23 ตุลาคม

 

แสงแดดอ่อนยามเช้าลอดผ่านม่านโปร่งบางเข้ามาในหอพักชายประจำโรงเรียนไสยเวทโตเกียว ปลุกให้ดวงตาสีม่วงสวยกะพริบปริบๆ สองสามที ก่อนมีเสียงครางฮือราวกับแมวตัวน้อยโดนขัดใจดังตามมา เด็กหนุ่มผมเงินยกผ้าห่มคลุมโปงหมายหนีจากแสงแยงตาพวกนั้น หากสุดท้ายเจ้าแมวขี้เซาก็ต้องยอมยกธงขาวฝืนลืมตาขึ้นมาในที่สุด

 

เช้าแล้ว...

 

ยังง่วงอยู่เลย

 

อินุมากิถอนหายใจยาว สะบัดหัวไปมาหวังให้ตัวเองตื่นเต็มตาสักทีแล้วหันไปมองกระจกด้านข้าง เส้นผมสีเงินซึ่งสะท้อนบนนั้นดูยุ่งเหยิงราวกับรังนกไม่มีผิด ไม่ต้องให้เดาก็รู้ว่าเมื่อคืนคงเอาแต่นอนดิ้นยุกยิกอยู่ไม่สุขเพราะมัวแต่รอข้อความจากใครบางคนมาตลอดคืน

 

รอแล้วรออีก รอจนกระทั่งเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว

 

'หรือเพราะกำลังติดธุระอยู่กัน'

 

อย่างไรซะพวกเขาก็อยู่กันคนละซีกโลกแถมอีกฝ่ายยังมักติดภารกิจพิเศษ บางครั้งเจ้าตัวก็หายไปเสียหลายวันติดต่อไม่ได้เนื่องจากในเขตแดนไม่มีสัญญาณโทรศัพท์

 

ถึงอย่างนั้นก็เถอะ...

 

ใบหน้าเล็กบุ้ยปาก ตัดสินใจหยิบมือถือขึ้นมาส่งข้อความไปหาคนต่างแดนแทน ถ้ายูตะลืมวันเกิดเขาหรือติดงานจริงๆ ดังนั้นจะทักไปถามสักหน่อยก็คงไม่เป็นไรล่ะมั้ง?

 

แต่เพียงแค่ปลดล็อกหน้าจอ เขาก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนข้อความเข้าดังติดกันจนสองไหล่สะดุ้งเฮือก พอลองเลื่อนหน้าจอดูแล้วก็มีทั้งข้อความจากแพนด้ากับมาคิที่ส่งมาสุขสันต์วันเกิดทั้งยังเสนอร้านอาหารให้เลือกเต็มไปหมด นอกจากนั้นก็เป็นพวกเด็กปีหนึ่งที่บอกว่ามีของขวัญจะให้เขา

 

และใช่...รวมถึงข้อความจากคนที่รอมาตลอดคืนคนนั้นด้วย

 

อินุมากิรีบยันตัวลุกขึ้นนั่ง สองมือประคองหน้าจอมือถือเอาไว้ เขาได้ยินเสียงหัวใจตัวเองกำลังเต้นกระหน่ำราวกับจะหลุดออกมา ทั้งที่มันไม่ใช่ข้อความแรกที่ได้รับจากยูตะ แต่เพราะมันเป็นข้อความแรกที่เขาได้รับจากยูตะใน 'วันเกิด' ต่างหาก ป่านนี้เขาคงกำลังทำหน้าตาพิลึกจนถ้าพวกแพนด้าอยู่ด้วยคงโดนถ่ายรูปเก็บไปล้อแล้ว

 

จะรีบเปิดดูดีไหม...

 

หรือควรเก็บไว้เป็นคนสุดท้ายดี

 

คิดไปคิดมาคนเขินก็ดันเลือกอย่างหลังเสียอย่างนั้น เด็กหนุ่มเลื่อนไปกดเปิดข้อความของมาคิก่อนเป็นคนแรก นัยน์ตาสีอ่อนมองรายชื่อร้านอาหารที่คนเป็นเพื่อนส่งมาพลางคิดถึงร้านที่พวกเขาสี่คนเคยไปด้วยกัน หากยังไม่ทันจะได้ตอบอะไรกลับไป หน้าจอโทรศัพท์พลันสว่างวาบกะทันหันพร้อมกับเสียงแจ้งเตือนข้อความดังขึ้นมาอีกครั้ง

 

