"อากุมภ์ ลื้อจะเอาโจ๊กไปกินที่โรงเรียนหรือเปล่า"

เสียงเตี่ยตะโกนถามจากหน้าบ้าน ขณะผมกำลังก้มใส่รองเท้านักเรียนตรานันยางที่ซื้อมาในราคาหลายร้อยบาท แต่เอาไปถูกับพื้นถนนขรุขระ บอกให้เพื่อนใช้เท้าเหยียบจนเปื้อน และยังเอาไปแช่น้ำยาไฮเตอร์กัดสีน้ำตาลให้มันซีดลง ทำทุกวิธีเพื่อให้รองเท้าจากใหม่เอี่ยมกลายเป็นรองเท้าสุดเซอร์ที่เตี่ยกับม้าเห็นกี่ทีก็ด่าผมว่าซกมก

มันเป็นเทรนด์ เตี่ยกับม้าไม่เข้าใจวัยรุ่นเอาซะเลย!

"ไม่เอาอะเตี่ย เดี๋ยวกุมภ์ไปกินข้าวเช้าที่โรงอาหาร เบื่อโจ๊กเตี่ย"

"ลื้อจะมาพูดว่าเบื่อมันไม่ถูกต้อง ลื้อรู้หรือเปล่าว่าโจ๊กที่อั๊วทำมันสร้างรายได้ ส่งลื้อเรียนจนโตเพื่อมาเถียงกับอั๊วฉอดๆ.."

พูดแหย่เตี่ยแค่ประโยคเดียวเท่านั้น แต่ผู้บังเกิดเกล้าบ่นยาวไปถึงสุไหงโกลก ผมจึงรีบคว้ากระเป๋านักเรียนจาคอบใบโปรดแล้ววิ่งออกจากบ้านด้วยความรวดเร็ว

"หวัดดีเตี่ยหวัดดีม้า อย่าบ่นมากนะ ตีนกาขึ้นเต็มหน้าแล้ว"

"ไอ้ลูกคนนี้นี่!" ไม่รอให้ทัพพีในมือเตี่ยเขวี้ยงมากระแทกหัว ผมรีบวิ่งไปที่ป้ายรถเมล์ด้วยความเร็วแสง ใช้เวลาเดินทางไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก็มาถึงโรงเรียนโดยสวัสดิภาพ

 

 

07.18 น.

เสียงจอแจจากบรรดานักเรียนที่ยึดครองโต๊ะในโรงอาหารดังเซ็งแซ่ไปทั่วบริเวณ ผมรีบเดินฉับๆ ไปยังโต๊ะประจำที่มีแก๊งเพื่อนสนิทนั่งอยู่ ทุกเช้าก่อนเข้าแถวเคารพธงชาติต้องมานั่งรวมตัวกันที่นี่ กินข้าวก็กินที่นี่ ลอกการบ้านเพื่อนก็ทำที่นี่ ทำทุกอย่างเสมือนเป็นพื้นที่ส่วนตัว

กลุ่มผมมีกันอยู่ 4 คน คบกันตั้งแต่สมัยเรียน ม.1 อีกเหตุผลที่ผมเลือกเรียนต่อสายวิทย์คณิตเพราะแก๊งเพื่อนสนิทด้วย บอกตามตรงว่าไม่อยากหาเพื่อนใหม่ ในเมื่อเพื่อนที่มีมันดีอยู่แล้ว จะหาใหม่ให้เสียเวลาทำไม

เชรด คำพูดโคตรหล่อ!

"มาสายเชียวนะมึง กูนึกว่าโดนหมาวิ่งไล่ฟัดอีก" เอาคำพูดเพื่อนที่มีมันดีอยู่แล้วโยนทิ้งลงแม่น้ำไปเดี๋ยวนี้ แม่งทักซะกูเสียหมาหมด!

