1 ตอน prologue เทพนิรันดร์ตื่นขึ้นอีกครา
โดย flycryhigh
content warning
massacre
มหาสมุทรทางตอนใต้นั้นมีพื้นที่ต้องห้ามอยู่บริเวณหนึ่ง
ที่แห่งนั้นเต็มไปด้วยคลื่นลมซัดสาด ยากจะเดินเรือผ่าน แม้แต่นกยังไม่กล้าที่จะบินผ่านบริเวณเหนือน่านน้ำนั้น มีตำนานเล่าต่อกันมาว่า เมื่อนานมาแล้ว มีมนุษย์หลงเดินเรือเข้าไปและสร้างความรำคาญให้แก่ราชาแห่งท้องทะเลที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น จากพื้นที่ที่เคยอุดมสมบูรณ์ มหาสมุทรที่สวยงามเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตมากมาย พลันพลิกผันกลายเป็นเภทภัยครั้งใหญ่ คลื่นลมโหมกระหน่ำ น้ำทะเลซัดสาด คร่าสิ่งมีชีวิตโดยรอบไปสิ้น กวาดล้างทุกอย่างไปพร้อมกับคลื่นสูงราวกับต้องการให้สิ่งมีชีวิตกระจ้อยร่อยอย่างมนุษย์หายไปให้สิ้นซาก บ้านเมืองรอบชายฝั่งถูกทิ้งร้างเหลือแต่ซากปรักหักพังจากการโดนคลื่นน้ำซัดทำลาย สุดท้ายแล้วชีวิตนับไม่ถ้วนล้วนสิ้นใจใต้คลื่นน้ำลูกใหญ่นั้น
หลังจากนั้นจึงไม่มีสิ่งมีชีวิตหน้าไหนย่างกรายเข้าไปในเขตทางใต้ของมหาสมุทรนี้อีกเลย
แต่ผู้ใดเล่าจะรู้ว่าแท้จริงแล้วไม่ใช่ราชาแห่งท้องทะเลใด ๆ ที่มนุษย์เรียกขานสร้างเภทภัยในครั้งนั้น แต่กลับเป็นเทพองค์หนึ่งจากแดนเทพ
ครองตำแหน่งทางการยิ่งใหญ่ในแดนเทพ นามว่า เทพนิรันดร์
เหล่าเทพในแดนเทพต่างก็สงสัยว่าเทพผู้มีตำนานการถือกำเนิดอย่างยิ่งใหญ่ ไยตอนนี้เหลือเพียงแต่ชื่อและเรื่องเล่าต่อ ๆ กันมาถึงตัวตนของเทพองค์นี้ เหตุใดเทพองค์นี้จึงหายออกไปจากแดนเทพหลายหมื่นปีนัก
มนุษย์มีตำนานของมนุษย์
เทพก็มีเรื่องเล่าของเหล่าเทพ
เทพนิรันดร์ผู้ซึ่งกลายเป็นราชาท้องทะเลสำหรับมนุษย์ไปแล้วนั้น เหล่าเทพต่างเล่าต่อ ๆ กันว่า เมื่อครั้งยังอยู่แดนเทพ เขาเป็นเทพที่ถือกำเนิดจากพลังของจักรวาล
ณ แดนเทพที่เป็นแดนในอุดมคติ ไม่มีกลางวัน ไม่มีกลางคืน ไม่มีหนาว ไม่มีร้อน ไม่มีฝน สิ่งต่าง ๆ งดงามราวกับล่องลอยในห้วงความฝัน แต่ในวันนั้น กลับเป็นวันที่แดนเทพเต็มไปด้วยความปั่นป่วน ม่านฟ้าที่เคยเป็นสีสว่างสดใสถูกแทนที่ด้วยความมืดมนอนธการ พื้นที่โดยรอบสั่นไหวอย่างรุนแรงสร้างความเสียหายให้กับอาคารต่าง ๆ ภายในแดนเทพไม่น้อย อากาศหนาวเหน็บสุดขั้วก่อนจะสลับไปเป็นพายุฝน ลมแรงกรรโชก บรรยากาศชวนให้อกสั่นขวัญแขวน คล้ายว่าแดนเทพจะถล่มลงมาไม่เหลือซาก
