1 ตอน they might drunk?
โดย ซาสี่
เพื่อนซี้สองคนอยู่ในห้องส่วนมากเขาทำอะไรกัน? เล่นเกม? ปั่นงาน? ดูหนัง? ดื่ม?
แน่นอนว่าคิม ดกจา กับ ยู จุงฮยอกเป็นจำพวกหลัง
ปกติพวกเขาก็ไม่ได้ดื่มหนักอะไรขนาดนั้น กับแค่เบียร์สองสามกระป๋องไม่ทำให้เขาสองคนเมาได้หรอก แต่ครั้งนี้ไม่ปกตินี่สิ ยู จุงฮยอกในตอนนี้กำลังจะเข้าใกล้คำว่า ‘เมาเป็นหมา’ เข้าไปทุกทีที่กรอกน้ำเมานั่นเข้าปากไปไม่หยุด
เสียงกระป๋องเบียร์กระแทกหัวคิม ดกจาดังกึกดังแทรกขึ้นมา พร้อมทั้งของเหลวสีเหลืองอ่อน ไหลเปรอะตั้งแต่หัวลงมายันตัวจากฝีมือคนตรงข้าม ยู จุงฮยอกพูดด้วยน้ำเสียงยานค้างจากอาการเมา “ดื่มเข้าไปสิ จะหยุดทำไม”
ไอเวรนี่ เบียร์เหลืออีกตั้งครึ่งกระป๋องแกจะปามาทำซากอะไรวะคิม ดกจาได้แต่คิดในใจและยกมือเสยผมเปียกโชกของตนขึ้น
“จุงฮยอกอา.. ทำแบบนี้มันเสียของรู้ไหม”
“หุบปากแล้วยกขวดขึ้นมาดื่มเดี๋ยวนี้คิม ดกจา”
“ผมว่านายควรพอได้แล้ว กับแค่โดนผู้หญิงคนเดียวทิ้งนี่ต้องมาดื่มเหล้าจนเมาเละแบบนี้เลยรึไง”
“ฉัน ไม่ ได้ โดน ทิ้ง!” ยู จุงฮยอกปากระป๋องใส่เขาอีกรอบ
ก็ขอบคุณนะที่รอบนี้เป็นแค่กระป๋องเปล่า ไม่ใช่ขวดเหล้าที่หมอนั่นถืออยู่แต่รอบหน้าไม่ต้องจะดีกว่า
“ครับ ๆ ไม่ได้โดนทิ้งก็ได้ครับ เธอแค่ไปอยู่ต่างประเทศเลยขอเลิกเองเนาะครับ”
“คิม ดก จา!!” ยู จุงฮยอกมองค้อนตาเขียวปั๊ด คว้ากระป๋องมาปาใส่เขาอีกรอบ
คิม ดกจาหัวเราะเบา ๆ รับกระป๋องที่ถูกขว้างมา ลุกขึ้นยืนแล้วเริ่มจัดการซากกระป๋องและขวดแก้วที่เพื่อนสนิทของเขาวางทิ้งไว้รอบตัว ปล่อยให้ยู จุงฮยอกนั่งกอดขวดเหล้าคิ้วขมวดอยู่อย่างนั้น
“เอาขวดที่นายกอดมาให้ผมได้แล้วยู จุงฮยอก ผมจะได้เก็บกวาดห้องสักที” คิม ดกจายืนเท้าเอวแล้วแบมืออยู่ตรงหน้าคนเมา แต่ ยู ฮยอกทำแค่เพียงขมวดคิ้วมองตนด้วยสีหน้าบูดบึ้ง
คิม ดกจากรอกตาถอนหายใจเมื่อยู จุง ฮยอกไม่ยอมให้ความร่วมมือ เขาก้มไปกระชากขวดออกมากอ้อมกอดของคนเมา
“ลุกไปล้างหน้าเถอะยู จุงฮยอก สภาพนายตอนนี้เหมือนหมาเลย”
“ถ้าฉันเหมือนหมาแกมันก็เป็นไอคนน่ารำคาญ”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับผมน่ารำคาญกัน?”
“ถ้าฉันว่าเกี่ยวมันก็เกี่ยว”
“ดื่มแล้วสมองทำงานผิดปรกติรึไงนายน่ะ ลุกขึ้นครับ”
“...” ยู จุงฮยอกขมวดคิ้วหนักกว่าเก่า
“ผมว่านายไม่ไหว ไปแปรงฟันแล้วนอนเถอะ”
“ฉันไม่เมา”
“ผมก็ไม่ได้บอกว่านายเมานี่ ไปจัดการตัวเองได้แล้วครับ”
“น่ารำคาญ”
“ไปเข้าห้องน้ำครับ” คิม ดกจากอดอกแล้วไล่ด้วยสายตา
ยู จุงฮยองส่งเสียงออกมาจากลำคอดัง เหอะ บ่งบอกถึงความไม่พอใจ แต่ก็ยอมทำตามที่บอกอย่างไม่เต็มใจสักเท่าไหร่ ถ้ามองจากการกระทำกับเสียงปิดประตูห้องน้ำดัง ปัง ก็ใช่น่ะนะ...
