2 ตอน HATE YOU: 2 ผู้ชายหน้สด้าน
โดย ชะโดตัวโต
HATE YOU:2
ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของ Foxy Modeling เวลา 20.00 น.
หลังจากทำภารกิจติดตั้งเครื่องสะกดรอยผู้บริหารของที่นี่เสร็จสิ้น ธีรารัตน์ในตอนนี้สวมบทบาทนางแบบเบอร์หนึ่งของโมเดลลิ่ง เธอในชุดบิกินี่สีแดงสดมองตัวเองอยู่ที่กระจกบานใหญ่ เรือนร่างขาวนวลกับหุ่นทรวดทรงนาฬิกาทราย หน้าท้องมีกล้ามเนื้อเป็นเส้นตรง ผู้กองสาวใช้เวลานานกว่าจะได้มีรูปร่างอันแสนเย้ายวนกับผิวขาวเปล่งปลั่งรวมถึงจัดการกับสิวและริ้วรอยบนใบหน้าจนเกลี้ยงเกลา ตอนนี้เธอในสายตาคนอื่น ๆกลายเป็นนางฟ้าที่บรรดาหนุ่มแท้หนุ่มเทียมต่างจับจอง
แต่ทว่าไม่ได้รู้สึกถึงความสุขอย่างที่เคยหวังไว้เลยสักนิด...
การที่มีรูปร่างหน้าตาสวยงามและเป็นที่หมายปองของคนทั่วไปควรจะทำให้เธอรู้สึกดีที่มีแต่คนชื่นชม มันไม่ใช่เลย...เธอกลับรู้สึกไม่ต่างกับตอนเป็นยัยอ้วนอัปลักษณ์คนนั้น เพราะใครๆที่เข้ามาต่างก็สนใจเพียงแต่รูปร่างหน้าตาและฐานะก็เท่านั้น
หาคนจริงใจไม่ได้เลย...
เสียงถอนหายใจยาวเหยียดของผู้กองคนสวยดังเบาๆในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ ธีรารัตน์ไม่ได้อยากจะโชว์เนื้อหนังมังสาของตัวเองให้ใครเห็นสักเท่าไหร่หรอก ที่ทำไปก็เพื่อที่จะหาเบาะแสของนางแบบที่หายตัวไปให้เจอก็เท่านั้น
กึกๆ
หมับ!!!
ด้วยสัญชาตญาณ...เมื่อมีคนบุกรุกเข้ามาในขณะที่เธออยู่คนเดียวก็เอี้ยวตัวปล่อยกำปั้นน้อยๆใส่ชายร่างสูงที่อยู่ด้านหลังด้วยความรวดเร็ว หญิงสาวตาค้างแล้วจ้องมองแขกไม่ได้รับเชิญด้วยสายตาเรียบเฉย "รู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่!?"
ณัฐเศรษฐ์ยกมือกันเอาไว้ได้ทันจึงไม่ได้รับบาทเจ็บอะไร คนตัวสูงถอหมวกไหมพรมและแว่นตาออกเผยโฉมหน้าตัวเอง เขาอาศัยว่าเรี่ยวแรงเยอะโอบเอวหญิงสาวเข้ามาประชิดตัวเขา ผิวเนียนลื่นกับชุดที่เธอใส่อยู่ทำเขาใจเต้นได้เป็นอย่างมาก "ดมกลิ่นเอา กลิ่นตัวคุณหอมเลยหาตัวเจอได้ไม่ยาก"
"ออกไปให้ห่างจากตัวฉัน เดี๋ยวนี้!!" ธีรารัตน์จ้องคนที่กำลังโอบกอดร่างของเธอไม่ยอมปล่อย อีกคนตีมึนทำทีไม่รู้เรื่องแถมจับจับนั่น ขยำนี่...ลูบไล้ร่างกายของเธอด้วยความเอาแต่ใจ ใบหน้าคมเคลื่อนเข้าใกล้ในขณะที่เธอพยายามหลบหลีกไม่ให้เขาได้ทำตามใจ
"เหอะ! เรื่องเก่าๆก็ลืมมันไปเถอะ ถ้าคุณยังปิดใจอยู่แบบนี้แล้วเมื่อไหร่จะได้ลงจากคานล่ะ ผมน่ะ...รอเป็น 'ผัว' ของคุณอยู่นะ" เสียงทุ้มกระซิบแผ่วเบาข้างใบหูนิ่ม
"หน้าด้าน!!!" ธีรารัตน์กระแทกคำนี้ใส่หน้าเพื่อตอกย้ำให้เขาอย่าลืมสิ่งที่เคยทำ "คิดว่าคนอื่นเขาจะความจำสั้นเหมือนตัวเองหรือไง? ถ้าจะรอก็รอไปเถอะเพราะถึงยังไงฉันก็ไม่มีวันเอาผู้ชายอย่างคุณมาเป็นพ่อพันธุ์หรอก แล้วอีกอย่างนะถ้าไม่ใช่เวลางานก็อย่าเข้ามาใกล้ฉันอีก" เธอใช้สองมือผลักเขาออกไปให้พ้นจากตัว
ณัฐเศรษฐ์เซถอยหลังไปสองสามก้าวแต่ก็ยังไม่ออกไปไหน "นี่ก็เวลางาน ทำไมผมจะเข้าใกล้คุณไม่ได้ล่ะ หืม? เห็นคุณในชุดนนี้แล้วมันรู้สึกตื่นตัวแบบแปลกๆ" ชายหนุ่มเดินต้อนหญิงสาวตรงหน้าจนแผ่นหลังของเธอติดแนบไปกับกระจก ธีรารัตน์พยายามฉวยจังหวะตอนเขาเผลอกระแทกขาขึ้นแรงๆแต่ถูกดักทางได้ทั้งหมด "ผมให้เวลาคุณเปลี่ยนเสื้อผ้าห้านาที แล้วเราจะออกไปจากที่นี่พร้อมกัน"
"ไม่จำเป็น..."
