"ทำไมถึงมาช้านักล่ะคะ ตัวเองเป็นคนนัดก็ควรมาให้ตรงเวลานัดสิคะ"

 

ฉันกอดอกมองคนที่เดินเข้ามาภายในห้องน้ำ เขาเป็นส่งข้อความหาเธอเองแท้ๆ ว่าให้มาหาที่ห้องน้ำตรงตึกสาม ชั้นที่สี่ มุมบันไดทางซ้ายมือ ฉันนี่ก็รีบทิ้งงานหอบร่างวิ่งข้ามอาคารมาหาเพราะเห็นว่ามีเรื่องสำคัญอยากจะคุยด้วย แต่เจ้าตัวดันมาสายเองเสียอย่างนั้น 

 

"ขี้บ่นจริง..."

"ฉันทำงานอยู่ค่ะ ใกล้ปลายเทอมแบบนี้ต้องจัดการเรื่องหนี้สินของนักเรียนเยอะหน่อย"

"คิรารินี่ใช้งานเธออย่างทาสเลย มันได้ทำเองบ้างรึเปล่าเถอะ"

 

เขาเดินตรงเข้ามาหา สอดวงแขนอ้อมมากอดรัดรอบเอวฉันและซุกใบหน้าลงที่ซอกคอ ฉันเงยหน้าขึ้นให้เขาเล็กน้อยจะได้อยู่ในองศาที่สบายคอมากขึ้น น้ำเสียงที่ดูเหมือนหงุดหงิดและโมโหดินฟ้าอากาศอยู่ตลอดเวลาในตอนนี้กลับหงอยลงจนฉันรู้สึกได้ เลยเลือกที่จะไม่ต่อล้อต่อเถียงเรื่องน้องสาวฝาแฝดของตัวเองเหมือนอย่างทุกที ยกมือขึ้นลูบกลุ่มผมสีบลอนด์ทองแผ่วเบาก่อนจะกดน้ำหนักมือลงไปบนศีรษะให้เขาซุกซบกันได้อย่างสบายใจ

 

"คิราริก็ทำงานค่ะ อย่างวันนี้อีกสักพักมีนัดเจรจากับรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์มั้งคะ"

"เฮอะ ใครสนล่ะ"

"คิดถึงเหรอคะ?"

 

อืม เหมือนฉันจะจี้ถูกจุดนะ เพราะมือซุกซนที่กำลังลูบวนอยู่บริเวณตะขอเสื้อชั้นในฉันมันหยุดชะงักไปแว้บหนึ่งน่ะ

 

"ก็ไม่ได้เจอกันมาหลายวันแล้วนี่นา อยู่โรงเรียนเดียวกันแท้ๆ"

"งั้นวันนี้เลิกเรียนแล้วไปนั่งเล่นในห้องสภากับฉันไหมคะ"

"ไม่เอา คิราริกับเพื่อนเธอชอบล้อ..."

 

เสียงงอแงดังอู้อี้อยู่ข้างหูฉัน แต่น้ำเสียงและคำพูดเนี่ยมันช่างขัดกับการกระทำจังเลยนะคะแมรี่ซัง ฉันต้องเอียงคอเปิดทางให้เขาอีกครั้งเมื่อปลายจมูกโด่งรั้นเริ่มลากจากปกคอเสื้อขึ้นมากดไซร้บนลำคอ เสียงสูดลมหายใจเข้าและไอร้อนที่ปล่อยออกมายามเขาหายใจออกทำเอาฉันขนลุกซู่ ปล่อยให้เขาซุกไซร้ขโมยกลิ่นน้ำหอมไปจากคอต่ออีกสักพักก่อนจะค่อยๆ ผลักเขาออกอยากเบามือ

 

"พ...พอก่อนค่ะ ฉันขอพวกนั้นแว้บมาแค่ 20 นาที" 

"เวลาเหลือเฟือน่า"

 

แมรี่ทำท่าจะพุ่งเข้าหากันอีกรอบ ฉันรีบยกมือห้ามไว้ก่อนอะไรๆ จะเลยเถิด

 

"คุณมาช้าไปเกือบ 10 นาทีนะคะ เผื่อลืม"

"ขอแปปเดียวนะริริกะ..."

