5 ตอน CHAPTER 4 ภารกิจเร่งด่วน
โดย Minol.ta
"มึงแน่ใจเหรอว่าจะไปคนเดียว" ไอ้กระถินถามผมเป็นรอบที่สาม ขณะกำลังเดินลงจากอาคารหลังจากเสียงออดชั่วโมงสุดท้ายในการเรียนของวันนี้ดังขึ้น
"แน่ใจ" ผมตอบมันด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
"แต่พี่เขาอยู่กับเพื่อนหลายคนเลยน้า มึงไปคนเดียวเหงาแย่เลย"
"มึงต้องการอะไรจากกู พูดมาเลยดีกว่า" ผมหยุดเดินแล้วหันไปถามมันอย่างตรงไปตรงมา ไอ้กระถินส่งยิ้มแห้งพลางเกาหัวแกรกๆ พูดตอบผมด้วยน้ำเสียงขัดเขิน
"กูแค่อยากเสือกอะ" กูว่าแล้วเชียว
ออร่าความอยากรู้อยากเห็นโผล่ออกมาจากแววตาอย่างเก็บไม่มิด!
"เดี๋ยวพรุ่งนี้กูมารายงาน" ผมเร่งฝีเท้าเดินหนี แต่มันยังไม่ละความพยายาม รีบเดินตามแล้วพูดเซ้าซี้ต่อเพื่อหวังให้ผมใจอ่อน
"แต่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยมันก็ตื่นเต้นกว่าเปล่าวะ"
"กูมีช้อยส์ให้มึงเลือกสองข้อ"
"ว่ามา"
"มึงไม่ต้องไปกับกู แต่พรุ่งนี้กูจะมาเล่าให้มึงฟัง"
"ข้อสองอะ"
"ถ้ามึงยังเซ้าซี้กูไม่เลิก นอกจากกูจะไม่ให้มึงไปด้วยแล้ว พรุ่งนี้กูจะไม่เล่าอะไรให้มึงฟังด้วย"
"สัด"
"เลือกข้อไหนดีเพื่อน"
"เออ ไม่ไปก็ไม่ไป" มันเบะปากใส่ผมพลางพูดด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอด ขนลุกไปหมด!
ถ้าพี่ฌิมทำท่าทางแบบนี้ใส่คงน่ารักอยู่หรอก แต่นี่เป็นไอ้กระถินเพื่อนซี้ปึกที่ตีลังกามองก็เห็นแต่ความกวนบาทา ถ้าไม่ติดว่ามันเป็นผู้หญิง คงโดนผมตบกะโหลกสักทีสองที
เร้าหรือกูเก่งฉิบหายเลยเพื่อน!
ณ บริเวณสนามบาสเกตบอลในโรงเรียน
สถานที่ที่ไอ้กระถินมันขอมาด้วยแต่ผมกลับปฏิเสธมันเสียงแข็ง ไม่ได้รำคาญเพื่อนหรือต้องการความเป็นส่วนตัวแต่อย่างใด ผมแค่กลัวเวลาพูดอะไรออกไปแล้วเพื่อนตัวดีมันจะโพล่งแซวขึ้นมาจนทำให้ผมเขินอาย ไอ้กระถินมันยิ่งกล้าบ้าบิ่นผิดวิสัยความเป็นกุลสตรีไทย หากพี่ฌิมจับโป๊ะได้ว่าผมแอบชอบจบเห่แน่
การเผชิญหน้าแบบลุยเดี่ยว คงทำให้ผมมีสมาธิในการเจรจามากกว่า
ตั้งแต่รู้ความจริงจากไอ้ขุนเรื่องพี่น้ำตาลตั้งใจไปดักรอพี่ฌิม ทำให้ผมคิดระแวงไปต่างๆ นานา จนแทบไม่มีสมาธิเรียนหนังสือ ปกติความรู้ก็ไม่ค่อยไหลเข้าสู่ซีรีบรัมอยู่แล้ว
ผมต้องรีบตัดไฟตั้งแต่ต้นลม!
