คุณเปิดประตูเข้ามาในห้องยามชั้น 2 สภาพภายในประกอบไปด้วยจอมอนิเตอร์ เก้าอี้ และเตียงเก่าๆหนึ่งตัว คุณเอนหลังลงบนเตียงเก่าๆนั่นก่อนหยิบกระดาษกฎออกมาอ่านซ้ำอีกครั้งหนึ่ง... แม้อีกใจหนึ่งจะคิดว่าเรื่องทั้งหมดนี้มันจะฟังดูบ้ามากก็ตาม แต่คุณก็ไม่มีทางเลือกเพราะถ้ายังจะทำตัวงี่เง่าจนเสียงานอีกละก็ คุณได้อดตายจริงๆแน่

เสียงแจ้งเตือนนาฬิกาก็ได้ดังขึ้นเป็นการแจ้งเตือนเวลา 22.00 คุณลุกขึ้นเปิดประตูก่อนเดินออกไป คุณเดินมาจนถึงบันไดกลางก่อนจะมองไปยังโคมไฟที่ปิดอยู่

 

 

"เอาวะ..."

 

คุณคิดในใจก่อนเดินลงบันไดมายืนอยู่หน้าประตูบานใหญ่ รอบตัวมีความเงียบทำเอารู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก คุณกดปุ่มเปิดสวิตส์ของโคมไฟ...แต่ทันใดนั้นจังหวะที่คุณกำลังจะหันหลังกลับไปยังห้องยาม โคมไฟนั่นก็กลายเป็นสีแดงขึ้นมา

 

"ซวยแล้วไง..."

คุณคิดในใจก่อนก้าววิ่งอย่างไม่รีรอ

 

 

"ตึก...ตึก!!!"

เสียงรองเท้าของคุณดังก้องไปทั้งคฤหาสน์ที่แสนจะวังเวงหลังนี้ ก่อนที่คุณจะผลักประตูห้องยาม แล้วพาตัวเองกลับเข้ามาในห้องได้อย่างปลอดภัย 

 

" ปึ๊ก !!! " เสียงของอะไรบางอย่างกระแทกเข้ากับประตูเหล็กของห้องยามอย่างจัง... เหมือนบางสิ่งมันจะวิ่งตามคุณมา แต่คุณโชคดีที่กลับเข้ามาได้ทัน... สายตาของคุณมองจอมอนิเตอร์ที่แสดงส่วนต่างๆของคฤหาสน์ แต่คุณก็ยังไม่เห็นสิ่งผิดปกติใดๆ เมื่อคุณมองไปยังจอที่แสดงภาพบริเวณประตูหน้า คุณก็เห็นว่าโคมไฟเจ้ากรรมก็เปลี่ยนกลับเป็นสีเหลืองดังเดิมแล้ว "หรือว่าแกจะจงใจเปลี่ยนสีตอนฉันเข้าไปใกล้? " คุณบ่นออกมาก่อนเปลี่ยนไปสำรวจภาพจากจออื่นๆ...

 

 

หลังจากนั่งพักเหนื่อยไปได้ 15 นาที เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น... เป็นไปตามที่กฎข้อสามระบุเอาไว้ "คุณเซโน ผมมาจากฝั่งตะวันตก คุณช่วยเอาไม้กวาดของคุณเดินไปไว้ที่ชั้น 3 ให้หน่อยสิครับ" เสียงของชายวัยราวๆ 30 ปีดังขึ้นมาจากอีกฟากจากประตูห้องของคุณ

"เข้าใจแล้วครับ" คุณพูดตอบกลับไป ก่อนจะหยิบไม้กวาดในห้องของตัวเอง ก่อนจะเปิดประตูห้องยามออกไป...

