You are more charming than I thought.

 

"แกมันไอ้ลูกเนรคุณ!!! "

"ฉันเลี้ยงแกมาไม่ดีหรือไงถึงได้วิปริตไปนอนกับตัวผู้เหมือนกัน!! "

"แกมันเป็นรอยด่างพร้อยของตระกูล จะให้ฉันขายขี้หน้าไปถึงไหน ห๊ะ!!!!? "

คำพูดของพ่อยังคงตราตรึงอยู่ในใจของเด็กหนุ่มอายุ 20 ปี ไม่เลือนหายนับจากสามชั่วโมงก่อน เขาวิ่งหนีออกจากบ้านอย่างไร้จุดหมายทันทีที่ตั้งตัวและตั้งสติขึ้นได้ ตอนนี้ชายคนนั้นกำลังเดินอยู่ริมถนนแบบไม่รู้จะไปที่ไหน ไร้จุดหมายปลายทางและที่ซุกหัวนอน แต่ที่แน่ ๆ ต่อให้ตัวตายเขาก็คงไม่คิดจะกลับไปที่บ้านหลังนั้นอีกแล้ว

น้ำตาที่เคยพรั่งพรูออกมาตอนนี้เหือดแห้งเหลือเป็นเพียงคราบน้ำบนใบหน้าสีขาว อเล็กซ์ก้มหน้าเดินต่อไป แม้จะเหนื่อยล้ามากขนาดไหนเขาก็จะไม่ยอมนั่งนอนข้างถนน แต่เงินติดตัวเขาก็ไม่มีสักบาท เขาคิดว่าอาจจะขอผู้ใหญ่ใจดีสักคนให้เขาได้หลับนอนซักคืน

"ไสหัวไปไอ้ขอทาน!! "เสียงของชายใจร้ายดังขึ้นก่อนตามด้วยเสียงประตูบ้านเสียงดังปัง!!! อเล็กซ์ถอนหายใจอีกครั้ง นี่ก็บ้านหลังที่สิบแล้วที่ก่นด่าเขาและปิดประตูใส่เขาแบบนี้ อเล็กซ์คอตก เดินออกจากบริเวณบ้านก่อนที่เจ้าของบ้านจะโทรแจ้งความกับตำรวจให้มาลากคอเขาไปเข้าคุก

มวลเมฆสีดำทะมึนเคลื่อนตัวเข้ามาบดบังแสงจันทร์นวลตา ท้องฟ้าส่งเสียงร้องเป็นสัญญาณบอกว่าฝนกำลังจะตก คนไร้บ้านเงยขึ้นมองท้องฟ้ายามราตรี

มันจะมีอะไรเลวร้ายกว่านี้มั้ย

ตัดพ้อในใจไม่ทันไรฝนเม็ดแรกก็ตกลงบนใบหน้าสีขาวตามด้วยละอองฝนที่โปรยปรายลงมาจากฟากฟ้าสีดำทะมึน นัยน์ตาอ่อนล้าเหม่อมองเม็ดฝนที่ตกลงมาก่อนที่อเล็กซ์จะเริ่มวิ่งหาที่หลบฝน เงินเขาก็ไม่มี ที่ซุกหัวนอนก็ไม่มี บ้านก็ไม่กลับ ถ้าเกิดป่วยขึ้นมาคงเป็นเรื่องใหญ่แน่ ๆ ดีไม่ดีเขาอาจจะป่วยหนัก ไข้ขึ้น และต้องนอนตายอย่างอเนจอนาถข้างถนน ยิ่งคิดอเล็กซ์ยิ่งรู้สึกว่าตนเองช่างฟุ้งซ่าน สุดท้ายเขาก็โยนความคิดในแง่ลบนั่นทิ้งไปและมองหาที่หลบฝน

