2 ตอน ตอนที่ 2 ผู้พิทักษ์ของราชินีผู้ใช้พลังสายน้ำ
โดย มอแมวมีหนวดอยู่บนหลังคา
ในที่สุดแก้วก็ตัดสินใจที่จะเป็น ผู้พิทักษ์ของราชินี ให้รินใช้ร่างแล้วก็คอยปราบพวกลูกแก้วสีดำที่หน้าตาคล้ายเปรตวัดสามแพร่ง ดูเหมือนจะไม่มีอะไรยาก แต่ทว่าตั้งแต่เช้า พักเที่ยง จนคาบบ่ายก็ไม่ได้มีตัวอะไรโผล่มา ถึงแม้ความสงบสุขย่อมดีกว่าแต่แก้วที่กำลังร้อนวิชาก็อย่างจะตะลุยปราบตัวประหลาดมากกว่านั่งเรียนเฉยๆ
ในที่สุดก็ถึงคาบสุดท้ายจนได้ แก้วที่กำลังเบื่อหน่าย อยู่ๆก็รู้สึกอึดอัดแปลกๆ แก้วเริ่มนั่งเรียนอย่างกระสับกระส่าย สมาธิหลุดไปจากเรื่องที่ครูสอน จนเอ็นจอยเริ่มสังเกตเห็นและกระซิบถาม
“แกเป็นไรป่ะเนี่ย”
“ไม่รู้ดิ อึดอัดแปลกๆ”
“วันนั้นของเดือนปะแก?”
“บ้าหน่า ไม่ใช่ช่วงนี้” แต่ความรู้สึกแปลกๆนี้มันอะไรกันนะ หรือว่าจะเกี่ยวกับพวกลูกแก้วสีดำ?
‘ความรู้สึกไวดีนะ ถูกต้องแล้วล่ะ พวกมันโผล่มา กำลังอาละวาดเลย ที่เธออึดอัดก็เพราะรู้สึกถึงพวกมันนั้นแหละ’
“ห๊ะ!!!” แก้วเผลอหลุดส่งเสียงออกมา เพื่อนคนอื่นเริ่มหันมามองด้วยสีหน้าแปลกๆ
“อะไรของแก หลับพึ่งตื่นรึไง แกไหวป่ะเนี่ย” เอ็นจอยถามน้ำเสียงทั้งตกใจและเป็นห่วง
“เปล่า ๆ ไม่มีอะไร” แก้วยิ้มแหย ๆ ให้เพื่อน การคิดนอกใจมันไม่ดีอย่างนี้นี่เอง แก้วต้องพยายามคิดในใจเข้าไว้
หลังหมดคาบทำความเคารพคุณครูแล้วแก้วก็วิ่งไปยังจุดเกิดเหตุอย่างไม่คิดชีวิต ‘ทำไมไม่รีบบอกล่ะริน’ แก้วคิดขณะที่กำลังวิ่งไป
‘อย่างกับว่า บอกแล้วคนอย่างเธอจะลุกออกมาได้อย่างนั้นแหละ’ ก็จริงของริน คาบสังคมที่ครูดุขนาดนั้นแก้วคงแกล้ง ๆ โกหกแล้วหาเรื่องออกจากห้องไม่ได้แน่ ดูเหมือนรินจะรู้นิสัยของแก้วเป็นอย่างดี
ในที่สุดก็มาถึงที่ที่เจ้าตัวประหลาดอาละวาด โชคดีที่เป็นอาคารโกดังเก็บของและโรงจอดรถโรงเรียนแก้วรู้สึกโล่งใจนิด ๆ เพราะแถวนี้คงไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ ในที่สุดเมื่อแก้วเลี้ยวไปทางโกดังก็มองเห็น นั้นไงล่ะ! เจ้าก้อนโคลนจากลูกแก้วสีดำ แต่ทว่า ที่น่าตกใจคือมันกำลังไล่จับนักเรียนหญิงคนหนึ่งอยู่
‘แย่แล้ว ต้องรีบแล้ว’ ถึงรินจะพูดแบบนั้น แต่ร่างกายที่ทักษะการกีฬาอ่อนด้อยของแก้วไม่มีทางเข้าไปช่วยเด็กคนนั้นที่อยู่ห่างเป็นร้อย ๆ เมตรได้ทันแน่ ตัวประหลาดจับที่ศีรษะของเด็กหญิง เกิดละอองแสงสีขาวลอยขึ้นจากตัวเด็กหญิงลอยเข้าไปในตัวเจ้าตัวประหลาดเหมือนกับว่ามันกำลังดูดพลังจากเด็กคนนั้น ทันทีที่เด็กคนนั้นสลบไป เจ้าตัวประหลาดก็กลายร่าง ตอนนี้มันไม่ใช่ปีศาจโคลนเชื่องช้า มันกลายเป็นสัตว์ประหลาดรูปร่างเหมือนเต่ายักษ์ที่ยืนสองขาและสูงเกือบเท่าหลังคาโรงเก็บของ!