 

คุณเดินออกมาพร้อมกับไม้กวาดในมือ บันไดวนอยู่ตรงหน้าคุณแล้ว ในจังหวะที่คุณกำลังจะก้าวเท้าขึ้นไปบันไดไปคุณก็นึกถึงกฎข้อแรก... คุณจึงเลือกที่จะวางไม้กวาดเอาไว้ตรงนั้นแทน แล้วเดินกลับไปยังห้องยามของตัวเอง... ทันใดนั้นหางตาของคุณก็เห็นว่า โคมไฟที่ชั้นล่างมันเปลี่ยนเป็นสีแดงอีกแล้ว คุณไม่รีรอก่อนเริ่มออกวิ่งกลับเข้าไปในห้องยาม พร้อมกลับความรู้สึกที่ถูกบางอย่างจ้องมองมาจากด้านหลัง

 

คุณกลับเข้ามาในห้องยามได้สำเร็จก่อนจะลงมือล็อกประตูอย่างไว... ก่อนที่เสียงเคาะประตูจะดังขึ้นอีกครั้ง...

 

"ผมให้คุณเอาขึ้นไปวางที่ชั้นสามไม่ใช่หรือครับ?"

 

"..."

คุณไม่ตอบอะไรกลับไป พร้อมยืนจ้องประตูเหล็กตรงหน้าอยู่อย่างนั้น

 

"ผมนึกว่าคุณจะหลงกลซะแล้ว...ขอบคุณสำหรับไม้กวาดครับ" จากนั้นเสียงฝีเท้าหนักๆก็ดังขึ้น ราวกับกำลังเดินห่างออกไป แต่หากตั้งใจฟังแล้วละก็ จะรู้ได้เลยว่าจริงๆแล้วเสียงนั่นกำลังเดินวนอยู่รอบๆ กำลังรอจังหวะที่คุณทำบางอย่างพลาดไป...

 

จากนั้นราวๆ 23.00 เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เป็นเสียงของหญิงสาวคนหนึ่ง... "มีคนจากฝั่งตะวันออกให้ฉันนำขนมมาให้ค่ะ... รบกวนออกมาเอาด้วยค่ะ"

"วางเอาไว้ตรงนั้นเลยครับ" คุณตอบกลับไป เพราะจำได้ว่าถ้ามาจากฝั่งตะวันออกคุณต้องทำตรงกันข้าม...

 

หลังจากคุณพูดออกไป ทุกอย่างก็กลับเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง จนเสียงของนาฬิกากลางตีบอกเวลา 00.00 คุณมองหาจอมอนิเตอร์ที่แสดงภาพของประตูหน้า ซึ่งตอนนี้โคมไฟยังคงเป็นสีเหลืองอยู่... คุณจึงรีบเดินไปลงบันไดไปยังประตูหน้า... ก่อนจะเริ่มลงมือจัดการกับตัวล็อกทั้ง 3 ตัว...

"ทำไมมันไม่ขยับวะ" คุณบ่นออกมาหลังตัวล็อกตัวที่สามมันไม่ยอมขยับ... พลางใช้สายตามองสลับไปยังโคมไฟที่ไม่รู้ว่าจะกลายเป็นสีแดงขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้...

 

"เร็วสิวะ!!!"

 

คุณออกแรงสุดแรงเกิดแต่ล็อกบ้านั่นก็ยังไม่ยอมขยับ ตอนนี้คุณเหงื่อแตกพลัก เพราะคุณอยู่ตรงนี้มา 5 นาทีแล้ว...ทันใดนั้นโคมไฟก็กะพริบขึ้นมาหนึ่งครั้ง แต่โชคดีที่มันยังคงเป็นสีเหลืองอยู่...

 

"ให้ผมช่วยเอง"

เสียงชายหนุ่มอายุราว 26 ปีดังขึ้นมาจากด้านหลังคุณ ก่อนที่เขาจะเอามือขยับล็อกตัวนั้นอย่างง่ายได้...

