sds

บทนำ...

 

 

ผมทำมันลงไปแล้ว ฮ่า...เหม่อมองมือของตนด้วยความรู้สึกท้วมท้น ฝ่ามือคู่นี่ได้ผลักไสคนรักของตนลงสู่ปากเหวเพราะความเห็นแก่ตัว.

 

น้ำตาเจ้ากรรมที่อดกลั้นมานานไหลออกมาเป็นสาย ภายในอกบีบรัดอย่างหนักหน่วง ภาพตรงหน้าช่างพร่าเบลอความมืดในโถงทางเดินที่วังเวงอยู่แล้วยิ่งทำให้มันน่ากลัวเข้าไปอีกเมื่อขาดคนข้างกาย

 

 

ตึก... ตึก... แปะ แปะ

 

เสียงฝีเท้าที่เดินย่ำเข้ามาช้า ๆ เปรียบเสมือนหนามที่ค่อย ๆ ทิ่มแทงจนบอบช่ำ และยังเสียงปรบมือที่คลอไปด้วยเสียงหัวเราะอันแสนบาดหู

 

 

“ไม่เลว ไม่เลว ลูกแกะน้อยนายทำให้ฉันภูมิใจจริง ๆ ในที่สุด “ซิด” ก็ไม่อยู่แล้ว?” เสียงบุคคลปริศนากล่าวอย่างชอบอกชอบใจ

 

 

แมคเงยหน้ามองผู้มาใหม่ผ่านดวงตาที่แดงก่ำ ด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย แต่ที่แน่ ๆ ไม่ใช่สิ่งที่น่ารื่นรมย์สักเท่าไหร่

 

“ทำไมนายถึงได้...” กลืนถ้อยคำสุดท้ายลงไปพร้อมฝ่ามือที่กำหมัดแน่น

 

 

“ทำไม ทำไม เป็นคำถามที่น่าเบื่อว่าไหม เพราะฉันเห็นอยู่ว่านายนะมัน ‘โง่’ ไม่คิดบ้างเหรอว่าการมาผจญภัยอยู่ในนี้ได้ มันง่าย? ตลกน่า นี่คือเกมสยองขวัญนะ แต่ก็ต้องขอบคุณที่กำจัดผู้แข่งแกร่งที่ข้ามหน้าตาองค์กรของฉันจนเกินไป ” เสียงทุ่มนุ่มเอ่ยถ้อยคำที่แฝงไปด้วยความสะใจ

 

 

อา...ช่างน่าเวทนา

 

 

แมคตัวสั่นด้วยความโกรธ แต่ด้วยแรงอารมณ์บางอย่างที่ระเบิดออกมาจึงได้ลุกขึ้นยืนไปต่อยคนตรงหน้าเต็มแรง

 

ผัวะ!...

 

ใบหน้าคนตรงหน้าหันไปด้านข้างเล็กน้อย พร้อมรอยเลือดซิบที่มุมปาก

 

“ฮ่า ฮ่า แกะน้อยที่น่าสงสาร ไม่เอาน่าอย่าบอกนะว่าคุณ พึ่งมาเสียใจตอนนี่?” ยิ่งชายตรงหน้าพูดออกมาเท่าไหร่ ยิ่งเผยถึงท่าทีเต็มได้ความบ้าคลั่ง

 

คนตรงหน้าเดินเข้ามาหาด้วยสีหน้าเบิกบานใจ พร้อมเต้นรำ รอบตัวของเขาลมหนาวพัดผ่านไปมา ยิ่งทำให้บรรยากาศกดดันขึ้นเท่าตัว

 

ฮี่ ฮี่ ฟู่ว..

 

เสียงชวนขนหัวลุก และลมหายใจที่จรดปลายหู แผ่วเบา

 

หมับ!..

 

แมคมองคนที่จับใบหน้าของตน ด้วยอารมณ์ขุ่นมัว

 

“จุ๊ ๆ ลูกแกะที่รัก อย่ามองผมแบบนั่นสิ รู้ไหมว่าสีหน้าของคุณเวลาอารมณ์เสียนะมันเร้าใจเป็นบ้า”

 

 

ผมฟังที่ชายหนุ่มพูดก็รู้สึกขนลุก นายคนนี่ถ้าจะบ้าไปแล้วจริง ๆ

 

 

ติ๊ก ติ๊ก ติ๊ก..

 

เสียงนาฬิกาเรือนใหญ่ใจกลางโถงดังขึ้นเหมือนดั่งเวลาชีวิต หมอกหนาที่ตอนแรกไม่มีก็เริ่มก่อตัวขึ้นมาหนาขึ้นเรื่อย ๆ

 

 

< ‘เหล่าผู้เล่นที่รัก ดั่งฝูงแกะในทุ่งหญ้าแสนบริสุทธิ์ โรงละครใกล้ปิดม่านลงแล้ว โปรดรักษาชีวิตของพวกเธอให้ดี ซ่า ซ่า’ > เสียงผู้คุ้มเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยพร้อมสัญญาณที่ตัดขาดไปทั่วบริเวณห้องโถงก็ปกคลุมไปด้วยบรรยากาศแสนอึดอัดขึ้นทันตา

 

ชายหนุ่มที่จับใบหน้าของแมคด้วยแรงที่ไม่มากนักเอ่ยขึ้นช้า ๆ

 

 

“อา...อย่างที่เห็นฉันคงไม่มีเวลามาเล่นกับนายสักเท่าไหร่ เงินตรามันสำคัญรู้ไหม?” ชายตรงหน้าเหยียดยิ้ม พร้อมท่าทีนิ่งเฉยเปลี่ยนเป็นบุกเข้ามายังตน.

