะพายกระเป๋าแล้วก็ออกจากบ้านไป

7:32 ถือว่าเช้ามากในประวัติศาสตร์การมาโรงเรียนของแก้ว ข้อดีของจังหวัดเล็กๆ แห่งนี้คือความไม่เร่งรีบ ไม่มีรถติด ไม่มีมลพิษจากบ้านถึงโรงเรียนใช้เวลาเดินไม่ถึง 20 นาที

        ห้องเรียนของแก้วอยู่ตึกที่ 3 ชั้นที่ 3 แต่น่าเสียดายที่ไม่ใช่ห้อง 3

        “4/9 ยินดีต้อนรับ” สายชั้น ม.ปลาย มีห้องเรียนถึง 10 ห้อง ห้อง 1-6 เป็นของสายวิทย์-คณิต ห้อง 7-8 สายศิลป์-ภาษาจีน และห้อง 9-10 ที่แก้วอยู่คือสายศิลป์-คำนวณ แก้วนั่งลงที่โต๊ะของตัวเอง โต๊ะเรียนถูกจัดให้นักเรียนนั่งด้วยกันเป็นคู่ แม้จะเปิดเทอมมาเดือนกว่าแล้ว แก้วก็ยังจำเพื่อนในห้องได้ไม่ครบด้วยซ้ำ แต่ถึงอย่างนั้นแก้วก็มีเพื่อนที่เข้าข่ายเพื่อนสนิทแล้ว

        “มหัศจรรย์อะ!! น้ำเสียงตื่นเต้นแบบเกินกว่าเหตุดังมาจากเพื่อนที่นั่งข้างๆ ทันทีที่เห็นหน้าแก้ว

        “เฮ้ย! มหัศจรรย์กว่า!!” แก้วทำเสียงตกใจเกินเหตุกลับบ้าง

        “แกมาเช้ากว่าฉันได้ไงเนี่ย” แก้วถามเพื่อนที่สนิทกันเพราะมาสายอย่าง เอ็นจอย เจ้าของหุ่นพลัสไซซ์แต่ความมั่นใจเกินร้อยทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

        “วันนี้ฝนตกหนักแน่ ๆ เลย” เพื่อนอีกคนที่นั่งใกล้แก้วทักขึ้น ก่อนจะก้มหน้าเล่นเกมต่อ เพื่อนคนนี้ชื่อ พิม ซึ่งออกจะเงียบ ๆ เรียบร้อย ไม่ค่อยมีความมั่นใจต่างจากยัยเอ็นจอยลิบลับ แก้วเก็บของและคุยอะไรเรื่อยเปื่อยกับเพื่อน จนกระทั่งได้ยินเสียงประกาศเวลาเข้าแถว

        “ไปกันเถอะ” เอ็นจอยชวน

        “เดี๋ยวดิ ขอไปห้องน้ำก่อนได้มั้ย” พิมพูดขึ้น

        “อ้าว นั่งตั้งนานทำไมไม่ไปล่ะ” เอ็นจอยถามด้วยนำเสียงรำคาญนิด ๆ พิมหน้าเสียเล็กน้อย แก้วเห็นท่าไม่ดีจึงรีบพูดขึ้น

        “อาเคร ๆ เข้าแถวอาจจะนานไปห้องน้ำก่อนก็ได้ รีบไปกัน” 2 คนนี้เหมือนน้ำกับไฟถ้าไม่มีแก้วนั่งคั่นต้องตีกันตายแน่ เอ็นจอยออกแนวปากไวใจร้อน ส่วนพิมก็นิ่ง ๆ เอื่อย ๆ แก้วต้องคอยประนีประนอนระหว่างสองคนอยู่เรื่อย

        พวกแก้วเลือกไปห้องน้ำที่อยู่หลังตึกเรียนซึ่งใกล้สุด เสียงเพลงประกาศเรียกเข้าแถวจบลงแล้วแต่พิมยังไม่ออกมาจากห้องน้ำ นักเรียนเริ่มบางตา บางคนเริ่มวิ่งไปเข้าแถว เอ็นจอยที่รออยู่ข้างนอกเริ่มหงุดหงิด “มันแอบเข้าไปเล่นเกมรึไงเนี่ย”