อินุมากิเหลือบมองเจ้าของรายชื่อซึ่งถูกปักหมุดไว้ด้านบนสุด อีกฝ่ายกำลังส่งข้อความมาหาเพิ่มเหมือนกลัวว่าเขาจะไม่เห็นข้อความเมื่อคืนไปได้ ใบหน้าเล็กเผลอยกยิ้มกว้าง อวดรอยยิ้มอันไร้ซึ่งปิดบังใดๆ

 

หมอนี่ยังเป็นเหมือนเดิมเลย

 

เขาส่ายหน้าไปมาลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่อย่างตื่นเต้น รู้สึกเหมือนกำลังคอแห้งเสียอย่างนั้นทั้งที่ก็เป็นแค่ข้อความจากเพื่อนคนหนึ่ง(แต่ควบตำแหน่งคนรักทางไกล)เท่านั้น มือเปลี่ยนไปเปิดข้อความของยูตะขึ้นมาแทน

 

'ที่นั่นดึกแล้วไว้ค่อยตอบของมาคิแล้วกัน'

 

 

อคคทสึ ยูตะ : โทเงะคุง หลับหรือยังครับ? (02.34)

 

อคคทสึ ยูตะ : อืม คงหลับไปแล้วสินะ ตอนนี้ที่นั่นคงใกล้ตีสองแล้วด้วย (02.40)

 

อคคทสึ ยูตะ : ผมเพิ่งเสร็จภารกิจกับมิเกลมาเลยช้าไปหน่อย ขอโทษด้วยนะครับ (02.40)

 

อคคทสึ ยูตะ : ตอนแรกกะว่าจะส่งมาให้เป็นคนแรกแท้ๆ (02.41)

 

อคคทสึ ยูตะ : ไว้พรุ่งนี้เช้า...ผมจะส่งข้อความไปหาอีกทีนะครับ (02.41)

 

อคคทสึ ยูตะ : ฝันดีนะครับ โทเงะคุง (02.42)

 

อคคทสึ ยูตะ : <<สติ๊กเกอร์>> (02.43)

 

อคคทสึ ยูตะ : ตื่นหรือยังครับ?  (09.40)

 

ทูน่ามาโยโทเงะ : อื้ม ตื่นแล้ว (09.41)

 

 

เพียงเขาตอบข้อความกลับไปโทรศัพท์ในมือก็ส่งเสียงเรียกเข้าดังเป็นจังหวะในทันที อินุมากิรีบกดรับสาย บนหน้าจอปรากฏใบหน้าของคนเป็นเพื่อนสนิทควบด้วยคนรักทางไกลขึ้นมา อีกฝ่ายโบกมือทักทายเขา ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มสุภาพดังเช่นทุกครั้ง

 

"อรุณสวัสดิ์ครับ โทเงะคุง"

 

"ชาเกะ" เขาโบกมือกลับไปบ้าง มองจากในวิดีโอคอลแล้วทางนั้นคงเป็นกลางดึกตามคาด ทว่าเมื่อดวงตาสีม่วงอ่อนเหลือบไปเห็นนาฬิกาซึ่งแขวนเอาไว้ด้านหลังยูตะเขาก็พลันโวยวายขึ้นมาในทันใด

 

"โอกาก่าาาาา"

 

เพิ่งทำภารกิจกลับมายังไม่หลับไม่นอนรอเขาแบบนี้เดี๋ยวก็ได้ล้มเอาหรอก

 

อินุมากิกอดอกเชิดหน้าขึ้น ขณะที่ยูตะหลุดหัวเราะน้อยๆ เมื่อเห็นว่ามีคนกำลังทำหน้าราวกับลูกแมวพองขน เขาคลี่ยิ้มบางให้อีกฝ่าย เอ่ยสิ่งที่ตั้งใจเอาไว้

 

"เดี๋ยวก็ไปนอนแล้วล่ะ แต่อยากบอกกับโทเงะคุงก่อน"

 

"ทูน่า" อินุมากิเลิกคิ้ว ถึงจะรู้ว่าอีกฝ่ายอยากบอกอะไรกับตัวเองก็ตาม หากหัวใจที่คิดว่าสงบไปแล้วบัดนี้กลับยิ่งเต้นถี่รัวยิ่งกว่าเก่า เด็กหนุ่มพยักหน้าทั้งที่ใบหน้าแดงเรื่อ ขยับไปใกล้กล้องโทรศัพท์มากขึ้น

 

และแน่นอนเขาเห็นว่ายูตะกำลังกลั้นยิ้มอยู่

 

'เผื่อได้ยินไม่ชัดไงเล่า!'