ยังไม่ทันได้คำตอบของการเปลี่ยนแปลงของแดนเทพ ผ่านไปไม่นานนัก ผืนฟ้ากลับกลายเป็นสีทอง ทอประกายสว่าง ทุกสิ่งกลับเข้าที่เข้าทาง ซ้ำยังดูวิจิตรงดงามกว่าเดิม มวลดอกไม้วิเศษต่างแข่งกันบานสะพรั่งพร้อมส่งไอวิเศษออกมาให้ผู้พบเห็นได้สดชื่น แมกไม้มากมายต่างก็ส่งประกายวิเศษ ราวกับต้องการปลอบประโลมจิตใจที่กระเด้งกระดอนออกมาเมื่อสักครู่ ม่านฟ้าประกายสีทองเช่นนี้ เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าแดนเทพกำลังมีสิ่งที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้น
พระราชวังซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของเทพชั้นปกครองผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ของแดนเทพ เกิดประกายแสงสว่างวาบจนตาพร่า โลงน้ำแข็งคริสตัลสีใสขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น ตั้งอยู่กลางโถงประชุมใหญ่ในขณะที่เหล่าเทพกำลังรวมตัวเรียกร้องหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ราวกับต้องการบอกคำตอบว่าสาเหตุของความปั่นป่วนนั้นมาจากผู้ซึ่งกำลังหลับใหลอยู่ภายในโลงคริสตัลนี้
เหตุการณ์ราวกับแดนเทพจะถล่มลงมานี้ เป็นการถือกำเนิดของเทพผู้หนึ่ง
ถึงจะเรียกว่าเป็นการถือกำเนิด แต่ก็ช่างประหลาดนัก ยามปกติแล้ว การถือกำเนิดของเทพนั้นจะเป็นไปตามกฎของสรรพสิ่ง เทพจะถือกำเนิดก็ต่อเมื่อเทพสององค์ร่วมรักกัน ถ่ายเทจิตวิญญาณของกันและกันรวมเป็นหนึ่ง และให้กำเนิดเทพองค์น้อยมาวิ่งเล่นในแดนเทพนี้ เพียงแต่เทพองค์นี้ เด็กหนุ่มที่อยู่ในลองคริสตัลนี่เล่า เป็นลูกเต้าเหล่าใคร โอรสธิดาของเทพองค์ใด ไยจึงปรากฏตัวได้น่าเกรงขามเช่นนี้
สี่เทพชั้นปกครองให้คำตอบว่า ตามคำทำนายของเทพพยากรณ์ เทพองค์นี้ถือกำเนิดมาจากพลังจักรวาล สิ่งที่หมุนเวียนอยู่ในร่างคือพลังที่บริสุทธิ์ปราศจากสิ่งเจือปน เกิดจากพลังจักรวาลและเศษเสี้ยวพลังของเหล่าเทพยามที่ปล่อยออกมารวมไปถึงสรรพสิ่งทั้งหลาย หล่อหลอมรวมเป็นหนึ่งในร่างนี้ สั่งสมรวมกันมานับนิรันดร์ จนก่อให้เป็นร่างจิตเทพขึ้นมาเช่นนี้
ถือกำเนิดมาก็มีรูปลักษณ์เป็นเยาวพาน หน้าตาชวนให้ลุ่มหลง คิ้วงามโค้งได้รูปรับกับจมูกที่โด่งขึ้นมาเล็กน้อย ชวนให้ใบหน้าเล็กเรียวดูอ่อนโยน แม้เปลือกตาจะยังคงปิดสนิท แต่ริมฝีปากหยักบางเม้มปิดสนิทเหยียดยิ้มเล็กน้อย ชวนให้รู้สึกว่าการหลับใหลอยู่ในโลงคริสตัลใสขนาดใหญ่นี้เป็นเพียงการพักผ่อนตื่นหนึ่งเท่านั้น