"จำเป็นสิ! เพราะตอนนี้รถของคุณทั้งสี่ล้อผมปล่อยลมยางออกจนแบนสนิทเลย แถมตอนนี้...โทรให้ช่างมาลากไปเรียบร้อยแล้ว" คนเจ้าเล่ห์เชิงบอกว่าครั้งนี้เธอไม่สามารถปฏิเสธอะไรเขาได้อีก สายตาโลมเลียมองไปยังเรือนร่างอันน่าลิ้มลองนั้นจนธีรารัตน์ต้องหยิบชุดคลุมมาปิดกาย "เร็วๆนะคนสวย ชักช้าเดี๋ยวเป้าหมายจะคลาดเคลือนเสียก่อน"
"คุณนี่มันนอกจากจะหน้าด้านสุดๆแล้วยังจะเจ้าเล่ห์อีกนะ ออกไปสิ!!" แววตาหวานแข็งกร้าวไล่ให้เขาออกไป เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็นผู้ชายคนไหนจะหน้าด้านหน้าทนได้แบบนี้มาก่อน กล้าดียังไงว่ารอที่จะเป็นสามีของเธอ...แล้วคิดหรอว่ามันจะมีวันนั้นจริงๆ
"หึ! ระวังผู้ชายหน้าด้านอย่างผมไว้ก็แล้วกัน" เขายกยิ้มบางๆก่อนจะเดินออกไป
ผ่านไปสักพักธีรารัตน์ก็ออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า สารวัตรหนุ่มถือวิสาสะจับข้อมือเธอแล้วพาออกมายังอีกทางที่ไม่มีกล้องวงจรปิด ก่อนมาเขาได้สำรวจทุกซอกทุกมุมของตึกแห่งนี้ไว้หมดแล้ว...ยากที่จะถูกจับได้ว่าแขาแอบลักลอบเข้ามา
"เป้าหมายอะไรของคุณ?" ระหว่างทางผู้กองสาวสะบัดมือออกแล้วถามเขาด้วยความจริงจัง "ถ้าไม่บอกฉันก็ไม่ไป"
ณัฐเศรษฐ์หยิบรูปของผู้ชายคนหนึ่งออกมาให้เธอดู "ผมรู้ว่าคุณกำลังตามสืบเรื่องของนายชินวิทย์และเลขาของมันอยู่! ในฐานะหัวหน้าหน่วยผมขอสั่ง...สั่งให้คุณทำตามที่ผมบอกเท่านั้น"
"แต่..."
"ไม่มีแต่นะคนสวย รีบไปกันเถอะ"
เขาขับรถออกมาด้วยความเร็วมุ่งหน้าไปยัง Bitch Loft สถานบันเทิงหรูใจกลางเมือง ผู้คนมากมายแออัดกันอยู่ที่นี่ท่ามกลางเสียงดนตรีที่ดังกระหึ่ม ณัฐเศรษฐ์เดินนำธีรารัตน์เข้ามาด้วยความชำนาญกับสถานที่เป็นอย่างดี
"ทางนี้!" ชายรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาว แต่งตัวภูมิฐานโบกมือเรียกทั้งสองไกลๆ เขาคือ 'คณิณ' เพื่อนสนิทของณัฐเศรษฐ์และเป็นเจ้าของที่นี่ด้วย "กูจองโต๊ะไว้ให้มึงแล้ว รับรองว่าเห็นเป้าหมายชัดเจน"
"ขอบใจว่ะ" สารวัตรหนุ่มแตะไหล่เพื่อรักเบาๆ "บอม เคนเพื่อนเรา คุณคงจำได้ใช่ไหม?"