        “กรี๊ดดด!!!” เสียงกรี๊ดของพิมดังขึ้น ทั้งสองคนรีบวิ่งเข้าไปดู ก็พบว่าพิมลื่นล้มอยู่ที่พื้น

        แก้ววิ่งเข้าไปประคองเพื่อน “เจ็บตรงไหนรึเปล่า กระโปรงเปียกเลยอ่ะ”

        พิมพยายามลุกขึ้นยืน “พอเดินไหวมั้ย? ไม่ไหวก็ไปห้องพยาบาลเถอะ” เอ็นจอยถามและเข้ามาช่วยประคองพิม ถึงจะดูเหวี่ยงที่จริงก็เป็นห่วงเพื่อนไม่น้อย

ทั้งสามคนประคองกันออกมาจากห้องน้ำอย่างทุลักทุเล เหมือนว่าพิธีเคารพธงชาติจะเริ่มแล้ว แต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นคงไม่ถือว่าโดดเข้าแถวหรอก

        “กรี๊ดดด!!!” ทั้งเอ็นจอยและพิมกรี๊ดออกมาพร้อมกันสุดเสียง แก้วที่มัวแต่มองข้อเท้าเพื่อน เอามืออุดหูแทบไม่ทัน “อะไรของพวกแกเนี่ย” แก้วมองหน้าเพื่อนทั้งสองคงที่ตกอยู่ในอาการตกใจตาค้างและมองไปยังทางเดินข้างหน้า และเมื่อแก้วมองตามก็พบกับ..

        “ว๊ากกกก!!!” ขอโทษทีกรี๊ดไม่เป็น... สิ่งที่ทำให้ทั้งสามคนตกตะลึงแทบสิ้นสติก็คือ ตัวประหลาดรูปร่างสูงเกือบเท่าชั้น 3 ของอาคารเรียน ตัวของมันเหมือนก้อนโคลนที่เอามาโปะรวมกันเป็นร่างกายทรงคล้ายมนุษย์ไม่สมส่วน แขนขาของมันเป็นก้อนดินที่เต็มไปด้วยตะไคร่และเศษสกปรกเหมือนพึ่งขึ้นมาจากน้ำเน่าที่ไหนสักที มีรอยน้ำเปื้อนตามทางที่มันเดินผ่าน

        “ตัวอะไรน่ะ” เอ็นจอยถามด้วยเสียงสั่นเครือ เพื่อนที่ไม่ค่อยลงรอยกันกำลังกอดกันกลมเพราะความหวาดกลัว หรือเปรตวัดสามแพร่งในข่าวจะมีอยู่จริง? เจ้าตัวประหลาดกำลังเดินลากเท้ามาทางทั้งสามคน พื้นดินสะเทือนตามจังหวะที่มันก้าวย่าง

        “พวกเธอตรงนั้นน่ะ ทำไมไม่ไปเข้าแถว” ครูฝ่ายปกครองที่มาเดินตรวจโผล่ออกมาจากตึกเรียนโดยไม่ทันได้สังเกตตัวประหลาด

        “เฮ้ย!! ตัวอะไรวะนั่น!!!” ถึงจะตกใจจนสติแทบหลุดแต่ครูก็เลือกที่จะกระโดดออกมาขวางหน้าตัวประหลาดเพื่อปกป้องนักเรียน เจ้าตัวประหลาดง้างมือขึ้นเหมือนจะฟาดไปที่คุณครู!!

        ‘ไม่ได้การแล้ว!! แก้วรีบเรียกลูกแก้วออกมาแล้วอัญเชิญดวงมณีสิ’ เสียงของใครสักคนดังขึ้นในหัว ‘ลูกแก้ว..ลูกแก้วอะไร หรือว่าจะเป็นลูกแก้วเมื่อคืน’ เมื่อแก้วนึกถึงลูกแก้วในความฝัน ลูกแก้วนั้นก็มาปรากฏตรงหน้าจริง ๆ !! แก้วเอื้อมมือไปคว้าเอาไว้

        ‘ตั้งสมาธิ แล้วพูดตามเรานะ’

        ‘อัญเชิญดวงมณี’

