kiss me before you go

Eden X Elysia

(โปรดใช้วิจารณ์ในการอ่าน ฟิคเรื่องนี้เป็นเพียงมุมมองของผู้เขียนเพียงเท่านั้น)

 

ณ ฐานบัญชาการของกลุ่มผีเสื้อผู้ไล่ตามเพลิง

หญิงผมสีชมพูสว่างจ้องมองภาพสะท้อนของตนเองในกระจก ชุดเดรสที่เพื่อนคนพิเศษนั้นตัดให้เธอ เป็นชุดที่เข้ากับเธอมากที่สุด ใบหน้าจิ้มลิ้มดูขี้เล่นกับหูแหลมๆ นัยน์ตาสีฟ้าสว่างนั้นคือภาพของ “เอลิเซีย” ตัวตนของเธอ

เอลิเซียเดินออกจากห้องพักของตนและเดินไปหาเพื่อนสาวคนพิเศษผู้ซึ่งเป็นคนที่ตัดชุดนี้ให้เธอ อดีตนักแสดงโอเปร่าผู้โด่งดังและร่ำรวย เอลิเซียยังจำเวทที่หล่อนนั้นขึ้นเวทีแสดงละครการแสดงของเธอนั้นช่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ

เอลิเซียเดินมาหยุดที่ประตูห้องๆ หนึ่ง เธอเคาะประตูบานนั้นสองถึงสามครั้งจนได้ยินเสียงของเจ้าของห้องอนุญาตให้เธอนั้นเข้าไป

“ว่าไงเอลี่” เสียงของเจ้าของห้องดังขึ้น หญิงสาวผมสีน้ำตาลแดงที่กำลังนั่งอยู่ตรงเก้าอี้เปียโน หล่อนนั้นกำลังเล่นเปียโนอยู่

“เธอกำลังเล่นเปียโนอยู่งั้นหรอเอเดน”

“ใช่แล้วล่ะเอลี่” หญิงสาวผมสีน้ำตาลนามว่าเอเดนเอ่ย “เธออยากร้องฟังไหมล่ะเอลี่” หญิงสาวผมสีชมพูสว่างพยักหน้าเล็กน้อย เอเดนยิ้มมุมปากของเธอและขยับตัวเข้าไปหาเปียโนสีดำอีกครั้ง

นิ้วเรียวสวยของเอเดนค่อยๆ วางมือลงบนเปียโน เอเดนดีดเปียโนไปตามโน้ตดนตรีที่เธอรู้สึก เสียงเปียโนที่ดังขึ้นไปทั่วห้องของเธอ เอเดนเธอกำลังเล่นเพลง มูนไลต์โซนาตา เสียงตนตรีที่ถูกเล่นโดยเอเดนมันช่างไพเราะ นานไปสักพักนึงเสียงเปียโนหยุดลง

แปะๆ แปะๆ

เอลี่เซียปรบมือให้กับการแสดงของเอเดน หญิงสาวผมสีชมพูนั้นประทับในใจในความสามารถของเอเดนอย่างสุดหัวใจ

“ฉันชอบที่เธอนั้นเล่นเปียโนที่สุดเลยล่ะเอเดน” เอลลี่เซียเอ่ยด้วยน้ำเสียงร่าเริง

“ขอบใจนะเอลี่” เอเดนเอ่ยและยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ว่าแต่เธอยังไม่บอกฉันเลยว่ามาหาฉันมีเรื่องอะไรของเอลี่”

“ฉันมีเรื่องหนึ่งจะบอกเธอ ซึ่งเป็นความลับของฉัน” หญิงสาวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่จริงจังซึ่งต่างจากปกติที่เอลี่เซียมักจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ติดเล่นแต่คราวนี้กลับดูจริงจัง

เอลี่เดินไปนั่งข้างๆ เอเดนที่ยังคงนั่งอยู่ตรงเปียโน หญิงสาวผมสีชมพูสว่างขยับเข้าไปใกล้หญิงสาวผมสีน้ำตาลแดง เธอกระซิบข้างหูของเอเดน ทันทีที่เธอได้ยินเสียงสิ่งที่เอลี่บอกเธอ