อเล็กซ์วิ่งมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งเจอบ้านร้างหลังหนึ่ง สภาพบ้านค่อนข้างทรุดโทรมแต่ก็ยังพอซุกหัวนอนได้ แม้หน้าบ้านจะรกไปหน่อยแต่ชั่วขณะนั้นอเล็กซ์ก็สลัดเรื่องสัตว์มีพิษและผีสางไปจนสิ้น เขาเดินไปตามทางเข้าบ้านที่รกร้างด้วยพงหญ้าที่ขึ้นสูงจนเกือบถึงหัวเข่า สภาพบ้านเก่าแก่จะพังแหล่มิพังแหล่ อเล็กซ์เดินต่อไปจนกระทั่งถึงหน้าบ้าน ดวงตาเหนื่อยล้าเหม่อมองบานประตูสีน้ำตาลก่อนสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือก และเปิดประตูเข้าไป เสียงของบานพับที่เสียดสีกันส่งเสียงดังแอ๊ดขณะที่บานประตูถูกเปิดออก ก่อนที่เสียงฟ้าร้องจะดังขึ้นตามมาเพิ่มความน่ากลัวชวนขวัญผวาไปอีก

บรรยากาศหนังผีชะมัด

อเล็กซ์คิดในใจ ก้าวต่อไปภายในบ้านร้าง ข้างในบ้านไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย ในส่วนของห้องนั่งเล่นโล่ง กว้าง ไร้ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ อเล็กซ์ยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่ รอจนสายตาเริ่มคุ้นชินกับความมืดจึงเริ่มเดินต่อไป เขาเดินขึ้นไปยังชั้นสองเพราะชั้นแรกไม่มีห้องสำหรับหลับนอน มือสีขาวจับราวบันไดที่เต็มไปด้วยฝุ่นจนฝ่ามือขาวเปลี่ยนสีแต่อเล็กซ์ไม่สนใจ เขายังคงก้าวเดินต่อไปในบ้านผีสิงที่พร้อมทำให้เขาหัวใจวายตายได้ทุกเมื่อ

บนชั้นสองเขาพบแค่ห้องห้องหนึ่งเท่านั้น อเล็กซ์มองประตูอีกบานก่อนใช้มือเปื้อนฝุ่นหมุนจับลูกบิด สิ่งแรกที่เขาพบคือเตียงผ่าตัดที่ตั้งอยู่ตรงกลางของห้อง ตะแกรง และอ่างน้ำที่ดูยังใหม่อยู่ แม้จะสงสัยระคนหวาดกลัวเพราะมันเหมือนฉากหนังฆาตกรรม แต่เขาก็เลือกที่จะเดินผ่านไปเสมือนไม่เห็นอะไรทั้งนั้นเพื่อมาเปิดประตูอีกบานที่อยู่ถัดไปด้านใน อเล็กซ์หมุนลูกบิดอีกครั้ง ภาวนาให้เขาไม่เจออะไรแปลก ๆ และได้ฟูกอุ่น ๆ กับผ้าห่มซักผืนเพื่อมอบความอบอุ่นให้แก่ร่างกายของตนเอง แต่แล้วเขาก็ต้องผิดหวัง ห้องนั้นเป็นเพียงห้องโล่ง ๆ ที่มีหน้าต่างกระจกบนฝ้าเพดานสำหรับดูดาวอยู่เพียงบานเดียว

อเล็กซ์นั่งยอง ๆ ลงบนพื้นและใช้นิ้วแตะเพื่อวัดความหนาของฝุ่นแต่แล้วเขาก็ยิ้มออกเมื่อพบว่าห้องนี้ไม่มีฝุ่น เขาได้ที่นอนแล้ว นอนในห้องไร้ฝุ่นและอุ่นกว่าห้องอื่น ๆ เด็กหนุ่มนอนขดตัวอยู่ติดริมห้อง แขนสีขาวยกขึ้นมาหนุนแทนหมอน อีกไม่นานคืนที่แสนเลวร้ายก็จะผ่านพ้นไป

ปัง!!!!