เทพนิรันดร์ถือกำเนิดท่ามกลางสายตาชื่นชมระคนหวาดหวั่นในความน่าเกรงขามเช่นนี้
พลังของเทพนิรันดร์นั้น คือพลังที่บริสุทธิ์ ถึงแม้จะไม่มีผู้ใดเคยได้เห็นการใช้พลังที่แท้จริงของเทพนิรันดร์ ต่างก็คาดการณ์กันไปต่าง ๆ นานาว่าเทพนิรันดร์ใช้พลังจากน้ำ และน้ำตาของเทพนิรันดร์นั้นบริสุทธิ์ยิ่งนัก สามารถใช้แปรเปลี่ยนเป็นยาวิเศษและอาวุธได้ และนอกจากนี้ เทพนิรันดร์นั้น เป็นนิรันดร์ ไม่สามารถดับสูญได้เฉกเช่นเทพองค์อื่น ๆ ไม่ว่าจะพยายามหนักเพียงใด ไม่ว่าจะต้องการดับสูญเพียงใด เทพนิรันดร์ จะคงอยู่นิรันดร์
เรื่องราวภายหลัง เทพอนุชนล้วนไม่มีทางรู้ว่าสิ่งใดคือความจริง สิ่งใดคือเรื่องเสริมเติมแต่งกันแน่ เหตุใดเทพผู้ที่เหมือนจะน่าเกรงขามเป็นแหล่งรวมพลังจักรวาลผู้นี้ถึงหายไปจากแดนเทพ
บ้างก็ว่าเพราะเป็นที่รังเกียจของเหล่าเทพด้วยกัน บ้างก็ว่าเพราะความจริงแล้วนอกจากความเป็นนิรันดร์ เทพผู้นี้ก็ไม่มีพลังใด ๆ ซ้ำยังเป็นเทพที่สี่เทพชั้นปกครองคอยให้ท้าย ดูแลอย่างดีจนเคยตัว แต่สุดท้ายกลับเนรคุณ เมื่อครั้งไปแดนมนุษย์ก็เผลอใช้พลังที่ไม่เสถียร ทำร้ายหนึ่งในสี่เทพชั้นปกครอง และปล่อยพลังนั้นทำร้ายมนุษย์ เจ็บป่วยล้มตายเป็นจำนวนมาก จึงถูกกักขังไว้สักแห่งในจักรวาลที่กว้างใหญ่แห่งนี้
แต่สิ่งหนึ่งที่เทพรุ่นราวคราวเดียวกันพูดเป็นเสียงเดียวกันคือ เทพนิรันดร์ผู้นั้นมีนิสัยเย่อหยิ่ง เย็นชา ซ้ำยังถือตัว ไม่อยู่ร่วมกับสี่เทพชั้นปกครองที่มอบการดูแลเอาใจใส่อย่างดี แต่สร้างห้วงมิติของตนเองขึ้นมา อยู่ปลีกวิเวกผู้เดียวในพื้นที่ซึ่งอยู่ห่างไกลจากเขตเมืองหลวงของแดนเทพ
แม้จะถือกำเนิดมาก็มีรูปลักษณ์โตวัยแล้ว แต่สิ่งที่ยังจำเป็นต้องทำ ก็ต้องทำ นั่นคือการร่วมศึกษาพื้นฐานต่าง ๆ ทั้งเรื่องแดนเทพ เรื่องภพมนุษย์ เรื่องปีศาจ และสัตว์วิเศษ แต่เทพนิรันดร์ผู้นั้น เพียงเข้ามาพอเป็นพิธี มักจะนั่งเหม่อลอย บางครั้งก็น้ำตาไหลเองโดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