 

ให้ตายสิ คุณอย่ามาทำเสียงอ่อนเพื่อออดอ้อนฉันอย่างนั้นสิคะ ฉันลอบถอนหายใจออกมาเพราะความหนักอกหนักใจ แฟนเด็กของฉันคนนี้ก็งอแงอ้อนกันไม่เลิก งานที่สภาก็กองรออยู่เป็นภูเขา ถ้าเลือกตามใจแมรี่ เพื่อนๆ คนอื่นในสภาจะมองว่าฉันเป็นคนยังไงนะ แล้วถ้าฉันเลือกงาน เด็กผมเหลืองตรงหน้าฉันเขาจะน้อยใจจนหายไปจากฉันเลยหรือเปล่า

 

เห้อ

 

"เลทให้ได้มากสุดแค่อีก 10 นาทีนะคะ"

 

งานน่ะช่างมันก่อนแล้วกัน กองกระดาษกับแล็ปท็อปพวกนั้นมันกอดฉันไม่ได้เหมือนแมรี่นี่นา

 

ดูเหมือนว่าเขาจะถูกใจคำตอบของฉันไม่น้อยเลยล่ะ ฉันถึงได้ถูกคนมือดีดึงให้เข้ามาอยู่ด้วยกันในห้องน้ำห้องเล็กๆ เรียวนิ้วของเขาแตะเข้าที่กลอนประตูก่อนจะบิดข้อมือเพื่อจัดการล็อคมันอย่างรวดเร็ว ด—เดี๋ยวนะ เดี๋ยวก่อนสิ 

 

"จะทำอะไรคะ?"

"ต้องให้บอกอีกเหรอ?"

"แต่เรามีเวลานิดเดียวแถมยัง เอ่อ...ในห้องน้ำแบบนี้อีก ถ้ามีใครมาได้ยินเข้าล่ะคะ"

 

บ้าไปแล้ว เขาอยากจะทำมันที่นี่ ตอนนี้เลยเหรอ? ฉันไม่ได้เตรียมใจมาก่อนด้วยซ้ำ แมรี่ขยับเข้ามายืนแนบชิดฉันอีกรอบ กระดุมเสื้อนักเรียนตัวนอกของฉันถูกเขาปลดออกไปหมดตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ ฝ่ามือบางวางลงที่หน้าอกฉันและเริ่มบีบขย้ำมันลงมาอย่างหนักหน่วง ใบหน้าเหมือนลูกหมาหิวนมยื่นเข้ามาใกล้ ดวงตาสีอำพันมีแววอ่อนลงเพื่ออ้อนวอนกัน ฮื่อ ให้ตายสิแมรี่

 

"ขอนะ...นะ ริริกะ"

"ข—ขออะไรคะ"

 

อย่าคลึงอกกันแบบนั้นสิ ฉันเผลอแอ่นรับสัมผัสจากมืออุ่นเป็นจังหวะเบาๆ ตามที่เขาออกแรงบีบเค้นมันผ่านเสื้อนักเรียนตัวในและบราลูกไม้ตัวโปรด ใบหน้าของเขาขยับเข้ามาคลอเคลียแย่งอากาศหายใจกันอย่างแนบชิด พายุอารมณ์ที่เขาก่อมันขึ้นมาเริ่มทำให้ฉันรู้สึกร้อน พยายามอ้าริมฝีปากเข้าหา รอให้ปลายลิ้นซุกซนของเขาเข้ามาสำรวจในโพรงปากเหมือนทุกครั้ง แต่ริมฝีปากนุ่มกลับแค่ปัดป่ายเฉียดกันไปมาให้ฉันเสียวท้องน้อยเล่นเท่านั้น

 

"ตอบมาก่อนว่าให้หรือไม่ให้ ฉันถึงจะทำทุกอย่างตามที่เธอต้องการ"

"คุณมากกว่าที่ต้องการ"

"เธอเองก็ต้องการนี่นา ดูสิ แค่นี้ก็แอ่นสู้แล้ว"

 

เสียงแหบพร่ากระซิบให้ได้ยินกันเพียงสองคน ปลายนิ้วเรียวไล้แผงอกขึ้นมาเพื่อดึงริบบิ้นสีดำเส้นเล็กที่ไขว้กันอยู่ที่คอฉันออก กระดุมคอ กระดุมเม็ดที่สอง สาม และสี่ ค่อยๆ ถูกปลดลงมาทีละเม็ดจนมีพื้นที่เพียงพอต่อการแหวกสาบเสื้อออกเพื่อปลดปล่อยหน้าอกหน้าใจของฉันให้ปรากฏแก่สายตาเขา แมรี่เริ่มเหมือนลูกสุนัขติดนมจริงๆ แล้ว เพราะเขาเอาแต่ซุกปลายจมูกลงกลางร่องอกและไซร้ตามเนินเนื้อนุ่มไปทั่ว เห็นตัวเล็กๆ แบบนั้นแต่กลับดันฉันมาจนแผ่นหลังติดชิดผนังบางๆ ของห้องน้ำนี้ได้ เหลือเชื่อเลย

 

"มะ—แมรี่ซัง"

"ฉันอยากเอาเธอจะแย่แล้ว รีบๆ ตอบมาสักทีสิ"

 