ธีรารัตน์กรอกตาขึ้นก่อนพยักหน้าเบาๆ "อืม แต่เป็นแค่เพื่อนคุณไม่ใช่เพื่อนฉัน อย่าลืมว่าฉันเป็นยัยช้างน้ำตกมัน...ใครเป็นเพื่อนคงโดนทับตาย ส่วนคุณ! ไม่ได้สนิทชิดเชื้ออะไรมากมายก็อย่าเรียกชื่อเล่นของฉันเลยค่ะ"
ทั้งคณิณและณัฐเศรษฐ์ต่างพากันนิ่งงัน เจ้าของพื้นที่ค่อยๆเอนมาหาสารวัตรหนุ่ม "สมกับที่มึงโฆษณาจริงๆว่ะ เล่นกูรู้สึกผิดกว่าเดิมเยอะเลย" คณิณปั้นหน้ายิ้มต่อ "อ่า...ตามสบายนะ ขอตัวไปทำงานต่อก่อน"
ระหว่างที่กำลังเซ็งอยู่นั้น สายตาของร่างเล็กก็หันไปเห็นนายชินวิทย์ เป้าหมายที่กำลังตามหาตัวเดินเข้ามาพร้อมกับการ์ดของเขาจำนวนหนึ่ง แต่ไม่เห็นเลขาส่วนตัวที่ชื่อลีน่า คงจะเป็นงานสำคัญล่ะสิถึงไม่พาผู้หญิงมาด้วย
เมื่อสบโอกาสธีรารัตน์ก็ลุกขึ้นทำเป็นว่าเดินไปสั่งเครื่องดื่มโดยเลือกบาร์ใกล้ๆกับบริเวณโต๊ะที่เป้าหมายกำลังนั่งอยู่ ณัฐเศรษฐ์มองไปที่ผู้กองสาวก็ส่ายหัวให้กับความดื้อดึงของเธอแต่กลับเป็นผลดีบางอยู่ที่เขาจะสามารถจับผิดเป้าหมายได้โดยไม่ให้รู้ตัว
ธีรารัตน์ไม่ค่อยได้ดื่มเครื่องดื่มมึนเมาเลยสักเท่าไหร่ พอได้ม่จิมๆจึงรู้สึกฝาดลิ้นไปบ้าง...แหวะ! ขม... แล้วสายตาก็ต้องไปสะดุดเมื่อนายชินวิทย์กำลังจ้องมาหาอย่างสนใจ ผู้กองสาวใช้มารยาหญิงแกล้งยั่วยวนด้วยท่าทางพร้อมกับส่งสายตาเชิญชวนกลับ...และมันก็ได้ผล เป้าหมายถือแก้วเครื่องดื่มแล้วเดินมาอยู่ข้างๆเธอ
"ไม่คิดว่าจะได้เจอตัวจริง ผมติดตามผลงานของคุณธีร่ามานานแล้ว อยู่โมเดลลิ่งในสังกัดของบริษัทแท้ๆ" ชินวิทย์นั่งลงข้างๆพร้อมส่งยิ้มชวนใจละลายให้
แต่มันไม่มีผลอะไรกับธีรารัตน์เลยแม้แต่น้อย ผู้กองสาวแสร้งทำเป็นยิ้มตอบ "ขอบคุณค่ะ แต่ฉันไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรขนาดนั้น"
"ถ่อมตัวจริงๆเลยนะครับ" เสียงแก้วกระทบกันเบาๆท่ามกลางเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม ได้ยินเพียงแค่สองคนที่อยู่ใกล้กัน ธีรารัตน์พยายามจับสังเกตเป้าหมายของทางการแต่การเข้าหาครั้งแรกแบบนี้ก็ยากเหลือเกินที่เธอจะได้อะไรออกมาบ้าง ทั้งพยายามสอบถามเกี่ยวกับเรื่องงานต่างๆแต่ชินวิทย์ก็ระวังในการตอบคำถามเป็นอย่างดี "นามบัตรของผมนะ คงต้องขอตัวก่อนและหวังว่าเราจะได้เจอกันอีก"
ผู้กองสาวยกยิ้มมุมปาก "ค่ะ ได้เจอกันแน่นอน" กวาดสายตามองไปยังกลุ่มของชินวิทย์ได้ไม้นานเธอก็รีบเก็บนามบัตรที่ได้มาเอาไว้ในกระของตัวเอง เบอร์โทรศัพท์ในนั้นกำลังจะมีประโยชน์มากๆในอีกไม่นานนี้
ณัฐเศรษฐ์ที่เฝ้าดูอยู่ห่างๆในความสามารถของลูกทีมคนสวย เธอฉลาดที่จะใช้มารยาหญิงให้เป็นประโยชน์ต่อการสืบคดีและไม่เคยพลาดเลยสักครั้ง ร่างระหงเดินผ่านฝูงชนอันเนืองแน่นเข้ามาหาด้วยสีหน้าเรียบเฉย
"วันนี้ได้รู้จักเป้าหมายแล้ว พาฉันกลับเดี๋ยวนี้"
"แต่ผมยังไม่อยาก..." สารวัตรหนุ่มทันทีไม่สนใจคำพูดของเธอ "อยู่กับผมอีกสักหน่อยมันรู้สึกแย่ขนาดนั้นเลยหรอ?"