เมื่อมีเทพรุ่นเดียวกันพยายามชวนพูดคุยผูกมิตรก็ยากจะทำได้ นัยน์ตาหงส์สีน้ำทะเลลึก คิ้วโค้งสวย หางตาชี้ขึ้น หน้าเรียวได้รูป ริมฝีปากหยักบางคล้ายจะเหยียดยิ้ม ใส่ชุดคลุมสีขาว ขลิบลายสีน้ำทะเล ประกายสีเงินรอบตัวเสริมให้ดูงดงามราวกับไม่มีอยู่จริง เอาแต่แผ่รังสีที่จับต้องไม่ได้ งดงาม ชวนให้ลุ่มหลง แต่ก็ดูห่างไกล เย็นชาจนสามารถแช่แข็งหมู่อาคารศึกษาทั้งบริเวณ ไม่ต้อนรับการผูกมิตร
ความเย่อหยิ่งที่แผ่ออกมา ไม่ใช่ความทะนงตัว ไม่ใช่ความเย็นชา แต่เป็นความงดงามที่จับต้องไม่ได้ เพียงแค่อยู่เฉย ๆ เทพนิรันดร์ผู้นั้นก็ชวนให้ผู้ที่มองรู้สึกว่าตนเองนั้นต้อยต่ำ ราวกับว่าที่เห็นอยู่นั้นไม่ใช่เทพ แต่ยิ่งใหญ่กว่าเทพด้วยกันนัก ซ้ำยังมีสัตว์เลี้ยงเป็นไซเรนน้อยตัวหนึ่งอีกด้วย
โดยรวมแล้ว นอกจากการถือกำเนิดที่น่าเกรงขาม สิ่งอื่น ๆ ล้วนไม่สามารถจับต้นชนปลายได้ คล้ายจะมีอยู่จริง แต่จักจับต้องไม่ได้ คล้ายจะยิ่งใหญ่ แต่กลับไม่เคยมีเรื่องที่ดีให้พูดถึงนัก
น้อยนักที่จักมีผู้รู้ว่าเทพองค์นั้นมีนามที่แท้จริงว่า
'เธย์เลียส'
และน้อยนักที่จักรู้ว่า เทพนิรันดร์ในตำนานผู้นั้นหลับใหลอยู่ในห้วงมิติของตนเอง ที่ใจกลางบริเวณมหาสมุทรทางใต้ของภพมนุษย์ เทพนิรันดร์กำลังหลับใหลและรอวันเวลาให้หมุนเวียนผ่านไป
ก่อนการหลับใหล จิตใจของเขาแตกสลายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความต้องการที่จะดับสูญพุ่งสูงขึ้นทะลุชั้นฟ้า แผ่รังสีความสิ้นหวังออกมามากมาย ความผิดบาปที่ไม่มีวันได้รับการอภัยทำร้ายเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความนิรันดร์ที่ใคร ๆ ต่างก็ต้องการ เมื่อมาอยู่ในตัวเขาแล้ว ล้วนเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์
ความนิรันดร์นั้นทำให้เขารู้สึกราวกับถูกกักขัง รับบทลงโทษที่ไม่มีวันจบสิ้น
เขาตัดสินใจกักขังตนเองไว้ในโลงคริสตัลที่ตนถือกำเนิดมาในห้วงมิติ ปิดการรับรู้จากสรรพสิ่ง ไม่ต้อนรับสิ่งใดหรือผู้ใด เพียงหวังให้เวลาที่เป็นนิรันดร์นี้ผ่านไปเร็วขึ้นอีกสักนิด ความนิรันดร์ที่ไม่มีวันจบนี้ เขาหวังเพียงมันจักผ่านไป
สองหมื่นปีของการหลับใหล
สรรพสิ่งล้วนดำเนินไปตามที่ควรเป็น เรื่องราวมากมายเกิดขึ้นและจบลงนับไม่ถ้วนในจักรวาลที่กว้างใหญ่นี้ เทพนิรันดร์ค่อย ๆ เหลือเพียงชื่อให้ให้เหล่าเทพอนุชนพูดถึง ตำนานการเกิดที่ยิ่งใหญ่ ตัวตนที่ไม่มีใครรู้จัก ล้วนกลายเป็นเรื่องเล่าที่ไม่มีวันพิสูจน์ความจริงได้
สองหมื่นปีผ่านไป
ขณะนี้ เทพนิรันดร์ตื่นขึ้นมาอีกคราแล้ว
- flycryhigh
Comments (0)