มั่นมันหยาบคายที่สุดเลย แต่ไม่รู้ทำไมฉันถึงชอบเวลาที่แมรี่พูดจาด้วยถ้อยคำลามกแบบนี้ ไหนจะสายตาคมที่แสดงออกมาว่าอยากจะทำแบบนั้นกับฉันจริงๆ ถูกส่งมาหากันแบบเปิดเผยขนาดนี้อีก 

 

ความ hot and horny ของเขาพาให้ฉันเริ่มรู้สึก horny and hot ตามได้โดยที่เขาแทบไม่ต้องลงมือทำอะไรเลย แมรี่ซังเนี่ยขี้โกงที่สุดเลยค่ะ

 

"อย่าทำเสื้อผ้าฉันยับมากนะคะ"

 

สิ้นเสียงฉันเขาพุ่งเข้ามาประกบจูบกันแทบจะทันที กดจูบหนักเบาสลับกับดูดดึงริมฝีปากกันและกัน ปลายลิ้นชื้นของเขาแลบเลียที่ปากฉันเป็นสัญญาณขออนุญาตข้ามเขตแดน และแน่นอนว่าฉันตกลง ทันทีที่เผยอปากรับลิ้นซุกซนของเขาก็เริ่มสำรวจภายในโพรงปากของฉันทันที ให้ตายสิ ได้โปรดอย่าดูดปลายลิ้นของฉันแบบนั้นสิคะแมรี่ซัง สติสตางค์ฉันจะโดนคุณสูบแย่งออกไปจากหัวสมองหมดแล้ว

 

แฮ่ก แฮ่ก

 

เสียงหอบหายใจกระเส่าเพราะรสจูบร้อนแรงของเราดังขึ้นแข่งกันภายในห้องสี่เหลี่ยมขนาดเพียง 1 ตารางเมตรนี้ พื้นที่เพียงแค่นี้นั้นน้อยไปมาก มันไม่เพียงพอที่จะสุมไฟใส่ความต้องการของฉันและแมรี่ได้อย่างพึงพอใจเท่าเตียงนุ่มๆ ที่หอพักของเขาหรือเตียงนอนขนาดใหญ่ของฉันที่บ้าน แต่แมรี่ก็เก่งพอที่จะทำให้ภายในหัวฉันเริ่มขาวโพลนได้แม้ว่าสภาพแวดล้อมจะไม่อำนวย บราลูกไม้สีดำตัวเก่งของฉันถูกถกกระชากขึ้นราวกับว่านี่คือบราตัวโปรดของเขา ริมฝีปากร้อนพุ่งเข้าครอบงำปลายยอดอก ทั้งโดนดูดดุน โลมเลีย เหมือนกับเด็กน้อยได้ดูดดื่มน้ำนมจากจุกของขวดนมขวดโปรด อดที่จะยกมือขึ้นมาลูบหัวด้วยความเอ็นดูไม่ได้ ความเสียวและจั๊กจี้ที่เกิดขึ้นจากลิ้นละริมฝีปากนั่นทำให้ฉันต้องใช้ความพยายามในการกลั้นเสียงครางขึ้นเล็กน้อย

 

"มัวแต่วุ่นวายอยู่ตรงนี้ ด—เดี๋ยวจะหมดเวลาก่อนนะคะ"

 

ฉันก้มลงกระซิบเหนือใบหูของเขา แลบลิ้นเลียใบหูเล็กน่ารักและแกล้งเป่าลมใส่มันนิดหน่อย ได้ยินเสียงเขาผ่อนลมหายใจและขยับเอียงคอเคลิ้มขึ้นมาหาฉัน หูเขาแดงเถือกไปหมดเลยล่ะ น่ารักจัง

 

"เอาหูเธอมาให้ฉันเลียคืนเลย"

"ก็อยู่แค่นี้ไม่ใช่เหรอคะ หรือแมรี่ซังเตี้ยจนเลียหูฉันไม่ถึง—อ๊ะ!"

 

แคว่ก!

 

เสียงเนื้อผ้าถูกฉีกแยกออกจากกันดังขึ้นมาจากกลางหว่างขาของฉัน ไม่รู้ว่าเขาถูกใจหรือไม่ถูกใจเครื่องแต่งกายชิ้นนี้อะไรของฉันนัก ถึงได้ชอบทำให้มันขาดออกแทนที่จะบอกให้ฉันถอดมันทุกครั้งเลย และถุงน่องแบบกางเกงตัวนี้ฉันยืมคิราริมานะคะ ก็ของฉันเขาฉีกมันพังหมดจนที่สต็อกไว้ก็ไม่เหลือแล้วอะ...