"พี่ฌิมมมม หนูซื้อน้ำแร่มาให้ค่าาาาา"
"กรี๊ดดดดดด พี่ฌิมส่งยิ้มให้กูด้วย"
ไม่ใช่แค่ผมที่พร้อมเผชิญหน้ากับพี่ฌิม กวาดสายตามองไปรอบสนามบาสเกตบอล พบรุ่นพี่รุ่นน้องนั่งล้อมรอบอยู่เต็มบริเวณ มิหนำซ้ำยังส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดให้นักบาสที่กำลังซ้อมอยู่ในสนามอย่างเอาเป็นเอาตาย
แฟนคลับพี่ฌิมเยอะเหมือนที่เพื่อนผมเคยบอกไว้ไม่มีผิด เลิกเรียนแล้วทำไมไม่กลับบ้านวะ ผมไม่ได้ถามคนอื่นนะครับ กำลังถามตัวเองว่ามึงมาทำอะไรที่นี่ไอ้กุมภ์!
ฮืออออ ถอยทัพตอนนี้ทันมั้ยพ่อแม่พี่น้อง
"อ้าว น้องกุมภ์!" เหมือนจะไม่ทัน..
ผมที่นึกใจเสาะเตรียมเดินออกจากสนามบาส ต้องหยุดชะงักฝีเท้าเมื่อได้ยินเสียงคุ้นเคยตะโกนเรียกดังกังวานไปทั่วบริเวณ วินาทีนี้หัวใจผมเต้นแรงเหมือนกลองที่กำลังถูกตีให้ดังขึ้นเรื่อยๆ ไม่กล้าแม้แต่จะหันซ้ายหันขวาไปมองคนอื่น ตอนนี้ทุกคนเกิดอาการเดดแอร์อย่างอัตโนมัติ
รุ่นพี่รุ่นน้องหลายคนกำลังเพ่งสายตามองมาที่ผมอย่างพร้อมเพรียง
"ใครวะมึง"
"กูไม่รู้จักเหมือนกัน ดูจากปกเสื้อน่าจะอยู่ ม.5"
"หน้าหวานเหมือนผู้หญิงเลย รุ่นน้องพี่ฌิมเหรอ"
เสียงซุบซิบจากบุคคลรอบตัวดังแทรกเข้ามาในโสตประสาท อยากเดินออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด ทว่าทำได้แค่คิดเท่านั้น เพราะความจริงผมกำลังหันหน้ากลับไปมองเจ้าของเสียงที่ตะโกนเรียกชื่อผมดังลั่นสนามบาส
"ว่าไงครับพี่ฌิม" ผมส่งยิ้มแห้งพลางพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ฮึบไว้ไอ้กุมภ์ มึงอย่าเลิ่กลั่ก อย่ากระโตกกระตากให้พี่ฌิมรู้เด็ดขาดว่ามึงกำลังใจสั่นระดับ 9.5 ริกเตอร์
"น้องกุมภ์มาหาใครเหรอครับ ปกติพี่ไม่เคยเห็นน้องกุมภ์ที่สนามบาส" พี่ฌิมเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า น้ำเสียงนุ่มนวลเอ่ยถามจนทำให้คนฟังอย่างผมใจสั่นยิ่งกว่าเดิม
ร่างสูงโปร่งใส่ชุดบาสเกตบอลเสื้อแขนกุด สกรีนตัวอักษรคำว่า CHIM เบอร์ 27 ใบหน้าหล่อเหลาประปรายไปด้วยเม็ดเหงื่อจากการซ้อมกีฬา พี่ฌิมเคยรู้ตัวบ้างไหมว่าเขาโคตรมีเสน่ห์ ไม่แปลกใจที่มีคนชื่นชอบเยอะขนาดนี้ เพราะผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น
"น้องกุมภ์ครับ"
"คะ ครับ" อยากตบกบาลเรียกสติตัวเองสักที เห็นผู้ชายหล่อยืนอยู่ตรงหน้าถึงกับเหม่อเลยนะมึง!
"มาหาใครครับ"
"คือ..คือกุมภ์"
กล้ามาเหยียบถึงถิ่นพี่ฌิมยังใจกากใจปลาซิว ถ้าเพื่อนรู้พวกมันล้อตายห่า
เอาก็เอาวะ สู้!