เสียงปิดประตูที่ดังสนั่นปลุกให้เด็กหนุ่มสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก อเล็กซ์ทำหน้าตาเลิ่กลั่ก ให้หัวของเขามีคำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัว แต่แล้วอเล็กซ์ก็ตัดสินใจสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านทั้งหลายทิ้งไป มันอาจจะเป็นแค่ลม ใช่ มันก็แค่ลมที่พัดจนประตูปิด ก่อนหน้านี้เขาคงลืมปิดประตูมันถึงได้เป็นแบบนี้ แต่แล้วความคิดนั่นก็ถูกลมพัดปลิวไปอย่างรวดเร็วเมื่อเข้าได้ยินเสียงน้ำไหลออกจากก๊อกกระทบกับอะไรสักอย่าง

อเล็กซ์ค่อย ๆ รวบรวมความกล้าและคลานไปแง้มบานประตูดูว่าใครมาโดยพยายามไม่ให้บานพับส่งเสียงเรียกให้เขาหันมา

ฆาตกรโรคจิตสะบัดมือลงในอ่างน้ำด้วยรอยยิ้ม เขาเอาผ้าผืนสีขาวมาเช็ดมือจนแห้งสนิท จากนั้นก็ตรงไปเปิดกระเป๋าและหยิบมีดสีเงินวาววับออกมา ชายหนุ่มฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี จ้องมีดที่สะท้อนแสงวิบวับกับหลอดไฟพกพาที่เขาพกมาเพื่อส่องร่างระหงบนเตียง

ปลายมีดสีเงินไล้ไปตามกรอบหน้าคมสวยลากต่ำลงมายังลำคอ กรีดผ่านสายเสื้อชั้นในไปยังส่วนที่เป็นสะดือก่อนเขาจะใช้มีดกรีดผ่านหนังกำพร้าเรียกเลือดให้ไหลซึมออกมาตามช่องว่างของผิวหนัง จากนั้นก็กดลึกลงไปจนถึงผิวหนังชั้นไขมันในคราวเดียว เลือดสีชาดไหลออกมาจากร่างของหญิงสาวที่นอนดิ้นทุรนทุรายหมายจะขัดขืนแต่เธอหารู้ไม่ว่ายิ่งต่อต้าน เลือดยิ่งทะลัก และชายตรงหน้ายิ่งชอบ มีดสีเงินเลอะเลือดกรีดผ่านช่วงท้องจนเปิดดูอวัยวะภายในได้ เขาเหยียดยิ้ม มองอวัยวะที่ยังคงทำงานไม่หยุดก่อนแยกมันออกมาจากร่างทีละส่วน ทีละส่วน เพื่อสนองตัณหาแสนวิปลาสและหาเงินสนองความใคร่

ในขณะที่ฆาตกรหนุ่มกำลังเพลิดเพลินกับการชำแหละศพหาเงินให้กับงานอดิเรกเขาก็รู้สึกเหมือนกำลังถูกใครจ้องมองอยู่ ฆาตกรหนุ่มตวัดสายตาย้ายจากร่างระหงบนเตียงที่พึ่งจะนอนแน่นิ่งไปขึ้นมามองบานประตูที่แง้มออกน้อย ๆ ดวงตาสีเข้มของเขาเห็นอีกหนึ่งสิ่งมีชีวิตอยู่ที่หลังประตู ดวงตาสีฟ้าสวยเบิกกว้างด้วยความตกใจก่อนพยายามรวบรวมสติและดันประตูปิด

อเล็กซ์ผงะถอยหลังทันทีที่สบกับดวงตาสีเข้มของฆาตกรโรคจิต ใบหน้าเข้มขรึมเรียบเฉยที่เปื้อนเลือดสร้างความหวาดกลัวให้ชายหนุ่มไม่น้อย เขาถอยกรูดไปจนหลังชิดกำแพง ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายเต้นรัวด้วยใจที่ลุ้นระทึก