ธีรารัตน์ถอนหายใจยาว เธอนั่งลงตรงหน้าเขาโดยที่เขายังคงถ่วงเวลาของเธอไว้อย่างเต็มที่ "มันแย่ที่สุด ฉันทั้งเกลียดและขยะแขยงไม่อยากที่จะพบเจอผู้ชายแบบคุณเลยด้วยซ้ำ คนอย่างคุณมันก็แค่ดีแต่เห็นค่าคนอื่นใยรูปลักษณ์ภายนอก คิดว่าตัวเองดีเด่นเหนือกว่าใครๆแต่ที่แท้ก็หลงตัวเอง" ใครมันจะไปลืมกันง่ายๆ ความรู้สึกของคนทั้งคนที่ถูกทำลายจนได้รับเพียงแต่ความอับอาย ทั้งเสียใจ ทั้งเจ็บปวด แค่กลับมาพบหน้าแถมยังต้องทำงานด้วยกันในตอนนี้ก็รู้สึกแย่เต็มทน "ถ้าคุณจะอยู่ต่อก็ไม่เป็นไร งั้นฉันกลับก่อน"
หมับ!!
ในจังหวะที่เธอกำลังลุกขึ้นจากเก้าอี้ ร่างสูงที่ช่วงตัวยาวกว่าเอื้อมือมาคว้าข้อแขนเล็กเอาไว้ แววตาฉ่ำเยิ้มด้วยฤทธิ์น้ำเมาส่งสายตาหวานฉ่ำตามประสาคนเจ้าชู้ ธีรารัตน์พยายามยื้อออกมาให้เป็นอิสระแต่ว่าแรงของเขาเหนือกว่าเธอมาก "หมดขวดนี้แล้วผมจะไปส่ง"
"มุกอ้อนสาวหรอคะ? สารสัตร! ฉันไม่ใช่แฟนเก่าของคุณหรือผู้หญิงคนอื่นๆที่จะกินเหยื่อติดเบ็ดหรอกนะ ได้ข่าวถูกผู้หญิงที่จะแต่งงานด้วยทิ้งแล้วมีแต่คนบอกว่า...คุณมันสำส่อนมั่วไม่เลือกเลยนี่คะ"
"รู้เรื่องผมดีขนาดนี้ก็ยอมรับมาเถอะ...ว่าที่เปลี่ยนตัวเองมาได้ไกลขนาดนี้เพราะอยากให้ผมสนใจ"
ธีรารัตน์เบ้ปากใส่ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นรอยยิ้มเย็นๆ "เจอเพื่อนเก่าๆที่ไหนเขาก็เล่าขวัญเรื่องเสื่อมๆของคุณให้ฟังเสมอนั่นแหละ และที่ฉันยอมเปลี่ยนก็เพี่อสุขภาพและตัวฉันเอง ตื่นได้แล้วนะคะสารวัตร...คุณไม่มีค่าอะไรที่ฉันจะต้องยอมเหนื่อยขนาดนั้น"
"ก็ดี" ณัฐเศรษฐ์ยกแก้วสุดท้ายขึ้นดื่มจนหมดในรวดเดียว "อาาา กลับกันดีกว่า ดูท่าคุณคงจะง่วงมากแล้ว"
ณัฐเศรษฐ์ไม่พูดอะไรต่อ เขาคว้ามือธีรารัตน์ได้รีบพาเจ้าหล่อนไปขึ้นรถแล้วขับออกจากสถานบันเทิงแห่งนั้นทันที เขาใช้ความเร็วพอสมควรในการอยู่บนท้องถนนทั้งๆที่ดื่มมาเพียงแค่ขวดเดียวเท่านั้น ตลอดทางมีแต่ความเงียบงันไร้เสียงปริปากใดๆ ยิ่งเมาก็ยิ่งคึกชวนหาเรื่องมาคุยตลอดแต่เธอก็ยังเงียบอยู่ดี
"อยากรู้จังว่าใครตั้งชื่อให้ว่าบอมเบย์" หวังว่าครั้งนี้จะได้ยินเสียงหวานๆตอบกลับมา
"อยากรู้! จุดธูปถามพ่อกับแม่ฉันดูสิ" ถามอะไรแปลกๆ คนตั้งก็ต้องเป็นพ่อกับแม่อยู่แล้ว คงไม่มีข้างบ้านคนไหนมาอุตริตั้งแทนบุพการีหรอก
"ดีนะ...เผื่อจะฝากตัวเป็นลูกเขยด้วยซะเลย" กล้าพูดนะไอ้คนกะล่อน!...เธอนึกก่นด่าอีกฝ่ายในใจ เขาเหล่มองมาทางร่างเล็กสักพักก็ลดความเร็วลง "คุณควรจะดีใจที่วันนี้ได้ควงผม อยากควงมานานแล้วไม่ใช่เหรอ?"