มันหันมาทางแก้วที่ยืนอยู่กลางถนน เจ้าเต่าคำรามและวิ่งมาทางแก้ว ถึงจะมีรูปร่างเป็นเต่า แต่เต่าปีศาจกลับวิ่งด้วยความเร็ว พื้นแถวนั้นสะเทือนไปตามก้าวย่างที่มันวิ่ง
‘ทำไงดีริน ทำไงดี’ แก้วเริ่มจะคุมสติไม่อยู่ หันหลังวิ่งโดยอัตโนมัติ ไอ้เต่าบ้าเกิดมาเป็นเต่าก็ต้องวิ่งช้าๆสิยะ มือก็งมหาลูกแก้วในกระเป๋าด้วยมือที่สั่นเทา แทบไม่ได้ฟังเสียงริน
‘ใครบางคน’ที่เดินสวนมา ทำให้แก้วรีบหันไปห้ามไว้ “ไปทางนั้นไม่ได้นะ...”
“ไปหลบในที่ปลอดภัยนะ” เธอคนนั้นยิ้มให้แก้ว ผมยาวสีดำเหลือบน้ำเงินสลวยถึงกลางหลัง ชุดที่คล้ายกับรินแต่เปลี่ยนเป็นผ้าแพรสีฟ้าพลิ้วไหวเหมือนกับธารน้ำ กระโปรงสั้นสีดำ และรองเท้าบูทยาวสีดำถึงเข่า สาวปริศนาเดินไปเผชิญหน้ากับเจ้าเต่าปีศาจอย่างไม่เกรงกลัว เธอผายมือ ละอองแสงลอยออกมาและก่อตัวเป็นทรงกลมก่อนจะกลายเป็นก้อนน้ำขนาดย่อม คลื่นทะเลคลั่งหมุนวนในก้อนน้ำทรงกลมดูทั้งงดงามทั้งหน้าสะพรึงกลัว เธอซัดมันใส่เจ้าเต่า เจ้าเต่ากรี๊ดร้องมันกระเด็นออกไปเพราะแรงกระแทกของมวลคลื่นน้ำ
‘นั้นใครอ่ะ ผู้พิทักษ์อีกคนเหรอ?’ แก้วที่เลือกจะหลบและแอบดูในมุมหนึ่งถามริน
‘นีรนารา ผู้พิทักษ์ของราชินี ผู้ใช้พลังสายน้ำ’ รินแนะนำ
ตอนนี้เจ้าเต่าเก็บแขนขาเข้าไปในกระดองแล้วก็นิ่งไป
‘สำเร็จไหม?’ แก้วเอาใจช่วย แต่เจ้าเต่าก็เริ่มขยับมันหมุนรอบตัวเองเป็นวงกลม และเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ นีรนารา มองมันอย่างระมัดระวัง แล้วลูกข่างเต่ายักษ์ก็พุ่งเข้าใส่เธอ!!!
