'ข่าวสยองขวัญเมื่อคืนนะครับ มีผู้พบศพรัฐมนตรีที่ย่าน---'

'ตำรวจประกาศเตือนเลยนะครับ นี่เป็นคดีที่ 5 แล้วให้ประชาชนระมัดระวัง---'

'ในตัวเราทุกคนก็มีครับ ปีศาจครอสโร้ดอะไรเนี่ย' เสียงผู้ให้สัมภาษณ์จากรายการที่ผมเปิดสุ่ม ๆ ตอนเช้าดังก้องไปทั่วห้องตามความตั้งใจของผม

'มันเป็นแค่ชั่วความคิดของเราแค่นั้นเองว่าคุณจะเลือกทางไหน....'

8 โมงเช้าอันแสนเร่งรีบของใครหลาย ๆ คนกับผมในสภาพที่เพิ่งจะตื่นนอน ผมเผ้ายุ่งเหยิง ปากคาบแปรงสีฟันไว้แต่ร่างกายกลับหยุดฟังประโยคเมื่อครู่ของชายในทีวี

ครอสโร้ดเป็นแค่ชั่วความคิดงั้นหรอ?

งั้นครอสโร้ดที่เขากับผมรู้จัก...ก็คงไม่ใช่ปีศาจตนเดียวกัน

พลันภาพจากกระจกตรงหน้าได้เปลี่ยนไป ไม่ใช่ภาพสะท้อนของผมแต่เป็นภาพทางแยกซึ่งมีป้ายไม้เก่า ๆ ชี้ไปตามแยกต่าง ๆ

"วันนี้จะเลือกอะไรดีล่ะ" เสียงแหบพร่าเอ่ยออกมาเรียกรอยยิ้มให้ผมทันที

หลับตาแล้วปล่อยความคิดให้ไหลไปกับกระแสของเวลา

ผมมักจะทำแบบนี้เสมอจนกว่าจะเห็นแสงจากหลังเปลือกตาอันเป็นสัญญาณว่าผมเดินทางมาถึงแล้ว

ทางแยกเดียวกับในกระจก รอบข้างมืดขมุกขมัวให้พอเห็นรอบข้างราง ๆ

ห่างไปเกือบครึ่งไมล์ก็มีทางแยกเช่นกัน เพียงแต่ป้ายบอกทางกลับต่างชนิดกันก็แค่นั้น

รอบข้างมีเพียงแสงไฟจากโคมไฟเล็ก ๆ ที่อยู่เหนือป้ายเป็นตัวช่วยให้ภาพรอบกายไม่มืดบอด

เสียงกระพือปีกดังขึ้นเหนือหัว พร้อมเงาของปีศาจทาบทับร่างของผมเอง

ลักษณะคล้ายกับการ์กอยล์ที่มีปีก ร่างกายเป็นสีแดงเข้ม ดวงตากลับเป็นสีม่วงราวกับอัญมณี

"ไง...วันนี้จะเลือกอะไรดีล่ะ?" มันยิ้มเยาะราวกับรู้คำตอบอยู่แล้วว่าผมจะเลือกแยกไหนในวันนี้

ก็นะ...ผมเลือกทางนี้มา 5 วันแล้วและมันก็คงคิดว่ามนุษย์จะไม่สามารถเงยหน้าขึ้นมาหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้อีก

"โทษทีวันนี้นายเดาผิดแล้วล่ะ" ปีศาจหุบยิ้มพร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่

"เฮ้ย ๆ นั่นน่าเบื่อจะตาย" ผมเมินคำพูดของมันไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลือกเดินไปทางซ้ายอย่างไม่ลังเล

"โอเค ๆ ยอมแพ้ ไว้เจอกันใหม่ในวันพรุ่งนี้แล้วกัน" ปีศาจเอ่ยบอกลาก่อนที่ผมจะกลับมาอยู่ที่คอนโดของตัวเองอีกครั้ง

เมื่อทำธุระส่วนตัวเสร็จสองขาของผมก็เดินอาด ๆ ไปที่ตู้เก็บของ

หยิบป๊อปคอร์นสำเร็จรูปมาอุ่นถุงนึงโดยไม่แยแสว่าตัวเองยังไม่ได้กินอะไรเป็นชิ้นเป็นอันซักนิด