ผู้กองสาวกลอกตามองเขาที่กำลังขับอยู่ "เรื่องในอดีตเอามาพูดตอนนี้ไม่ได้มีผลอะไรหรอก ตอนนี้ฉันไม่รู้สึกดีใจเลยสักนิดที่ต้องมาเห็นหน้าคุณแทบทุกวัน หลงตัวเองไปรึเปล่าคะ?สารวัตรณัฐเศรษฐ์ แต่ก็อย่างว่า...มันเป็นเรื่องที่คนแบบคุณถนัดคิดอย่างนี้อยู่แล้ว มองแต่รูปลักษณ์ภายนอกที่สวยๆงามๆ กว่าจะเห็นข้างในและรู้ตัวว่าเป็น 'ควาย' ก็ถูกแฟนเก่าสวมเขาให้ตั้งหลายปี" เธอเหยียดยิ้มเยาะเย้ยเขาผ่านสีหน้าที่นิ่งเฉย "อุตส่าห์เคยได้คบกับดาวโรงเรียนเชียวนะ คงจะฟินกับเขาบนหัวไม่น้อยเลยทีเดียว"
เอี๊ยดดดด...
จู่ๆเขาก็จอดรถแล้วปลดสายเข็มขัดนิรภัยออก ตอนนี้ณัฐเศรษฐ์ค่อยๆเคลื่อนจากที่คนขับเข้ามาหา ธีรารัตน์พยายามจะเปิดประตูแต่เขาก็ดึงไว้แล้วใช้สองมือประคองใบหน้าสวยให้หันมองตรงไปที่เขา
"อย่าพูดถึงผู้หญิงคนนั้นให้ผมได้ยินอีก" แววตาวาวโรจน์คล้ายกับโกรธเคือง เหมือนเธอจะจี้ใจดำเขาเข้าให้เสียแล้ว "หึ! เมื่อกี้ยังปากดีได้อยู่เลย แล้วจะหนีทำไม?" น้ำเสียงเขากดทุ้มลง คิดว่าเธอจะกลัวเหรอ?
"ไม่ได้หนี"
"หรอ? ปากอย่างนี้ผมจัดให้เงียบไปหลายรายแล้ว ลองสักหน่อยไหมคนสวย?"
ผู้กองสาวเชิดหน้าขึ้นทำนองว่าท้าทาย มือเล็กกำหมัดแล้วชกเข้าที่หน้าท้องแกร่ง ปึก!! ปึก!! "คิดว่าตัวเองเป็นเทวดามาจากไหนกัน! ออกไปให้ห่างจากฉันเดี๋ยวนี้!! ไอ้คนหลงตัวเอง"
"แล้วถ้าบอกว่าใช่ล่ะ" เขายิ้มแบบมีเลศนัยย์ "บอกไว้ก่อนเลยนะว่ายังไงคุณหนีไม่พ้นหรอก ผู้หญิงอย่างคุณน่ะเป็นของผมได้ไม่ยาก"
"หน้าด้านขนาดตัวร้ายในละครยังต้องอาย!!!" ธีรารัตน์กัดฟันพูดช้าๆและเน้นๆ ให้เขาเข้าใจ ตากลมจ้องกลับโดยที่ไม่เกรงกลัวเลยสักนิด
"อีกทีสิ!!"
"หน้าด้าน! หลงตัวเอง อะ อื้อ" ริมฝีปากของเขาเข้าประกบหาเธออย่างไม่ทันตั้งตัว แขนเล็กพยายามดันเขาออกจนหมดแรง
ลิ้นร้อนพยายามฝ่าด่านแต่เธอก็ไม่ยอมให้ลุกล้ำเข้าไปง่ายๆ ณัฐเศรษฐ์ใช่ว่าจะยอมแพ้เสียงเมื่อไหร่...เขาดูดริมฝีปากกระจับสีสวยของเธออย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อหวังจะให้เธอยอมสิโรราบให่แก่เขา สองมือประคองหัวของหญิงสาวผู้แสนท้าทายเขาเสียเหลือเกิน...กลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งในโพรงปาก เขาค่อยๆเลื่อนมือบีบปลายคางมนเชิงบังคับให้เธอเปิดปาก
ในที่สุดก็สำเร็จ...
ลิ้นร้อนลุกล้ำเข้าไปในโพรงปากเล็กก็วิ่งวนไปทั่วพื้นที่ เกาะเกี่ยวเลี้ยวเลาะหยอกล้อกันพัลวัล ธีรารัตน์ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้จึงตอบสนองไม่ทันใจที่เขาต้องการจนรู้สึกหงุดหงิด
"อ้าาา" ผละริมฝีกปากออกได้ก็รีบกอบโกยอากาศเข้าปอด "ครั้งแรกหรอครับ? หืม? มิน่าล่ะ...จืดชืดซะไม่มี"
"...."
"แค่นี้ถึงกับสตั้นท์เลย อั่ก"
ผัวะ!!