นีรนารากระโดดหลบพร้อมกับเสกลูกแก้วน้ำลูกใหม่ซัดใส่เจ้าเต่า แต่เจ้าลูกข่างเต่ายักษ์ไม่ได้สะทกสะท้าน มันพุ่งเข้าใส่ผู้ใช้พลังสายน้ำอีก ‘แย่แล้ว เราต้องไปช่วยเขาไหม’ แก้วที่พึ่งนึกออกว่าตัวเองก็ใช้พลังได้ถามริน แก้วเททุกอย่างในกระเป๋าสตางค์ออกในที่สุดก็เจอจี้ลูกแก้ว
‘ไม่จำเป็นหรอก เด็กคนที่ถูกดูดพลังมณีเป็นมณีธาตุน้ำ เจ้าเต่านั่นจึงต้องผนึกโดยผู้ใช้พลังสายน้ำเท่านั้น ไม่อย่างนั้นถ้าเราใส่คาถาของเราเข้าไปจะกลายเป็นการเพิ่มพลังธาตุดินให้กับมัน’ คำตอบของรินทำให้แก้วชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็หยิบจี้ลูกแก้วขึ้นมาถือไว้ ก่อนที่สถานการณ์ของผู้ใช้พลังสายน้ำที่กำลังเสียเปรียบจะดึงความสนใจของแก้วไป
เจ้าเต่าลูกข่างพุ่งใส่นีรนาราด้วยความเร็วสูงซ้ำๆ จนนีรนาราพลาดท่าเสียหลักล้มลงไป เจ้าเต่าใช้วินาทีนั้นพุ่งเข้าใส่นีรนารา
‘แย่แล้วริน!!!’ แก้วรู้สึกตกใจกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า ผู้พิทักษ์คนนั้นคงถูกเล่นงานแน่ๆ เธอกำลูกแก้วในมือแน่นโดยไม่รู้ตัว ชั่วพริบตานั้นก็เกิดแสงสว่างวาบขึ้น และสิ่งที่ลูกข่างเต่าพุงชนกลับกลายเป็นกำแพงหินขนาดใหญ่ที่โผล่ขึ้นมาขวางระหว่างนีรนารากับปีศาจเต่าได้อย่างเฉียดฉิว!
ฝีมือของรินนั้นเอง แก้วอยู่ในชุดของผู้พิทักษ์มือทั้งสองข้างแนบกับพื้นดินและส่งพลังไปช่วยนีรนารา
แรงสะท้อนทำให้เจ้าเต่าลูกข่างกระเด็นออกจากกำแพงหิน มันกลับเป็นร่างเดิมและอาละวาดทำลายกำแพงหินอย่างเกรี้ยวกราด นีรนาราใช้จังหวะนี้ชูแก้วสีฟ้าใสขึ้นเหนือศีรษะ ละอองแสงจากลูกแก้วกระจายออกเป็นวงกลม บางอย่างเคลื่อนที่ออกมา ‘ปลายักษ์?’ แก้วอุทานอยู่ในใจ
‘มีน’ คือภูติประจำตัวของนีรนารามีรูปร่างปลาสีเงินขนาดใหญ่เกือบเท่ารถยนต์ แหวกว่ายอยู่ในอากาศ สะบัดครีบหางซึ่งไล่สีฟ้าน้ำเงินอย่างงดงาม ละอองแสงสีฟ้าของนีรนาราหมุนวนอยู่รอบตัวเจ้าปลาสีเงิน เจ้าเต่าเริ่มรู้ชะตากรรมของตัวเองมัดหดขาเข้ากระดอง เปลี่ยนตัวเองให้เป็นลูกข่างอีกครั้ง เจ้าเต่าหมุนเข้าใส่นีรนารา
