เพลงประกอบตอนที่1

1.Miki Matsubara - Stay with me

2.Mariya Takeuchi - Plastic Love

คู่มือ

ซาอิกะ และ ไซกะ คือคนเดียวกันนะคะ แค่เรียกได้สองแบบนะคะ

 

 

sds

 ณ นิปปงโกกุ,เมืองไท่โฮ

1986年2月28日(火)午後21時30分

                ณ ซิมโพเซียม โรเลอร์สเก็ตดิสโก้เจ้าใหญ่ที่สุดในเมือง มีผู้คนจำนวนหนึ่งกำลังเดินเข้ามารับบริการในแดนซ์คลับแห่งนี้ แสงสีจากไฟนีออนส่องแสงระยิบระยับ ทำให้จิตใจของผู้มาใช้บริการรู้สึกตื่นตาตื่นใจและสนุกสนาน

                   ซาอิกะชายหนุ่มร่างเล็กที่เดินควงแขนมาพร้อมกับสามีของเขามีชื่อว่า มาชิ เดินมาพร้อมกับเพื่อนได้แก่ จูโร่ มาสุ และโทมิ ทั้ง5คนมุ่งหน้าไปยังเคาท์เตอร์โรลเลอร์เบลดเพื่อไปยืมรองเท้าโรล์เลอร์เบลดและฝากรองเท้าตัวเอง เสร็จจากนั้นก็มาบาร์สั่งเครื่องดื่มแล้วค่อยเดินไปยังโต๊ะที่ว่าง ทุกคนนั่งใส่รองเท้าโรล์เลอร์เบลดและอุปกรณ์ป้องกันเข่าทันที

"วันนี้ครบรอบ2ปีที่แต่งงานกันนิ"

 

"ใช่ เลยพามาย้อนความหลังที่นี้"

 

"ธุรกิจบริษัทเพลงเป็นยังไงบ้าง"

 

"ช่วงนี้ก็ยังวุ่นวายหนักเหมือนเคย โชคดีที่มีไซกะจังและเลขาของเขามาช่วยทำเอกสาร"

 

"ไซกะจังเก่งรอบด้านมากเลย มาชิโชคดีมากนะที่ได้แต่งงานกับคนดีและเก่งมาก"

 

"เกือบจะไม่ได้แต่งงานแล้วด้วยซ้ำ เพราะโอกาซังไม่ยอมให้แต่งกับไซกะจัง ไซกะจังต้องพิสูจน์ตัวเองเลยได้แต่งงาน"

 

"อ่า...เข้าใจแล้วว่าทำไมถึงรักกันนาน"

 

"แล้วจูโร่คุงกับมาสุจังเป็นยังไงบ้าง เห็นเดินทางไปเมืองโยโระบ่อยๆ ไปทำอะไรที่นั่นเหรอ เห็นไซกะจังบ่นตลอดเวลาจะไปหา"

 

"ผมกับมาสุจังไปดูโรงผลิตที่โยโระทุกอาทิตย์ครับ ช่วงนี้ดอกซึบะกิผลิ รายการเยอะจนวุ่นวายไปหมดเลยครับมาชิเซนไป"

 

"ธุรกิจของจูโร่คุงก็ดูเจริญรุ่งเรืองดีมาก ไอ้คนอย่างฉันก็อิจฉาทำงานออฟฟิศตื่นเช้าไปยืนเบียดบนรถไฟ กว่าจะได้พักก็ต้องเป็นวันเสาร์อาทิตย์ ฉันอยากจะมีมรดกตกทอดแบบบ้านพวกนายบ้าง"

 

"โทมิเซนไปยังอยู่ที่บริษัทเดิมอีกเหรอ ผมนึกว่าพี่จะย้ายออกแล้ว"

 

"พี่กำลังจะย้ายไปประจำที่สาขาโยโระน่ะสิ สงสัยต้องขอคำปรึกษาจากจูโร่คุงแล้วล่ะ"

 

“ไม่มีปัญหาอยู่แล้วครับโทมิเซนไป”

 

"ไหนๆ ก็พร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว ชนแก้วดีกว่าพวกเรา"

 

 

              เมื่อทั้งสามพูดคุยและชนแก้วดื่มเบียร์ไปได้สักครึ่งชั่วโมง โทมิก็ขอตัวกลับออกไปก่อนเพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางไปต่างจังหวัด ส่วนทางด้านซาอิกะและมาสุไถสเก็ตไปได้สักพัก ก็เดินออกจากเวทีใจกลางร้านลงไปเข้าห้องน้ำที่มีคนมากมายต่อแถว ทั้งสองจึงยืนรอคิวเข้า

