1 ตอน เหม็นหน้าโอเมก้า
โดย Conssippiees
เออ
เหม็นหน้าโอเมก้าแม่งผิดปะวะ
เป็นอะไรทำไมพิศวาสอยากจะเสพสังวาสเจ้านายกูจัง
โทรๆๆๆ เช้าเย็นๆ หากูเพราะคิดว่านี่เบอร์นายเนี่ย น่ารำค๊าญ น่ารำคาญ
เหมือนนายให้เบอร์เป็นอยู่คนเดียวคือผมอะ แล้วขี้แม่งตกใครอ่ะ
ก็กู
กู
กู
กู
แล้วก็กู
เยอะมาก ประชากรที่เจ้านายใช้
เออ คือผมเข้าใจเว้ยว่าเจ้านายเป็นอัลฟ้าหล่อล่ำแมนแรงแซงทางโค้ง สาวน้อยใหญ่ ลูกเด็กเล็กแดงก็โดนนายผมตกเรียบ sex appeal เยอะปรอทแตกเหมือนโกงค่าจากเซลเซียสเป็นเคลวิน
เห็นเขาว่าเจ้านายนี่ฟีโรโมนกลิ่นเหมือนกลิ่นไวน์ ไอ้เราเป็นเบต้านี่ก็ไม่มีความสามารถจะมาได้กลิ่นฟีฟี่หอมๆ นี่ได้หรอก
#ทวงคืนสิทธิ์เสียงให้ที่ยืนเบต้า
ขอแนะนำตัวเองสักครู่ ผมชื่อปรัชญ์ aka ดิเรกวิชญ์ ปราชญวัฒน์ เป็นมาร์เก็ตติ้งไดเร็คเตอร์โง่ๆ ธรรมดาๆ คนนึงที่ทำงานอยู่บริษัทอนันตกาล จำกัด. มหาชน
ส่วนเจ้านายสุดฮอตผมชื่อกิตติ์ เกริกศิลป์ สำราญเวชธาดา เป็นอัลฟ่าชั้นสูง เป็นเจ้าของกิจการบริษัทขายขนมรายใหญ่ เป็นคนเรียนเก่ง เป็นคนหล่อรวยเท่เฟี้ยว เป็นคนพี่ชายแสนดี
โอ้ย เจ้านายเขาเพอร์เฟ็คต์จนน่าหมั่นไส้อ่ะแม่ง
กลับมาประเด็นผมเหม็นหน้าโอเมก้าที่ใคร่ในกามกับเจ้านาย
จริงๆ เจ้านายไม่ได้มั่วเก่งขนาดนั้น แต่เจ้านายเล่นกับคนเดิมบ่อย แบบว่าวีคนึงอาจมีชื่อนาย/นางสาวเอติดโผจัดคิวเสียบสักสามวันประมาณนี้
(อิเลขาเลวมันส่งมาให้ผมครับ ผมต้องช่วยมันจัดตารางสับรางรถไฟ)
และใช่ อิเจ้านายมันเล่นไม่เลือกเพศครับ จะหญิงชาย อัลฟ่า เบต้า แกมม่า โอเมก้า 3,6,9 อะไรคั่วได้ก็ขอหมด
แต่ในหมู่อีหนูเล่นขี้ของเจ้านายโอเมก้าจะติดท็อปชาร์ตสิบคนแรกที่เจ้านายเล่นด้วยบ่อยที่สุดเสมอ
ซึ่งหากรวมกับจุดนั้นที่ว่าเจ้านายโซฮอตแอสฟัคเนี่ย
โอเมก้าก็โคตรอยากจะเข้าหาเจ้านายเลยครับ
ปัญหาตกกับใคร
กู
ไง
ครับ
ปรัชญ์เอง
ทันใดนั้นเพลง ใจเกเร มันก็ดังขึ้นมา
{Kitti} แม่ง ชื่อกิตติ์ดีๆ เสือกบ้าจี้ชอบคิตตี้เลยตั้งชื่อเป็นคิตตี้ เข้ากับหน้ามั๊ยไหนพูด
"ฮัลโหลครับคุณเกริกศิลป์"
[ปรัชญ์รวี ช่วยส่งไฟล์ผลประกอบการจากแผนกเซลล์มาเข้าเครื่องฉันหน่อยได้ไหม] มาอีกแล้วครับเจ้านายแสนเพอร์เฟ็คต์แต่จำชื่อไดเร็คเตอร์สี่คนของบริษัทไม่ได้
"ผมชื่อดิเรกวิชญ์ครับ"
[ดิเรกฤทธิ์?]