ผู้กองสาวหายใจหอบแล้วชกเข้าที่โหนกแก้มของเขาแรงๆ "เมื่อกี้ฉันถือว่าให้ทานกับเปรตที่มาขอส่วนบุญ คนอย่างคุณมันก็ดีแต่ย่ำยีคนอื่นไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือการกระทำ ไม่ว่าจะเมื่อก่อนหรือตอนนี้มันก็กลายเป็นสันดารไปแล้ว" น้ำเสียงสั่นเครือด้วยความโกรธ "ฉันไม่มีวันจะกลับไปรู้สึกแบบเดิมกับผู้ชายแบบคุณแน่"
กึกๆ
บรื้นนนน~
กรี้ดด
ณัฐเศรษฐ์เหยียบคันเร่งจนมิดก่อนที่เธอจะเปิดประตูลงจากรถ เกิดมาเขาไม่เคยถูกผู้หญิงปฏิเสธและไม่เคยถูกด่าว่าเช่นนี้มาก่อนจึงรู้สึกหน้าชาและเสียหน้าไปไม่น้อยเลยทีเดียว...
หรือว่าเขาสมควรโดนแล้วจริงๆ
ค่ำคืนนี้สำหรับธีรารัตน์แล้วคงเป็นค่ำคืนที่น่าปวดหัวเป็นที่สุด ทันทีที่เขาจอดรถที่หน้าบ้านเธอก็รีบลงจากรถทันทีโดยไม่มีการร่ำลาใดๆทั้งสิ้นพร้อมยกมือเช็ดริมฝีปากไปมาหลายรอบราวกับขยะแขยงเป็นที่สุด บ้านหลังใหญ่พื้นที่กว้างขวางตอนนี้เต็มไปด้วยความมืดมิดเพราะตอนนี้ดึกมากแล้ว ทันทีที่ธีรารัตน์เดินเข้าไปในตัวบ้านก็เห็นลูกพี่ลูกน้องฝาแฝดของเธอกำลังนั่งรออยู่ที่โซฟาในห้องโถงกว้าง
"กลับมาแล้วหรอ? คุณตาเป็นห่วงแทบแย่น่ะ" แพรเพชรแฝดสาวผู้พี่เอ่ยทักทันทีที่เห็นญาติของเธอเดินเข้ามา "เห็นมีช่างเอารถของบอมมาส่งให้ที่บ้านวันนี้แถมยังติดต่อไม่ได้อีก บอมเป็นอะไรหรือเปล่า? ดูอารมณ์ไม่ค่อยดีนะ"
"อยากฆ่าคน!" ผู้กองสาวตอบด้วยสีหน้าหงุดหงิด
"พูดอะไรน่ากลัวแบบนั้นล่ะ" แพรเพชรทำเสียงตำหนิญาติของเธอ
ธีรารัตน์ถอนหายใจออกมาหนักๆ "มีภารกิจน่ะแล้วเกิดเรื่องผิดคาดนิดหน่อย...บอมก็หายไปแบบนี้ประจำแพรกับภูมิก็น่าจะชินได้แล้ว" ผู้กองสาวมีท่าทีเหนื่อยอ่อนแต่ก็ต้องทำเป็นว่าไม่เป็นอะไร
"ภูมิชินตั้งนานแล้วล่ะ แต่แพรน่ะขี้กังวลไปเอง" เรืออากาศเอกภูมินทร์แฝดหนุ่มผู้น้องยิ้มบางๆ "นอนกันเถอะ พรุ่งนี้ภูมิก็มีภารกิจเหมือนกัน"
ธีรารัตน์ได้แต่หวังว่าพรุ่งนี้และวันต่อๆ คงจะไม่ต้องมีอะไรมาก่อกวนจิตใจเหมือนอย่างเช่นวันนี้ แค่ทนๆร่วมงานไปให้จบคดีแล้วค่อยขอย้ายไปอยู่หน่วยอื่นก็เท่านั้น ฉะนั้นจะต้องตั้งใจจบคดีที่ได้รับมอบหมายมานี้ให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด
หลายวันผ่านไป...
ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงปืนดังสนั่นทั่วพื้นที่ของถนนกว้างแถบชานเมือง หน่วย XIX ทุกคนสวมชุดป้องกันเต็มตัวนำกองกำลังเข้าปะทะกับผู้ร้ายยาเสพติดข้ามชาติที่พวกเขาติดตามเบาะแสมานานนับเดือน เมื่อทำการล่อซื้อแล้วแสดงตัวเข้าจับกุมพวกคนร้ายก็ไม่รีรอที่จะต่อสู้ทันที
" *ซ่า ซ่า
*เตวิทย์! คุณนทีมเอไปดักตรงทางออกที่สาม สพล! คุณนำทีมบีไปดักตรงทางเข้า ส่วนที่เหลือตามผมมา!!" ณัฐเศรษฐ์ใช้เครื่องมือสื่อสารสั่งการลูกทีมให้กระจายกำลังออกไป
*"ซ่า ซ่า รับทราบครับ"
* ลูกทีมทุกคนตอบรับกลับมาจึงเริ่มทำงานตามสั่งทันที
ปังๆ!!