 

"ฉันหมายถึงนี่ หูตรงนี้"

 

เรียวนิ้วของเขาแนบลงกลางร่องเนื้ออุ่นกลางกาย กดย้ำปลายนิ้วคลึงวนบนสวิตช์จุดระเบิดผ่านเนื้อผ้าชั้นดีของกางเกงชั้นในสีดำที่ฉันสวมอยู่ แข้งขาและเข่าฉันอ่อนลงเหมือนถูกไฟช็อต รีบคว้าหมับเข้าที่ไหล่ของแมรี่เพื่อช่วยทรงตัวในการยืน บ้าที่สุดเลย โดนแค่นี้ฉันก็จะยืนไม่ไหวอยู่แล้ว เขาส่งยิ้มเจ้าเล่ห์แบบนั้นมาให้ประมาณว่าล้อเลียนกัน ฮึ่ม ต่อไปนี้ถ้าเขาโดนคนในสภาแกล้งฉันจะไม่ช่วยห้ามอีกแล้วค่ะ

 

"แม่รี่ซัง..."

"ขอโทษ แต่ขาดแค่ตรงนี้เซ็กซี่กว่าเยอะ"

"ฮื่อ"

"อะไร เสียวแล้วเหรอ?"

 

เขาเน้นน้ำหนักและเร่งจังหวะขยับปลายนิ้วให้เร็วขึ้น ขยับขาตัวเองเข้ามาวางกั้นตรงหว่างขาฉันเพื่อกันไม่ให้ฉันหุบขาเข้าหากัน แถมยังพยายามดันจนขาฉันแยกออกจากกันกว้างกว่าเดิมอีก แมรี่ซังบ้าที่สุดเลย 

 

"ยืนขาเดียวสักแปปนะ ไม่ไหวก็หาอะไรเกาะไปก่อนแล้วกัน"

"ขาเดียว? อ๊ะ! ม—แมรี่ซัง!?"

"Shhh, you're too loud."

 

ขอสาบานด้วยสถานะคุณหนูใหญ่ของตระกูลโมโมบามิอันทรงอิทธิพล ว่าโมโมบามิ ริริกะคนนี้ ไม่เคยอยากจิกหัวใครมากเท่านี้มาก่อนเลย

 

ฉันรีบยื่นมือไปดันประตูไว้เพื่อทรงตัว เพราะแมรี่เพิ่งจะย่อตัวลงไปคุกเข่ากับพื้นกระเบื้องด้านล่าง จัดการยกขาซ้ายของฉันขึ้นพาดไหล่ขวาของเขา ใช้ปลายนิ้วแหวกดึงเป้ากางเกงชั้นในเบี่ยงไปด้านข้าง และซุกปลายจมูกกับริมฝีปากเข้ากลางพื้นที่ระหว่างขาของฉัน เขาหลับตาพริ้มเลย...น่าหมั่นไส้ที่สุด ฉันพยายามเม้มริมฝีปากเก็บเสียงครางไว้ให้แน่นและทรงตัวด้วยขากับแขนที่แตะบานประตูไว้อย่างยากลำบาก

 

ให้ตายเถอะค่ะแมรี่ซัง อย่าหวังว่าครั้งต่อไปฉันจะยอมให้คุณพามาลำบากด้วยการทำกิจกรรมทางเพศในที่คับแคบแบบนี้อีกนะคะ

 

อึก

 

นี่ต่างหากช่วงเวลายากลำบากของจริง เพราะปลายลิ้นเรียวของเขาจู่โจมเข้ามาในร่างกายฉันอย่างอุกอาจ ฉันเผลอใช้มืออีกข้างที่ว่างกำเส้นผมเขาไว้แน่น เขาทั้งดูดดื่ม ลากเรียวลิ้นผ่านตามร่องน้ำชื้นแฉะ แวะแหย่ยื่นส่วนปลายเข้าไปทักทายภายในโพรงเนื้ออุ่นเป็นระยะๆ ไม่ไหว ฉันรู้สึกขาตัวเองสั่นจนเริ่มจะยืนไม่ไหวแล้ว

 

"ฮ...ฮึก"

 

เขาเปิดเปลือกตาขึ้นมาสบตากันเมื่อฉันหลุดเสียงสะอื้นครางออกมาเล็กน้อย จะให้กลั้นยังไงไหวล่ะคะ ก็เขาเล่นดูดเม้มปุ่มรวมเส้นประสาทของฉันอยู่แบบนั้นไม่เลิก แถมยังยื่นมือขึ้นมาบีบขยี้ปลายยอดอกฉันแบบนี้อีก เสียงสูดและดูดดื่มของเหลวจากข้างล่างทำให้ฉันแทบเสียสติ มันทั้งลามกและร้อนแรงในเวลาเดียวกันจนฉันไม่รู้จะรับมือกับมันยังไง ฮื่อ

 

