2. กล่อง

 

 

เด็กสาวหยิบเฟรมผ้าใบใส่ลงในกล่อง ตามด้วยพู่กันและหลอดสี

“เขาชอบวาดภาพหรือ?” คุณถาม

“เขาไม่วาดภาพหรือ?” เธอถามกลับ 

“เท่าที่รู้ ไม่” คุณตอบ “แต่เขาชอบอ่านหนังสือ” 

“เขาชอบอ่านหนังสือ” เด็กสาวพยักหน้ารับ

คุณหยิบหนังสือเรื่องที่เขาโปรดปรานเป็นลำดับสองใส่ลงกล่อง ขณะที่เธอหยิบเล่มโปรดลำดับหนึ่งขึ้นมาตั้งท่าจะใส่ลงไปด้วยกัน แต่คุณหยุดเธอไว้ก่อน

“เขาน่าจะอยากให้เก็บไว้” 

เด็กสาวลังเล คุณหยิบหนังสือเรื่องเดียวกันแต่เป็นเล่มใหม่ออกจากกระเป๋า

“เล่มนั้นมีลายมือของเขา เก็บไว้เถอะ” 

เธอหยักหน้ารับ กอดหนังสือไว้แนบอก

“ถ้าอย่างนั้นคุณอยากเก็บเสื้อคลุมไว้ไหม” เธอเงียบไปสักพักใหญ่ ก่อนจะถามคำถามที่ค่อนข้างใจกว้างทีเดียวออกมา

เสื้อคลุมที่ว่าคือเสื้อคลุมที่เธอห่มอยู่ เสื้อคลุมตัวโปรดของเขา 

คุณส่ายหน้า

“ฉันมีแล้ว” 

เด็กสาวเอียงคอ คุณจึงโชว์นาฬิกาพกเรือนเก่าที่เล็กเสียจนน่าขันเมื่อเทียบกับขนาดฝ่ามือของคุณให้เธอดู

“เขาให้มาเมื่อนานมาแล้ว” คุณเปิดฝา ชี้ให้ดูรอยแกะสลักที่ใกล้เลือนหาย ชื่อของเขา พ่ออุปถัมภ์ของเธอ พี่ชายต่างบิดาของคุณ

“ตอนเด็ก ๆ หรือ” 

คุณพยักหน้ารับ “เด็กมาก” 

“หลังจากนี้เล่าให้ฟังหน่อยได้ไหม” 

“ตอนนี้เลยยังได้” 

เธอส่ายหน้า ชี้ไปที่กล่อง “เขาน่าจะเบื่อแย่แล้ว” 

“นั่นสินะ” คุณว่า ก่อนจะลุกขึ้น ยกกล่อง นำทางเธอไปยังสุสานประจำตระกูล เมื่อถึงหน้าแท่นหินอ่อนสีดำสนิทคุณก็วางกล่องลง ส่วนเธอลากนิ้ว วาดวงเวทย์ล้อมเป็นวงกลม กันไม่ให้ไฟออกจากวงล้อม หรือเผาหญ้าจนเสียภูมิทัศน์ก่อนจะจุดไฟ

“ไปถึงเร็ว ๆ คงดีเนอะ” เธอว่า 

คุณพยักหน้ารับ

.

เด็กสาวพยายามยัดเครื่องพิมพ์ดีดใส่ลงไปในกล่องลัง

“อันนั้นเผาได้เหรอ” คุณถาม 

“ไม่แน่ใจ” เธอว่า “ถ้าเป็นไฟของปะป๋าคงทำได้” 

“แล้วของเธอล่ะ” 

“ไม่รู้สิ ไม่เคยลอง” 

“ถ้าเผาไม่ได้จะทำยังไง” 

“ระเบิดเอา”