เหตุการณ์วิ่งหนีหมาหัวซุกหัวซุนเมื่อสัปดาห์ก่อนยังตามหลอกหลอนผมไม่หยุด วินาทีที่มันแยกเขี้ยวแล้ววิ่งไล่ตาม ผมเหมือนมนุษย์ที่กำลังวิ่งหนีผีซอมบี้ในหนังไม่มีผิด โชคดีที่มีเทพบุตรสุดหล่อมาช่วยไว้ นึกแล้วก็อยากเจอหน้าพี่ฌิมอีกจังเลย

คนดีของน้องกุมภ์

"ฟัดห่าไร นาฬิกาไม่ปลุกกู" ผมตอบ ไอ้เปรม ก่อนจะนั่งลงข้างมัน

"นาฬิกาไม่ปลุกหรือมึงเลื่อนปลุกจนลืมตื่น" เสียงเอ่ยพูดเป็นเชิงหยอกล้อมาจาก ไอ้กระถิน สมาชิกในกลุ่มที่เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะมันอยู่กับเพื่อนผู้ชายอย่างพวกผมมากเกินไปหรือเปล่า ความเป็นกุลสตรีในตัวมันถึงแทบหาไม่เจอ หรือว่ามันไม่มีอยู่แล้ววะ

"แสนรู้"

"เหมือนมึงเลย"

สัด! มันก็หมาด้วยกันทั้งหมดนี่แหละ

"มึงจะลอกเลขเปล่า" เสียงสวรรค์ดังมาจาก ไอ้ขุน เพื่อนผู้ชายในกลุ่มที่หัวสมองฉลาดมากที่สุด โชคดีที่มีมันเป็นกัปตันเรือคอยช่วยเหลือลูกเรือแสนโง่อย่างผมให้รอดพ้นจากการบ้านทั้งหมดทั้งปวงด้วยการให้ลอกอยู่เป็นประจำ

"ลอกสิเพื่อน แต่กูขอไปซื้อข้าวก่อน" ใช้เวลาต่อแถวซื้ออาหารไม่ถึงสิบนาที จานข้าวไข่เจียวพร้อมไส้กรอกอีกสองชิ้นก็ถูกวางลงบนโต๊ะ ก่อนผมจะจัดการเขมือบทุกอย่างลงท้องด้วยความหิวโหย

ไม่รู้ว่าสีหน้าท่าทางตอนกินข้าวอย่างตะกละตะกลามของผมมันน่าเกลียดแค่ไหน รู้ตัวอีกทีช้อนที่กำลังป้อนข้าวใส่ปากก็ชะงักค้างอย่างอัตโนมัติ เมื่อสายตาดันมองเห็นพี่ฌิมและกลุ่มเพื่อนกำลังเดินผ่านโต๊ะผมไปดั่งสายลม

ด้วยความที่ผมนั่งอยู่ริมโต๊ะติดทางเดิน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นจึงเหมือนภาพสโลว์ในความรู้สึก

นึกภาพตามนะครับ ผมนั่งถือช้อนค้างอยู่ในปากขณะที่ทุกคนกำลังเคลื่อนไหว หัวใจผมเต้นโครมครามจนแทบหลุด สัมผัสได้แม้กระทั่งกลิ่นหอมจากร่างกายพี่ฌิมที่เพิ่งเดินผ่านไปในระยะประชิด

พี่ฌิมใช้น้ำหอมยี่ห้อไหน อยากแคะกระปุกออมสินไปซื้อตาม กลิ่นตัวโคตรหอม!

"ไม่แดกแล้วมั้งข้าว แมลงวันจะบินเข้าปากมึงละ" หมดกันอารมณ์รักในห้วงความคิด ผมหันไปตวัดสายตามองค้อนใส่ไอ้กระถิน ก่อนจะยัดข้าวเข้าปากแล้วเคี้ยวแงบๆ อย่างเอร็ดอร่อย

"แก๊งพี่ฌิมกูนึกว่าบอยแบรนด์เกาหลี เคยสัมผัสคำว่าขี้เหร่กันบ้างมั้ยวะ"

"กูว่าไม่ว่ะ" ไอ้ขุนพูดเสริมขึ้นมา หลังจากไอ้เปรมพรรณนาถึงสรรพคุณบนใบหน้าของพี่ฌิมและกลุ่มเพื่อน

"รักใสๆ หัวใจสี่ดวงเว่อร์" น้ำเสียงเพ้อฝันดังมาจากไอ้กระถิน 

"เพ้ออะไรของมึง"

"มึงไม่เคยดู F4 ไต้หวันเหรอ"

"ไม่อะ"

"เชยมาก ซีรีส์โคตรดัง"

ภาษาไทยบางคำกูยังไม่รู้ความหมาย ซีรีส์ไต้หวันอย่าได้หวัง ไม่เคยคิดอยากดูแม้จะมีซับไทยให้อ่านก็ตาม

"พี่ฌิมเป็นใครใน F4" 

นี่มึงดูซีรีส์ด้วยเหรอไอ้เปรม! 