ฉันจะยืนต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ จึงตัดสินใจวางมือค้ำบนหัวเขาไว้เพื่อใช้ทรงตัวแทน แบบนี้คงถนัดกว่ายืนแปะป่ายผนังกำแพงแบบเดิมเยอะ ฉันสอดนิ้วมือทั้งสองข้างแทรกเข้าตามแนวเส้นผมของเขาเพื่อใช้ยึดเกาะจนเส้นผมสีบลอนด์มันยุ่งเหยิงไปหมด รู้สึกผิดนิดหน่อยแต่ว่าไม่เป็นไรหรอกค่ะ เพราะนั่นไม่ใช่ผมฉันน่ะ 

 

"ฮื่อ...หยุดทำไมล่ะคะ"

 

เอาล่ะ ฉันโดนเขาเล่นคืนแล้ว แมรี่ผละใบหน้าออกมาจากริริกะน้อย ปาดคราบน้ำหวานรอบริมฝีปากด้วยหลังมือก่อนจะเงยหน้าขึ้นมากระตุกยิ้มใส่กันอย่างกวนประสาท

 

"บดเอาเองสิ"

"..."

"ก็เธอจิกหัวฉันแบบนี้ มันทำไม่ถนัดนะ เพราะงั้นเธอคงต้องทำทำเองแล้วล่ะ"

"จะเอาแบบนี้ใช่ไหมคะ?"

"ก็เออส—อื้อ!"

 

สมใจอยากค่ะ ฉันจับศีรษะกลมไว้เป็นที่มั่นและดึงมันเข้ามาชิดโดนัทชิ้นเล็กของฉันแนบแน่น เริ่มขยับสะโพกเข้าหาใบหน้าของเขาเป็นจังหวะเชื่องช้า เผลอแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากทุกครั้งเมื่อปลายจมูกโด่งสันของเขาโดนบริเวณเจ้าเกสรตัวเล็กผู้อ่อนไหวที่อยู่เหนือกลีบดอกไม้ชื้นแฉะกลางหว่างขา บดลงไปอีก ร่อนเอวเข้าหาให้มากกว่านี้อีก ฉันเงยหน้าปิดเปลือกตาลงและค่อยๆ พ่นลมหายใจหอบออกจากริมฝีปาก ฉันจะไม่ไหวอยู่แล้ว แบบนี้คุณพอใจรึยังคะแมรี่ซัง

 

"เธอหื่นจัง"

 

คงพอใจแล้วสินะ เพราะเขาวางขาฉันลงแล้วลุกขึ้นมายืนประจันหน้ากันเหมือนเดิม ฉันรู้ดีว่าเขาชอบให้ฉันทำแบบนี้มากกว่าทำตัวเป็นสาวน้อยใสซื่อที่เพิ่งหัดขึ้นเตียงครั้งแรก เลยยื่นใบหน้าเข้าไปหา ใช้ปลายลิ้นค่อยๆ ลากเลียคราบน้ำเหนียวใสของตัวเองที่เลอะอยู่รอบริมฝีปากเขาออกจนหมด แวะเวียนไปเลียริมฝีปากร้ายกาจนั่นอย่างออดอ้อน 

 

"ไหน บอกหน่อยสิคะว่าอยากได้อะไรอีก"

 

อ้อ และมีอีกอย่างหนึ่งที่เขาจะชอบมากเป็นพิเศษ

 

"ย...อยากได้นิ้วของแมรี่ซังม–มาใส่ตรงนี้ค่ะ"

 

เขาชอบให้ฉันพูดอะไรตรงๆ และลามกแบบนี้น่ะ 

 

อึก 

 

ฉันขบกรามแน่นเมื่อช่องทางอุ่นร้อนกำลังถูกเรียวนิ้วของเขาสอดใส่เข้ามาเติมเต็ม แมรี่ขยับเข้ามาละเลงปลายลิ้นลงบนหน้าอกฉันอีกครั้ง ทั้งสูดดมและซุกไซร้กลิ่นกายฉันอย่างหื่นกระหาย รู้สึกตื้อตึงไปหมดทั้งบนทั้งล่างจนไม่รู้จะแสดงออกมาในรูปแบบไหนเมื่อเขาเริ่มขยับข้อมืออัดนิ้วกลางเข้ามาจนสุดโคน ขยับออกและดันเข้ามาใหม่อย่างเชื่องช้าครั้งแล้วครั้งเล่า จะแย่อยู่แล้ว ฉันต้องการมันมากจนจะหายใจไม่ออกอยู่แล้วนะคะแมรี่ซัง

 

"เอาอีก..."

"หืม?"