"กุมภ์มาหาพี่ฌิมครับ มีเรื่องอยากคุยด้วย!" ผมพูดรัวเร็วพลางก้มหน้ามองพื้นเพราะไม่กล้าสบตารุ่นพี่ หัวใจเจ้ากรรมก็เต้นแรงฉิบหาย เขินอายประหนึ่งกำลังสารภาพรักก็ไม่เชิง
"น้องกุมภ์รอพี่อยู่ตรงนี้แป๊บนึงนะครับ" ผมพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนพี่ฌิมจะเดินไปหากลุ่มเพื่อนที่ซ้อมบาสเกตบอลอยู่กลางสนาม เพียงไม่นานรุ่นพี่คนโปรดก็เดินกลับมาหาผมพร้อมกระเป๋าเป้นักเรียนที่สะพายอยู่บนบ่า
"พี่ฌิมไม่ซ้อมบาสแล้วเหรอครับ"
"ใช่ครับ ก็น้องกุมภ์มีเรื่องจะคุยกับพี่ เมื่อกี้พี่เลยเดินไปบอกเพื่อนว่าขอกลับก่อน" หล่อแล้วยังใจดี รู้สึกตกหลุมรักพี่ฌิมวันละหลายๆ ครั้ง ทั้งที่ความจริงผมควรตัดใจ
"พี่ฌิมซ้อมบาสต่อก็ได้นะครับ กุมภ์รอได้"
"พี่บอกเพื่อนแล้วว่าจะกลับ อีกอย่างยังไม่ใกล้ถึงวันแข่ง สบายๆ ครับ"
"แต่กุมภ์เกรงใจ" ไหนจะสายตาจากสาวๆ หลายคนที่มองมาทางผมอย่างคาดโทษ ราวกับว่าผมเข้ามาแย่งของรักของหวงจากพวกเขาอย่างไรอย่างนั้น
"ไม่ต้องเกรงใจครับ เดินไปคุยไปมั้ย พี่ว่าตรงนี้เสียงดัง" รีบพยักหน้าตอบตกลงอย่างรวดเร็ว ไม่อยากยืนเป็นเป้าสายตาให้คนอื่นมองอยู่แบบนี้เหมือนกัน บอกตามตรงว่าโคตรเกร็ง!
"เอ่อ..พี่ฌิมครับ"
"ครับ"
"ไม่รับน้ำจากรุ่นน้องก่อนเหรอครับ กุมภ์ได้ยินว่าเขาซื้อน้ำมาให้พี่ฌิม" รุ่นพี่หัวเราะ ก่อนจะตอบผมเสียงนุ่ม
"เดี๋ยวพอพี่กลับ พวกรุ่นน้องก็เอาน้ำไปให้เพื่อนพี่แทนครับ เป็นแบบนี้กันประจำ" ที่หนึ่งไม่รับให้ที่สองแทนอย่างนั้นเหรอ
"แล้วพี่ฌิมจะกลับบ้านเลยมั้ยครับ" ผมถามขึ้นขณะเราสองคนกำลังเดินออกจากบริเวณสนามบาส
"ใช่ครับ น้องกุมภ์กลับพร้อมพี่มั้ย ปกติกลับบ้านยังไง" แค่พี่ฌิมชวนหัวใจก็เต้นระริกระรี้ด้วยความดีใจ แต่พอนึกถึงธุระที่ต้องคุยกับรุ่นพี่ก็รีบปฏิเสธทันควัน
"ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวกุมภ์นั่งรถเมล์กลับเองดีกว่า"
"เสียดายเงิน ยังไงบ้านน้องกุมภ์ก็เป็นทางผ่าน"
"ไม่เป็นไรจริงๆ ครับ กุมภ์เกรงใจ แล้วที่กุมภ์มาหาพี่ฌิม.."
"เดี๋ยวนะครับ" คำพูดผมกลืนหายเข้าไปในลำคอ เมื่อพี่ฌิมพูดแทรกขึ้นมาพร้อมกับหยุดเดิน หันมองรุ่นพี่ก็พบว่านัยน์ตาคมกำลังมองหนังสือสามเล่มที่ผมถืออยู่ในมือด้วยสีหน้าสงสัย
"น้องกุมภ์อ่านนิยายด้วยเหรอครับ"
ฉิบหายแล้วไอ้กุมภ์ มึงลืมเอานิยายเก็บใส่กระเป๋า!