ผมตัดสินใจแล้ว...วันนี้ผมจะอยู่ที่ห้องไม่ออกไปไหนทั้งนั้น

รู้แบบนี้ยอมตื่นสายกว่านี้อีกซักนิดคงจะดี

ผมเจอปีศาจนั่นทุกเช้า...หรือบางทีอาจจะสาย

เอาเป็นว่าผมเจอมันที่แยกบ้า ๆ นั่นทุกครั้งที่ผมเข้าห้องน้ำครั้งแรกหลังตื่นนอน

กับประโยคเดิม ๆ อย่าง 'วันนี้เลือกอะไรดีล่ะ?' เป็นร้อย ๆ รอบ

พยายามหาคำตอบอยู่หลายครั้งว่ามันมาจากไหนแต่ก็ล้มเหลว ผมไม่เคยได้รับคำตอบ

มันวนมาแบบนี้ตั้งแต่หลายปีก่อนหลังจากที่พี่ชายของผมตาย

หมอหลายคนบอกว่ามันเป็นอาการทางจิต

พระหลายรูปบอกว่ามันเป็นกรรม 

คนรอบข้างบอกว่าเพราะผมเจอเรื่องสะเทือนจิตใจมา

ไม่มีใครให้คำตอบกับผมได้ทั้งนั้น

ตลอดเวลาหลายปีมานี้ผมจึงทำตัวไร้สาระ ลอยไปลอยมาในเมืองหลวงที่วุ่นวายนี่

มองความศิวิไลซ์จอมปลอมผ่านกระจกกว้างในห้อง แต่ในความเพอร์เฟคในสายตาหลาย ๆ คน

สายตาของผมกลับมองเห็นแต่ความจืดชืด ไร้สีสันและความน่าตื่นเต้น

เปลือกที่ดูสวยงามแต่ภายในกลับดูเละเทะจนหาสิ่งที่เป็นชิ้นเป็นอันไม่ได้

ผมหลับตาอีกครั้งหลังจากรายการในทีวีไม่สามารถทำให้ผมรู้สึกหายเบื่อได้ เพื่อกลับไปพบกับปีศาจครอสโร้ดที่เดิม

"ฉันเตือนแล้วว่ามันน่าเบื่อ" ปีศาจตัวเดิม เกาะอยู่เหนือหลอดไฟดวงเดิม ที่แยกเดิม

"อะไรคือความน่าพิสมัยของโลกนี้?" ผมถามคำถามที่อยู่ในใจออกไป ปีศาจเงียบไปซักพักพร้อมเอ่ยด้วยเสียงสดใสที่สุด

"กิเลสยังไงล่ะ" คำตอบจากมันทำให้ผมฉุกคิด

ถ้าความน่าพิสมัยของมนุษย์คือกิเลส แล้วคนที่หาความน่าพิสมัยไม่เจออย่างผมคือคนไร้กิเลสรึเปล่านะ?

"เธอทำฉันประหลาดใจกับคำถามของเธอทุกครั้ง" มันเอ่ยอีกครั้งท่ามกลางความเงียบ

"ทำไมผมถึงเป็นคนที่มาอยู่ตรงนี้ได้ล่ะ? นายเลือกผมมางั้นหรอ?" ผมเมินคำถามมันไปพร้อมกับโยนคำถามใหม่ให้ปีศาจตอบ

"เพราะความสับสนในใจของเธอมันน่าสนใจ" ปีศาจตอบอีกครั้ง

เรามักจะทำแบบนี้บ่อย ๆ ในตอนที่ผมเบื่อจากโลกภายนอก ผมถามปีศาจตอบ ปีศาจถามผมเงียบแล้วถามมันใหม่วนไปเรื่อย ๆ

"ถ้าเบื่อนักเธอมาทำหน้าที่ตรงนี้แทนฉันมั้ยล่ะ" และคำถามนี้ก็ถูกมันถามอีกจนได้

สาบานว่ามันถามคำถามนี้กับผมมาไม่ต่ำกว่ายี่สิบแปดครั้ง

"ไม่ล่ะ ผมไม่นิยมขายวิญญาณให้ปีศาจ" ในโลกนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรี ๆ แน่นอนแต่ผมก็ไม่เคยได้อะไรจากมันเช่นกันจึงเป็นข้อสงสัยให้ผมในทุกวันนี้ว่าถ้าผมทำหน้าที่แทนมันแล้วผมจะได้อะไร?