 

"ต้องทำยังไง!!!" คุณคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะเหตุการณ์นี้ไม่มีระบุอยู่ในกฎข้อไหนเลยคุณหันหลังกลับไป ก่อนจะโค้งตัวให้ชายตรงหน้า... โดยไม่พูดอะไรแล้วรีบเดินกลับไปห้องยามของตัวเองให้ไวที่สุด โดยดูจากการแต่งตัวของชายคนนั้นแล้ว คุณมั่นใจว่าชายคนนั้นคือ คุณชายแวนนิชแน่ๆ 

 

แม้จะรู้สึกผิดที่ไม่ได้กล่าวขอบคุณ แต่ตอนนี้คฤหาสน์นี้มันไม่ปกติแน่ๆ ถ้าอยากรอดก็ต้องทำถามกฎ คุณคิดในใจ ก่อนชำเลืองมองนาฬิกาข้อมือของตัวเองแสดงเวลา 00.31 คุณจึงรีบเดินกลับยังห้องยามที่ชั้นสองของคุณ และแน่นอนว่ามันไม่มีอะไรวางอยู่เลย หมายความว่าคุณต้องไปตรวจตราชั้น

 

เมื่อคุณเดินขึ้นบันไดมา ชั้นสามทั้งชั้นดูเหมือนจะเป็นห้องนอนซะส่วนใหญ่ ทำให้คุณเลือกที่จะเดินดูแค่บริเวณโถงทางเดินเท่านั้นก่อนจะเดินกลับลงมายังชั้นสอง...ซึ่งคุณเห็นว่าโคมไฟนั้นเป็นสีแดงอยู่ ซึ่งคุณไม่รู้ว่ามันเปลี่ยนสีตั้งแต่ตอนไหน... แต่คุณรู้สึกได้ถึงสายตาอาฆาตได้จากบันไดชั้นล่าง... คุณกำลังตัดสินใจที่วิ่งหนีเข้าไปในห้องยาม...

 

"อย่าขยับ...ยืนนิ่งๆซะ"

เงาดำจากอีกฟากของทางเดินส่งเสียงบอกกับคุณ แต่นี่ยังไม่ใช้เวลา 02.00 คุณเลยไม่มั่นใจว่านี่นับเป็นเหตุการณ์ตามกฎข้อนั้นไหม... แต่คุณก็เลือกที่จะยืนอยู่อย่างนั้น หลับตาปี๊ พร้อมกับสัมผัสได้ถึงไอเย็นรอบๆตัวคุณ... ก่อนที่คุณจะลืมตาขึ้นมาอย่างสั่นกลัว โคมไฟก็กลับเป็นสีเหลืองเรียบร้อยแล้ว... พร้อมกลับเงาดำที่หายไปแล้วเช่นกัน...

 

หลังจากนั่งพักให้ห้องยามไปได้ราวๆ 20 นาที ก็ถึงเวลาตีหนึ่ง คุณจึงต้องเดินไปยังห้องอาหารชั้น 2 ซึ่งแน่นอนว่าขวดไวท์นั้นถูกเตรียมไว้แล้ว... คุณรีบหยิบขวดไวท์ก่อนเดินฝ่าความมืดของคฤหาสน์ค่อยๆขึ้นบันไดไปยังชั้น 3 ทันใดนั้น...

 

"เปรี๊ยะ"

 

เสียงกระจกแตกดังออกมาจากในห้องนอนสักห้องในชั้น 3 คุณตัวแข็งทื่ออยู่อย่างนั้นราว 5 นาทีได้ ก่อนที่เสียงแมวร้องจะดังขึ้น... คุณรีบก้าวให้เร็วกว่าเดิม... จนขึ้นมาถึงชั้น 4 ได้โดยมีประตูห้องของคุณแวนนิชอยู่ไม่ไกล...