ผมจะไม่เครียดเลยสักนิดถ้าหนังสือนิยายที่พกมาโรงเรียนไม่ได้มีภาพวาดพระเอกนายเอกเด่นหราอยู่บนปกอย่างสวยงาม
ใช่แล้วครับ นิยายที่พี่ฌิมเห็นคือนิยายชายรักชาย ความฉิบหายมาเยือนมึงแล้วไอ้กุมภ์ พี่ฌิมต้องรู้แน่ๆ ว่าผมชอบผู้ชาย
แถ วินาทีนี้ต้องแถเพื่อความอยู่รอด!
"มะ ไม่ใช่ของกุมภ์หรอกครับ ไอ้กระถินเพื่อนกุมภ์มันลืมไว้" กูขอพาดพิงมึงก่อนนะเพื่อน รับบทเป็นสาววายให้กูสักครั้งคงไม่เป็นไร
"อ๋อครับ พี่นึกว่าน้องกุมภ์ชอบอ่านนิยาย"
"มะ ไม่ชอบเลยครับ นิยงนิยายไร้สาระมาก ฮ่าๆ" หนังสือนิยายที่วางกองพะเนินเป็นภูเขาอยู่ในห้องนอนคงส่งสายตามองค้อนใส่ผมแล้วตอนนี้ เดี๋ยวจะรีบกลับไปง้อด้วยการนำหนังสือนิยายสุดโปรดไปวางบนชั้นให้เป็นระเบียบเรียบร้อยนะลูกรัก
"แล้วน้องกุมภ์มีเรื่องอะไรจะคุยกับพี่ครับ" ในที่สุดพี่ฌิมก็เปิดประเด็น
ภารกิจตั้งใจตีตัวออกห่างจากพี่ฌิมคงต้องเริ่มต้นขึ้น
"คือ..คือกุมภ์จะมาบอกพี่ฌิมว่าตั้งแต่วันพรุ่งนี้ พี่ฌิมไม่ต้องแวะรับกุมภ์แล้วนะครับ กุมภ์ขอนั่งรถเมล์มาโรงเรียนเองดีกว่า"
ผมร่ายความต้องการของตัวเองอย่างไม่หยุดหายใจ คนฟังหยุดเดินพร้อมเงียบไปอึดใจหนึ่ง สีหน้าราบเรียบของพี่ฌิมทำให้ผมเดาไม่ได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
"ทำไมล่ะครับ น้องกุมภ์โกรธพี่เรื่องเมื่อเช้าหรือเปล่า" เรื่องที่พี่ฌิมให้ผมนั่งรถเมล์มาเอง ส่วนเขามาโรงเรียนพร้อมพี่น้ำตาล
เรื่องนี้ผมไม่โกรธเลยสักนิด มันเป็นสิทธิ์ที่พี่ฌิมจะให้ใครนั่งรถเขาก็ได้ ผมแค่แอบน้อยใจคนเดียวเท่านั้น
"เปล่าครับ กุมภ์ไม่ได้โกรธ แต่เตี่ยไม่อยากให้กุมภ์รบกวนพี่ฌิมแล้ว อีกอย่างกุมภ์นั่งรถเมล์มาเองก็ไม่ได้ลำบากอะไรครับ" อ้างผู้ปกครองดีที่สุด โคตรน่าเชื่อถือ
"ให้พี่คุยกับพ่อน้องกุมภ์ให้มั้ย" ฉิบหายแล้ว!
"มะ ไม่เป็นไรครับ ถ้าพี่ฌิมไปคุย เตี่ยต้องดุกุมภ์แน่เลย" ตอนเตี่ยรู้ว่ารุ่นพี่อาสาแวะรับผมมาโรงเรียนพร้อมเขา เตี่ยเห็นดีเห็นงามด้วยจะตาย ขืนปล่อยให้พี่ฌิมไปเจรจากับเตี่ยผมโป๊ะแตกแน่นอน
"แล้วเตี่ยจะดุน้องกุมภ์เรื่องอะไรครับ"
"อะ เอ่อ.." สมองประมวลคำตอบไม่ทัน เกิดอาการตะกุกตะกักขึ้นมาทันที
"บอกความจริงพี่มาเถอะครับ ทำไมน้องกุมภ์ถึงไม่อยากมาโรงเรียนพร้อมพี่"
พะ พี่ฌิมกำลังสงสัยเหรอ..!!