แต่คิม ดกจารู้ดีว่าจริง ๆ แล้วหมอนี่ก็แค่ทำเป็นหงุดหงิดเท่านั้น สำหรับคิม ดกจา นิสัยของยู จุงฮยอกน่ะเหมือนหมา ใช่ ไอหมาพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้นั่นแหละ ที่วัน ๆ เอาแต่เห่า พูดอะไรก็เถียงกลับ แต่ไม่กล้าลงมือกันจริง ๆ น่ะ
ไอหมาปากมาก นี่คือสิ่งที่เขานิยามตัวหมอนั่นไว้ แต่ถ้าจะให้พูดจริง ๆ หมอนั่นน่าจะเหมือนซันฟิชมากกว่า ไอปลายักษ์หน้าโง่ที่ทั้งชีวิตทำได้แค่ลอยโง่ ๆ อยู่ในทะเลน่ะ ถึงภายนอกหมอนั่นจะดูดีเหมือนคุณชายแค่ไหน แต่จริง ๆ แล้วหมอนั่นก็เป็นแค่ซันฟิชหน้าโง่ที่มีนิสัยเหมือนฮัสกี้ปากมากที่ทำหน้าบึ้งเหมือนกับว่าทุกวันของมันเป็นวันโชคร้ายยังไงอย่างงั้น
แม้จะเป็นเช่นนั้นแต่ยู จุงฮยอกก็เป็นที่ชื่นชอบในหมู่สาว ๆ พอตัว
เหอะ จะบอกว่าเขาอิจฉามันรึไง
ก็ใช่ไง ไอหน้าหมานั่นทั้งหุ่นดี ตัวสูง หน้าก็หล่อใครบ้างล่ะจะไม่อิจฉากัน
คิม ดกจาเก็บห้องไปบ่นกับตัวเองไป แต่แปลก เขาคิดนะว่าเขาใช้เวลาเก็บห้องนานพอสมควร ทั้งเช็ดเบียร์ที่พื้น เอาผ้าขี้ริ้วไปซัก ทั้งจัดการกับขวดเหล้ากับกระป๋อง แต่จนถึงตอนนี้ยู จุงฮยองก็ยังไม่ออกมาจากห้องน้ำอีก
ไม่ใช่ว่า... ลื่นล้มหัวฟาดชักโครกไปแล้วนะ? ไม่สิ ลบความคิดนั้นออกจากหัวเดี๋ยวนี้นะคิม ดกจา แกจะแช่งเพื่อนตัวเองเพื่อ ถ้าหมอตายแล้วใครจะมาหารค่าอพาร์ทเม้นท์กับเขาล่ะ
‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’
คิม ดกจาเคาะประตูห้องน้ำอย่างร้อนใจพลางตะร้องเรียกคนในห้องน้ำ “นี่! ยู จุงฮยอก! นายโอเครึเปล่า นี่ ยู! จุงฮยอก! ไหงจู่ ๆ ก็เงียบไปล่ะวะเจ้าโง่!”