“ขอสายน้ำอันบริสุทธิ์ขององค์ราชินีจงชำระล้างเหล่าละอองแสงกลับคืนเป็นมณีพิสุทธิ์ดังเดิม” ทันทีที่ร่ายคาถาจบ ปลาสีเงินของนีรนาราก็สร้างเกลียวคลื่นขนาดใหญ่เข้าปะทะกับเจ้าเต่า แรงสั่นสะเทือนการการปะทะสาดละอองน้ำและละอองแสงสีฟ้าไปทั่วบริเวณราวกับมีพายุฝนขนาดใหญ่ เมื่อทุกอย่างสงบนิ่งชัยชนะเป็นของผู้พิทักษ์ผู้ใช้พลังสายน้ำ
ที่ที่เคยมีเจ้าเต่ายักษ์เหลือเพียงลูกแก้วตกอยู่ แต่มันไม่ใช่ลูกแก้วสีดำเปล่าๆ มันคือลูกแก้วสีขาวที่ด้านในมีละอองแสงพลิ้วไหวอยู่ด้านใน นีรนาราเก็บลูกแก้วนั้นขึ้นมาก่อนจะวิ่งไปยังเด็กหญิงที่สลบอยู่ เธอเป็นเพียงแค่เด็ก ม.3 เท่านั้น นีรนาราออกแรงบีบลูกแก้ว ละอองแสงด้านในกระจายออกมาและลอยกลับเข้าไปในตัวเด็กหญิง ทุกอย่างเหมือนจะคลี่คลายในทางที่ดี รินที่หลบมุมอยู่กำลังจะหันหลังกลับ
“ริน นั้นรินใช่ไหม?” เสียงของนีรนาราทำให้รินชะงักไปเล็กน้อย “ขอบคุณมากเลยนะ” น้ำเสียงของนีรนาราสดใสและเป็นมิตร แต่ทว่ารินเพียงแต่เดินจากมาเมื่อลับตาคนก็คืนร่างกลับเป็นชุดนักเรียนแบบเดิม
‘ทำไมดวงมณีของฉันถึงได้ขี้เก๊กนักนะ ถ้าเป็นฉันคงวิ่งเข้าไปขอจับมือสัก 3 รอบละ นีรนาราดูจะเป็นคนสวยและอ่อนโยน เธอดูหน้าคุ้น ๆ แต่กลับนึกไม่ออกว่าเหมือนกับใคร’ แก้วได้แต่บ่นในใจ
‘ไม่แปลกหรอก เธอจะเห็นว่าเขาเป็นคนที่รู้จัก แต่พอนึกหน้าชัด ๆ กลับนึกไม่ออก นั้นเป็นเพราะ ดวงมณีทุกดวงจะได้รับ ‘พรขององค์ราชินี’ เพื่ออำพรางใบหน้าเอาไว้ เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย เพราะดวงมณีจะมีหน้าตาเหมือนกับร่างมนุษย์ หากเกิดอะไรขึ้นกับร่างใดอีกร่างจะได้รับผลกระทบไปด้วย’
‘มีอีกอย่างที่สำคัญมากนะ...’ น้ำเสียงของรินทำให้แก้วเผลอหยุดเดินเพื่อตั้งใจฟัง
‘ถึงดวงมณีทุกดวงจะได้รับพรอำพรางใบหน้าเมื่อแรกเกิดมาบนโลกมณีก็จริง แต่เราใช้พรข้อนั้นแลกกับอย่างอื่นไปแล้ว ฉะนั้น ไม่ควรให้ใครรู้เรื่องที่เราเป็นผู้พิทักษ์ของราชินีดีกว่านะ มันอันตรายกับเราทั้งคู่’
น้ำเสียงของรินจริงจังมากแก้วนิ่งไปเล็กน้อย สัมผัสได้ถึงสิ่งยิ่งใหญ่และหนักอึ้งที่รินแลกมันมา สิ่งนั้นมันคืออะไรกัน ? ต้องปกป้องโลกไปพร้อมกับปิดบังตัวเอง เธอจะทำได้จริง ๆหรือ?
.