 

 

“เหวอ!มันอันตรายนะครับ!” แมคร้องขึ้นอย่างตกใจปนความหงุดหงิดที่ก่อคัว

 

 

“แหม ๆ ดีใจจังเลย รู้จักเตือนกันด้วย ผมมีความสุขมาก ๆ เลยละ” ชายตรงหน้าหัวเราะคิกคัก

 

ให้ตายเถอะ พระเจ้าว่านายคนนี่มันไม่ได้เป็นโรคจิตนะ อยากจะร้องไห้ชะมัด!

 

 

ตึก!ตึก!ตึก!

 

เสียงฝีเท้าก้าวหนัก ๆ วิ่งผ่านห้องโถงที่มืดมิด พร้อมหัวใจที่เต้นระรัวตามแรงสูบฉีด เสียงชวนขนหัวลุกก็ยังคงไล่ตามมาไม่หยุดหย่อน

 

 

“นายหนีฉันไม่พ้นหรอก มาให้จับซะดีๆ เถอะน่า” เอ่ยด้วยอารมณ์เบิกบาน

 

 

ใครหยุดให้นายก็บ้าแล้ว! แมคคิดในใจพร้อมแรงวิ่งที่ไม่ได้ผ่อนกำลังลง พร้อมสังเกตบริเวณรอบข้างที่มีห้อง

 

จากที่วิ่งได้อย่างไม่เหฯดเหนื่อยกานขาก็เริ่มเหนื่อยล้าเต็มทน ระหว่างทางวิ่งเข้ามาเต็มไปด้วยความมืดมิดแต่ก็ยังคงมีโชคอยู่ไม่น้อย

 

ห้องหมายเลข 404 ประตูได้เปิดทิ้งไว้แมคไม่ลังเลเลยที่จะวิ่งเข้าไปภายในห้องนั่น

 

บานประตูห้อง 404 ปิดลงอย่าวแผ่วเบา พร้อมคนในห้องที่มองบริเวณโดยรอบ ภายในตกแต่งด้วยข้าวของเครื่องใช้ที่เป็นระเบียบ แต่ไม่ว่าจะซ่อนที่ใดก็ล้วนมีแต่ช่องโหว่

 

เสียงนาฬิกายังคงเดินไปยังเวลาของมัน..ขณะกำลังโล่งใจเสียงการก้าวเดินที่แผ่วเบาก็ทำให้ปลายประสาทตึงเครียดอีกครั้ง ด้วยสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของมนุษย์ก็ไม่ลังเลที่จะไปแอบในตู้ซื้อผ้าขนาดใหญ่

 

และพยายามทำตัวให้ลีบที่สุด แมคมองออกไปภายนห้องผ่านซี่เล็ก ๆ ของตู้เสื้อผ้าได้มีเงาสีดำคืบคลานเข้ามาช้า ๆ และหยุดนิ่งลง

 

แมคมองภาพตรงหน้าด้วย อารมณ์ที่ยากจะอธิบาย

 

“ลูกแกะน้อยเธออยู่ที่นี่หรือเปล่า ฉันได้กลิ่นความตื่นเต้นของเธอรู้ไหม ฮี่ ฮี่” เสียงชวนขนหัวลุกเอ่ย

 

แอ๊ด....

 

บานประตูห้อง 404 ค่อย ๆ เปิดขึ้นพร้อมเงาร่างสูงที่ทอดมองมายังภายใน กวาดมองไปรอบๆ อย่างใจเย็นเหมือนดั่งแมวจับหนู

 

 

แมคที่ได้ยินแทบกลั้นหายใจ ด้วยความกลัวพร้อมฝ่ามือทั้งสองข้างที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ..

 

 

“อยู่ไหนกันน้า.. ตรงนี่หรือเปล่า ครืด..” ชายตรงหน้าเลื่อนบริเวณโต๊ะเครื่องเขียนใกล้ๆ พร้อมรอยยิ้มมุมปาก

 

“ไม่มี.. รึว่าตรงนี้ ฟุบ” ก้มตัวลงไปมองยังใต้เตียงด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

 

“อา ไม่มี บู้ ๆ ไม่สนุกเลย ผมรู้นะว่าเธอกำลังแอบมองผมอยู่” เขาหัวเราะคิกคัก

 

 

แมคที่แอบมองในมุมซี่เล็ก ๆ ก็อดสั่นกลัวกว่าเดิมไม่ได้ ให้ตาย!นี่มันบ้าชัด ๆ

 

“หรือว่าตรงนี้?” กล่าวจบก็สามขุมเข้ามายังตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่แสนสะดุดตา

 

เสียงรองเท้าเนื้อดีค่อย ๆ ก้าวเข้ามาทางตนช้า ๆ เสียงของหัวใจที่ดังลั่นจนแทบประสาทเสีย..