 

"เปรี๊ยะ"

 

เสียงกระจกแตกครั้งที่ 2 ดังขึ้นพร้อมกับเสียงฟ้าร้อง และเสียงฝนที่เริ่มตกลงมา คุณพยายามตังใจฟังเสียงแมวร้องเพราะกลัวว่าเสียงฝนจะทำให้คุณไม่ได้ยิน 

 

"เมี๊ยว" เสียงของแมวดังขึ้นมา คุณเริ่มเดินเอาขวดไวท์มาวางไว้ด้านหน้าของคุณแวนนิชก่อนจะเคาะประตู แล้วหันหลังกลับมา "อ๊ะ..." คุณเผลอหลุดเสียงออกมา หลังเห็นว่าคุณแวนนิชที่ควรจะอยู่ในห้อง ตอนนี้เขายืนอยู่ข้างหน้าคุณห่างไปราว 5 เมตร ดวงตาสีแดงฉานของเขาสว่างไสว่ในความมืดดูน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก...

คุณแวนนิชเดนเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ สมองของคุณออกคำสั่งให้ร่างกายทำอะไรสักอย่าง แต่ดูเหมือนร่างกายของคุณจะแข็งทื่อไปแล้ว "คุณเก่งมากนะที่ตอนนี้ยังไม่ทำผิดกฎเลย" คุณแวนนิชพูดขึ้นก่อนเดินผ่านคุณไป ก่อนจะหยิบขวดไวท์หน้าห้องขึ้นมาก่อนเดินเข้าห้องของตัวเองไป...

 

คุณลงไปทรุดอยู่กับพื้นก่อนจะลุกขึ้นแล้วรีบเดินกลับไปยังห้องยามชั้นสอง แล้วนั่งพัก เสียงฝนจากด้านนอกดังขึ้นมาเรื่อยๆ สลับกับเสียงฟ้าผ่า แม้คุณจะเป็นชายหนุ่มก็ยังคงต้องมีหวาดกลัวกันบ้างแต่หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมดนี่คงไม่มีอะไรน่ากลัวไปมากกว่านี้แล้วละ 

 

เมื่อถึงเวลาตีสองคุณปิดประตูของห้องยอมก่อนจะเริ่มเดินตรวจตราชั้นสอง ไปตามทางเดินมืดๆของคฤหาสน์ ที่มีแสงของฟ้าแลบสว่างวาบขึ้นมาเป็นช่วงๆ ขณะที่คุณกำลังเดินอยู่นั้น...ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลัง...

 

"ดูเหมือนคุณจะได้เจอกับคุณแวนนิชแล้วนะครับ"

 

เสียงนี้มันชายชราเมื่อตอนแรกนี่หน่า... "ชะ..." จังหวะที่คุณอ้าปาก... คุณก็เห็นอีกเงาหนึ่งด้านหลังชายชรา กำลังเอานิ้วส่งสัญญาณบอกคุณให้อย่าพูดออกไป... คุณแวนนิชนั่นเอง

 

[เกือบไปแล้ว]

คุณคิดใจใน เมื่อกี้ตัวเองเกือบทำผิดกฎข้อ 7 ไปเสียแล้ว... ถ้าไม่ได้คุณแวชนิชมาเตือนเอาไว้... ว่าแต่ทำไมเขาถึงมาอยู่ตรงนี้ บรรยากาศโดยรอบเย็นยะเยือกขึ้นมาในทันที คุณไม่คิดอะไรมากก่อนรีบก้มหน้าก้มตาเดินตรวจตรา โดยมีเสียงรองเท้าของคุณชายดังตามหลังมาเป็นระยะๆ...

แต่นอกจากการเดินตามแล้ว ก็ดูเหมือนคุณแวนนิชจะไม่ได้มีท่าทีที่เป็นภัยอันตรายใดๆ ทำให้คุณลดความระมัดระวังตัวลงได้เล็กน้อย คุณเดินกลับมาจนถึงหน้าประตูห้องยามที่ชั้น 2

 

"ผมสนใจคุณนะเนี่ย" เสียงชายหนุ่มดังขึ้นมาจากด้านหลัง...

 

"ผะ..." ก่อนที่คุณจะได้พูดตอบอะไรออกไป แววตากับรอยยิ้มของเขามันกำลังแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขาต้องการให้คุณพูดตอบออกไป... คุณได้แต่พยักหน้ารับแล้วรีบกลับเข้าไปในห้องยามของคุณ...

