เออ

 

เหม็นหน้าโอเมก้าแม่งผิดปะวะ

 

เป็นอะไรทำไมพิศวาสอยากจะเสพสังวาสเจ้านายกูจัง

 

โทรๆๆๆ เช้าเย็นๆ หากูเพราะคิดว่านี่เบอร์นายเนี่ย น่ารำค๊าญ น่ารำคาญ

 

เหมือนนายให้เบอร์เป็นอยู่คนเดียวคือผมอะ แล้วขี้แม่งตกใครอ่ะ

ก็กู

กู

กู

กู

แล้วก็กู

เยอะมาก ประชากรที่เจ้านายใช้

 

เออ คือผมเข้าใจเว้ยว่าเจ้านายเป็นอัลฟ้าหล่อล่ำแมนแรงแซงทางโค้ง สาวน้อยใหญ่ ลูกเด็กเล็กแดงก็โดนนายผมตกเรียบ sex appeal เยอะปรอทแตกเหมือนโกงค่าจากเซลเซียสเป็นเคลวิน

 

เห็นเขาว่าเจ้านายนี่ฟีโรโมนกลิ่นเหมือนกลิ่นไวน์ ไอ้เราเป็นเบต้านี่ก็ไม่มีความสามารถจะมาได้กลิ่นฟีฟี่หอมๆ นี่ได้หรอก

 

#ทวงคืนสิทธิ์เสียงให้ที่ยืนเบต้า

 

ขอแนะนำตัวเองสักครู่ ผมชื่อปรัชญ์ aka ดิเรกวิชญ์ ปราชญวัฒน์ เป็นมาร์เก็ตติ้งไดเร็คเตอร์โง่ๆ ธรรมดาๆ คนนึงที่ทำงานอยู่บริษัทอนันตกาล จำกัด. มหาชน

 

ส่วนเจ้านายสุดฮอตผมชื่อกิตติ์ เกริกศิลป์ สำราญเวชธาดา เป็นอัลฟ่าชั้นสูง เป็นเจ้าของกิจการบริษัทขายขนมรายใหญ่ เป็นคนเรียนเก่ง เป็นคนหล่อรวยเท่เฟี้ยว เป็นคนพี่ชายแสนดี

 

โอ้ย เจ้านายเขาเพอร์เฟ็คต์จนน่าหมั่นไส้อ่ะแม่ง

 

กลับมาประเด็นผมเหม็นหน้าโอเมก้าที่ใคร่ในกามกับเจ้านาย

 

จริงๆ เจ้านายไม่ได้มั่วเก่งขนาดนั้น แต่เจ้านายเล่นกับคนเดิมบ่อย แบบว่าวีคนึงอาจมีชื่อนาย/นางสาวเอติดโผจัดคิวเสียบสักสามวันประมาณนี้

(อิเลขาเลวมันส่งมาให้ผมครับ ผมต้องช่วยมันจัดตารางสับรางรถไฟ)

 

และใช่ อิเจ้านายมันเล่นไม่เลือกเพศครับ จะหญิงชาย อัลฟ่า เบต้า  แกมม่า โอเมก้า 3,6,9 อะไรคั่วได้ก็ขอหมด

 

แต่ในหมู่อีหนูเล่นขี้ของเจ้านายโอเมก้าจะติดท็อปชาร์ตสิบคนแรกที่เจ้านายเล่นด้วยบ่อยที่สุดเสมอ 

 

ซึ่งหากรวมกับจุดนั้นที่ว่าเจ้านายโซฮอตแอสฟัคเนี่ย

 

โอเมก้าก็โคตรอยากจะเข้าหาเจ้านายเลยครับ

 

ปัญหาตกกับใคร

 

กู

ไง

ครับ

ปรัชญ์เอง

 

ทันใดนั้นเพลง ใจเกเร มันก็ดังขึ้นมา 

 

{Kitti} แม่ง ชื่อกิตติ์ดีๆ เสือกบ้าจี้ชอบคิตตี้เลยตั้งชื่อเป็นคิตตี้ เข้ากับหน้ามั๊ยไหนพูด

 

"ฮัลโหลครับคุณเกริกศิลป์"

[ปรัชญ์รวี ช่วยส่งไฟล์ผลประกอบการจากแผนกเซลล์มาเข้าเครื่องฉันหน่อยได้ไหม] มาอีกแล้วครับเจ้านายแสนเพอร์เฟ็คต์แต่จำชื่อไดเร็คเตอร์สี่คนของบริษัทไม่ได้

"ผมชื่อดิเรกวิชญ์ครับ"

[ดิเรกฤทธิ์?]

"วิชญ์ครับ วิชญ์ที่เป็นนักปราชญ์"

[อ๋อ โอเค ส่งมาด้วยนะ บาย]

ติ้ด

สายโดนตัด

 

กูชักเริ่มเหม็นอัลฟ่าด้วยละไอ้ห่านี่

ต่อยสักหมัดไหม ฮอร์โมนนักเลงมันยิ่งเดือดๆ อยู่

 

เพลง ใจเกเร ดังอีกรอบ

 

{Priya} คราวนี้เป็นไดเร็คเตอร์ฝั่งโรงงานชื่อปริยา

 

"ฮัลโหล ว่าไงปริยา"

[ปรัชญ์ อีกิตติ์เอาอีกแล้ว มันมาอีกแล้ว] 

 

จังหวะนั้นผมรู้เลยว่าเจ้านายแม่งสร้างเรื่องอีกแล้ว ผมกับปริยาเราสนิทกันเหมือนพี่น้องฝาแฝด มองตาก็รู้ใจ เพราะอายุงานเท่ากันแถมมีเรื่องบ้าเรื่องบออะไรไม่รู้ให้ผมต้องไปดูฝั่งโรงงานบ่อยๆ ผมเลยสนิทกับปริยาไปโดยปริยาย