"เต้าหมิงซื่อ" กระถินมันตอบอย่างรวดเร็ว เต้าหมิงซื่อหน้าตายังไงวะ

เต้าหมิงซื่อหล่อกว่าพี่ฌิมหรือเปล่า แต่ที่ผมรู้คือพี่ฌิมหล่อมาก

"แล้วพี่บอมอะ" ไอ้ขุนถามขึ้นด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ พวกมึงเคยดู F4 กันหมดทุกคนเลยเหรอวะ

กูไปมุดหัวอยู่ไหนมา!

"ซีเหมิน"

"พี่ปกป้องอะ" ไอ้เปรมถามต่ออย่างว่องไว

"ฮวาเจ๋อเล่ย" ชื่อเรียกโคตรยาก แต่ไอ้กระถินมันยังจำได้ด้วย

"พี่คิวคือเหม่ยจั้วเหรอ" อะไรจั้วๆ ของมึงไอ้ขุน

"ถูกต้อง"

นอกจากจำชื่อตัวละครในเรื่องรักใสๆ หัวใจสี่ดวงได้แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมอึ้งคือพวกมันรู้จักแก๊งเพื่อนพี่ฌิมครบทุกคน

สุดยอดไปเลยมิตรสหาย!

"พวกมึงรู้จักเพื่อนพี่ฌิมหมดทุกคนเลยเหรอวะ" ผมถามขึ้นด้วยความอยากรู้ พวกมันใส่ใจเรื่องคนอื่นเก่งเกินไปหรือว่าผมไม่สนใจเองวะ

"เขารู้จักกันทั้งโรงเรียน มีแค่มึงนั่นแหละที่ไม่รู้" ชัดเจนมากเพื่อนกระถิน ผิดที่กูเสือกไม่เก่งนี่เอง

"พวกพี่เขาตัวท็อปเลยนะเว้ย กีฬาดนตรีเอาหมด" สุดยอดไปเลยเพื่อนเปรม ข้อมูลมึงแน่นจริงๆ

กูดูโง่ไปเลย..

"กุมภ์อยากได้เมลพี่คนนั้น"

"อะไรนะ!?" ไอ้กระถินทำหน้าตกใจ กูลืมไปว่าใช้โหมดอ่อนหวานนุ่มนวลพูดจาไพเราะเสนาะหูกับพวกมึงไม่ได้ ผมรีบเปลี่ยนน้ำเสียงทันที

"กูอยากได้เมลพี่ฌิม"

"พี่ฌิมไม่ชอบมึงหรอก" ไอ้ห่าเปรมก็จะตอกย้ำกูอย่างเดียว!

"กูไม่ได้หวังให้พี่ฌิมมาชอบกู แค่อยากมีเอ็มให้อุ่นใจ"

"เดี๋ยวกูไปขอให้!"

"ไม่.." ไม่ทันแล้วเพื่อนเวร!

รวดเร็วกว่าคำปฏิเสธจากปากผมก็สองขาของไอ้กระถิน เมื่อมันลุกหุนหันพลันแล่นเดินแจ้นไปยังโต๊ะพี่ฌิมด้วยความเร็วแสง

รู้สึกรักการเรียนขึ้นมาก็คราวนี้ ผมรีบก้มหน้าก้มตาลอกการบ้านจากสมุดวิชาคณิตของไอ้ขุนอย่างไม่คิดจะเงยหน้าขึ้นมามองโลกภายนอกอีก

หัวใจเจ้ากรรมก็เต้นแรงฉิบหาย

ดั่งคำที่หลายคนเคยบอกไว้ เวลาแอบชอบใครอย่าพลั้งปากบอกเพื่อนให้รู้เป็นอันเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นก็จะเกิดเหตุการณ์แบบที่ผมกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้

โคตรอายพี่ฌิม เขินมากด้วย ไม่คิดว่าไอ้กระถินมันจะกล้าบ้าบิ่นขนาดนี้ กูอยากได้เมลพี่ฌิมก็จริง แต่ไม่ใช่ตอนนี้ไงเพื่อน มันเป็นการอยากได้แบบลอยๆ

แต่มึงจริงจังจนหัวใจกูร่วงไปอยู่ตาตุ่มแล้วเพื่อนเวร!