"คุ้มกันนายใหญ่ออกไปก่อนเร็ว!!" กลุ่มแก็งค์ค้ายาเสพติดพยายามต่อสู้เพื่อหาทางรอดให้ผู้เป็นนายและตัวเอง รถตู้คันสีดำจอดอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม...พวกมันรีบกุรีกุจอไปให้ถึงโดยเร็วที่สุด
"เกิดอะไรขึ้นหรอคะ? คุณปีเตอร์" ร่างเพรียวบางลงมาจากรถพร้อมกับถามด้วยเสียงหวานๆ ธีรารัตน์พร้อมกับนวิตาแสร้งตีหน้าซื่อๆต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
"โอ้วดาลิ่ง! ลงมาทำไมกันครับ รีบกลับขึ้นรถไปจะดีกว่า" ฝรั่งร่างท้วมรีบเดินมาหาสองสาวโดยแสดงท่าทีห่วงใย "ไม่มีอะไรหรอกนะ อย่ากังวลเลย"
"จะไม่ให้กังวลได้ยังไงล่ะคะ! ก็ได้ยินเสียงปืนเลยนึกห่วงคุณปีเตอร์น่ะสิ" นวิตาส่งสายตาหวานๆให้ ปีเตอร์แม้จะชอบใจแต่ก็มัวชักช้าไม่ได้เพราะอีกไม่นานพวกตำรวจคงตามมาถึงอย่างแน่นอน
ในจังหวะที่ยกมือเข้าโอบเอวร่างงอนงามนั้นเอง!
ผัวะ!! อั่ก!!
"นายครับ!!" ชายสวมสูทดำร้องเรียกออกมาด้วยความตกใจเมื่อเห็นผู้เป็นนายถูกสันมือของธีรารัตน์สับเข้าที่ต้นคอ เขายกปืนขึ้นมาหมายจะช่วยปีเตอร์ "พวกมึง ตุบ! อั่ก!!!"
ตุบ! ตับ!! ผลั่ก!!
ตุบ!!
"ผู้กอง!!" ธีรารัตน์เสียทีถูกถีบเข้าที่หน้าท้องจนเซล้มลง นวิตาร้องเสียงหลงก่อนจะรีบไปช่วยพยุงตัวธีรารัตน์เอาไว้ "เป็นอะไรไหมคะ?"
ธีรารัตน์ส่ายหัว "ระวัง!!!"
ปัง!
ผู้กองสาวผลักร่างของนวิตาให้ห่างออกไปก่อนที่กระสุนจะมาถึงตัว คมกระสนเฉียดเข้าที่ไหล่ขวาของเธอจนมีเลือดซึมออกมา มมือขวาถือปืนยิงคนร้ายให้ล้มลงไปนักต่อนักแล้วแต่พวกมันก็มีมากมายเหลือเกิน เธอหวังเพียงแค่ตอนนี้ให้มีสักทีมมาถึงตรงนี้ได้ทันเวลา
แกร็กๆ ปีเตอร์คับแค้นใจที่ต้องเสียทีให้กับผู้หญิง เขาเล็กปลายกระบอกปืนเข้าหาร่างผู้กองสาวด้วยรอยยิ้มเหี้ยมๆพร้อมเหนี่ยวไกได้ทุกเวลา "นังสารเลว!!"
ตึก! ตึก! โครม!!!
ยังไม่ทันจะได้ลงมือก็โดนฝ่าเท้าของณัฐเศรษฐ์ประทับเข้าที่ใบหน้าจนสลบ กองกำลังที่ตามมาถึงรีบเข้าช่วยสองสาวและสามารถจับกุมคนร้ายได้ทั้งหมดด้วยความทุลักทุเล
ในระหว่างที่เข้าเคลียร์พื้นที่และทีมแพทย์ฉุกเฉินได้เข้ามาทำแผลให้ผู้กองสาว ณัฐเศรษฐ์โทรรายงานผลกับ ผบ.ตร. เสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินเข้าไปหาเธอ
"ไปโรงพยาบาลไหม?" เขาถามด้วยความเป็นห่วงแต่กลับเงียบเป็นคำตอบ "บอม ผมแค่อยากจะคุยกับคุณดีๆสักครั้งไม่ได้หรือไง?"
พยาบาลทำแผลให้เสร็จก็รีบลุกออกไปเพราะเหมือนทั้งสองมีเรื่องสำคัญจะคุยกัน ธีรารัตน์หันไปทางเข้าด้วยสีหน้านิ่งเฉย "แผลแค่นี้เล็กน้อยค่ะสารวัตร ถูกทำให้เจ็บมากกว่านี้ก็เคยมาแล้ว ไม่ถึงตาย"
"โอเคๆ วันนี้ผมยอมแพ้ ฝากประสานงานให้ระรินทร์เอาหลักฐานทั้งหมดส่งอัยการให้หน่อยก็แล้วกัน" ร่างสูงค่อยๆโค้งตัวลงช้าๆ ใบหน้าของทั้งสองใกล้กันมากจนแทบจะลืมหายใจ "คุณจะไม่พูดกับผมหรือจะทำเมินใส่ไปเท่าไหร่ผมก็ไม่สน สักวันผมจะทำให้คุณหันกลับมามองผมและต้องเป็นแค่ผมคนเดียวเท่านั้น!"