 

"งั้นผมก็คงต้องเข้าไปใกล้ๆ ด้วยสิ" เจ้าของผมสีเข้มว่าพลางยกยิ้มบางให้ก่อนขยับเข้าไปใกล้จอโทรศัพท์เช่นกัน เสียงของเด็กหนุ่มขี้อายในวันวานได้เปลี่ยนไปเป็นเสียงทุ้มนุ่มสมผู้ชายคนหนึ่ง เขาค่อยๆ เอ่ยออกมาเนิบช้าและชัดเจน หวังให้คนฟังเก็บคำเหล่านี้ไว้ในใจชั่วกัลป์

 

"สุขสันต์วันเกิด โทเงะคุงของผม"

 

เขากำลังคิดว่าตัวเองได้ยินผิดไป...

 

ยูตะคุงพูดว่าของผมงั้นเหรอ

 

อินุมากิพลันรู้สึกหน้าร้อนวูบ เขารีบหยิบผ้าห่มซึ่งคลุมตัวเอาไว้ขึ้นมาหมายซ่อนใบหน้าแดงๆนี่จากคนที่อยู่อีกซีกโลก หากคนรู้ทันกลับเอ่ยขึ้นมาเสียก่อน

 

"จะปิดทำไมครับ ให้ผมได้เห็นหน้าดีกว่านะ" ยูตะว่าเสียงนุ่ม ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนที่มีให้เขามาเสมอ

 

"ชาเกะ"

 

"ฮะๆๆ ว่าแล้วเชียว ถ้าทำได้ก็อยากไปบอกใกล้ๆ อยู่หรอก ไว้กลับไปแล้ว...ผมจะบอกให้ฟังอีกรอบนะครับ" พูดเสร็จก็ยกมืออีกข้างขึ้นมาแนบทับบนกล้องหน้าของมือถือตัวเอง รอคอยให้อีกคนซึ่งกำลังยกมือทาบกล้องโทรศัพท์ของตนด้วยเช่นกัน

 

"ชาเกะ"

 

"สัญญากันแล้วเนอะโทเงะคุง"

 

"ชาเกะ! ชาเกะๆ!"

 

เห็นใบหน้าเล็กกำลังส่งยิ้มกว้างอย่างน่ารักมาให้ ยูตะพลันรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังกลายร่างเป็นลูกโป่งลอยได้ เขาส่งยิ้มกลับให้เจ้าของวันเกิด เอ่ยลาโทเงะคุงตรงหน้าเป็นครั้งสุดท้าย

 

"ถ้ากลับไป ผมอยากแปะมือกับโทเงะคุงอีก"

 

"แน่นอนว่ารวมถึงตรงนั้นด้วย" เขาชี้ไปที่ริมฝีปากสีแดงระเรื่อตรงนั้น

 

"เมนไท...โกะ" อินุมากิพลันหน้าแดงก่ำ ไม่สิ เขารู้สึกเหมือนกำลังแดงทั้งตัวจนกลายเป็นเมนไทโกะไปแล้ว ริมฝีปากเม้มแน่นอ้อมแอ้มตอบไม่เต็มเสียง หากหัวกลับพยักหน้าให้อีกฝ่ายไปเสียหลายรอบจนยูตะถึงกลับหลุดยิ้มขำออกมาอย่างหยุดไม่อยู่

 

"ชาเกะ"

 

"ฝันดีเช่นกันครับโทเงะคุง"

 

และแล้วสายก็ตัดไป...

 

พร้อมกับรอยยิ้มซึ่งปรากฏบนใบหน้าของพวกเขาทั้งสองคน

 

 

==================

 

สุขสันต์วันเกิดโทเงะคุงงงของมัมหมีนะค้าาาา

 

แบบว่าไหนๆก็วันเกิดแล้วเราก็อยากเขียนอะไรให้น้องด้วยค่ะ เลยออกมาเป็นฟิคยูตะอินุเรื่องแรกของเราเลย จริงๆเราชอบคู่นี้มากๆเลยนะคะ พี่ยูตะเวลาอยู่อินุมากิคุงแล้วน่ารักกก ถ้ามองแบบไม่ชิปก็คือเพื่อนสนิทที่เข้าใจกัน แต่ถ้ามองแบบชิปก็คือ อา น่ารักนุ้บนิ้บใจกันจังเลยน้าา <3 สุดท้ายนี้สุขสันต์วันเกิดน้าลูกจ๋าของมะมี๊ กอดดดดด

 

/ถ้ามีตรงไหนพลาดไปคอมเม้นท์ติชมกันได้เลยนะคะ กลัวเขียนผิดเนต้าอยู่เหมือนกันเพราะเราตามอ่านแค่เล่มไทยอย่างเดียวด้วย ฮา