 

 

เวลาเดียวกัน ณ โต๊ะฌิม

"พี่ฌิมคะ เพื่อนหนูอยากได้เมลพี่ค่ะ"

ชายหนุ่มในชุดเครื่องแบบนักเรียนทั้ง 4 คน รีบเงยหน้าจากจานอาหารที่กำลังรับประทาน เมื่อมีรุ่นน้องผู้หญิงเดินเข้ามาทักทายพร้อมฉีกรอยยิ้มกว้างส่งให้อย่างเป็นมิตร 

"เพื่อนคนไหนอะ" คิว ถามขึ้นด้วยความอยากรู้ แม้เหตุการณ์ที่มีรุ่นน้องเดินเข้ามาขอเมล มักเกิดขึ้นเป็นประจำในกลุ่มของพวกเขา

เพราะทั้ง 4 คน ถูกขนานนามว่าเป็นหนุ่มฮอตประจำโรงเรียน

"คนนั้น.."

"น้องชี้หน้าพี่ทำไมเหรอคะ" องศาของนิ้วกระถินยังชี้ไม่ถึงกลุ่มเพื่อนตนเอง ก็ต้องหุบลงด้วยความรวดเร็ว เมื่อ น้ำตาล เดินย่างกรายเข้ามาจนดึงความสนใจจากหนุ่มๆ

"ตาลกินข้าวมาหรือยัง" ปกป้อง เอ่ยถามเพื่อนผู้หญิงที่เรียนอยู่คนละห้องด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

"เรียบร้อยจ๊ะ ตาลขอนั่งด้วยได้มั้ย"

"สำหรับคนสวยได้เสมอ" บอม ใช้ฝ่ามือตบไปยังเก้าอี้เพื่อเชิญชวน ทว่าคนถูกชวนยังไม่ยอมนั่ง แต่หันไปมองรุ่นน้องด้วยสีหน้าสงสัย

"น้องคนนี้ใครเหรอ"

"ไม่รู้จักเหมือนกัน น้องมาขอเมลไอ้ฌิม" คิวตอบคำถาม น้ำตาลจึงหันไปเอ่ยแซวฌิม

"ฮอตไม่เบาเลยหนุ่มคนนี้"

"ฮอตอะไร ฌิมไม่ได้คุยกับใครสักคน"

"ทำไมไม่คุยล่ะ"

"ก็รอคุยกับตาลอยู่ไง"

"ฮิ้ววววววววว"

เพื่อนอีก 3 คนพร้อมใจกันส่งเสียงแซว กระถินจึงรีบเดินหันหลังถอยทัพกลับโต๊ะตนเองอย่างรวดเร็ว

"เอ้า น้องเขาไปแล้ว" บอมยกมือเกาหัวแกรกๆ มึนงงกับท่าทางแปลกประหลาดของรุ่นน้องคนนั้น

"กูยังไม่รู้เลยว่าน้องคนไหนอยากได้เมลไอ้ฌิม" คิวพูดขึ้น ทุกคนจึงมองไปยังโต๊ะกระถินและกลุ่มเพื่อน

พลันสายตาฌิมก็สะดุดอยู่ที่รุ่นน้องคนหนึ่ง..

"น้องกุมภ์" ฌิมพูดพึมพำเสียงเบา แต่น้ำตาลกลับได้ยิน

"ฌิมรู้จักด้วยเหรอ"

"บังเอิญรู้จัก"

"น้องคนนั้นหรือเปล่าที่ชอบมึง นั่งก้มหน้าก้มตาใหญ่เลยว่ะ อาการเขินชัดๆ" ปกป้องวิเคราะห์จนทุกคนเริ่มคล้อยตาม

"ขนลุกเลยไอ้สัด ไอ้ฌิมโดนผู้ชายชอบเฉย ฮ่าๆ"

เพื่อนผู้ชายทั้ง 3 คนในกลุ่มฌิมหัวเราะดังลั่นด้วยความล้อเลียน เพราะพวกเขาได้สมญานามว่าเป็นผู้ชายแมนแท้แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ พอรู้ว่ามีผู้ชายมาชอบเพื่อนจึงขนลุกขนพองมองข้ามความรู้สึกของคนอื่น

"กูชอบผู้หญิง" ฌิมพูดขึ้นพลางมองน้ำตาล หญิงสาวที่มีใบหน้าสวยหวาน เพียบพร้อมไปด้วยความสามารถ

"แล้วฌิมชอบผู้หญิงคนไหน"

"ชอบน้ำตาลครับ"

 

 

18.38 น.