"ฉันว่าคุณรีบเคลียร์พื้นที่ให้เสร็จก่อนดีกว่า เพราะการส่งหลักฐานให้อัยการจะต้องมีลายเซ็นของคุณ เดี๋ยวระรินทร์จะเตรียมงานเอาไว้เก้อ" ธีรารัตน์โทรสั่งงานให้ระรินทร์ที่รอประสานอยู่อยู่ที่สำนักงงานตำรวจ ผู้กองสาวยกมือจับที่แขนของตัวเองเบาๆ ในขณะที่สารวัตรหนุ่มเองก็ตามติดเธอแจจนเป็นที่สังเกตของลูกทีม
"ไอ้เต แกว่าสารวัตรจะแห้วเหมือนคนอื่นๆไหมวะ?" สพลสะกิดถามเพื่อนสนิท
เตวิทย์ส่ายหัวเบาๆ "ไม่รู้สิ แต่ถ้าแกยังไม่มาช่วยฉันตอนนี้ แห้วดาวปีหน้าแน่ๆว่ะ"
ผู้หมวดหนุ่มเหล่มองเพื่อนเล็กน้อยก่อนจะปลีกตัวออกไปหานวิตาเพื่อช่วยงานของเธอ เตวิทย์ได้แต่ถอนหายใจแล้วก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตัวเองต่อ
ว่าจะจัดการอะไรเรียบร้อยก็มืดพอดี ทั้งการเคลียร์พื้นที่ การส่งตัวผู้ร้ายไปรับโทษก็ปาไปเกือบสี่ทุ่ม ทุกคนมุ่งหน้ากลับกรุงเทพกันทันทีหลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อย โดยตำรวจหนุ่มๆก็จะผลัดเปลี่ยนกันขับรถและหลับเอาแรงเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ธีรารัตน์รู้สึกเพลียมากเพราะแผลถูกยิงเข้าที่ไหล่ขวาก็คงจะอักเสบ ณัฐเศรษฐ์คว้าตัวเธอขึ้นมานั่งบนตักแล้วโอบกอดร่างนั้นไว้แนบกาย หญิงสาวตกใจเล็กน้อยจึงใช้ท่อนแขนเล็กตีมาที่แผงอกของเขา
"ทำบ้าอะไรของคุณ!"
"ก็ผมมันเป็นผู้ชายหน้าด้าน ช่วยไม่ได้" ดวงตาคมมองร่างบนตักแล้วกระชับอ้อมแขนเอาไว้แน่นๆ "อยากหลับก็หลับที่ตัวผมนี่แหละ นี่ผมให้สิทธิพิเศษเฉพาะคุณคนเดียวเลยนะ"
"ฉันไม่ง่วง!!" เธอตั้งท่าปฏิเสธลูกเดียว "อย่ามากอดฉันตามใจชอบแบบนี้นะ!!"
"...." ณัฐเศรษฐ์ตีมึนใส่เธอ บรรดาลูกน้องที่อยู่บนรถคันเดียวกันได้แต่ลอบมองทั้งสองโดยเฉพาะตำรวจหนุ่มๆทั้งหลาย ไม่เคยมีใครได้ถึงเนื้อถึงตัวผู้กองคนสวยแบบสารวัตรคนใหม่มาก่อนเลย "ต่อให้ชกผมจะเขียวไปทั้งตัว ผมก็ไม่ปล่อย...ถ้ายังดิ้นอยู่ผมจะจูบคุณต่อหน้าทุกคนตรงนี้แหละ"
คนบนตักหน้าแดงระเรื่อทั้งโกรธทั้งอายผสมกันไป เธอไม่ได้พูดอะไรต่อแล้วนั่งนิ่งบนตักของเขาไปตลอดทางเพราะไม่รู้จะเอาอะไรไปสู้กับความหน้าด้านหน้าทนของเขาจนสาวเจ้าเผลอหลับไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ณัฐเศรษฐ์มองหน้าสวยที่กำลังอยู่ในห้วงนิทราแล้วยิ้ม เขาไม่เคยคิดว่าจากยัยอ้วนอัปลักษณ์จะใช้คำพูดดูถูกเหล่านั้นเป็นแรงผลักดันให้เป็นแม่สาวสวยเซ็กซี่ในอ้อมแขนของเขาในวันนี้ ต่อให้จะถูกด่าถูกว่ายังไงเขาก็ยอมถูกให้มองเป็นผู้ชายหน้าด้านเสียยังคุ้มกว่า
ถ้าเขาต้องการ...ยังไงเธอก็หนีไม่พ้นอย่างแน่นอน
Comments (0)