ผมรีบกลืนก้อนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่ ก่อนจะพูดปดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
"เหตุผลที่กุมภ์บอกก็เป็นความจริงนะครับ กุมภ์ไม่กล้าโกหกพี่ฌิมหรอก"
"เหรอครับ..พี่นึกว่าน้องกุมภ์ชอบพี่ เลยไม่อยากอยู่ใกล้พี่เพราะกลัวว่าพี่จะรู้ซะอีก" สตันไปเลยหัวใจ..
พี่ฌิมไม่ใช่ประธานนักเรียน ไม่ใช่นักบาส แต่พี่ฌิมเป็นหมอดู กุมภ์ฟันธง!
"ฮ่าๆๆ พี่ฌิมพูดเรื่องอะไรครับเนี่ย" หัวเราะแก้เก้อได้ปลอมที่สุดในชีวิต เตี่ยจ๋าม้าจ๋าช่วยลูกด้วย ไม่เคยหัวใจเต้นแรงขนาดนี้มาก่อน
"หูน้องกุมภ์แดงมากเลยนะครับ"
"ระ เหรอครับ ฮ่าๆ สงสัยอากาศร้อน"
"ทำไมเวลาพูดไม่มองหน้าพี่" ขืนมองหน้า พี่ฌิมรู้แน่นอนว่าผมชอบ
เอ๊ะ หรือรู้แล้ว !?
"คือ คือกุมภ์เป็นคนขี้อายครับ ฮ่ะๆ ขี้อายมากเลย เวลาคุยกับใครไม่ชอบมองหน้าเขาหรอกครับ" แถจนสีข้างถลอกหมดแล้วไอ้กุมภ์
"น้องกุมภ์หยุดเดินก่อนครับ!"
"คะ ครับ" ผมชะงักฝีเท้าทันที เมื่อพี่ฌิมพูดสั่งเสียงเข้มพร้อมเอื้อมมือมาแตะบ่าผมเป็นเชิงให้หยุดเดิน
เพียงชั่ววินาทีเสมือนโลกหยุดหมุน หัวใจเต้นแรงจนแทบกระเด็นหลุดออกมา พี่ฌิมกำลังก้มตัวลงไปผูกเชือกรองเท้าให้ผม ไม่รู้ว่ามันหลุดตั้งแต่ตอนไหน..
ราวกับฉากโรแมนติกในนิยายที่เคยอ่าน มโนว่าตัวเองกำลังเป็นนายเอกได้หรือเปล่า
"เรียบร้อยครับ"
"....." นายเอกซุ่มซ่ามทำเชือกรองเท้าหลุด
"น้องกุมภ์"
"....." พระเอกเลยก้มผูกให้ด้วยความรัก
"พี่เชื่อก็ได้ว่าน้องกุมภ์ไม่ได้ชอบพี่ แต่ตอนนี้หัวใจน้องกุมภ์เต้นแรงมากเลยนะครับ พี่ได้ยิน”
เรียกรถฉุกเฉินมาเก็บศพไอ้กุมภ์ทีครับ วิญญาณได้หลุดออกจากร่างเหลือเพียงกายหยาบเท่านั้น เมื่อพี่ฌิมโน้มริมฝีปากเข้ามากระซิบเสียงนุ่มนวลข้างหูผม ใบหน้าเราสองคนห่างกันเพียงไม่กี่เซ็นต์
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก... หัวใจจะหลุดออกมาแล้ว
"มาโรงเรียนพร้อมพี่นะครับ เพราะถ้าน้องกุมภ์ปฏิเสธ แสดงว่าน้องกุมภ์ชอบพี่"
"คะ ครับ กุมภ์จะมาโรงเรียนพร้อมพี่ฌิมทุกวันเลยครับ"
ภารกิจที่ตั้งใจตีตัวออกห่างจากรุ่นพี่ จบแล้ว..
Minol.ta
ไม่รักไม่ต้องมาแคร์ ไม่ต้องมาดีกับฉัน~
พี่ฌิมเคยฟังเพลงนี้มั้ย อ๋อ..ไม่เคยฟัง เพราะปีนั้นเพลงยังไม่ปล่อย ?
Comments (0)