 

 

"ไซกะจังนายจะทำแบบนี้จริงเหรอ"

 

"ใช่ ฉันคิดมาสักพักแล้วล่ะ"

 

"งานเอกสารที่นายช่วยมาชิทำ ใครจะทำแทนนาย"

 

"ยูกิจังไง"

 

"แล้วถ้ามาชิไม่ไว้ใจยูกิจังขึ้นมา นายจะทำยังไง"

 

"ฉันมีวิธีของฉันแล้วกันนะมาสุจัง อย่ากังวลไปเลย"

 

"ฉันรู้สึกไม่ดีเลยที่นายจะจบเรื่องราว2ปีแบบนี้ นายไม่รักมาชิแล้วหรอ ไซกะจังนายอย่าฝืนใจตัวเองเลย"

 

"มาสุจัง นายอย่าคิดมาก ฉันพร้อมรับมือกับเรื่องนี้แล้ว"

 

"แต่มาชิไม่ได้เตรียมพร้อมรับมือนะสิ นายไม่สงสารมาชิหรอ สามีนายทั้งคนเลยนะ"

 

"ฉันต้องเป็นคนจบเกมนี้ ไม่ใช่ผู้หญิงเห็นแก่ตัวคนนั้น"

 

“นายเรียกโอกาซังว่าผู้หญิงเห็นแก่ตัวหรอ? ”

 

"เขาไม่ใช่โอกาซังของฉันตั้งนานแล้ว ทั้งหลอกใช้บังคับขู่เข็ญนี้หรอคนที่เป็นโอกาซังเรา"

 

"นายไม่เคยรักโอกาซังนายหรือ"

 

"ความรักมันจบลงตั้งแต่เขาบังคับให้ฉันทำแผนการนี้แล้ว"

 

"เห้อ...ฉันรู้สึกว่านายคงโกรธโอกาซังมากนะสินะ"

 

"เลิกพูดถึงทั้งสองเถอะ ห้องน้ำว่างแล้ว"

 

 

             ทั้งสองพูดจบ ห้องน้ำก็ว่างให้เข้าไปทำธุระส่วนตัว เมื่อเสร็จทั้งคู่กลับไปลานสเก็ตพร้อมกับไถเล่นตามเพลงที่ดีเจเปิด จากนั้นมาชิก็ไถเข้ามาอยู่ด้านข้างซาอิกะที่กำลังยืนดูมาสุเล่นกับจูโร่กันสองคน มาชิจับมือของซาอิกะและทั้งคู่ก็ไถโรลเลอร์เบลดไปด้วยกัน มาชิยิ้มกว้างและหันมามองหน้าอีกคนที่กำลังมองทาง จากนั้นเพลง Plastic Love - Mariya Takeuchi ก็บรรเลงขึ้นมา ซาอิกะเริ่มบทสนทนาที่เขาเตรียมมาพูดกับมาชิชายผู้เป็นสามีของเขา

 

 

“มาชิคุง นายยังจำวันแรกที่เราเจอกันที่นี้ได้มั้ย? ”

 

“ได้สิไซกะจัง เธอยังเหมือนเดิมตลอดเลยนะ”

 

"มาชิคุง ฉันขอบคุณทุกอย่างที่ผ่านมา2ปีนะ"

 

"ฉันรักไซกะจัง เธอเป็นคนเดียวที่ฉันยอมทุกอย่าง"

 

"งั้นฉันขออะไรบางอย่างได้มั้ยมาชิคุง"

 

"ถ้าฉันทำได้ ฉันจะทำให้ไซกะจัง"

 

"ฉันขอเลิกกับนาย แล้วแยกกันอยู่กับมาชิคุงทันทีตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป"

 

 

           สิ้นเสียงของซาอิกะ ตัวของมาชิหยุดนิ่งและมองใบหน้าที่แสดงเพียงสีหน้าเรียบเฉย ร่างสูงจับมืออีกคนแน่น ตอนนี้ใจของมาชิพังทลายลงมา ทั้งๆ วันนี้เป็นวันครบรอบแต่งงานทั้งคู่ มันเป็นวันที่ดีวันหนึ่งของทั้งคู่ น้ำตาของชายหนุ่มไหลรินลงมาอย่างรวดเร็ว เพลง Plastic Love ความหมายที่พูดถึงความรักที่เหมือนพลาสติก มันคือรักที่จอมปลอมมอบให้คนที่เข้ามาในชีวิต ตอนนี้ซาอิกะยอมรับความจริงกับใจของเธอแล้วว่ารักครั้งนี้จะเป็นความรักจอมปลอมที่เธอมอบให้กับมาชิ

 

 

"ฉะ———ฉันทำให้เธอไม่ได้! ไซกะจังได้โปรด…."