ท่ามกลางความเงียบงันของบ้าน อเล็กซ์ได้ยินเสียงรองเท้าก้าวมาใกล้ ในหัวของเขาดังก้องไปด้วยเสียงของรองเท้าที่กระทบพื้น อเล็กซ์หอบหายใจถี่รัว พยายามตั้งสติอีกครั้งและหลอกตัวเองว่าฆาตกรคนนั้นไม่เห็นเขา เขาบอกกับตัวเองว่ามันไม่เห็นเขาแน่ ๆ ทั้ง ๆ ที่ดวงตาทั้งสองสบมองกันจนเขานี่แหละที่ผวาเฮือก ถดถอยกรูดหลังชิดกำแพงห้อง ร่างเล็กสั่นสะท้านไปด้วยความหวาดกลัวคล้ายลูกนกตัวน้อยที่จดจ้องอยู่หน้าอสรพิษร้าย แขนสีขาวมีเชื้อผู้ดีที่สั่นเทาถูกยกขึ้นมากุมหัวของตัวเอง ตากลมโตถูกปิดสนิทด้วยเปลือกตาจนแน่น เขาพยายามควบคุมลมหายใจและสติของตัวเองไม่ให้เตลิดแต่มันช่างยากเย็นเหลือเกิน

เสียงรองเท้ากระทบพื้นกระเบื้องดังมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาได้ยินเสียงเอี๊ยดอ๊าดของบานพับที่ไม่ถูกหยอดน้ำมันมานานหลายปี ตามด้วยเสียงปิดประตูดังปัง และเสียงรองเท้าที่หายไป

อเล็กซ์ยังคงนั่งคุดคู้อยู่มุมห้องต่ออีกนานสองนานกระทั่งแน่ใจว่าไอ้โรคจิตคนนั้นมันไปแล้ว แขนสีขาวก็ค่อย ๆ ยกลงมาจากหัว ร่างบางถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนที่นัยน์ตาสีฟ้าจะเหลือบเห็นเงาดำทะมึนที่หางตา ใบหน้ามนค่อย ๆ หันไปหาร่างสีดำที่ว่านั่น เขาภาวนาให้เขาเจอผีหรืออะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ไอ้ฆาตกรโรคจิตคนนั้น แต่สวรรค์กลับไม่เป็นใจ เมื่อมวลเมฆครึ้มลอยหายไปตามแรงลม แสงจันทร์นวลตาสาดส่องผ่านช่องกระจกสำหรับดูดาวบนหลังคา เขาจำความรู้สึกนั้นได้ดี ความรู้สึกแรกที่เขาสบตากับฆาตกร ความหวาดกลัวที่แล่นพล่านไปทั่วทุกส่วนของร่างกาย แสงจันทร์วันเพ็ญที่สาดส่องมาทางกระจกที่ติดอยู่บนฝ้าทำให้เขาเห็นดวงตานั่นชัดเจน ดวงตาที่ดูเฉยชาแต่ซุกซ่อนความโรคจิตเข้าขั้นเอาไว้ แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ที่เขาสบตากับฆาตกร แต่เขาก็รับรู้ได้ว่าเขากำลังยืนอยู่หน้ายมทูต และเขากำลังจะตายภายในไม่ช้านี้ อเล็กซ์สบตากับฆาตกรหนุ่มเนิ่นนาน อยากจะหนีแต่ก็ก้าวขาไม่ออก อยากจะหลบตาแต่เขาคล้ายจะถูกดวงตาเย็นชานั่นพันธนาการไม่ให้หลบมองไปทางอื่น เสียงหัวใจของอเล็กซ์และเสียงหายใจยังดังเข้าสู่โสตประสาทของฆาตกร เขารับรู้ได้ถึงความหวาดกลัวที่แผ่ออกมาแต่เขากลับรู้สึกแปลก ๆ มากกว่าอยากทรมาน ภาพจำในอดีตเริ่มลอยกลับเข้ามาในหัว ใครคนหนึ่งกำลังหวาดกลัวด้วยท่าทางที่เหมือนกับอเล็กซ์ในตอนนี้