ไม่มีเสียงอะไรตอบกลับมาจากในห้องน้ำที่ยู จุงฮยอกอยู่ คิม ดกจาขวมดคิ้วแล้วทุบประตูดัง ปัง
“ยู จุงฮยอก! ไอหน้าหมา! นายยังอยู่ดีรึเปล่า!” คิม ดกจาร้องเรียกสลับกับเคาะประตูไปเรื่อย ๆ
“อือ.. หนวกหูน่าคิม ดกจา..” เสียงขานรับเบา ๆ ของยู จุงฮยอกดังลอดห้องน้ำออกมา
คิม ดกจาถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อรู้ว่าคนด้านในปลอดภัยดี เขาเสยผมที่ปรกหน้าของตัวเองขึ้นแล้วถอนหายใจอีกครั้ง
“ถ้าไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ผมจะไปอาบห้องฮัน ซูยองก่อน นายก็รีบ ๆ อาบให้เสร็จแล้วออกมาล่ะ”
คิม ดกจาใช้เวลาไม่นานนักในการไปขอยืมห้องน้ำของฮัน ซูยองที่อยู่ห้องตรงข้าม เขาอาบน้ำพลางฟังเสียงของฮัน ซูยองที่ทะเลาะกับบรรณาธิการของเธอไปพลาง ๆ จนเสียงของเธอเงียบหายไป
เขาเดินออกมาจาห้องน้ำด้วยชุดนอนสีขาว และค่อนข้างมั่นใจว่าตัวเองแต่งตัวเรียบร้อยดี แต่ฮัน ซูยองกลับมองเขาด้วยสายตาแปลก ๆ
“กางเกมผมขาดหรือผมล้างหน้าไม่สะอาด ทำไมเธอถึงมองผมด้วยสายตาอย่างนั้นล่ะ” คิม ดกจากอดอกแล้วมองฮัน ซูยองด้วยสายตากดดัน
“ม- ไม่มีอะไรนี่ นายคิดมากไปเองแหละน่า คิม ดกจา” ฮัน ซูยองแก้ตัวด้วยท่าทีที่ดู... เป็นปรกติ ล่ะมั้งนะ
“เธอแน่ใจนะ”
“แน่นอน! ทุกอย่างเป็นปรกติดี นายมองโลกในแง่ร้ายเกินไปรึเปล่าคิม ดกจา”
“ผมมั่นใจว่าผมน่ะไม่ได้มองโลกในแง่ร้าย แต่เธอทำตัวแปลก ๆ นี่เป็นความจริง”
“ฉันปรกติ นายรีบกลับห้องเถอะน่า ขอให้ ‘โชคดี’ ก็แล้วกัน”
“หา? การเดินกลับห้องสามสี่ก้าว มันจำเป็นจะต้องใช้โชคด้วยรึไงกัน” คิม ดกจาขมวดคิ้ว
“อ่า.. ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันก็พูดไปงั้นแหละ นายกลับไปได้แล้วไป ป่านนี้ยู จุงฮยองคงรอนายจนรากงอกแล้ว”
“อ่า.. งั้นก็ขอบคุณที่ให้ยืมใช้ห้องน้ำนะ”
คิม ดกจาเดินกลับห้องมาด้วยความสงสัยเต็มอก
ฮัน ซูยองหมายความว่ายังไงกัน? ขอให้โชคดีงั้นเหรอ เธอทำเหมือนกับว่าผมจะต้องไปเจอกับอะไรที่เหนือความคาดหมายหรืออะไรที่ผมรับมือยากจนต้องพึ่งโชค แต่ว่า เธอหมายถึงอะไรกันล่ะ ช่วงสองสามอาทิตย์มานี่เขาก็ไม่ได้เจอลูกค้าแปลก ๆ เลยนะ แต่พยามคิดยังไงก็คิดไม่ออก
คิม ดกจาผลักประตูห้องของเขาและยู จุงฮยอกแล้วปล่อยให้มันปิดลงดัง ปัง จากนั้นก็ล็อกประตูแล้วหมุนตัวเดินเข้าไปในห้องส่วนตัวของเขา
ป่านนี้ยู จุงฮยอกคงจะกลับห้องของตัวเองไปแล้วล่ะมั้-
เอ๊ะ?
พระเจ้า นั่นมัน... ยู...จุงฮยอก? บนที่นอนของผม?
ในเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวยักษ์?
แล้วทำไมวันนี้หมอนั่นถึงได้แต่งตัวแปลก ๆ กัน เสื้อเชิ้ตตัวเดียวอะนะ ถามจริง เดี๋ยว แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ทำไมหมอนั่นถึงได้มาอยู่บนเตียงในห้องของเขาได้ล่ะ?