        “อ..อัญเชิญดวงมณี” ทันทีที่พูดจบลูกแก้วเปล่งสีแสงสีเหลืองห่อหุ้มร่างของแก้วเอาไว้ในชั่วพริบตา แก้วนั้นมองไม่เห็นชุดเสื้อผ้าที่ตัวเองใส่ แต่ก็พอรูว่าอยู่ในเสื้อแขนยาวสีเหลืองอ่อนและโพกผ้าสีน้ำตาลปิดหน้าเอาไว้ และที่สำคัญคือ เธอควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้แล้ว!! ร่างกายที่ขยับอยู่ไม่ใช่ของเธออีกต่อไป ราวกับถูกใครยึดร่างไป

        เจ้าตัวประหลาดหันมาสนใจแก้วแทน แสงสีเหลืองนั้นเหมือนจะเพิ่มพลังให้เจ้าตัวประหลาดด้วย การเคลื่อนไหวของมันเร็วขึ้นเป็นเท่าตัว มันดึงเอาก้อนหินแหลมที่เสียบอยู่กลางท้องของมันออกมาและขว้างใส่แก้ว! แก้วไม่ยอมหักหลบด้วยเกรงว่าก้อนหินนั้นจะไปโดนเพื่อนเละครูที่อยู่ด้านหลัง

        ก้อนหินคมนั้นบาดมือและแขนของแก้วเป็นทางยาว แต่สิ่งที่พุ่งออกมาจากบาดแผลไม่ใช่เลือด แต่เป็นละอองแสง! ละอองแสงสีอำพันซึมออกมาจากบาดแผล เพื่อนและครูด้านหลังกรีดร้องด้วยความตกใจ

        แก้วไม่สนบาดแผลนั้น เธอกระโดดไปยังด้านหลังของตัวประหลาด แก้วที่ทักษะกีฬาอ่อนแอทำอย่างนั้นได้อย่างไร! ตอนนี้เธอย่อตัวลงเอาสองมือสัมผัสพื้น เกิดวงแหวนเวทมนตร์ตรงที่เธอยืนอยู่และตรงที่เจ้าตัวประหลาดนั้นอยู่

        วงแหวนไม่เพียงแต่ตรึงเจ้าตัวประหลาดไว้ ส่วนเท้าของมันกำลังกลายเป็นหิน! เจ้าปีศาจส่งเสียงกรีดร้อง มันไม่ยอมแพ้ วงแหวนเวทแตกสลายไป มันพุ่งมาทางแก้วและเอื้อมมือมาคว้าตัวแก้วเอาไว้ แต่นอกจากแก้วจะไม่หลบ กลับยื่นมือออกไปเพื่อสัมผัสมัน

“ขอองค์ราชินีแห่งผืนแผ่นดินโปรดสลายความชั่วร้าย และรับเหล่าละอองแสงพิสุทธิ์กลับคืนสู่ดินแดนของพระองค์”

        นั่นเหมือนจะเป็นคาถา ทันทีที่สัมผัสตัวของแก้ว เจ้าตัวประหลาดก็กลายเป็นหินและแตกสลายกลายเป็นกองทรายอย่างรวดเร็ว! ฝุ่นทรายนั้นปลิวหายและสลายไปเหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น มีเพียงลูกแก้วสีดำตกอยู่ที่พื้น

        แก้วหยิบมันขึ้นมาและออกแรงบีบ ลูกแก้วสลายไปกลายเป็นละอองแสงสีดำ ละอองสีดำสนิทน่าขนลุกฟุ้งกระจายไปทั่วตัวแก้วแต่เมื่อมันซึมหายไปในตัว แก้วกับรู้สึกสดชื่นขึ้นราวกับได้รับการฟื้นฟูพลัง

        แก้วเดินกลับไปยังเพื่อนทั้งสอง และคุณครูที่กำลังอ้าปากค้าง ทุกคนมองมาที่แก้วอย่างตกตะลึง และก่อนที่พวกเขาจะได้เอ่ยอะไร แก้วก็ซัดผงแสงสีเขียวมรกตใส่พวกเขา และโปรยมันขึ้นฟ้า ผงมรกตปลิวว่อนไปทั่วบริเวณ แม้แต่รอยพื้นที่เปียกน้ำของเจ้าตัวประหลาดก็หายไปด้วย

        แก้วเปลี่ยนกลับมาใส่ชุดนักเรียนเหมือนเดิม บาดแผลที่มือและแขนก็หายไปด้วย แต่เธอยังควบคุมร่างกายไม่ได้อยู่ดี ทุกคนที่โดนผงมรกตค้างไปประมาณ 5 วินาที ก่อนจะได้สติกลับมา แต่ทว่า...