"วิชญ์ครับ วิชญ์ที่เป็นนักปราชญ์"
[อ๋อ โอเค ส่งมาด้วยนะ บาย]
ติ้ด
สายโดนตัด
กูชักเริ่มเหม็นอัลฟ่าด้วยละไอ้ห่านี่
ต่อยสักหมัดไหม ฮอร์โมนนักเลงมันยิ่งเดือดๆ อยู่
เพลง ใจเกเร ดังอีกรอบ
{Priya} คราวนี้เป็นไดเร็คเตอร์ฝั่งโรงงานชื่อปริยา
"ฮัลโหล ว่าไงปริยา"
[ปรัชญ์ อีกิตติ์เอาอีกแล้ว มันมาอีกแล้ว]
จังหวะนั้นผมรู้เลยว่าเจ้านายแม่งสร้างเรื่องอีกแล้ว ผมกับปริยาเราสนิทกันเหมือนพี่น้องฝาแฝด มองตาก็รู้ใจ เพราะอายุงานเท่ากันแถมมีเรื่องบ้าเรื่องบออะไรไม่รู้ให้ผมต้องไปดูฝั่งโรงงานบ่อยๆ ผมเลยสนิทกับปริยาไปโดยปริยาย
"เกิดไรขึ้น"
[อีแต๋ว ศุกร์สามทุ่ม]
โค้ดรหัสรับของผม ปริยา และพลอย(อิเลขาเลว) สำหรับเรียกอิหนูคือ อิ__ ตามด้วยวันและเวลาครับ
"อยู่ไหน"
[ประตู 4 ฝั่งโรงงาน]
"ได้ เดี๋ยวไป"
แม่ง กูไม่ทงไม่ทำมันแล้วส่งไฟล์ ขอตัวไปจัดการปัญหาก่อนนะครับ
"ปรัชญ์รวี" กิตติ์ทักผมขณะตนกำลังทำท่าคิดเหมือนรูปปั้นเดวิด ส่วนผมกำลังนั่งทำสไลด์อยู่ในห้องตัวเอง
ไอ้คุณกิตติ์มึงมานั่งห้องกูทำไม กลับห้องมึงไป!
"ปรัชญ์ ดิเรกวิชญ์ครับ" - "มีอะไรเหรอครับคุณเกริกศิลป์"
"มุจลินท์หรือภุชงค์"
"ครับ?" อยู่ดีๆ ทำไมเจ้านายก็พูดถึงคู่แฝดโอเมก้าตัวปัญหาขึ้นมาวะ
"ฉันถามว่ามุจลินท์หรือภุชงค์"
ขอทำตัวโง่ๆ แปปนึงนะ หมั่นไส้แล้วอยากกวนตีนเจ้านาย "คุณเกริกศิลป์ทำไมอยู่ดีๆ พูดถึงงูกับบ่อน้ำขึ้นมาละครับ อ่านวรรณคดีมัธยมปล่ยแล้วอินเหรอครับ"
เผื่อคุณไม่รู้ มุจลินท์ไม่ใช่แค่ชื่อนายเอกจากนิยายเรื่องหนึ่ง แต่แปลว่าบ่อน้ำที่นางมัทรีเปรียบเทียบตัวเองกับลูกสองคนที่เป็นเป็ด
ส่วนภุชงค์ ภุชงค์มาจากภุชงคประยาตฉันท์ ๑๒ เป็นฉันท์ที่ลีลาหล่อเท่เหมือนงูเลื้อย ไม่ใช่แค่นายเอกนิยายเรื่องหนึ่งเช่นกัน
ถามว่ารู้ได้ไง - น้องชายครับ(กระซิบ)
เจ้านายถึงกับกุมขมับ "อย่ากวน"
"ครับรู้แล้ว แล้วคุณเกริกศิลป์จะถามถึงคู่แฝดทำไมครับ"
"นายว่าคนไหนเก่งกว่ากัน"
"แรงค์เป็นซุปเท่ากันนี่ครับ แต่เหมือนภุชงค์จะเป็นการเป็นงานกว่า" ครับ อันนี้ผมรู้เพราะภุชงค์อยู่แผนกผมบวกกับผมค่อนข้างสนิทกันกับไดเร็คเตอร์ฝ่ายขายที่มุจลินท์เป็นซุปอยู่เลยพอรู้ๆ พฤติกรรมบ้าง "มุจลินท์ก็ทำงานดีครับ ติดตรงฮีทมาไม่ตรงวัน สายคัดคอไม่ชอบใส่ ขยันถอดมาก"
ไอ้ผมเนี่ยไม่ได้เหยียดนายมุจลินท์จริงๆ นะ จริงจริ๊ง
"ฉันไม่ได้ถามเรื่องงาน ฉันถามเรื่องบนเตียง"
"ทุเรศแล้วไอ้กิตติ์" เออมีอย่างนึงยังไม่ได้บอก
ผมกับเจ้านายเป็นเพื่อนร่วมห้องกันสมัยมัธยม
"ใครให้เงินมึง ไหนพูดซิปรัชญ์รวี"
"ไอ้คุณกิตติ์ เกริกศิลป์ สำราญเวชธาดา" ผมตอบแบบฉะฉาน ให้ผ่านไปกี่ร้อยปีกูก็ไม่หยุดด่ามึงลับหลังและต่อหน้ามึงหรอกนะไอ้กิตติ์
"..."
"กฎบริษัทข้อที่สิบว่าไงน๊า" ผมย้อน "ห้ามพนักงานมีสัมพันธ์ฉันท์ชู้รักในบริษัท เอ๊ หรือกฎนี้แม่งใช้กับเจ้านายไม่ได้หว่า"
"นี่ถ้าไม่ติดว่ามึงดูเป็นทั้งมาร์เก็ตติ้ง โมเดิร์นเทรด หยี่ปั๊วซาปั๊วกูปั๊วะหัวมึงแน่ปรัชญ์รวี"
"มาดิ อัลฟ่าแม่งมีปากไว้แดกคอโอเมก้าอย่างเดียวรึไงวะ กูละสงสัย"
และเราสองคนเป็น frienemy กัน
ซึ่งค่อนไปทาง enemy
"จัดให้!" ฝ่ายตรงข้ามลุกออกมาอย่างไวแล้วทำท่าอยกเขี้ยวจะเข้าตะครุบผม
คือแบบ
เอิ่บ
เอ้า ทายมาว่า reflex reaction ผมทำไง action = reaction เหมือนกฎฟิสิกส์รึเปล่า
Comments (0)