 

"ฉันเก็บของมาชิคุงออกไปไว้ที่บ้านใหญ่หมดแล้ว"

 

"ซะ———ไซกะจัง เธอห้ามไปไหนทั้งนั้น เธอต้องอยู่กับฉัน! "

 

"มาชิคุง เราสองคนต้องเลิกกันเท่านั้น!! "

 

"ทำไม ทำไม!?! "

 

"ฉันไม่ได้รักนายแล้ว ฉัน———"

 

"เหอะๆ ไม่ได้รักกันแล้ว หรือมีคนใหม่ เธอนอกใจฉันไปหาอีคนใหม่งั้นหรอ แล้วมันเป็นใคร คงรักกันมากสินะ!! "

 

          'เพี๊ยะ' เสียงมือซาอิกะตบลงไปที่หน้าของมาชิอย่างแรง จากนั้นชายหนุ่มร่างบางสะบัดมือให้หลุดจากร่างสูง แล้วรีบไถโรลเลอร์เบลดไปยันเคาน์เตอร์โรลเลอร์เบลดเพื่อขอรองเท้าตัวเองคืน จากนั้นซาอิกะก็รีบแกะเชือกรองเท้าโรลเลอร์เบลดออกและใส่รองเท้าอย่างเร่งรีบ โดยไม่ทันรู้ตัวมาชิก็รีบไถโรลเลอร์เบลดมาอยู่ข้างหลังแล้วคว้าแขนร่างเล็กเอาไว้

 

 

"เราต้องมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน! "

 

"ถ้ามาพูดว่าไม่ออกจากบ้าน ก็ไม่ต้องมาพูดกับฉันแล้ว"

 

"ทำไมถึงไม่รักฉันแล้ว ไหนคำสัญญาที่เคยพูดไว้!! "

 

"ฉันเบื่อ...ฉันหมดรักนายแล้ว...แล้วฉันไม่เคยพูดสัญญาเพ้อฝันนั่น มีแต่นายที่พูดมันเองทั้งหมด "

 

"....โอเค....ฉันจะย้ายกลับไปให้เธอเองซาอิกะ"

 

 

             ซาอิกะมองหน้าอีกคนครั้งสุดท้าย ก่อนจะสะบัดแขนอีกครั้งให้หลุดออกจากมือ แล้วทิ้งมาชิให้ยืนร้องไห้คนเดียว แล้วรีบเดินออกจากซิมโพเซียมดิสโก้ ไปขึ้นรถไฟฟ้ากลับไปบ้านที่อยู่กับมาชิ

 

 

 

sds

 

ณ นิปปงโกกุ,เมืองไท่โฮ

1986年3月1日(水)午前0時

              เสียงเพลง Mayonaka no Door (Stay with Me) - Miki Matsubara จากเครื่องเล่นแผ่นเสียงในห้องรับแขกดังแข่งกลับเสียงฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ซาอิกะที่นั่งเหม่อฟังเพลงและมองหน้าต่างที่มีเพียงน้ำฝนที่สาดใส่เรื่อยๆ โดยไม่รู้ว่ามาชิกำลังยืนเคาะประตูหน้าบ้านอยู่ ในหัวของซาอิกะนั่งคิดถึงเรื่องราวชีวิตคู่ที่ผ่านมาอีกครั้ง พร้อมน้ำตาที่ไหลรินลงมาอย่างไม่รู้ตัว ชายหนุ่มรีบปาดเช็ดน้ำตา ก่อนจะมองเหม่ออีกครั้งไปยังเข็มหมุดที่กำลังเล่นเพลง Mayonaka no Door (Stay with Me) ความหมายเพลงนี้พูดคงไม่พ้นการที่คู่รักจากลากัน แต่ในใจทั้งคู่ยังไม่ได้หมดรักกัน เลยมาเคาะประตูเรียกเพื่อขอร้องให้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง เหมือนกับซาอิกะและมาชิที่ทั้งคู่ไม่ได้หมดรัก แต่ซาอิกะเป็นคนเลือกที่จะเลิกราไปเพราะเหตุผลบางอย่าง

