1 ตอน 1
โดย z.k
ถ้าไม่นับกลุ่มเพื่อนที่สนิทที่สุดอย่างคิน เจตต์ ทิวเขา ต้นน้ำแล้ว คชาก็ยังมีเพื่อนกลุ่มอื่นที่สามารถออกไปแฮงค์เอาท์ด้วยกันได้อยู่บ้างไม่น้อย
จะว่าสนิทสนมก็ไม่เชิงซะทีเดียวหรอก แต่มันเป็นความสนิทจากการมีผลประโยชน์ร่วมกันโดยที่รับรู้กันทั้งสองฝั่งเป็นอย่างดี
ก็เป็นเรื่องที่รู้กันไปทั่วสำหรับคนเกือบทั้งมหาลัยว่าถ้ามีปัญหาให้หอบเงินมาหาคชา จะปัญหาเล็กหรือปัญหาใหญ่ คชาก็พร้อมให้คำปรึกษาได้หมด ชื่อเสียงของคชาเลยกว้างขวางอยู่พอตัว
และคืนนี้ก็เป็นอีกคืนหนึ่งที่คชามีนัดออกมาปาร์ตี้กึ่งคุยธุรกิจควบคู่กันไปในคราวเดียวกัน
"ผมโอนส่วนที่เหลือให้แล้วนะพี่ชา พี่แม่งโคตรสุดยอด เก็งข้อสอบอะไรได้แม่นขนาดนั้นอ่ะ" เด็กหนุ่มปีหนึ่งที่หวุดหวิดจะได้เอฟในวิชาสำคัญชงเหล้าให้อย่างเอาใจ
แม้เกรดที่ผ่านจะไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นัก พอจะกล้อมแกล้มไปได้ หากแต่ว่ามีวิชาหนึ่งที่สุ่มเสี่ยงเข้าขั้นอันตรายแบบสุดๆ จะหันซ้ายหันขวาแต่เพื่อนรอบตัวก็เกรดไม่ต่างกันเท่าไหร่ ขืนกินเอฟตั้งแต่ปีหนึ่งมีหวังโดนที่บ้านทุบหลังแอ่น
เมื่อถึงเวลาจวนตัวจึงปรึกษากับสายรหัสและรุ่นพี่ทั้งหลายแล้ว ทุกคนต่างบอกส่งคอนแทค 'คชา วารณนรการ' ให้โดยพร้อมเพรียงกันอย่างไม่ได้นัดหมาย
คุยกันครั้งแรกก็แทบช็อคเพราะการเก็งข้อสอบพร้อมติวฉบับเร่งรัดภายในสองอาทิตย์จะมีราคาถึงห้าพันโดยมีการเก็บมัดจำก่อนครึ่งหนึ่ง
ถ้าไม่ใช่สโลแกนของเจ้าตัวที่ว่า 'การันตีความสำเร็จ ถ้าไม่สำเร็จยินดีคืนเงิน' เขาคงไม่กล้าเสี่ยงแน่ๆ
ถึงจะโดนเคี่ยวเข็ญจนสมองมึนงงไปหมด พอได้เข้าห้องสอบก็ยังอดหวั่นใจไม่ได้ สองพันห้าที่จ่ายไปจะช่วยได้มากขนาดไหนก็ไม่รู้ แต่พอเห็นข้อสอบแล้วแทบจะหลั่งน้ำตาเพราะคำถามในกระดาษเล่นออกมาเกือบจะตรงตามที่อีกฝ่ายยัดความรู้ใส่หัวให้เขามาถึงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์!!
แม่นอย่างกับเป็นคนออกข้อสอบเองอย่างไงอย่างงั้น!
เมื่อได้พบอภินิหารราวกับเสกได้แบบนี้แม้ต้องเสียเงินไปถึงครึ่งหมื่นเขาก็รู้สึกว่าคุ้มแสนคุ้ม!!