ตื่อ ดือ ดึ๊ง!

ผมหยัดกายลุกจากเตียงนอน เมื่อได้ยินเสียง msn จากคอมพิวเตอร์แจ้งเตือน ตั้งแต่กลับมาจากโรงเรียน ผมทิ้งตัวนอนแผ่หลาอย่างคนหมดอาลัยตายอยาก สภาพตอนนี้เหมือนผักเหี่ยวเฉา ใครเห็นก็คงไม่อยากเอาไปทำอาหาร อาการไม่ต่างจากคนใกล้หมดลมหายใจ

ซึ่งมีสาเหตุมาจากพี่ฌิม..

เมื่อเช้าหลังจากไอ้กระถินมันกล้าบ้าบิ่นเดินเข้าไปขอเมลพี่ฌิมให้ผม นอกจากจะไม่ได้เมล มันยังคาบข่าวมาบอกอีกว่าพี่ฌิมชอบพี่น้ำตาล มันได้ยินเต็มสองรูหู

พี่น้ำตาลดีตรงไหน ก็แค่หน้าหวานกว่า ยิ้มสวยกว่า ตัวเล็กกว่า เอวบางกว่า เก่งกว่า ฉลาดกว่า ตรงไหน ตรงไหนที่ผมสู้พี่น้ำตาลได้ ตรงไหน!

นึกแล้วอยากแหกปากร้องให้ดังลั่นบ้าน แต่ถ้าทำแบบนั้นเตี่ยเดินมาเขกมะเหงกผมแน่นอน

รักครั้งแรก หัวใจก็แตกสลาย เร็วเกินไปไหม กับความผิดหวัง..

หยิบแผ่นซีดีเพลงของวงบางแก้วมาเปิดตอกย้ำความขี้แพ้ของตัวเอง เพลงรักครั้งแรกมันจะขยี้กูเกินไปแล้ว ถ้ามีเบียร์ด้วยอารมณ์อกหักคงมาเต็ม แต่ลืมไปกูแดกเบียร์ไม่เป็น ทำได้แค่ยกแก้วน้ำเต้าหู้ฝีมือเตี่ยมาดูดแทน

ในวันที่แย่ยังมีน้ำเต้าหู้เตี่ยช่วยย้อมใจ ขอบคุณ..

 

Chim พูดว่า:

• สวัสดีครับน้องกุมภ์

 

เหี้ย! เหี้ย! เหี้ย! พี่ฌิมทักเอ็มมา!!

อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ผมกระโดดโลดเต้นแหกปากตะโกนลั่นบ้านจนเสียงด่าจากเตี่ยดังเข้ามาในโสตประสาท แต่ความดีใจมีมากกว่าความรู้สึกผิด วิ่งเข้าไปกรี๊ดใส่หมอนหนึ่งที อยากลงไปแดดิ้นชักแหง็กๆ อยู่กับพื้นให้รู้แล้วรู้รอด

เขินฉิบหาย! หัวใจเต้นรุนแรงยิ่งกว่าแผ่นดินไหว

ลืมความรู้สึกนั่งฟังเพลงเศร้าดูดน้ำเต้าหู้ย้อมใจไปจนหมดสิ้น หลังจากเห็นว่าคนที่ทักเอ็มมาหาคือพี่ฌิม บุคคลที่ทำให้ผมเฉาเป็นผักเหี่ยว

กว่าจะรวบรวมอาการเขินให้สงบนิ่งลงได้เกือบห้านาที สูดลมหายใจเข้าลึก..นั่งลงหน้าคอมพิวเตอร์พร้อมฉีกยิ้มหวานส่งให้รุ่นพี่ผ่านหน้าจอ

เหมือนพี่ฌิมจะเห็น!

ต้องตอบเอ็มยังไงไม่ให้พี่ฌิมรู้ว่าชอบวะ เก็บอาการหน่อยก็แล้วกัน

 

Chim พูดว่า:

• สวัสดีครับน้องกุมภ์

february พูดว่า:

• สวัสดีครับ

Chim พูดว่า:

• พี่ฌิมเองนะครับ น้องกุมภ์จำได้มั้ย

february พูดว่า:

• จำได้สิครับ

• พี่ฌิมเป็นประธานนักเรียน

• ใครๆ ก็รู้จัก

Chim พูดว่า:

• 5555555555555

• จริงด้วย

• พี่ก็ถามแปลก

february พูดว่า:

• พี่ฌิมเอาเมลกุมภ์มาจากไหน

• กุมภ์ขอถามได้มั้ยครับ

Chim พูดว่า:

• ถามได้ครับ

• พี่สาวของพี่ขอมาจากพ่อน้องกุมภ์

february พูดว่า:

• ขอเมลจากเตี่ยของกุมภ์ ?