 

"เกิดไรขึ้น"

[อีแต๋ว ศุกร์สามทุ่ม]

 

โค้ดรหัสรับของผม ปริยา และพลอย(อิเลขาเลว) สำหรับเรียกอิหนูคือ อิ__ ตามด้วยวันและเวลาครับ

 

"อยู่ไหน"

[ประตู 4 ฝั่งโรงงาน]

"ได้ เดี๋ยวไป"

 

แม่ง กูไม่ทงไม่ทำมันแล้วส่งไฟล์ ขอตัวไปจัดการปัญหาก่อนนะครับ


"ปรัชญ์รวี" กิตติ์ทักผมขณะตนกำลังทำท่าคิดเหมือนรูปปั้นเดวิด ส่วนผมกำลังนั่งทำสไลด์อยู่ในห้องตัวเอง

 

ไอ้คุณกิตติ์มึงมานั่งห้องกูทำไม กลับห้องมึงไป!

 

"ปรัชญ์ ดิเรกวิชญ์ครับ" - "มีอะไรเหรอครับคุณเกริกศิลป์"

 

"มุจลินท์หรือภุชงค์"

 

"ครับ?" อยู่ดีๆ ทำไมเจ้านายก็พูดถึงคู่แฝดโอเมก้าตัวปัญหาขึ้นมาวะ

 

"ฉันถามว่ามุจลินท์หรือภุชงค์"

 

ขอทำตัวโง่ๆ แปปนึงนะ หมั่นไส้แล้วอยากกวนตีนเจ้านาย "คุณเกริกศิลป์ทำไมอยู่ดีๆ พูดถึงงูกับบ่อน้ำขึ้นมาละครับ อ่านวรรณคดีมัธยมปล่ยแล้วอินเหรอครับ"

 

เผื่อคุณไม่รู้ มุจลินท์ไม่ใช่แค่ชื่อนายเอกจากนิยายเรื่องหนึ่ง แต่แปลว่าบ่อน้ำที่นางมัทรีเปรียบเทียบตัวเองกับลูกสองคนที่เป็นเป็ด

ส่วนภุชงค์ ภุชงค์มาจากภุชงคประยาตฉันท์ ๑๒ เป็นฉันท์ที่ลีลาหล่อเท่เหมือนงูเลื้อย ไม่ใช่แค่นายเอกนิยายเรื่องหนึ่งเช่นกัน

 

ถามว่ารู้ได้ไง - น้องชายครับ(กระซิบ)

 

เจ้านายถึงกับกุมขมับ "อย่ากวน"

 

"ครับรู้แล้ว แล้วคุณเกริกศิลป์จะถามถึงคู่แฝดทำไมครับ"

"นายว่าคนไหนเก่งกว่ากัน"

"แรงค์เป็นซุปเท่ากันนี่ครับ แต่เหมือนภุชงค์จะเป็นการเป็นงานกว่า" ครับ อันนี้ผมรู้เพราะภุชงค์อยู่แผนกผมบวกกับผมค่อนข้างสนิทกันกับไดเร็คเตอร์ฝ่ายขายที่มุจลินท์เป็นซุปอยู่เลยพอรู้ๆ พฤติกรรมบ้าง "มุจลินท์ก็ทำงานดีครับ ติดตรงฮีทมาไม่ตรงวัน สายคัดคอไม่ชอบใส่ ขยันถอดมาก"

 

ไอ้ผมเนี่ยไม่ได้เหยียดนายมุจลินท์จริงๆ นะ จริงจริ๊ง

 

"ฉันไม่ได้ถามเรื่องงาน ฉันถามเรื่องบนเตียง"

 

"ทุเรศแล้วไอ้กิตติ์" เออมีอย่างนึงยังไม่ได้บอก

 

ผมกับเจ้านายเป็นเพื่อนร่วมห้องกันสมัยมัธยม

 

"ใครให้เงินมึง ไหนพูดซิปรัชญ์รวี"

 

"ไอ้คุณกิตติ์ เกริกศิลป์ สำราญเวชธาดา" ผมตอบแบบฉะฉาน ให้ผ่านไปกี่ร้อยปีกูก็ไม่หยุดด่ามึงลับหลังและต่อหน้ามึงหรอกนะไอ้กิตติ์

 

"..."

 

"กฎบริษัทข้อที่สิบว่าไงน๊า" ผมย้อน "ห้ามพนักงานมีสัมพันธ์ฉันท์ชู้รักในบริษัท เอ๊ หรือกฎนี้แม่งใช้กับเจ้านายไม่ได้หว่า"

 

"นี่ถ้าไม่ติดว่ามึงดูเป็นทั้งมาร์เก็ตติ้ง โมเดิร์นเทรด หยี่ปั๊วซาปั๊วกูปั๊วะหัวมึงแน่ปรัชญ์รวี"

 

"มาดิ อัลฟ่าแม่งมีปากไว้แดกคอโอเมก้าอย่างเดียวรึไงวะ กูละสงสัย"

 

และเราสองคนเป็น frienemy กัน

 

ซึ่งค่อนไปทาง enemy

 

"จัดให้!" ฝ่ายตรงข้ามลุกออกมาอย่างไวแล้วทำท่าอยกเขี้ยวจะเข้าตะครุบผม

 

คือแบบ

 

เอิ่บ

 

เอ้า ทายมาว่า reflex reaction ผมทำไง action = reaction เหมือนกฎฟิสิกส์รึเปล่า