4 ตอน CHAPTER 3 ความจริง
โดย Minol.ta
"ฌิมต้องไปรับน้องกุมภ์แบบนี้ทุกวันเลยเหรอ" หญิงสาวหน้าตาสะสวยเอ่ยถามเพื่อนผู้ชายต่างห้องด้วยน้ำเสียงขึงขัง ขณะทั้งสองคนกำลังเดินไปยังโรงอาหารของโรงเรียน
"ฌิมแค่แวะรับ ปกติน้องกุมภ์ออกมารอหน้าปากซอย"
"ฌิมก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าน้องกุมภ์ชอบ ทำไมยังไปยุ่งกับน้อง" สองเท้าที่กำลังเดินของคนถูกถามหยุดชะงักลงทันที ใบหน้าหล่อคมคายหันมองหญิงสาวอย่างนึกสงสัย
"ตาลไม่พอใจเหรอ"
"อืม ฌิมบอกว่าจีบตาล แต่ก็ยังไปยุ่งกับคนที่ชอบฌิม"
ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่ารุ่นน้องแอบชอบฌิม เพราะเจ้าตัวยังไม่เคยปริปากบอกสักครั้ง แต่น้ำตาลสันนิษฐานว่าคนที่ให้เพื่อนมาขอเมลฌิมในโรงอาหารเมื่อวันก่อนคือกุมภ์ เธอสังเกตจากอาการเขินอายและท่าทางลุกลี้ลุกลนของรุ่นน้อง
แม้กระทั่งสายตาเวลาที่กุมภ์มองฌิม ทำให้น้ำตาลค่อนข้างมั่นใจว่ารุ่นน้องต้องแอบชอบฌิมแน่นอน
"ฌิมไม่ได้ชอบน้องกุมภ์ เห็นว่าเป็นรุ่นน้องเท่านั้น"
"แต่น้องกุมภ์ชอบฌิมไง เดี๋ยวน้องก็คิดว่าฌิมให้ความหวัง"
"สิ่งที่ฌิมปฏิบัติกับน้องกุมภ์มันไม่แตกต่างจากรุ่นน้องหรือเพื่อนคนอื่น อีกอย่างน้องกุมภ์ก็เป็นเด็กดี ไม่มีความจำเป็นที่ฌิมต้องเมินน้อง" เขาอธิบายยาวเหยียด ทว่าคนตรงหน้ากลับแสดงอาการไม่พอใจ
"ฌิมแน่ใจเหรอว่าปฏิบัติกับน้องกุมภ์เหมือนคนอื่น ตาลมองว่ามันไม่เหมือนตั้งแต่ฌิมไปรับน้องมาโรงเรียนพร้อมกันทุกวัน"
"บ้านน้องเป็นทางผ่าน ไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงที่จะแวะรับ"
"ตามใจฌิมแล้วกัน ถ้าตาลมีคนอื่นก็อย่ามาโทษตาล" หญิงสาวเดินสะบัดหน้าหนีไปด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด ชายหนุ่มทำได้เพียงมองตามหลังพร้อมส่ายศีรษะเบาๆ
ผมไม่เคยชอบบรรยากาศในโรงอาหาร เพราะมันแน่นขนัดและเบียดเสียดไปด้วยผู้คน ไหนจะเสียงพูดคุยจ้อกแจ้กจอแจจนรู้สึกรำคาญ ทว่าตั้งแต่รู้จักกับพี่ฌิม เขาทำให้ผมอยากสิงสถิตอยู่ในโรงอาหาร อยากแอบมองรุ่นพี่นั่งกินข้าวทั้งตอนเช้าและตอนพักเที่ยง
สอดส่ายสายตาชะเง้อมองหารุ่นพี่ในโรงอาหารแทบทุกวัน พอเห็นโต๊ะพี่ฌิมก็นั่งยิ้มเป็นบ้าเป็นหลังอยู่คนเดียว
"เดินหน้าหงอยมาเลยนะมึง โดนใครเหยียบหางมาอีกอะ"
ยกเว้นเช้าวันนี้ ผมเดินเข้าโรงอาหารด้วยสีหน้าเซื่องซึมอย่างที่ไอ้กระถินมันทัก โดนพี่ฌิมเทกลางทาง ทำเอาหัวใจห่อเหี่ยวหมดเรี่ยวแรงร่าเริง