"!!!! "อยู่ ๆ ฆาตกรก็ย่อตัวลงมาหาเขา แขนแข็งแรงข้างหนึ่งยันไว้กับกำแพงเพื่อกักขังคนที่กำลังหวาดกลัวไม่ให้หนีไปไหน มีดสีเงินวาววับเปื้อนเลือดสะท้อนกับแสงจันทร์เพียงชั่วครู่ก่อนจะเปลี่ยนมาไล้ไปตามผิวกายที่ถูกบำรุงมาอย่างดี จากใบหน้าสู่ลำคอและจ่อเข้าที่ลูกกระเดือก อเล็กซ์กลืนน้ำลายอึกใหญ่ หัวใจของเขาเต้นโครมครามเพราะความรักตัวกลัวตายที่แผ่ไปทั่วร่าง ก่อนที่เขาจะหลับตาลง พยายามเค้นเสียงที่สั่นเครือออกไปเพื่อร้องขอชีวิตจากคนตรงหน้า

แม้ชีวิตของเขาจะบัดซบแต่เขาก็ยังคงอยากมีชีวิตอยู่ต่อ...

"ผ..."

"......? "

"ผะ...ผมกลัวแล้ว..."น้ำตาเม็ดใสที่คลออยู่นานในที่สุดก็ไหลลงมาอาบแก้ม ฆาตกรหนุ่มนิ่งค้างไปชั่วขณะ ก่อนจะเอาปลายมีดที่ไล้ผิวกายออกแล้วถอยหลังไปหนึ่งก้าว เพื่อมองดูคนร้องไห้ที่ค่อย ๆ ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่พรั่งพรูออกมาเพราะความหวาดกลัว

"ฮึก...อย่าฆ่าผมเลย ...ผม...ผมยอมทำตามที่คุณสั่งทุกอย่าง" เขายอมแพ้ เขายอมทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองเพื่อให้ตนเองมีชีวิตอยู่ต่อไป...ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม

"ทุกอย่างเลยหรอ"เสียงทุ้มต่ำชวนหลงใหลของฆาตกรโรคจิตเอ่ยถามกลับ เด็กที่พึ่งหนีออกจากบ้านได้ไม่ทันข้ามวันพยักหน้ารับและเช็ดน้ำตาต่อไป

"ครับ...ทุกอย่าง ฮึก" ความรักตัวกลัวตายแบบที่ผู้หญิงคนนั้นเจอทำให้เขารับคำจากฆาตกรหนุ่มแบบไม่รีรอ ฆาตกรหนุ่มรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่เด็กคนนี้ยอมทำทุกอย่างเพื่อมีชีวิตอยู่ต่อ

ชีวิตมันน่าอยู่ขนาดนั้นเลยหรอ

เขาตั้งข้อสงสัยในใจ ทุกวันนี้เขามีชีวิตเพื่อฆ่าคนและรอความตายมาเยือน ไร้ซึ่งจุดหมายและความกระหายในการมีชีวิตอยู่ต่อ

เขาย่อตัวลงและใช้มืออีกข้างที่ยังคงสะอาดอยู่จับเข้าที่ใบหน้าของอเล็กซ์ นิ้วโป้งเกลี่ยไปมาบนผิวหน้า อเล็กซ์หลับตาปี๋ คิดว่าอาจจะถูกควักลูกตาออกแล้วตาบอดไปตลอดชีวิต แต่แล้วฆาตกรหนุ่มก็เอ่ยสิ่งที่เขาคาดไม่ถึงออกมา

"อย่าร้องไห้..."เสียงนั่นฟังดูอบอุ่นจนน่าประหลาด หากเขาไม่ใช่ฆาตกรโรคจิตที่ฆ่าคนเหมือนแมลงสักตัวเขาคงจะเป็นผู้ชายที่อบอุ่นมากที่สุดคนหนึ่ง

อเล็กซ์คิด

"นายบอกว่าจะยอมฉันทุกอย่างเลยใช่มั้ย"

"ครับ..."