เขาเบิกตากว้างมองไปยังเพื่อนร่วมอพาร์ทเม้นท์ของตนที่อยู่ ๆ ก็ทำตัวแปลกไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ
คิม ดกจายกทิ้งตัวพิงกรอบประตูพร้อมมือขึ้นลูบหน้าตัวเองช้า ๆ
“ยู จุงฮยอกอ่า.. ทำไมนายถึงแต่งตัวแบบนั้นมาห้องผมได้ล่ะ” เขาถามด้วยน้ำเสียงนี่พยามทำให้นิ่งที่สุด
“ฉัน.. ฉันก็แค่ อ่า.. คือ” ยู จุงฮยอกพูดด้วยใบหน้าเรียบเฉยแต่ใบหูแดงก่ำ
“ค่อย ๆ พูดก็ได้ นายมีอะไรรึเปล่า”
คิม ดกจาเดินเข้าไปใกล้คนเสื้อขาวแล้วดึงผ้าห่มของเขามาคลุมตัวอีกฝ่ายไว้ด้วยมือที่พยามจะไม่ให้สั่น
แม่งเอ้ย ยู จุงฮยอกในชุดแบบนี้แม่งโคตรจะดีเลยพระเจ้า เวรเอ้ย นี่หรอที่ฮัน ซูยองบอกว่า ‘โชคดี’ น่ะ แล้วทำไมไอหน้าหมานี่มันไม่ติดกระดุมเสื้อวะ คิม ดกจาจับสาบเสื้อทั้งสองเข้าหากันแล้วติดกระดุมจนเกือบสุด แต่ก่อนที่จะถึงเม็ดสุดท้ายยู จุงฮยอกก็จับมือของเขาเอาไว้เสียก่อน
“คิม ดกจาแกไม่ชอบมันหรอ แต่ฉันจำได้นะ..แกเคยบอกว่าชอบมันนี่” ยู จุงฮยอกจับมือของคนตรงหน้ามาวางไว้บนอกตัวเอง
คิม ดกจากลืนน้ำลาย พยามชักมือหนี แต่แรงของคนที่วัน ๆ เอาแต่นั่งหน้าคอมพิวเตอร์ไม่ยอมออกกำลังกายจะเอาอะไรไปสู้กับการ์ดที่ออกกำลังวันละสองสามชั่วโมงกัน
“คิม ดกจา ตอบคำถามของฉันสิว่าแกชอบมันรึเปล่า” ยู จุงฮยอกกระชากตัวของคิม ดกจาให้มานั่งคร่อมทับตัวเองจนคิม ดกจาได้กลิ่นเฉพาะตัวของคนตรงหน้าที่ผสมกับครีมอาบน้ำของเขา
“อ่า.. ผมไม่เข้าใจว่านายหมายความว่ายังไง ปล่อยผมก่อนเถอะครับ” คิม ดกจาพยามดันตัวเองออกจากอ้อมแขนของยู จุงฮยอก
“แกเคยบอกว่าชอบฉัน แล้วแกก็บอกว่าถ้าฉันไม่ชอบแกก็เป็นเพื่อนกันก็ได้”
คลับคล้ายคลับคลาว่าเมื่อหลายปีก่อนเคยมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นจริง ๆ แต่หมอนี่จำได้ถึงวันนี้เลยเรอะ?
“อ่า.. เหมือนจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริง ๆ สินะ ฮะฮะ...” คิม ดกจายิ้มแห้ง
“แกหมายความว่าไงที่บอกว่าเหมือนจะ? แกกล้าลืมงั้นเรอะไอเนิร์ดคลั่งหนังสือ”
“มันผ่านมานานขนาดนั้นใครมันจะไปจำได้กัน ปล่อยผมได้แล้วน่า แบบนี้มันเมื่อยนะครับ”
ยู จุงฮยอกไม่ตอบแต่พลิกตัวให้คิม ดกจานอนลงบนเตียงแล้วให้ตนเป็นฝ่ายอยู่ด้านบน ซันฟิชในชุดขาวนั่งทับช่วงล่างของคิม ดกจาเอาไว้ มือใหญ่ที่มีรอยแผลเป็นประปรายยกปลดกระดุมเสื้อของตัวเองจนเกือบหมด เหลือเพียงสองเม็ดล่างเท่านั้นที่ติดไว้พอให้เสื้อไม่ลื่นหลุดไปเสียก่อน
คิม ดกจาตาโต มองไปรอบ ๆ หาจุดโฟกัสสายตาที่ไม่ใช่คนตรงหน้า มือไม้ดูเกะกะไม่รู้จะวางที่ไหน
อ่า.. ใจเย็น ๆ สิตัวผม หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกแล้วทำเป็นเมินหมอนี่ไปเสี-
“คิม ดกจา แกชอบรึเปล่า ดูสิ มองฉันสิคิม ดกจา..” ยู จุงฮยอกยกยิ้มมุมปาก ลากนิ้วจาดหน้าอกแน่นของมัน ลงต่ำเรื่อย ๆ จนถึงหน้าท้องขาวประดับรอยแผล ลงมาจนถึงท้องน้อยและวางมือลงบนท้องของคิม ดกจา
“มาทำกันเถอะคิม ดกจา แกเคยบอกไม่ใข่รึไงว่าชอบฉันมากน่ะ?” ยู จุงฮยอกก้มลงมา เอามือเท้าผนังหัวเตียงเอาไว้
“มาสิคิม ดกจา มากินของที่แกชอบสิไอเนิร์ด”
เชี้ยเอ้ย ผมไม่ทนแล้วได้มั้ย ไอหน้าหมานี่แม่ง.. โคตรดูดีเลยว่ะ
Comments (0)