        “อะไรกันพวกเธอ ทำไมไม่ไปเข้าแถว” ครูฝ่ายปกครองเปลี่ยนมาทำหน้าดุเหมือนก่อนจะเห็นตัวประหลาด

        “คือเพื่อนหกล้มในห้องน้ำน่ะค่ะครู น่าจะขาแพลง พวกหนูกำลังพาไปห้องพยาบาลค่ะ” ประโยคนี้ออกมาจากปากแก้ว แต่แก้วไม่ได้คิดจะพูดเสียหน่อย สองสาวที่กอดกันกลมก็รู้สึกตัว พวกเธอผละออกจากกันทันที

        “ระวังกันหน่อยสิ” เมื่อได้ยินเช่นนั้นคุณครูฝ่ายปกครองก็ลดเลเวลความดุลง “ครูได้ยินเสียงร้อง นึกว่ามีเรื่องอะไร เธอเดินไหวไหม? ให้เพื่อนไปตามเวรเปลห้องพยาบาลมาดีกว่าไหม? ...”

        ทุกอย่างยังดำเนินไปอย่างปกติ แต่มันไม่ปกตินะ! เหตุการณ์เมื่อ 5 นาทีก่อนล่ะ? ตัวประหลาดนั้นล่ะ? ไม่มีใครพูดถึงเลยเหรอ? แล้วร่างกายของแก้วล่ะ เกิดอะไรขึ้นกัน? แก้วพยายามส่งเสียงพูดแต่ก็ไม่มีเสียงอะไรเปล่งออกมา ทุกอย่างกลายเป็นการคิดในใจเท่านั้น อยู่ ๆ ภาพที่แก้วเห็นเหมือนกำลังลอยห่างออกไปและดับวูบไปในที่สุด

 

        “กลัวหรือเปล่า ขอโทษนะ”

        แก้วสะดุ้งเล็กน้อยและหันไปตามเสียงนั้น ผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ เธอใช้ผ้ากำมะหยี่สีน้ำตาลปิดใบหน้าเอาไว้ แต่เธอก็ดึงมันออก ใบหน้าที่เหมือนกับหน้าของแก้วมองมาด้วยความรู้สึกผิด แก้วส่ายหัวแทนคำตอบ

        “เธอเป็นใครน่ะ?”

        “ฉัน...ชื่อริน เป็นดวงมณีของเธอ”

        “ดวงมณี?” ชื่อประหลาดทำให้แก้วฉงนกว่าเดิม

        “ถ้าจะให้เล่าย่อ ๆล่ะก็..” รินเว้นวรรคเล็กน้อยพร้อมกับสีหน้าที่บ่งบอกถึงความยิ่งใหญ่ของเรื่องที่จะเล่า

        “ดวงมณีคือละอองแสงที่เกิดจากมนุษย์ที่มีจิตใจตั้งมั่นในบางสิ่ง ละอองแสงนั้นเกิดตัวตนขึ้นในโลกคู่ขนานที่เรียกว่า โลกมณี

        เดิมทีโลกมณีและโลกมนุษย์แยกออกจากกันอย่างสมบูรณ์ อาจจะมีบางครั้งที่มณีสามารถติดต่อกับมนุษย์ที่เป็นเจ้าของได้ผ่านทางความฝัน แต่เพราะโศกนาฏกรรมเมื่อ 15 ปีก่อนที่เกิดกับองค์ราชินีทำให้ทางเชื่อมต่อระหว่างโลกทั้งสองบิดเบี้ยว เจ้าลูกแก้วสีดำที่เธอเจอเมื่อสักครู่ เป็นหนึ่งในความบิดเบี้ยวนั้น”