 

เขาแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอีกแล้ว

 

"เอาอีกนะ-นิ้วค่ะ อ...ฮื่ออ"

 

และได้ตามคำขอทันที เมื่อกล้ามเนื้อเรียบภายในรับรู้ได้ถึงความคับแน่นที่สอดแทรกเข้ามาเพิ่ม ฉันผวาเข้าโอบกอดรอบคอของแมรี่แน่น ยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองไว้เพื่อกั้นเสียงครางที่จ้องจะหลุดออกมาจากปากอยู่ตลอดเวลา ฮื่อ แทบขาอ่อนร่วงลงไปกองกับพื้นทุกครั้งที่เขางอนิ้วครูดคลึงผนังนุ่มเป็นจังหวะ ฉันครางฮือออกมาอีกครั้งเมื่อปลายลิ้นเฉอะแฉะสัมผัสเข้าที่ใบหู พร้อมทั้งเริ่มขยับเรียวนิ้วด้านล่างสอดใส่เป็นจังหวะ เอาอีกแล้ว เขาเร่งจังหวะข้อมืออีกแล้ว ฉันงับเรียวนิ้วของตัวเองไว้แน่น ปลดปล่อยลมหายใจอุ่นร้อนและเสียงหายใจหอบกระชั้นใส่ใบหูและซอกคอเขาอย่างจงใจ 

 

แรงขึ้นอีกนิดได้ไหมคะแมรี่ซัง ฉันว่าฉันเริ่มรู้สึกอยากโลภมากกว่านี้แล้วค่ะ 

 

"อะ—เอ๊ะ!"

 

ฉันหลุดอุทานออกมาเสียงดังเพราะด้วยความตกใจเมื่อเขาถอนนิ้วกลางและนิ้วชี้ออกมาจากตรงนั้น ก่อนจะแกะแขนฉันที่กอดรัดเขาอยู่ออกและจับให้ฉันหันหน้าเข้าหาผนังห้องน้ำสีขาว ใช้มือจับเอวแล้วดึงสะโพกฉันเข้าไปใกล้ ดันขาซ้ายและขาขวาให้อ้าออกจากกันเล็กน้อย ทำให้ฉันต้องโก่งโค้งตัวเองลงนิดหน่อยและใช้มือทั้งสองข้างดันผนังเบื้องหน้าไว้ จะได้ไม่เป็นการยืนผิดท่าผิดทางมากเกินไปจนกล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็นส่วนไหนบาดเจ็บ โอเค ฉันรู้แล้วล่ะว่าเขาต้องการจะทำอะไร ฉันเข้าใจดีค่ะว่าแมรี่ซังน่ะใจร้อน แต่ว่าถ้าอยากได้ท่านี้ก็บอกกันก่อนก็ได้นี่นา

 

"ทีหลังบอกกันล่วงหน—"

"ชู่ว...มีคนเข้ามา...ได้ยินไหม?"

 

ฉันต้องกลืนคำพูดเมื่อครู่ลงคอไปทันทีที่ฝ่ามือซ้ายเขายื่นมาปิดริมฝีปากกันไว้ ไม่กี่วินาทีต่อมาเสียงพูดคุยของนักเรียนหญิง 3-4 คนที่หน้าห้องน้ำทำให้ใจฉันหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม

 

'ฉันล่ะอิจฉาอิการาชิกับซาโอโตเมะจริงๆ'

'ทำไมล่ะ? พวกนั้นใช้ชีวิตกันน่าเบื่อจะตาย คนนึงโดนพวกสภาจิกหัวใช้จนหัวฟู อีกคนก็โดนประธานเพ่งเล็งจนอยู่ไม่เป็นสุข ไม่เห็นจะน่าอิจฉาตรงไหนเลยสักนิด'

 

อ้าว ยัยนี่หนิ พวกฉันไม่ได้จิกหัวซายากะหรือใช้งานหนักขนาดอะไรนั้นสักหน่อย ไปฟังจากไหนมาเนี่ย บ้าบอชะมัด แมรี่ซังก็อีกคน ถ้ามัวแต่กดหลังฉันไว้แบบนี้แต่ไม่ทำอะไรสักทีก็กรุณาปล่อยกันได้แล้วค่ะ มันปวดหลังนะคะ

 

"อ๊ะ!"

"ชู่ว"

 

'เธอได้ยินเสียงอะไรไหม?'

 

คนด้านหลังออกแรงปิดปากฉันไว้แน่นจนแทบหายใจไม่ออก ฉันหลุดครางเพราะอีกมือของเขาเพิ่งจะสอดใส่นิ้วเข้ามาในใจกลางชื้นแฉะของฉันโดยไม่ทันได้ตั้งตัวน่ะสิ เขาแช่มันค้างไวอย่างนั้น เพราะเสียงพูดคุยข้างนอกนั่นเงียบหายไป แต่กลับมีเสียงรองเท้านักเรียนกระทบพื้นกระเบื้องขยับเข้าใกล้พวกเราแทน

 

ขอร้องล่ะ ขอร้องนะพวกเธอ อย่าเพิ่งมาขัดจังหวะกันตอนนี้ได้ไหม

 

'ไง สรุปเสียงไรอะ'

'ไม่ได้ยินแล้วนะ ช่างเถอะ ว่าแต่เธออิจฉาสองคนนั้นทำไมนะ?'