"เธอนี่ไม่น่าพิสมัยเลยนะ"

"แล้วกับนายที่ใช้คำว่าเธอกับตัวผู้ชายมันน่าพิสมัยตรงไหนกัน"

"ก็เห็นประเทศของเธอนิยมแบ่งยศตามคำเรียกฉันก็อุตส่าห์ทำตามแล้วนะ"

"มันเกี่ยวอะไรกัน?"

"คำว่า เธอ น่ะใช้กับผู้มีศักดิ์ต่ำกว่ายังไงล่ะกับมนุษย์ที่เกิดมาแค่ไม่กี่ปีแบบเธอน่ะสู้ฉันที่อยู่มาหลายร้อยปีไม่ได้หรอก" มันว่าพร้อมกับยืดตัวขึ้นยืนตัวตรงบนป้ายบอกทางนั่น

"เอาล่ะฉันให้เลือกทางใหม่ ซ้ายหรือขวา ตรงหรือหันหลังกลับ?" บางทีผมก็เบื่อแยกนี่เต็มทน

ผมยืนยันที่จะเดินไปทางซ้าย พึ่งพิงความสงบต่อไปเพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อน

ปีศาจมองตามหลังผมพร้อมยิ้มเหนื่อยใจ วันนี้มันคงไม่ให้ผมเลือกทางแยกนี่อีกแล้วล่ะ

 

.

 

เสียงฝีเท้านับสิบที่วิ่งตามผม เสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายให้หยุด หรือแม้กระทั่งเสียงปืนที่ยิงขึ้นฟ้าเป็นระยะไม่ได้ทำให้ผมหยุดวิ่งเลย

และผมไม่รู้สึกเหนื่อยด้วย...กลับกันอะดีนารีนยิ่งพุ่งสูง ความกระหายที่จะมีชีวิตรอดเพิ่มขึ้นจนทำให้ผมวิ่งได้หลายไมล์ไม่มีหยุดพัก

ความน่าตื่นเต้นแบบนี้

สถานการณ์ใกล้ความตายทุกเมื่อแบบนี้

นี่แหละที่ผมต้องการมาตลอด

...ชีวิตที่ไม่จืดชืด

เสียงกระสุนปืนหนึ่งนัดดังมาจากซอกตึกใกล้ ๆ กับตัวผมเอง ตามมาด้วยความเจ็บจากการโดนกระสุนเจาะผ่านเนื้อ

และไม่ทันตั้งตัวกระสุนอีกนัดก็ถูกปล่อยออกจากปากกระบอกปืนฝังเข้าสมองผมทันที

ความทรงจำสุดท้ายที่มีคือเสียงจากที่ไหนซักที่พูดถึงกรณีการใช้ปืน

'กระสุนเจาะที่หัวใจจะทำให้เหยื่อมีเวลาอีกสี่ถึงห้าวินาทีในการโต้กลับเราแต่ถ้าจะให้ตายทันทีต้องยิงเจาะกลางหน้าผากผ่านสมองเท่านั้น'

จากนั้นสติผมก็ดับวูบลงไป พร้อมกับชีวิตของผมด้วย

"ยินดีต้อนรับกลับนะ" ภาพตรงหน้าเดิม ๆ ปีศาจตัวเดิม ในแยกเดิม

"ดวงคนใกล้ตายน่ะนะถึงแม้ว่าเธอจะเลือกอยู่อย่างสงบเป็นเดือนก็ตายอยู่ดี" ร่างประหลาดหุบปีกและไต่ลงมาจากป้ายบอกทางครั้งแรก

"นายรู้สินะว่าผมกำลังจะตายน่ะ" ปีศาจหัวเราะดังลั่นจนทำให้ปีศาจครอสโร้ดแยกใกล้ ๆ หันมามอง

"แน่นอนสิ ฉันก็เตือนเธอไปแล้วว่าให้เดินทางที่มันสนุกกว่าการอยู่อย่างสงบ" มันว่าพลางลากสัญลักษณ์ประหลาดลงพื้น