เห็นอีกฝ่ายมองตัวเขาเองตาเป็นประกาย หูสั่นหางกระดิกแล้ว คชาก็ยิ้มการค้าพร้อมตอบคำถามให้ฟัง
"ความลับทางธุรกิจน่ะ"
ถึงจะดูเป็นการติวธรรมดา แต่ใช่ว่าเขาจะไม่ลงทุนอะไร นอกจากประสบการณ์ของตัวเองแล้วเขายังต้องเก็บข้อมูลจากคนอื่นๆ มาเปรียบเทียบกันอีกด้วย อาจารย์แต่ละคนมีบุคลิกเป็นอันเฉพาะตัว ถึงจะคาดเดาได้บางส่วนแต่อารมณ์คนสอนเปลี่ยนได้ตลอดเวลา การออกข้อสอบเลยไม่ได้ตายตัวแบบก๊อปวางทุกคลาสซะหน่อย หากมีข้อมูลไม่มากพอเขาก็ไม่สามารถคาดคะเนได้แม่นยำขนาดนี้หรอก
"ถ้ามีเรื่องอื่นจะให้ช่วยอีกก็มาปรึกษากูได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องติวเท่านั้น ลองมาคุยกันก่อนราคาต่อรองกันได้จากความยากง่าย"
"ได้เลยพี่ ถ้าผมมีปัญหาผมจะนึกถึงพี่คนแรกเลย!" เด็กหนุ่มที่กลายเป็นอดีตลูกค้ายกแก้วขึ้นชนรอบวงอย่างอารมณ์ดี
คชากระดกแก้วปิดรอบยิ้มบางๆ เมื่อเหลือบมองแจ้งเตือนที่โชว์บนหน้าจอจากคนรอบโต๊ะที่เพิ่งสบตากันหมาดๆ
นั่นไง ลูกค้ามาอีกแล้ว ล้า~ลา~ลา
จากที่จะอยู่เพียงแป๊บเดียว แต่เมื่อมีลูกค้าเอาเงินมากองถึงที่คชาจะปล่อยผ่านไปได้ยังไง จะเป็นบาทเป็นร้อยเขาก็จะเก็บให้เกลี้ยงไม่มีตกหล่นสักสตางค์แดงเดียว จัดวางคิวไว้ตามความยากง่ายและถ้าอยากลัดคิวด่วนก็ต้องเสียเงินเพิ่ม กว่าจะได้แยกกันก็ตอนผับเปิดไฟเลยนั่นแหละ
ในขณะที่ทุกคนเมาเรื้อนจนแทบคลานกันออกมา แต่คชากลับยังเดินหลังตรงได้อย่างสบายๆ เขาบอกลากลุ่มลูกค้าชั้นดีก่อนจะเดินแยกไปทางลานจอดรถอีกฝั่งหนึ่ง
บริการเก็บซากคนเมามันเหนื่อยไม่คุ้มเงินเท่าไหร่ หน้าที่นี้เขาสงวนสิทธิ์ให้กับไอ้สี่ตัวนั้นก็พอแล้ว
ชายหนุ่มเดินอย่างไม่เร่งรีบพร้อมทั้งสำรวจเงินในบัญชีส่วนตัวที่เพิ่มขึ้นมาด้วยสายตาที่มีความสุข แต่ขณะที่กำลังจะถึงตัวรถกลับเห็นเงาตะคุ่มอยู่ไม่ไกล
คชาเพิ่มความระมัดระวังตัวด้วยการย่องอ้อมตัวรถเพื่อไปดูว่าเงาที่อยู่หลังพุ่มไม้ถัดจากรถเขาไปไม่ไกลเท่าไหร่นักเป็นใคร
คนเมา? โจร?
"แม่งเอ๊ย! ฮึ่ก...ไอ้เวร!"
"...."
"ไอ้เลว!"
คชาที่ซุ่มดูเกือบจะสะดุ้งกับคำด่ากราดจนอีกฝ่ายรู้ตัว ก็อารมณ์จากคำด่าทำเขาอินจนนึกว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกด่าซะเอง
แต่ก็โชคดีที่ไม่ใช่พวกโจร
"คุณๆ ลุกไหวมั้ย?" เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนเมาแน่ๆ คชาเลยลองทักไถ่ไปก่อน
"อย่ามายุ่ง! ฮึ่ก...ฮืออออ ไปให้พ้น!!!"
คำตวาดกร้าวเล่นเอาคิ้วกระตุก ชายหนุ่มพยายามนับลมหายใจให้ตัวเองใจเย็นไม่ถือสาหาความคนเมา แต่...
"ก็บอกว่าให้ไปให้พ้นไง!"
"งั้นก็ไปร้องไห้ไกลๆ รถกูก่อนสิวะ!" คชาขึ้นเสียงดังแบบไม่แพ้กัน ด่ามาก็ด่ากลับสิ!!
แต่เอ๊ะ....ทำไมไอ้ขี้เมานี่มันคุ้นๆ จังวะ?
ไม่ต้องสงสัยอะไรนาน พออีกฝ่ายเงยหน้าจนได้เห็นแบบชัดๆ คชาก็จำได้ทันที
"พี่ฟ้า?"
"มึงเป็นใคร!?"
งานเข้าแล้วไง งานใหญ่กว่าที่ไปดีลมาเมื่อกี้อีก!
.
.
.
"มึงลืมมารยาทไว้ที่บ้านเหรอ ถึงได้โทรหาคนอื่นตอนตีสองตีสามเนี่ย!"