 

เสียงรองเท้าออกห่างไปแล้ว ฉันได้ยินเสียงแมรี่ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เขาปล่อยมือออกจากใบหน้าฉัน โน้มตัวลงมาแนบชิดสนิทกับแผ่นหลังกันและเริ่มขยับข้อมือเข้ามาเป็นจังหวะเชื่องช้า ฉันกางขาออกอีกเล็กน้อยเพื่อลดความสูงของสะโพกลงให้เขาโอบกอดกันได้อย่างถนัดถนี่ ท่าทางในตอนนี้อาจจะลำบากนิดหน่อยเพราะฉันตัวสูงกว่าแมรี่ซังค่อนข้างมาก แต่เขาก็ฮอตพอที่ฉันจะยอมปวดหลังให้แหละนะ

 

'อ้าว นี่เธอไม่รู้เหรอ สองคนนั่นเดทกับแฝดโมโมบามิอยู่นะ โมโมบามิเลยนะ ฉันก็อยากจะลองสานสัมพันธ์กับคนรวยล้นฟ้าขนาดนั้นบ้าง ถ้าได้ชื่อว่าเป็นผู้หญิงของประธานหรือรองประธานบ้างฉันคงจะอยู่ในโรงเรียนนี้เหมือนนางพญาเลย'

'เหอะๆ ตามสบายเถอะ แฝดนั่นหน้าตาดีมากและรวยมากก็จริง แต่ฉันคงทนความผีบ้าแบบนั้นไม่ไหวหรอก'

'เกินไปนะ แต่มันก็จริงของเธอ ฮะๆ'

 

อ้าว สรุปว่าพวกเธอชอบฉันหรือไม่ชอบฉันกันแน่เนี่ย

 

แต่ช่างเถอะ เพราะตอนนี้ฉันไม่มีสติพอจะรับรู้อะไรอีกต่อไปแล้วล่ะ แมรี่งอเรียวนิ้วเกี่ยวผนังเนื้อนุ่มของฉันสลับกับสอดกระแทกมันเข้ามาอย่างไม่ลดละ ฉันได้แต่อ้าปากหอบโกยอากาศและครางทิพย์เท่านั้น เขาซุกใบหน้าเข้าที่หลังคอและไซร้กันจนฉันเสียววาบตั้งแต่สันหลังไปจนถึงกึ่งกลางร่างกายที่เริ่มถูกกระแทกกระทั้นเข้ามาหนักหน่วงขึ้น ฉันไม่รู้ว่านักเรียนกลุ่มที่อยู่หน้าห้องน้ำเมื่อครู่ออกไปแล้วหรือยัง แต่ตอนนี้ความเสียวซ่านตรงกลางหว่างขากำลังจะทำให้เสียงครางในลำคอที่ฉันกลั้นมันเอาไว้หลุดออกมาจากปากให้ได้เลย

 

"เงียบไว้...เก่งมากเด็กดี"

 

เขากระซิบเสียงแหบพร่าอยู่ข้างใบหู ฉันแก่กว่าเขาแท้ๆ แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงชอบเวลาที่เขาเรียกกันว่าเด็กดีนัก ฉันหลับตาพริ้ม โพรงปากถูกเติมเต็มด้วยนิ้วชี้และนิ้วกลางในมือที่ว่างของเขา เริ่มเอาใจเขาบ้างด้วยการหยอกล้อเรียวนิ้วนั้น ผงกหัวดูดดึง โรมรันส่วนโคนและส่วนปลายด้วยลิ้น โลมเลียเสียจนนิ้วของเขาเปียกชุ่มไปด้วยน้ำลายและยังไหลเยิ้มไปถึงฝ่ามือ ให้ตายสิ ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็นพวกเสพติดเรื่องลามกแบบนี้อย่างไรอย่างนั้น 

 

ไม่ไหวแล้ว ฉันจะไม่ไหวแล้ว เหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจเมื่อเขากระแทกมันเข้ามาแรงขึ้นจนรู้สึกจุกในท้องน้อยไปหมด ความเสียวจากจุดกำเนิดค่อยๆ แผ่ขยายออกไปจนทำให้กายสั่นไปทั้งร่าง ฉันปล่อยให้นิ้วเขาเกี่ยวคาไว้ในริมฝีปาก พยายามกอบโกยอากาศเข้าปอดให้ได้มากที่สุด แต่ตกต้องใจมากกว่านั้นเพราะเขาดึงนิ้วออกจากปากฉัน และเปลี่ยนไปกำและกระชากเส้นผมของฉันแทน