"งั้นคืนนี้นอนกับฉัน"

"นะ...นอนหรอครับ"

"อืม"ฆาตกรครางรับก่อนเดินออกจากห้องไปทิ้งให้อเล็กซ์คิดไปเองว่านอนที่ว่าคือแบบไหน สาเหตุที่ทำให้อเล็กซ์หนีออกจากบ้านก็เพราะน้อยใจที่ถูกพ่อด่ายับซ้ำยังหาว่าเขานอนไม่เลือกอีก เขาคิดว่าไหน ๆ ก็ถูกมองแบบนั้นไปแล้วถ้าจะทำให้มันเป็นจริงสมใจพ่อก็คงไม่มีปัญหา ยังไงเขาก็ไม่ใช่ลูกรักของพ่ออยู่แล้ว และอีกอย่าง นี่มันคือชีวิตของเขา เขาจะให้ใครมาย่ำยีมันก็ได้ในเมื่อมันไม่เดือดร้อนคนอื่น

แน่นอนว่ามันก็แค่ความคิดชั่ววูบของเด็ก ๆ ที่ต้องการประชดพ่อแม่ด้วยการทำร้ายตนเอง

สิ้นคิด...เขารู้ แต่ก็ยังทำ

อเล็กซ์นั่งรถที่มีฆาตกรโรคจิตเป็นสารถีเพื่อไปยังบ้านของคนที่บอกให้เขามาเป็นคู่นอน ระหว่างทางอเล็กซ์ก็เอาแต่คิดว่าบ้านของฆาตกรจะเป็นยังไง เซ็กส์กับฆาตกรมันจะเป็นยังไง มันจะสนุกอย่างที่เขาคิดหรือวิปริตจนไม่อาจทนได้ แต่ไม่ว่ามันจะเป็นยังไงเขาก็จะยอมรับผลที่ตามมา

รถยุโรปสีขาวจอดเข้าที่บ้านโมเดิร์นหลังหนึ่ง ฆาตกรก้าวลงมาจากรถก่อนที่อเล็กซ์จะก้าวตามเข้ามาอย่างว่าง่าย ภายในบ้านสะอาดสะอ้านและเรียบร้อยมากกว่าที่เขาคิด ทุกอย่างถูกจัดสรรดีไซน์มาอย่างลงตัวไปหมดจนเขาอดชื่นชมไม่ได้ เขาเดินตามฆาตกรจนในที่สุดก็ถึงที่หลับนอนของชายโรคจิต อเล็กซ์กวาดตามองไปรอบ ๆ ห้องก่อนขอตัวไปอาบน้ำอาบท่าโดยใส่เสื้อผ้าที่ฆาตกรพาไปซื้อที่ร้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งก่อนถึงบ้าน พอเขาอาบเสร็จฆาตกรก็เข้าไปอาบบ้าง อเล็กซ์นั่งทำใจอยู่บนเตียงระหว่างรออีกคน เขาลองทบทวนตัวเองดูอีกครั้งว่าทำแบบนี้มันดีแล้วจริง ๆ หรอ แต่สุดท้ายอเล็กซ์ก็เลือกที่จะประชดชีวิตตัวเองเหมือนเดิม

ร่างบางนอนรอฆาตกรอยู่บนเตียง เขารออยู่นานกว่าฆาตกรจะก้าวออกมาจากห้องน้ำ ร่างกายสันทัดที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามทำเอาเด็กน้อยกลืนน้ำลายอึกใหญ่ หน้าตาก็ดี หุ่นก็ดี มีแค่จิตนี่แหละที่ไม่ปกติ จนเขายังอดรู้สึกเสียดายไม่ได้ พอคิดมาถึงตรงนี้หัวของเขาก็ส่ายรัว ๆ พยายามสลัดความคิดที่ว่าออกไป

หรือว่าเขาจะเป็นแบบที่ถูกด่ามาจริง ๆ ...?