ผมปล่อยให้พี่ฌิมเข้ามามีอิทธิพลต่อความรู้สึกขนาดนี้แล้วเหรอวะ
"กูเหยียบหางตัวเอง" ผมพูดพลางวางกระเป๋านักเรียนลงบนโต๊ะ ก่อนจะทรุดตัวนั่งเท้าคางมองเพื่อนอย่างคนหมดอาลัยตายอยาก
"เป็นไรวะ" ไอ้เปรมถาม
ผมจึงเล่าเหตุการณ์เมื่อเช้าให้เพื่อนทั้งสามคนฟังอย่างละเอียด ทันทีที่เล่าจบไอ้ขุนพูดโพล่งขึ้นมาทันที
"เมื่อเช้ากูเจอพี่น้ำตาล"
"จริงเหรอ มึงเจอที่ไหน!?" ไอ้กระถินถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ผมก็อยากรู้เหมือนกัน
"ในหมู่บ้าน พี่น้ำตาลอยู่หมู่บ้านเดียวกับกู" ข้อมูลใหม่ แต่เรื่องที่ทำให้ผมแปลกใจคือไอ้ขุนมันเล่าว่าเจอพี่น้ำตาลขับรถยนต์ผ่าน ขณะมันกำลังเดินไปป้ายรถเมล์ ด้วยความที่รถพี่น้ำตาลเป็นกระจกใส ทำให้มันเห็นชัดเจนว่าบนรถมีเพียงแค่คนขับเท่านั้น
ซึ่งคนขับก็คือพี่น้ำตาล..
"มึงแน่ใจเหรอว่าไม่เห็นแม่พี่น้ำตาล" ผมถามย้ำอีกครั้ง
"แน่ใจ พี่น้ำตาลอยู่บนรถคนเดียว" ข้อมูลจากไอ้ขุนช่างย้อนแย้งกับสิ่งที่พี่น้ำตาลบอกผมและพี่ฌิม
ถ้าพี่น้ำตาลไม่ได้ไปตลาดโชคชัยสี่กับแม่ แสดงว่าเหตุการณ์เมื่อเช้าไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หรือว่า..
"พี่น้ำตาลรู้แล้วเปล่าวะ ว่ามึงชอบพี่ฌิม" ไอ้กระถินพูดในสิ่งที่สมองผมกำลังคิด หัวใจเริ่มเต้นแรงอย่างวิตกกังวล
"มึงอย่าพูดให้กูเครียดดิ" หัวคิ้วทั้งสองข้างจะชนกันตายห่าแล้ว!
ถ้าหากพี่น้ำตาลรู้ พี่ฌิมจะรู้หรือเปล่า.. แล้วถ้าพี่ฌิมรู้ว่าผมชอบ เขาจะรังเกียจผมมากน้อยแค่ไหน หลายความคิดประเดประดังเข้ามาในสมองจนอยากทึ้งศีรษะตัวเองแรงๆ สักที
"ไม่เครียดวันนี้ก็ต้องเครียดวันหน้า กูว่าพี่น้ำตาลรู้แล้วชัวร์"
"จริง" ไอ้ขุนตอบรับคำพูดของไอ้เปรมให้มีน้ำหนักขึ้นไปอีก
พวกมึงช่างเป็นเพื่อนที่เก่งกันจริงๆ สามารถทำให้กูเครียดยิ่งกว่าเดิมอีก ไอ้ฉิบหาย!
"รู้ก็รู้ไปดิ พี่น้ำตาลยังไม่ได้เป็นแฟนกับพี่ฌิมสักหน่อย" นารีอุปถัมภ์มาแล้ว หันไปฟังไอ้กระถินพูดอย่างตั้งอกตั้งใจ
"ถ้าพี่น้ำตาลหมั่นไส้มึงมากๆ เดี๋ยวก็ให้คนมาดักกระทืบมึงเองแหละ" นารีนรกส่งมาเกิด!
อาจเป็นไปได้ว่า.. พี่น้ำตาลหวงพี่ฌิมและไม่พอใจที่ผมติดรถมาโรงเรียนด้วยเลยไปดักรอที่ตลาด คิดจนหัวแทบระเบิด นิยายเล่มโปรดยังไม่สามารถดับความฟุ้งซ่านในใจได้
ไม่ได้การแล้ว ผมต้องรีบทำอะไรสักอย่าง!
Minol.ta
นิ่งแตะๆ น้องกุมภ์ อย่าให้ใครรู้ว่าเราเลิ่กลั่ก!
Comments (0)