 

ดิบเถื่อนจังเลย ให้ตายสิ จะตายอยู่แล้ว ฉันรู้สึกดีจนจะตายอยู่แล้วค่ะแมรี่ซัง ได้โปรดอย่าหยุดนะคะ

 

ฉันเริ่มหายใจหอบหนักและดังขึ้น ยกมือหนึ่งขึ้นมาปิดปากตัวเองไว้แน่นเพื่อปิดกั้นเสียงครางและเสียงสะอื้น น้ำตาไหลหลากลงมาเลอะฝ่ามือที่ประกบอยู่บนริมฝีปากจนเปียกไปหมด โดยที่แลกมาด้วยความทรมานดั่งโดนยมบาลฉุดรั้งให้ลงนรก ความสุขสมที่ใคร่ครวญหาก็เริ่มปะทุขึ้นมาจ่ออยู่ที่ปากปล่อง ฉันหลับตาและกดมือปิดริมฝีปากตัวเองแน่น ก่อนที่มันจะระเบิดออกมารุนแรง แขนขาและร่างกายกระตุกสั่น เรี่ยวแรงลดฮวบหมดหลอดจนเกือบทรุดลงไปอยู่กับพื้น

 

แฮ่ก แฮ่ก  

 

สมองขาวโพลนเหมือนยืนอยู่ท่ามกลางหิมะบนลานกว้างสุดลูกหูลูกตาในช่วงหน้าหนาวที่ฮอกไกโด ฉันหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ปล่อยให้แมรี่พลิกไหล่ฉันหมุนกลับมากอดมาหอมแล้วแต่ตามใจเขา ส่วนฉันเหมือนได้รีบูตสมองใหม่เลยล่ะ นี่มันเกินกว่าประมาณการณ์ไว้ซะอีก 

 

พวกหล่อนเข้าใจผิดกันไปหมดแล้ว ฉันล่ะอยากจะบอกยัยพวกกลุ่มหน้าห้องน้ำเมื่อครู่จริงๆ ว่าคนที่เธอควรอิจฉาน่ะคือฉัน ที่ได้คนเอาใจเก่งอย่างซาโอโตเมะ แมรี่คนนี้มาครอบครองต่างหาก

 

"เธอใส่สีดำแล้วโคตรเซ็กซี่อะ ใส่มาอีกนะ"

 

เขากระซิบขณะที่กำลังสอดมือเข้ามาเพื่อติดตะขอเสื้อชั้นในกลางแผ่นหลังฉัน

 

"อือ แต่ไม่เอาในห้องน้ำแบบนี้แล้วนะคะ เมื่อย"

"ฮะๆ จะรีบแก่ไปไหนอะ"

"พูดออกมาได้...แก่กว่าคุณแค่ปีเดียวค่ะ เดี๋ยวตบปากแตกเลย"

"ใครสอนให้พูดแบบนี้เนี่ยยัยคุณหนู?"

"คิราริสอนมาค่ะ เอาไว้พูดเวลาคุณกวนส้นเท้า"

"ฮะๆๆ พอเป็นเธอพูดแล้วน่ารักจัง แต่ว่าอย่าไปฟังไอ้บ้าคิราริมันมากซี่..."

 

คงจะยากนะคะแมรี่ซัง เพราะอันนั้นฉันด่าคุณด้วยตัวเองค่ะ คิราริไม่ได้สอนหรอก

 

ยังไงก็คงต้องไปก่อนแหละนะ ต้องจัดการตัวเองวุ่นวายเลยล่ะ เมื่อกี้ซายากะก็เพิ่งส่งข้อความมาตามให้รีบกลับไปคุมเจ้าพวกตัวป่วนในสภาเพราะต้องออกไปรับแขกในกระทรวงกับคิราริแล้ว กล่าวลากันตรงนี้เลยแล้วกันนะ ไว้เจอกันใหม่ล่ะ บ๊ายบาย

 

อ้อ ลืมไปอีกเรื่อง อย่าให้ฉันรู้หรือเห็นนะว่าพวกเธอคิดอยากจะแย่งแมรี่ซังไปจากฉันน่ะ เพราะฉันจะไล่ล่าเธอแน่ อืม...แต่ยังไงแมรี่ซังก็ไม่มีทางไปจากฉันเพราะคนอย่างพวกเธอหรอก เพราะเขาฉลาดเกินกว่าที่จะทิ้งเนื้อวากิวA5 เพื่อไปคั่วหมูสับติดมันที่แปะป้ายเหลืองลดราคาหลัง 1 ทุ่มอย่างพวกเธอน่ะ ลาก่อนค่ะ