Chim พูดว่า:

• ใช่ครับ

• เมื่อเช้าแม่กับพี่สาวพี่ไปซื้อโจ๊กที่ร้านน้องกุมภ์

• พี่เลยฝากพี่สาวให้ขอเมลน้องกุมภ์มาด้วย

• พ่อน้องกุมภ์ก็ใจดีนะครับ

• หาเมลน้องกุมภ์ให้ใหญ่เลย

• เพราะแม่พี่บอกว่าจะเอาไว้สั่งโจ๊กกับน้ำเต้าหู้ล่วงหน้า

february พูดว่า:

• อ๋อครับ

Chim พูดว่า:

• พี่สั่งโจ๊กผ่านน้องกุมภ์ได้ใช่มั้ย

february พูดว่า:

• ได้ครับ

Chim พูดว่า:

• งั้นพี่สั่งโจ๊กใส่ทุกอย่างไม่ใส่ขิง

• แล้วก็น้ำเต้าหูหวานน้อย 1 ถุง

• รบกวนน้องกุมภ์ถือมาให้พี่ที่โรงเรียนพรุ่งได้มั้ย

february พูดว่า:

• ได้เลยค้าบ

Chim พูดว่า:

• แต่จะว่าไปบ้านน้องกุมภ์ก็เป็นทางผ่านไปโรงเรียน

• งั้นเอาแบบนี้มั้ยครับ

• น้องกุมภ์ไปโรงเรียนพร้อมพี่ดีมั้ย

• จะได้ไม่เสียเงินค่ารถเมล์ด้วย

• เดี๋ยวพี่แวะรับตอนเช้า

february พูดว่า:

• โหย ไม่เป็นไรครับ

• กุมภ์เกรงใจ

Chim พูดว่า:

• ไม่ต้องเกรงใจ

• บ้านน้องกุมภ์เป็นทางผ่านอยู่แล้ว

february พูดว่า:

• งั้นก็ได้ครับ

• แต่ว่ากุมภ์ขอช่วยพี่ฌิมออกค่าน้ำมันรถด้วยนะ

• ห้ามปฏิเสธด้วย

• กุมภ์เกรงใจจริงๆ ครับ

Chim พูดว่า:

• 5555555555

• ไม่มีปัญหา

• หารกันคนละครึ่ง

• โอเคมั้ย

february พูดว่า:

• โอเคค้าบ

• กุมภ์ขอถามอะไรพี่ฌิมได้มั้ยครับ

Chim พูดว่า:

• ได้สิครับ

february พูดว่า:

• พี่ฌิมชอบกินโจ๊กหรอครับ

Chim พูดว่า:

• จริงๆ พี่กินได้หลายอย่าง

• โจ๊กก็ชอบกิน

• แต่แม่ซื้อโจ๊กมาให้พี่กินบ่อยมาก

• หลายครั้งพี่ต้องหนีไปกินข้าวเช้าที่โรงอาหารแทน

• 55555555

february พูดว่า:

• อ้าว

• แล้วที่พี่ฌิมสั่งโจ๊กพรุ่งนี้

• กินเองหรือเปล่าครับ

Chim พูดว่า:

• พี่ไม่ได้กินเองหรอกครับ

• สั่งไปให้น้ำตาล

• คนที่พี่จีบอยู่

• น้ำตาลอยากกินร้านโจ๊กกุมภ์

• โดนพี่ป้ายยาไว้เยอะ

• 5555555555

 

ชัดเจน…

ผมกลายเป็นพ่อค้าขายโจ๊กตามเตี่ยโดยสมบูรณ์แบบ เปิดเพลงรักครั้งแรกพร้อมหยิบน้ำเต้าหู้ขึ้นมาดูดอีกครั้ง

รักครั้งแรก หัวใจก็แตกสลาย เร็วเกินไปไหม กับความผิดหวัง..


เพลงรักครั้งแรก ของวงบางแก้ว

(เพลงถูกปล่อยครั้งแรกในปี พ.ศ. 2545)