        “เธอก็เลยต้องมาปราบเจ้า..ลูกแก้วสีดำพวกนั้นสินะ?” แก้วถาม รินพยักหน้ารับ แก้วเริ่มปะติดปะต่อทุกอย่างได้ การอ่านการ์ตูนและดูอนิเมะมีประโยชน์บ้างแล้ว

        “เราคือดวงมณีพิเศษที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้พิทักษ์ของราชินี นั้นเป็นหนึ่งในหน้าที่ของเรา” รินยิ้มน้อยๆ

        “โลกมณีดำรงอยู่ได้เพราะพลังจากองค์ราชินี แม้ในตอนนี้พระองค์จะถูกทำร้ายสาหัสและเจ้าหญิงของโลกมณีผู้สืบทอดตำแหน่งราชินีก็ถูกลักพาตัวไป โลกมณีกำลังระส่ำระสาย งานที่สำคัญที่สุดของเราก็คือตามหาเจ้าหญิงให้เจอเพื่อช่วยโลกมณีไว้..”

        “จากนี้ต้องให้เธอช่วยแล้วนะ ถ้าเธอไม่อนุญาตเราจะไม่สามารถใช้ร่างของเธอแล้วใช้พลังในโลกมนุษย์ไม่ได้ ถ้าเราฝืนยึดร่างของเธอละก็ เราอาจจะสลายไปเลยก็ได้”

        นั้นฟังดูเป็นเรื่องยิ่งใหญ่กว่าที่แก้วคาดคิด ให้ดวงมณีใช้ร่างทำภารกิจกอบกู้โลก นี่เธอดูพวกซีรีย์ส์แนวโทคุซัทสึมากไปจนเก็บมาฝันหรือเปล่า “จะให้ฉันเป็นร่างทรงเพื่อกอบกู้โลกนะหรอ? ...”

        รินยิ้มน้อยๆ กับคำว่าร่างทรง “คล้าย ๆ อย่างนั้นนะ แต่เราใบ้หวยไม่เป็นหรอกนะ”

        แม่เจ้า!ดวงมณีรู้จักหวยด้วยเฮ้ย!!

        “ถึงจะเป็นเรื่องที่ใหญ่เกินตัว แต่ก็คงต้องตกลงเท่านั้นแหละ ฉันจะช่วยเท่าที่ช่วยได้นะ” สุดท้ายแก้วก็รับปาก รินยิ้มให้น้อย ๆ พร้อมยื่นบางอย่างให้

        “เก็บมันไว้อย่าให้ห่างตัว มันจะเป็นสื่อกลางในการติดต่อระหว่างเรา” มันคือลูกแก้วลูกเดิมที่แก้วเห็นในฝัน แต่คราวนี้ลูกแก้วถูกย่อส่วนอยู่ในรูปแบบของจี้เล็ก ๆ “เราจะคืนร่างนี้ให้แล้วนะ”

 

        ยังไม่ทันที่แก้วจะได้ตอบอะไรกลับ เธอก็ลืมตาขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองนั่งอยู่ในแถวหน้าเสาธง ตอนนี้เป็นช่วงหลังประกอบพิธีต่าง ๆ เสร็จ นักเรียนทุกคนกำลังนั่งฟังประกาศสำคัญอันยาวเหยียดจากคุณครูอยู่ นี่เธอเผลอหลับหน้าแถวเหรอเนี่ย? ฝันเป็นเรื่องเป็นราวเลยด้วย!! คงเป็นเพราะตื่นเช้าเกินไปและช่วงนี้เธอคงเสพพวกซีรีย์แนวโทคุซัทสึกับอนิเมะแนวสาวน้อยเวทมนตร์มากไปถึงได้ฝันแปลกๆ แบบนี้ ถ้าคนอื่นรู้ว่าเธอมีความฝันอะไรแบบนี้ภาพลักษณ์เด็กเรียนใส่แว่นคงพังทลายหมด

        แต่แล้วเมื่อสัมผัสถึงบางอย่างในกำมือทำให้แก้วชะงักไป เมื่อแบมือออกก็พบสิ่งที่ชวนให้ตกตะลึง จี้ลูกแก้วสีอำพันอยู่ในมือของเธอจริง ๆ

        ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