 

 

                เมื่อเวลาผ่านไปแล้ว1ชั่วโมงครึ่งกว่า ไม่เห็นวี่แววของซาอิกะเปิดประตูให้ มาชิเริ่มรู้สึกง่วงนอนเขาคิดว่าถ้าเขากลับไปที่บ้านพ่อแม่ของเขาใช้เวลาถึงครึ่งชั่วโมง ชายหนุ่มจึงตัดสินใจย้ายตัวเองไปนั่งบนรถBMW e28 สีขาว เพื่องีบหลับก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้น เมื่อมาชิผล็อยหลับไปได้ครึ่งชั่วโมง ซาอิกะเปิดประตูรั้วออกมาทิ้งขยะหน้าบ้าน จากนั้นเธอก็มองมาชินั่งหลับบนรถ ซาอิกะเปิดประตูรถ ดับเครื่องยนต์ และอุ้มมาชิออกมา ใช้ขาดันประตูรถให้ปิดลงพร้อมกดล็อกรถ แล้วรีบเดินไปที่โซฟาเพื่อวางอีกคนลง จึงเดินไปหยิบกระเป๋าเดินทางที่จัดไว้ เมื่อซาอิกะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ตัวของเธอขึ้นรถมินิคูเปอร์สีแดงแล้วขับออกจากบ้านหลังนี้ไป มุ่งหน้าสู่เมืองโยโระทันที

 

 

 

sds

ณ นิปปงโกกุ,เมืองโยโระ

1986年3月1日(水)午前05時

           ซาอิกะใช้เวลาขับรถประมาณ2ชั่วโมงก็ถึงเมืองโยโระ เมืองที่มีชื่อเสียงในด้านความสงบและดอกยะบุซึบะกิ ตอนนี้ซาอะกิขับรถมาถึงหน้าบ้านหลังหนึ่ง ซาอิกะจอดรถเสร็จก็ลงมากดกริ่งรอเจ้าของบ้านออกมา หญิงสาวผิวขาวหน้าตาน่ารักเดินมาเปิดประตูรั้ว พร้อมส่งยิ้มให้กับชายหนุ่ม

 

 

“อ้าว ทำไมไซกะจังมาเช้ามากเลย ตอนแรกเห็นบอกว่าจะมาสายๆ ไซกะจังเข้าบ้านมาก่อนมา”

 

“พอดีแผนเปลี่ยนนิดหน่อยน่ะ แล้วมาชิโร่โอนี่จังกับซายุริตื่นรึยัง”

 

“อาทิตย์นี้มาชิโร่ลาพักร้อนทั้งอาทิตย์ พวกเราวางแผนจะไปเที่ยวกันอยู่”

 

“แล้วไปกันวันไหนเหรอ”

 

“ไปวันนี้เลย เพราะต้อนรับไซกะจังมาอยู่ด้วย”

 

“นึกว่าจะไปกันแค่นี้ เกรงใจซายาโกะแล้ว”

 

“ไม่ต้องเกรงใจหรอก หายากจะตาย วันที่มาชิโร่ว่างให้ครอบครัว ทำงานตัวเป็นเกลียวกว่าจะลาหยุดมาพักผ่อนได้”

 

“งั้นเดี๋ยวไซกะขับให้แล้วกันนะ”

 

“ไม่ต้องเลย ไซกะจังพักดีกว่า ตอนมาก็ขับมากลางดึก งีบหลับดีกว่า เอ่อ——ไซกะจังโอเคมั้ยถ้าต้องอยู่ห้องเก่ามาชิที่เคยอยู่….”