ขีดโยงเส้นไปมาเป็นรูปวาด

มันดูคล้ายดาวห้าแฉกแต่เส้นเยอะกว่า ลากระโยงระยางกว่าจนน่าสับสน

"นั่นอะไรน่ะ?" ผมถามออกไปในตอนที่มันวาดเสร็จพอดี

"บัญญัติ9มุม[1]" คำตอบของมันไม่ได้ช่วยให้ผมเข้าใจเพิ่มซักนิด

ไม่เคยมีข้อมูลเกี่ยวกับบัญญัติ 9 มุมในสมองของผมและผมหาความเชื่อมโยงกับมันไม่ได้ด้วย

มันเดินผ่านตัวผมไปฝั่งตรงข้ามเพื่อวาดอีกรูป

"สำหรับเธอถ้าจะคุ้นคงเป็นสัญลักษณ์นี้มากกว่า" มันเริ่มลากเส้นที่พื้นอีกครั้งแต่กลับเป็นรูปร่างที่ต่างออกไป

เมื่อองค์ประกอบทั้งหมดสมบูรณ์ ภาพของความทรงจำก็ไหลเข้าหัวของผมเหมือนเปิดก๊อกน้ำ

"เมื่อสามปีที่แล้วเธอเป็นคนวาดประตูลูซิเฟอร์[2]นี่เพื่อลบความทรงจำและเก็บด้านมืดที่เธอเคยทำทั้งหมดแลกกับชีวิตของเธอเอง แต่เพราะเธอดันทำผิดพลาดในขั้นตอนสุดท้ายเธอถึงได้ตัวตนอีกด้านเพิ่มเข้าไปแทน"

ความทรงจำไหลออกมาไม่หยุดทำให้ร่างกายของผมด้านชา

เพราะพี่ผมถูกแก๊งอันธพาลฆ่าตายผมจึงไล่'เด็ดหัว'พวกมันทีละคนจนพวกมันตายหมด

แต่ทั้ง ๆ ที่ฆ่ามันครบแล้วผมกลับไม่รู้สึกดีใจซักนิด กลับกันยิ่งรู้สึกผิดจนทนไม่ไหวจึงทำพิธีบ้านั่นตามโลกอินเทอร์เน็ต

หลังจากนั้นผมจึงเริ่มเจอปีศาจครอสโร้ด

ทุกครั้งที่ผมเลือกเดินไปทางขวา หลังจากหลับตาตัวตนอีกด้านของผมจะออกมาใช้ชีวิตแทนแต่มันกลับเป็นตัวตนที่มือเต็มไปด้วยเลือด

ภาพศพทุกศพที่ผมฆ่าเองกับมือหลั่งไหลย้อนเข้ามาในหัว ศพ...ที่ตรงกับในข่าว

"เพราะรู้สึกผิดที่ฆ่าคนมากเกินไป และเพราะกรอบของสังคมทำให้เธอใกล้เป็นคนไข้จิตเวชถ้าตอนนั้นเธอใช้เงินฟาดหัวตำรวจพวกนั้นแทนที่จะวาดประตูลูซิเฟอร์นี่ละก็...ป่านนี้เธอก็คงยังไม่ตายหรอก"

หลังจากนั้นผมก็เก็บตัวตลอด ลืมทุกอย่างราวกับกดรีเซตคอมพิวเตอร์ใหม่

ใช้ชีวิตผลาญเวลาไปวัน ๆ กับโลกอินเทอร์เน็ตและทีวี...ซึมซับความเกลียดชังพวกนั้นสู่ตนเอง

ศพแรกหลังจากที่ทำสัญญานั่นคือตำรวจที่รับสินบนจนคนร้ายหนีคดีได้

ศพที่สองคือหนึ่งในสมาชิกแพทย์สภาที่โกงเงินส่วนต่างของยา

ศพที่สามเป็นเจ้าอาวาสที่เอาเงินบริจาคไปใช้ส่วนตัว

ศพที่สี่นายพลเก่าที่เซ็นอนุมัติการคอร์รัปชันค่าทำอาคารในค่าย

ศพล่าสุด...รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ที่โกงสัมปทาน

ทุกศพเกิดจากการล่าแม่มดในโลกออนไลน์ที่ผมพบทั้งนั้น

"มนุษย์ก็แบบนี้ล่ะนะ กฎเกณฑ์เยอะแยะไปหมดจนทำให้คนกลายเป็นบ้า" ปีศาจยิ้มเยาะพลางพิงกับป้ายบอกทาง