แก้วกลับมาเก็บของในห้องเรียน เกือบ ๆห้าโมงเย็นแล้ว เอ็นจอยส่งข้อความมาหาด้วยความเป็นห่วงที่เห็นแก้ววิ่งออกจากห้องไปแบบนั้น เอนจอยต้องไปซ้อมกับชมรมcover danceทุกเย็นจึงอยู่รอแก้วไม่ได้ แก้วจึงตอบกลับไปว่า รีบไปเข้าห้องน้ำเพราะปวดท้อง แล้วเก็บของเตรียมกลับบ้าน
แก้วเดินกลับบ้านเพราะโรงเรียนไม่ได้ไกลมาก เมื่อเดินมาเรื่อยๆตามทางขณะนั้นเอง “ปี๊บๆ!!” เสียงบีบแตรจากข้างหลัง พร้อมกับมีมอเตอร์ไซด์มาจอดข้างๆ เมื่อหันไปก็ทำให้แก้วประหลาดใจไม่น้อย
“ไอซ์!!” นักเรียนหญิงเจ้าของมอเตอร์ไซด์สีดำยิ้มให้แก้วอย่างคุ้นเคย
“ไปส่งป่าว?” ไอซ์ถามพร้อมกับรอยยิ้ม แก้วโดดขึ้นรถอย่างว่าง่าย ทั้งแปลกใจและดีใจที่ได้พบเพื่อนสนิทสมัยประถม น่าเสียดายที่ต้องแยกห้องกันตอนม.ต้นแม้ว่าจะได้เรียนที่เดียวกันก็ตาม
“สบายดีไหม ไปไงมาไงไม่ได้เจอกันเลย” แก้วถามเพื่อน พอจะรู้อยู่ว่าปกติเพื่อนไม่ได้กลับบ้านทางนี้
“เรื่อย ๆ แหละ เป็นไงมั่ง จะไปตลาดรึป่าว?” ไอซ์ถามกลับ
“ไม่ล่ะ วันนี้ป้าไม่ขายของ” แก้วตอบ ไอซ์ยังจำกิจวัตรประจำวันของแก้วได้ดี เธอต้องไปช่วยป้าขายกับข้าวในตลาดหลังเลิกเรียน
“งั้นไปส่งที่บ้านเลยนะ” มีคำถามเรื่อยเปื่อยนิดหน่อยระหว่างทาง ไม่นานก็ถึงบ้านของแก้ว
“ขอบคุณนะ” แก้วจะชวนเพื่อนแวะบ้านแต่เพื่อนก็พูดขึ้นซะก่อน “วันหลังเดี๋ยวมาเล่นด้วยนะ”ไอซ์ยิ้มน้อย ๆ ไอซ์มีโครงหน้าแบบคนเชื้อสายจีนผสมกับความสวยคมแบบไทย ยิ่งยิ้มยิ่งน่ามอง ไม่ได้เจอกันนานเพื่อนโตมาแล้วดูดีขนาดนี้เชียว แก้วยิ้มตอบ “อาเคร ยังไงก็ขอบคุณนะ”
“เอ่อนี้..” ก่อนที่แก้วจะหันหลังเข้าบ้าน ไอซ์ก็เรียกไว้ “ช่วงนี้มันอันตราย อย่าไปไหนมาไหนคนเดียวเลยนะ” น้ำเสียงของไอซ์จริงจังและเจือความห่วงใย ก่อนที่จะออกรถไป
แก้วได้แต่มองตามงง ๆ ช่วงนี้ไม่ได้มีแก็งลักพาตัวเด็กอาละวาดเสียหน่อย ขณะที่มองตามหลังเส้นผมสีน้ำเงินสลวยปลิวไปตามลมนั้นดูคุ้นตาเหลือเกิน
ทันทีที่แก้วเดินเข้าบ้าน ป้าตองก็เข้ามาหาเหมือนรออยู่แล้ว “อ้าว ป้าจะไปไหนอะ..” แก้วยังพูดไม่จบป้าตองก็แทรกขึ้นมาก่อน “แก้ว ไปไหว้ขอบคุณแม่เจ้านางกัน ป้าเตรียมของไว้หมดแล้ว!”
“ไหว้ขอบคุณ..ใครนะ?”
“ก็แม่เจ้านางไง จำได้ไหมที่แก้วฝันเห็นเจ้านางพระราชทานลูกแก้วทองให้ไง ป้าถูกล็อตเตอรี่หลายใบเลยนะ! ป้าชื่นแผงข้าง ๆ เขาซื้อตามก็ถูก” ป้าตองเล่าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“ต้องเป็นพระแม่เจ้านางแน่ ๆ ที่มาเข้าฝันแก ไป ๆ เรารีบไปทำพิธีขอบคุณแม่เจ้านางกันดีกว่านะที่ท่านประทานโชคลาภมาให้ท่านต้องเอ็นดูแกแน่ไอ้แก้ว!!”