 

“ไม่เป็นไรซายาโกะ เราโอเคน่ะ”

 

“อ้าว ไซกะจังมาถึงแล้วหรอ”

 

“มาชิโร่โอนี่จัง ไม่เจอกันตั้งนาน ผอมลงไปมากนะเนี่ย”

 

“ตั้งแต่ที่ทะเลาะกับมาชิครั้งนั้นก็ไม่เคยเจอกันเลย ดีใจที่ได้เจอกันอีกนะ”

 

“ไซกะโอจิ!!! ”

 

“ซาจังตื่นแล้วหรอคะ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า———กอดแน่นเลยนะคะ คิดถึงโอจิมากมั้ยคะคนสวน”

 

“คิดถึงมากๆ ค่ะ โอจิมาอยู่กับหนูเหรอคะ”

 

“ใช่ค่ะคนสวย ซาจังเพิ่งตื่นไปแปรงฟันและล้างหน้ากับโอจิกันนะคะ”

 

“ไปค่ะะ โอจิอุ้มหนูหน่อยค่ะ”

 

                  ซาอิกะก้มลงอุ้มซายุริหลานสาวคนสวยไปเข้าห้องน้ำเพื่อแปรงฟันล้างหน้า เมื่อทั้งคู่จัดการทุกอย่างเรียบร้อย ก็ลงไปอยู่ที่ห้องนั่งเล่น โดยซายุริและซาอิกะเล่นตุ๊กตาด้วยกัน ชายหนุ่มมองหลานสาวที่นั่งเล่นอย่างมีความสุข อดเสียดายที่ตัวเองคงจะไม่มีลูกเป็นของตัวเอง แต่ซาอิกะคิดว่ามีเพียงหลานคนนี้ก็พอแล้ว ซายาโกะเดินเข้ามาพร้อมชาเขียวร้อน3แก้วและขนมคุกกี้ที่เจ้าตัวเพิ่งทำเสร็จมาวางเสิรฟ์ที่โต๊ะไม้เตี้ยกลางห้อง เมื่อซาอิกะยกแก้วน้ำชาขึ้นมาดม ใบหน้าของเธอเบี่ยงหนีแล้วรีบวางแก้วชา วิ่งไปเข้าห้องน้ำเพื่ออาเจียน ซายาโกะรีบวิ่งมาดูอีกคน เมื่อซาอิกะเงยหน้าจากโถชักโครก ซายาโกะรีบป้อนน้ำเปล่าให้อีกคนดื่มจนหมดแก้ว แล้วพยุงอีกคนขึ้นมาจากพื้นห้องน้ำไปห้องนั่งเล่น ซายาโกะรีบเดินไปหยิบโถน้ำเปล่าและอาหารเช้าที่ตัวเองทำเตรียมไว้ให้ซาอิกะทานก่อน

 

 

“ไซกะจังมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดเมื่อไหร่หรอ? ”

 

“3อาทิตย์ก่อนที่จะเลิกกัน ทำไมหนอซายาโกะ”

 

“รู้สึกปวดหัวมั้ย”

 

“ปวดหัวตลอดนะ สงสัยเครียดเรื่องงาน”

 

“ลองตรวจครรภ์ดูมั้ยไซกะจัง”

 

“ว่าไงนะ? ”

 

“เราคิดว่าไซกะจังลองตรวจดูนะ อาการเป็นเหมือนตอนที่ซายาโกะมีซาจัง”

 

“มันต้องทำไงหรอ”

 

“ทำตามคู่มือในกล่องเลย ถ้าสองขีดแปลว่าตั้งครรภ์”

 

“มะ———มันจะเป็นไปได้หรอ”

 

“ต้องเป็นไปได้ เชื่อใจตัวเองนะไซกะจัง”

 

 

             เมื่อซาอิกะรับประทานอาหารเช้าเสร็จ ก็เดินขึ้นไปเข้าห้องน้ำทันที ส่วนทางด้านครอบครัวของมาชิโร่ก็นั่งรับประทานอาหารเช้าในห้องครัวใหญ่ ซาอิกะมองตัวเองในกระจกพร้อมถอนใจแรง เธอไม่เคยรู้สึกกังวลหนักขนาดนี้มาก่อนในชีวิต เป็นครั้งแรกที่ได้ใช้ที่ตรวจครรภ์ เมื่อซาอิกะทำใจได้แล้ว เธอก็ทำการตรวจครรภ์ทันที เครื่องตรวจประมวลผลเสร็จ ซาอิกะถึงกับร้องออกมาเสียงดังลั่น จนมาชิโร่วิ่งขึ้นมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ตามมาด้วยซายาโกะที่อุ้มลูกสาวตัวเล็กตามมา ทุกคนที่ยืนอยู่ตกใจและตะลึงในคำพูดที่ซาอิกะพูดขึ้นว่า

 

 

 

 

 

 

“ทะ———ทุกคน ฉะ———ฉันท้อง”