"มันไม่ใช่เพราะกฎหรอกที่ทำให้พวกเราเป็นบ้า" ผมเห็นปีศาจชะงักกึกจึงพูดต่อ

"แต่เป็นสังคมที่บิดเบี้ยวขัดแย้งกับกฎต่างหากที่ทำให้พวกเราเป็นบ้า" 

กฎหมายที่เพอร์เฟคแต่ดันโดนพวกสารเลวหาช่องโหว่ใช้ตามอำเภอใจ

กฎที่ควรทำให้สังคมเรียบร้อยและสบายใจแต่คนที่คุมอยู่ดันเป็นพวกเห็นแก่ตัวและโกงกินบ้านเมือง

กฎที่ควรถูกเคารพแต่กลับโดน'คน'ทำให้มันหมดความน่าศรัทธา

สุดท้ายแล้วทำไมเรายังกล้าพูดว่ากฎไม่ศักดิ์สิทธิ์อีกล่ะ? ในเมื่อคนที่ตีกรอบทุกอย่างคือคนเราแท้ ๆ

 

.

 

"นั่นล่ะเรื่องของผม" ผมหันไปคุยกับครอสโร้ดทางซ้ายที่ชวนผมหาเรื่องเล่าแก้เบื่อ

"นายนี่ผ่านอะไรประหลาด ๆ มาเยอะเหมือนกันนะ" หลังจากวันนั้นที่ผมตายและรับรู้ความผิดของผมทุกอย่าง

ผมจึงกลายมาเป็น 'ปีศาจครอสโร้ด' แทนปีศาจตนนั้น

นั่งอยู่บนโคมไฟเหนือป้ายทางแยกนี่รอวิญญาณมาเยือน

แต่ผมไม่ได้มีรูปร่างประหลาดแบบเจ้านั่นหรอกนะ ผมก็ยังเป็นผม...มนุษย์ปรกติเพียงแค่ต้องมาเฝ้าแยกนี้เท่านั้น

ผมก็เพิ่งรู้นี่แหละว่าจริง ๆ แล้วที่นี่คือทางแยกที่ใช้ตัดสินว่ามนุษย์จะไปนรกหรือสวรรค์ ฟื้นกลับไปใช้ชีวิตอีกครั้งหรือเกิดใหม่

ส่วนวิญญาณหลงผิดที่ทำพิธีกรรมเมื่อไร้ร่างกายก็ต้องมาเฝ้าที่นี่จนกว่าจะมีใครมาทำหน้าที่แทน

ทุกวันนี้ก็ยังมีคำถามในหัวของผมวนไปซ้ำ ๆ

ถ้าวันนั้นผมใช้เงินแก้ปัญหาแทนการทำพิธีล่ะ?

ถ้าผมไปแจ้งตำรวจแทนที่จะฆ่าแก๊งบ้านั่นล่ะ?

หรือแม้กระทั่งถ้าผมตายแทนพี่ชายผมล่ะ? ชะตากรรมของผมจะเป็นแบบไหนนะ

 

----- Tier Valencia -----

เชิงอรรถ

  1. ^ “บัญญัติ 9 มุม” เป็นกลุ่มลึกลับที่อ้างว่า พวกเขาเป็นตัวแทนของความอันตรายและความรุนแรงของซานตาน พวกเขาจะเรียกตัวเองว่า ออพเฟอร์ (Opfer) ซึ่งหมายถึงการฆ่า หรือการเลียสละของมนุษย์ ในพิธีกรรมให้แก่ซาตาน
  2. ^ เครื่องหมายของลูซิเฟอร์ เป็นสัญลักษณ์ที่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ของลัทธิบูชาซาตาน เป็นตราสัญลักษณ์ที่ถูกใช้ระหว่างการทำพิธีกรรม ซึ่งเป็นประตูที่ใช้ในการเรียกลูซิเฟอร์ขึ้นมา พร้อมทั้งมอบพลังให้