"แล้วมึงเอามารยาทไปกองทิ้งตรงไหนไม่ทราบถึงเสนอหน้ามารับโทรศัพท์ที่ไม่ใช่ของตัวเองเนี่ยไอ้คิน!"
"แล้วจะทำไม ก็มึงโทรมาไม่รู้เวล่ำเวลาแบบนี้กูจะรับโทรศัพท์ให้แฟนกูมันผิดตรงไหน?"
"ผิดตรงที่กูไม่ได้อยากคุยกับมึงไง! มึงเรียกป๊ามาคุยกับกูเดี๋ยวนี้!"
"พี่ริวหลับอยู่ มึงมีอะไรก็ว่ามาถ้าไม่สำคัญมึงจริงๆ มึงโดนกูแน่!"
"มึงนั่นแหละจะโดนตีนกู มึงเปิดกล้องเดี๋ยวนี้แล้วก็เรียกป๊ามาคุยกับกูเร็วเข้า!!"
"อะไรของ..." คินยังไม่ทันได้พูดจบโทรศัพท์ก็ถูกฉกไปจากมือพร้อมไฟหัวเตียงที่สว่างขึ้นมาพร้อมสีหน้าบึ้งตึงของคนรัก
"ไง คชา" เสียงริวติดงัวเงียอยู่เพราะตื่นจากเสียงกระซิบกระซาบแต่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์จนเขารำคาญ
"ผมขอโทษที่ต้องโทรมารบกวนกลางดึกนะป๊า" คชาเสียงอ่อนลงเมื่อได้คุยกับเจ้าของโทรศัพท์ที่แท้จริงสักที
ด้วยความเกรงใจคชาจึงรีบเล่าเรื่องที่พบเจอมาให้อีกฝ่ายได้ฟังอย่างคร่าวๆ พร้อมหลักฐานบุคคลที่คอพับคออ่อนไปได้สักพักแล้ว
"ป๊ารู้ที่อยู่พี่ฟ้ามั้ย?" นี่แหละเป็นประเด็นสำคัญที่แท้จริงในการสนทนาในครั้งนี้
ฟ้าครามเมาจนพูดไม่รู้เรื่องแถมยังสะอื้นร้องไห้เป็นพักๆ จนคชาไม่รู้จะทำยังไงแล้ว
"คชาส่งโลฯ มาเดี๋ยวพี่ไปเอง"
"ไม่เป็นไรป๊า ส่งที่อยู่พี่ฟ้ามาก็ได้เดี๋ยวผมไปส่งพี่ฟ้าเอง" เห็นสีหน้าของริวก็พอเดาได้ว่าคนเมาตรงหน้างานเข้าแน่ เลยอาสาไปส่งเองดีกว่า
ถึงไม่ได้รู้ลึก รู้จริง แต่หลังจากที่ไปกินไปเที่ยวกับแก๊งทาสรักบ่อยๆ คชาก็พอรู้ว่าริวกับโอลิเวอร์ค่อนข้างจะห่วงฟ้าครามมากกว่าคนอื่นๆ เป็นพิเศษ
"พี่ฝากไอ้ฟ้ามันด้วย เดี๋ยวพี่โอนค่าน้ำมันให้"
"โอ๊ยป๊า ไม่ต้องๆ เรื่องแค่นี้เอง" คชารีบเบรกก่อนที่อีกฝ่ายจะโอนมาจริงๆ ถึงเขาจะหน้าเงินแค่ไหน แต่เขาก็ยังมีน้ำใจอยู่นะ!
คชาพยักหน้าหงึกหงักรับข้อมูลจากริวจนครบถ้วน ก่อนจะรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ แต่ก่อนจะวางสายเขาก็เพิ่งนึกถึงเรื่องสำคัญสุดๆ อีกหนึ่งเรื่องขึ้นมาได้
"เอ้อป๊า พี่ฟ้าเป็นพวกเมาแล้วอ้วกมั้ย?"
.
.
.