'แม่เจ้านาง' ที่ป้าตองพูดถึงว่ากันว่า ท่านคือธิดาของกษัตริย์โบราณที่พาผู้คนมาตั้งถิ่นฐานยังเมืองแห่งนี้และท่านยังเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิที่เคารพนับถือและปกป้องคุ้มครองชาวเมืองไว้อีกด้วย ในฐานะเด็กที่เติบโตมากับเรื่องเล่าประจำจังหวัด แก้วย่อมเคารพนับถือแม่เจ้านางไม่น้อย แต่ทว่า ที่มอบลูกแก้วให้เธอในฝันน่ะ คือรินต่างหาก ดูเหมือนเจ้าแม่รินจะให้หวยแม่นซะแล้ว จะบอกความจริงกับป้าก็ไม่ได้ แก้วก็ต้องเลยตามเลยแบบเซ็ง ๆ
ป้าเลือกมาทำพิธีที่สวนสาธารณะริมน้ำ เชื่อกันว่า “บึงจ้าวนาง” ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่เป็นแหล่งน้ำสำคัญประจำจังหวัดคือที่สถิตของแม่เจ้านาง เนื่องจากมีการค้นพบฐานของปราสาทหินโบราณตั้งอยู่บน'ดอน'หรือเกาะกลางทะเลสาบ
พิธีคงจะเสร็จไปนานแล้วถ้าป้าไม่มัวแต่เม้าท์กับป้าชื่นและคนที่ดูเหมือนเป็นร่างทรงที่ป้าเรียกว่า อาจารย์นดา
“หนูเนี่ย ดูเหมือนจะมีพลังศักดิ์สิทธิติดตัวนะ แต่พลังก็มาพร้อมภาระและอาจจะดึงดูดสิ่งไม่ดีได้ด้วยหนูต้องระวังมากๆ” อาจารย์นดาเอ่ยทันทีที่เจอหน้าแก้ว แก้วเกือบจะขนลุกอยู่แล้วถ้าป้าชื่นไม่ทักขึ้น
“นี่ไงแก้ว มาทำพิธีไหว้แม่เจ้านาง ให้ท่านคุ้มครอง ให้ท่านรัก ให้ท่านเอ็นดูอีกบ่อย ๆ” ประโยคหลังเหมือนเหล่าป้า ๆ จะคิกคักเป็นพิเศษ หลังจากทำพิธีเสร็จแก้วก็ขอป้าไปเดินเล่นในสวนสาธารณะต่อ
เดินลัดเลาะมาตามทาง บรรยากาศยามเย็นราวหกโมงเย็น ผู้คนมาที่สวนสาธารณะ เดินเล่น ออกกำลังกาย เสียงดนตรีจากลานแอโรบิคทำให้เมืองที่เงียบเหงาดูคึกคักขึ้นมาบ้าง แก้วเดินไปตามริมทางฝั่งที่ติดกับผู้คนเริ่มบางตาลงเพราะใกล้เวลาพระอาทิตย์ตกดิน แก้วมองไปยังทะเลสาบเบื้องหน้า เงาดวงอาทิตย์สะท้อนบนฝืนน้ำ ฝูงนกพากันบินกลับรัง บรรยากาศที่ชวนให้เหงาหงอยไม่น้อย แก้วหันหลังกลับก่อนจะสังเกตเห็นใครบางคน
“ไอซ์!!”
ไอซ์ที่นั่งกอดเข่าอยู่บนในมุมลับตาคน หันมามองแก้วด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย
“นึกว่ากลับบ้านไปแล้วนะเนี่ย” แก้วถือวิสาสะนั่งลงข้าง ๆ “นัดใครไว้หรือเปล่า” ไอซ์ส่ายหน้าเล็กน้อยสีหน้าท่าทางของเพื่อนเหมือนจะมีบางอย่างในใจ เมื่ออยู่ต่อหน้าไอซ์ยังทำตัวปกติแต่พออยู่คนเดียวก็นิ่งเงียบไป แก้วไม่รู้เลยว่าช่วง 3 ปีที่ไม่อยู่ด้วยกัน ไอซ์เป็นยังไงบ้าง มีข่าวลือบอกว่าไอซ์คบเพื่อนไม่ดีและทำตัวเปลี่ยนไป แต่ไอซ์ที่แก้วเห็นก็เหมือนเดิม แก้วสังเกตท่าทางนั้นของเพื่อน