ฆาตกรหนุ่มปิดไฟหลังใส่เสื้อผ้าเสร็จ เด็กหนีออกจากบ้านพยายามคุมลมหายใจของตัวเองเมื่อเตียงยวบลงเพราะร่างสมส่วนทิ้งกายลงมานอนเคียงกัน เขาหลับตายามเมื่อมือเปื้อนเลือดวางทาบลงมาบนเอวของเขาและรั้งตัวเขาเข้าไปใกล้มากกว่าเดิม

"ตัวนายนี่หอมชะมัด"ฆาตกรพึมพำ ปัดป่ายจมูกไปตามซอกคอขาว สัมผัสชวนจั๊กจี้ที่ฆาตกรส่งมาทำเอาอเล็กซ์ใจเต้นไม่เป็นส่ำ ไฟในอกค่อย ๆ ถูกจุดขึ้นมาท่ามกลางความมืดมิด อเล็กซ์ไม่ตอบอะไรกลับไปแต่หัวใจและร่างกายที่ร้อนรุ่มทั้ง ๆ ที่แอร์เย็นเฉียบน่าจะเป็นคำตอบให้ฆาตกรหนุ่มเป็นอย่างดี

อเล็กซ์ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งหวังสบตาคนที่เขาจะร่วมหลับนอนแต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อฆาตกรไม่ได้คร่อมกายเขาอยู่ เขาหันหน้ามาฝั่งที่สัมผัสได้ว่าเตียงยวบลง แล้วเขาก็เห็นรอยยิ้มของอีกฝ่าย ไม่ใช่รอยยิ้มที่อ่อนโยนน่าหลงใหลแต่เป็นรอยยิ้มที่ดูกวนบาทา รอยยิ้มนั่นทำให้อเล็กซ์คิดว่าฆาตกรกำลังท้าทายเขาอยู่ เขายันตัวลุกขึ้นก่อนเปลี่ยนไปคร่อมร่างฆาตกรในส่วนของความเป็นชายและสบตาอีกคนผ่านความมืด

"จะทำอะไร" ฆาตกรถามกลับเสียงขุ่นด้วยความไม่เข้าใจ ทำไมอยู่ ๆ เด็กคนนี้ถึงได้มาคร่อมร่างกายของเขาแบบนี้

"ก็คุณบอกว่าคุณอยากนอนกับผม"อเล็กซ์แอบมุ่ยหน้า สงสัยโรคจิตไม่พอยังความจำสั้นอีก

สีหน้าของฆาตกรดูอึ้งเล็กน้อยก่อนที่เสียงหัวเราะจะดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงัน

"คุณขำอะไร"

"นี่นายคิดว่าฉันอยากนอนกับนายแบบนี้หรอ ฉันหมายถึงนอนที่นอนด้วยกันเฉย ๆ "อเล็กซ์หน้าแดงแปร๊ด รู้สึกอับอายขายขี้หน้ายิ่งกว่าตอนที่เขาฉี่รดผ้าตอนเด็ก

บ้าชะมัด

เขาสบถในใจก่อนรีบย้ายตัวกลับมาที่เดิมก่อนห่มผ้าและซุกหน้าลงไปกับผ้าที่คลุมกายเพื่อกลบความเขินอาย

"แต่นายจะเซอร์วิสฉันก็ได้นะ"ฆาตกรพูดกลั้วหัวเราะ น้ำเสียงของฆาตกรเต็มไปด้วยความขบขันที่ได้แกล้งหยอกคนเด็กกว่า อเล็กซ์ดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดความเขินอายที่ปรากฏบนใบหน้ายิ่งกว่าเดิมก่อนตอบกลับเสียเกือบดังกลบความอายที่แล่นเข้ามา

"เงียบไปเลย! "

"นายนี่น่าเอ็นดูกว่าที่ฉันคิดแฮะ" เขายิ้มเอ็นดู น่าเสียดายที่อเล็กซ์ไม่เห็นสีหน้าของฆาตกรในตอนนี้

"ฝันดีก็แล้วกัน"

"ฝันดีเช่นกันครับ"อเล็กซ์ตอบกลับฆาตกรหนุ่มก่อนที่จะหลับตาลงเข้าสู่ห้วงฝัน

นานแค่ไหนแล้วนะที่เขาทั้งสองคนไม่ได้ยินคำว่าฝันดีก่อนนอน

มันนานมากจนลืมไปแล้วว่ามีคำพูดนี้อยู่บนโลก