 

ชายหนุ่มกวาดสายตาไปรอบๆ ตัวเสื้อผ้าที่กองและแขวนอย่างเรียบร้อยอย่างเนิบนาบ แต่ก็ไม่พบสิ่งใด ได้แต่ขมวดคิ้วขึ้นน้อย ๆ แต่มุมปากกับยิ้มเหี้ยมเสียอย่างนั่น

 

“อา...นี้ก็ไม่มีงั้นเหรอ แต่จำได้ว่ามาภายในนี้นี้หว่า..” ชายหนุ่มบ่นกระปอดกระแปด

 

พร้อมเสียงฝีเท้าที่ค่อย ๆ เดินห่างออกไป แมคที่กำลังจะได้หายใจอย่างทั่วท้องเป็นอันต้องสะดุ้งตกใจขึ้นพร้อมม่านตาที่ขยายกว้าง

 

 

“ใครว่าละ..เจอเธอแล้ว!ฉัวะ!” บานประตูที่ปิดเมื่อคู่ก็ได้เปิดออกพร้อมการปรากฏตัวของชายหนุ่มผู้บ้าคลั่งและได้ทำการจับขวานฟันลงมาปิดชีพอย่างไม่ลังเล

 

ตัวขวานที่แหลมคมพุ่งเข้ามาอย่างไม่ลังเล บริเวณเท้าที่นั่งมานานทำให้เหน็บชาจนขยับไม่ได้ เพียงแค่เสี้ยววินาที ก็ได้ปักลงบนหน้าอกของเขาอย่างแม่นยำ

 

ร่างกายของแมคค่อยเอนตัวลงอย่างช้า ๆ ดั่งภาพสโลว์โมชั่นและเสียงของหนักที่ตกลงกระทบพื้นภายในห้อง

 

“อึก!แค่ก ๆ ฮ่า” แมคเหม่อมองเพดานสีขาวตรงหน้า พร้อมสมองที่ตื้อลง เลือดสีแดงสดไหลทะลักจากบาดแผลออกมาดั่งสายน้ำ หน้าตาของเขาค่อยซีดเซียวลงจากภาวะขาดเลือดพร้อมความทรงจำมากมายที่เล่นเทปวนไปอย่างไม่มี่สิ้นสุด

ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยแรงเฮือกสุดท้ายว่า “ถ้าไม่ทำอย่างนั่นละก็--- “

 

นั่นคือคำพูดสุดท้ายของเขาก่อนดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลสดใสจะปิดลงพร้อมลมหายใจที่หยุดเต้นไปตลอดกาล

 

 

ชายหนุ่ม มองต่ำไปยังร่างของคนที่แน่นิ่งไปแล้วด้วยสีหน้าเรียบเฉย พร้อมพึมพำเบา ๆ ว่าถ้าจะโทษกันละก็ โทษที่เป็นแค่ตัวละครใช้แล้วทิ้งเถอะ..

 

พูดจบก็เดินหายไปในความมืดมิด..

 

พร้อมเสียงหัวเราะอันน่าขนหัวลุกตลอดโถงทางเดิน นาฬิกาเรือนใหญ่ที่ส่งเสียงตลอดคืนก็ได้หมุนทวนอย่างบ้าคลั่งขึ้นอีกครั้ง พร้อมบานหน้าต่างที่แตกระเอียด

 

“Don't know how I ever did it all without you my heart is about to about to jump out of my chest”

To be continued...

 

 

เบื้องหลัง โรงละครแห่งหนึ่ง: ● ● ●

แมค: อา...น้ำแดงเต็มเลย เหนี้ยวตัวด้วยครับ มองร่างกายที่เต็มไปด้วยน้ำหวานตรงหน้า

ซิด: ที่รักอย่าได้ห่วงไปฉันเอาเสื้อผ้ามาให้เธอแล้ว พร้อมรอยยิ้มที่น่าขนลุก

แมค: คุณเป็นใคร นายไม่ใช่ที่รักของผม! แมคขนหัวลุกให้คนรักตรงหน้า

 

คนเขียน: มองภาพตรงด้วยสีหน้าปลาตาย พร้อมแก้วกาแฟที่ยกขึ้นมาจิบน้อย ๆ

เหล่าผู้ดูแล:ขอบคุณที่มาเอ็นดูพวกเรานะ ฝากตัวด้วยนะครับผม!

พร้อมม่านโรงละครที่ได้ปิดลง... ● ● ● ● ●

 

#ยังไม่ได้ตรวจคำผิด

# Tag ยังไม่มีนะครับ!

#สามารถติชมเข้ามาได้นะครับ แหะ!