“ชะช่วยบอกฉันทีเอลี่…ว่ามันไม่จริงใช่ไหม” เอเดนเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สั่น

“เรื่องจริงเอเดน” เอลี่เอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้า “มันคืออีกตัวตนหนึ่งของฉัน” หญิงสาวผมสีชมพูเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่พยามร่าเริงแต่แฝงไปด้วยความเศร้า

“เอลี่ บอกฉันทีสิว่ามันไม่จริง เธอไม่ใช่แฮชเชอร์ที่ 13 ใช่ไหม” เอเดนเอ่ย น้ำตาใสๆ ค่อยๆ ไหลออกมาจากเบ้าตา

“อืม ฉันเป็นแฮชเชอร์ที่ 13 ” เอลี่เซียเอ่ย “นี่เอเดน”

“...”

“ฉันชอบชุดนี้เธอที่นั้นออกแบบและสั่งตัดมากที่สุดเลยนะ”

“...”

“วันนี้ฉันเลยใส่มาให้เธอดู ก่อนที่ฉันจะไป”

นัยน์ตาสีน้ำตาลแดงของเอเดนมองไปยังหญิงสาวผมสีชมพูสว่างตรงหน้าในชุดที่เธอนั้นออกแบบให้เธอโดยเฉพาะ นัยน์ตาสีฟ้าที่แฝใงไปด้วยความเศร้า

“ฉันอยากอยู่กับเธอให้นานกว่านี้ แต่มันช่างน่าเศร้าเสียจริง”

“...”

“เหมือนโชคชะตานั้นเล่นตลกเลยนะ เอเดน” เอลี่เซียเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่จะพยามร่าเริง

เอเดนดึงเอลี่เซียเข้ามาหาตน เธอประกบจูบลงบนริมฝีปากของอีกฝ่ายอย่างช้าๆ รสชาติจูบครั้งนี้มันไม่ได้หอมหวานราวกับน้ำผึ้งเหมือนทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา จูบในครั้งนี้มันช่างขืนขมที่สุดในชีวิต

 

Kiss me hard before you go

Summertime sadness

I just wanted you to know

That baby, you the best

-Summertime sadness : Lana del ray-

 

“ลาก่อนเอเดน สักวันหนึ่งเราจะได้พบกันอีกครั้งนะเอเดน” เอลี่เซียเดินจากไป เอเดนไม่สามารถห้ามเอลี่เซียได้เลย

เอลี่หยิบของขวัญชิ้นหนึ่งจากห้องของตนออกมา เธอเดินตรงไปยังห้องของเควินซึ่งเป็นผู้นำของกลุ่มผีเสื้อผู้ไล่ตามเพลิง วันนี้เป็นวันพิเศษวันนี้เป็นวันเกิดของเขา เอลี่เซียบอกความลับของตนเองต่อหน้าทุกคน เธอขอร้องให้เควินนั้นเนี่ยวไกลใส่เธอ เพื่อมนุษย์ชาติ การเสียสละเพื่อส่วนมาก…

.

.

.

.

.

.

.

.

“เอลี่เสียจากไปแล้ว” เควินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่แฝงไปด้วยความเศร้าภายในใจท่ามกลางวงประชุมของเหล่าผีเสื้อผู้ไล่ตามเพลิง ทุกคนได้แต่นิ่งเงียบ ผ่านไปสักพักทุกคนก็เดินจากไป เสียงหัวเราะ รอยยิ้มของเธอคนนั้น ไม่มีอีกแล้ว….

 

 

The End

คุยกับนักเขียน

ไม่ได้เขียนแฟนฟิคนานมากเลย รู้สึกภาษาเขียนแปลกๆ มากเลยอ่ะ พอดีไรท์เพิ่งกลับมาเป็นกัปตันยานตอนแพช 2.5 นี่เอง ตอนแรกจะเขียนเรื่องอื่นก่อน พอดีไปอ่านสปอยล์เนื้อเรื่องเอลี่…ฟิคก็งอกเลย ยังทำใจไม่ได้เลย TT