คชาขับรถเพียงครึ่งชั่วโมงก็มาถึงที่หมายตามโลเคชั่นที่ได้รับมา ที่อยู่ของฟ้าครามเป็นบ้านหลังเดี่ยวเล็กๆ ในหมู่บ้านขนาดกลาง ถึงไม่หรูเหมือนพวกโครงการใหญ่ แต่ถือว่าสภาพแวดล้อมดีใช้ได้
ชายหนุ่มขับชะลอเพื่อดูเลขที่บ้านให้มั่นใจก่อนจะลงจากรถไปเปิดประตูบ้านราวกับเป็นบ้านของตัวเอง ดีที่ว่าในตัวบ้านพอมีที่ให้เข้าไปจอดรถได้โดยไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง
คชาปล่อยให้คนตัวเล็กนอนคอพับอยู่บนรถไปก่อนโดยที่เขามาอำนวยความสะดวกในบ้านรอ จัดการเปิดไฟ เปิดแอร์เสร็จสรรพถึงค่อยไปลากคนเมาออกมา
ขนาดส่วนสูงและรูปร่างที่ต่างกันอยู่เกือบครึ่งไม้บรรทัดการที่คชาช่วยพยุงอีกฝ่ายก็ออกจะทุลักทุเลไม่น้อย แม้ตอนนั่งรถมาฟ้าครามจะหมดฤทธิ์ไปบ้างแล้วแต่พอมีการขยับตัวอีกครั้งก็เริ่มจะออกลายฟาดงวงฟาดงาขึ้นมาอีกรอบ
ถ้าไม่ติดว่าเป็นคนที่คุ้นเคยกันคชาก็คงจะโยนอีกฝ่ายลงบนโซฟาอย่างไม่เกรงใจแล้วแน่ๆ
ตัวก็แค่นี้ทำไมฤทธิ์เยอะจังวะ!
"ตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่ผมจะคิดเงินค่าบริการพี่ดีมั้ยเนี่ย" คชาลงไปนั่งพื้นด้วยความเหนื่อยและคว้าขวดน้ำที่เตรียมไว้ให้อีกฝ่ายกระดกพรวดทีเดียวจนหมด
สายตาของคชามองคนตัวเล็กที่นอนอยู่บนโซฟาอยู่สักพัก ภายใต้แสงหลอดไฟสีขาวนั้นทำให้เห็นว่าใบหน้าน่ารักมีแต่คราบน้ำตาเต็มไปหมด
จากคำสบถด่าที่ได้ยินก็รู้เลยว่าเป็นเรื่องความรักล้วนๆ ถึงฟ้าครามจะปากจัดปากไวไปหน่อยแต่ก็ถือว่าทุกคำมีแต่ความจริง อะไรผิดก็ว่าไปตามผิดไม่มีเข้าข้างพวกพ้องทั้งสิ้น
คนที่รับความจริงได้ก็มี แต่คนที่ทนความจริงไม่ได้ก็มีเยอะ
เพราะความที่เป็นคนแบบนี้ประสบการณ์ความรักเลยไม่สวยงามสักครั้ง
ไม่แปลกที่พวกพี่ๆ คนสนิทอย่างริวกับโอลิเวอร์จะคอยเฝ้าดูห่างๆ อย่างห่วงๆ
"ไม่ต้องร้องแล้ว" คชาใช้หัวแม่มือปาดน้ำตาของฟ้าครามที่ไหลซึมมาอีกครั้งทั้งๆ ที่ตัวเองยังหลับไม่รู้เรื่อง
เห็นสภาพยับเยินของคนตัวเล็กแล้วก็ทนไม่ไหว คชาเตรียมจะลุกไปหาอ่างน้ำกับผ้าสะอาดมาเช็ดหน้าตาเนื้อตัวให้สักหน่อยเผื่อจะดีขึ้นมาบ้าง
หมับ! เสื้อตัวเก่งของคชายับยู่ยี่ไปทันทีเมื่อถูกมือเล็กๆ ขาวๆ กระตุกและกำไว้อย่างแน่นหนา
"อย่าไป ฮึ่ก...อย่าไปเลยนะ"
คำพร่ำเพ้อขอร้องด้วยเสียงที่น่าสงสารกับอาการสะอื้นน้อยๆ รั้งให้คชานั่งลงตามเดิม
"อย่าไป.."
คชาถอนหายใจเป็นทางยาวก่อนจะใช้นิ้วตัวเองจิ้มเข้าที่กึ่งกลางหน้าผากอีกฝ่าย นวดวนจนคิ้วเรียวคลายปมออก รอจนอีกฝ่ายลมหายใจสม่ำเสมอแล้วถึงค่อยๆ แงะมือที่กำเสื้อเขาจนยับออก
แต่ก็เพีงแค่ไม่กี่วินาที มือเล็กนั้นก็คว้าเสื้อเขาไว้อีกรอบ คราวนี้ไม่ว่าจะแงะยังไงก็แงะไม่ออกจนคชาเลิกพยายาม
"เฮ้อ! สรุปว่าผมต้องนอนที่นี่แล้วใช่มั้ยเนี่ย" ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างคนปลงตก พอนึกถึงตอนที่พยายามอธิบายว่าตัวเองเป็นใครให้อีกฝ่ายฟังก่อนหานี้มาตลอดทางแล้วก็...
"ตื่นมาก็อย่าตกใจแล้วกันนะพี่ฟ้า!!"
................
Talk : เอาตอนแรกของพี่ฟ้ากับน้องคชามาเสิร์ฟแล้วจ้า ???
z.k