“มีอะไรก็ลองเล่าให้เราฟังได้นะ”
“ก็...ไม่..ไม่มีไรหรอก” ไอซ์เหมือนจะพูดแต่ก็เปลี่ยนใจและยังพยายามทำตัวให้ร่าเริง นั้นทำให้แก้วรู้สึกเศร้าใจเล็กน้อย แก้วก้มลงเก็บก้อนหินก้อนเล็ก ๆ ที่ตกอยู่ขึ้นมาแล้วยื่นให้ไอซ์ ไอซ์รับมาอย่างงงๆ
“ระบายออกซะบ้าง” แก้วปาก้อนหินก้อนน้อยลงน้ำ ไอซ์ลองโยนบ้างก้อนหินเล็กๆจมลงน้ำไป
“แรงตกไปเยอะเลยนาา เราปาได้ไกลกว่าตั้งเยอะ” แก้วออกแรงเหวี่ยงก้อนหินลงน้ำได้ไกลกว่าเดิมเล็กน้อย ไอซ์ลองออกแรงเพิ่มแน่นอนว่าไกลกว่าแก้วและคราวนี้ก้อนกินยังกระเด็นกระทบกับผิวน้ำ2-3ครั้งก่อนจะจม “เห้ย! ได้ไงอะ” แก้วเริ่มลุกขึ้นมาหาก้อนหินแบน ๆ แล้วลองโยนบ้าง การแข่งขันเล็ก ๆ ทำให้ไอซ์เริ่มยิ้มออกมาบ้าง แก้วเองก็รู้สึกดีไปด้วย ก่อนที่แก้วจะสังเกตเห็นบางอย่างเคลื่อนไหวในทะเลสาบ
ผิวน้ำกระเพื่อมอย่างรุนแรงทั้งที่ไม่มีใครโยนก้อนหินลงไป.. บางอย่างกำลังดันตัวขึ้นมาจากผิวน้ำ!
ปีศาจรูปร่างคล้ายคน เนื้อตัวประกอบขึ้นจากก้อนโคลนและเศษโสโครกน่าเกลียดโผล่ขึ้นมาจากน้ำ!!!
“น...นี่เราปาก้อนหินไปโดนหัวมันเหรอ?” แก้วพูดออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย จากมุมของไอซ์ดูเหมือนแก้วจะสติหลุดไปแล้ว!! ปีศาจโคลนที่โผล่พ้นน้ำมาแค่ครึ่งตัวแต่ก็ตัวใหญ่ไม่แพ้ตัวที่แก้วเจอที่โรงเรียนเลย
ไอซ์พยายามดันแก้วไปข้างหลัง เอาตัวเองบังเพื่อนไว้
“ว้ากก!!” คราวนี้แก้วเหมือนจะสติหลุดของจริงเมื่อมีปีศาจโคลนตัวที่ 2 โผล่ขึ้นมาจากน้ำ!! แถวนี้เป็นรังของมันหรือไง?
“แก้วหลบไปหาที่ปลอดภัยก่อนนะ พยายามกันคนไม่ให้เข้ามาแถวนี้” ไอซ์ดันแก้วไปทางอื่น
“แล้วไอซ์จะทำอะไร จะสู้กับมันหรอ? หนีไปด้วยกันสิ” แก้วพยายามดึงเพื่อนไปด้วย แต่เพื่อนยังดึงดันที่จะอยู่
‘หลบไปอัญเชิญมณีก่อนแล้วค่อยกลับมาช่วยเพื่อนสิแก้ว’ เสียงของรินทำให้แก้วได้สติ
“รอก่อนนะไอซ์” แก้วหันหลังแล้วเริ่มหามุมเพื่อวิ่งไปหลบ แต่แสงสว่างสีฟ้าจ้าข้างหลังทำให้แก้วหันกลับไปทางเดิม
ไม่นะ!! หรือไอซ์จะถูกดูดพลังมณีไปแล้ว!!
แต่เมื่อหันกลับไปมอง ที่ยืนอยู่ด้านหลังไม่ใช่ไอซ์อีกแล้ว แสงสว่างสีฟ้าอันอ่อนโยนส่องสว่างแทนแสงตะวันที่ลับฟ้าไป ผ้าแพรสีฟ้าอ่อนที่โปกพลิ้วราวกับสายน้ำ เส้นผมสีดำเหลือบน้ำเงิน
ไอซ์คือ นีรนารา ผู้พิทักษ์ของราชินีผู้ใช้พลังสายน้ำ
Comments (0)