 

"น่าเสียดายนะ"

เสียงของคุณแวนนิชดังขึ้นมาจากอีกด้านของแผ่นเหล็ก ก่อนเสียงรองเท้าของเขาจะค่อยๆดังไกลออกไป...

 

หลังจากสงบสติอารมณ์ได้ คุณก็เดินย้ายขึ้นไปยังห้องยามชั้น สามก่อนทิ้งตัวลงนอนบนเตียงเก่าๆก่อนที่ความง่วงจากอาการล้าจะเข้าโจมตีคุณอย่างฉับพลัน เปลือกตาของคุณปิดลงไป...

 

คุณรีบสะดุ้งตัวขึ้นมา นาฬิกาแสดงเวลา 03.25 คุณรีบมองจอมอนิเตอร์ทันที... 

"เวรกรรม" คุณรีบดีดตัวเองขึ้นมาก่อนจะวิ่งลงไปยังห้องครัวอย่างไว คว้ากระปุกเกลือบนโต๊ะ... ก่อนวิ่งกลับที่ประตูหน้าที่ตอนนี้ถูกเงาดำครอบคลุมไปเกิดครึ่งแล้ว คุณรีบโรยเกลือลงไปที่ขอบประตูอย่างรวดเร็ว... ซึ่งดูเหมือนว่ามันจะได้ผลเงาดำนั่นหยุดขยายตัวแล้ว 

 

คุณถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนที่โคมไฟสีเหลืองอ่อนจะดับลง แล้วติดขึ้นมาใหม่พร้อมแสงสีแดง คุณเริ่มออกวิ่งทันที... แต่ทันใดนั้นบางอย่างที่คุณมองไม่เห็น มันได้ใช้บางสิ่งที่คล้ายกรงเล็บข่วนเข้าที่หลังของคุณอย่างจัง... ก่อนจะกระแทกคุณปลิวไปกระแทกกับราวบันไดของชั้นหนึ่ง

 

"อึก!!!"

 

 

เลือดสีแดงฉานของคุณไหลนองไปทั่วพื้น คุณพยายามดันตัวขึ้นมาแต่ดูเหมือนมันจะไม่เป็นผล ร่างกายของคุณถึงขีดจำกัดแล้ว... รอยเท้าเปื้อนเลือดค่อยๆปรากฏเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ 

 

"นี่คงเป็นจุดจบสินะ" คุณคิดในใจ ก่อนนอนมองความตายที่กำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

 

"ตุ๊บ!!!"

 

เสียงของชายคนหนึ่งที่กระโดดลงมาจากชั้น 4 ก่อนจะใช้กรงเล็บอันแหลมคมของตนเอง แทงใส่อากาศบริเวณนั้น ก่อนที่เสียงคำรามของสัตว์ร้ายจะดังลั่นออกมา... ตามมาด้วยเสียงของสิ่งมีชีวิตบางอย่างล้มลง ซึ่งฟังจากเสียงมันขนาดตัวน่าจะประมาณเสือโตเต็มวัยได้

 

"อึก...คุณแวนนิช?"  คุณที่ใกล้จะหมดสติพูดขึ้น พร้อมมองชายตรงหน้า...พร้อมกรงเล็บเปื้อนเลือดที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ

 

"ยอมพูดแล้วหรอ" เจ้าตัวประชดอีกฝ่ายที่ไม่ยอมพูดกับเขามาตลอดคืน ก่อนจะก้มลงพร้อมใช้นิ้วชี้จิ้มเลือดของเซโนขึ้นมาชิ้ม "รสชาติไม่เลวเลยนะครับ" คุณชายแวนนิชพูดก่อนเดินมานั่งลงตรงหน้าของคุณ... "ผมละสงสัยจริงๆอะไรที่ทำให้คุณรับงานอันตรายแบบนี้กัน" 

 

 

 

"ถ้าจะ...ฆ่า...ก็อย่าทำผมทรมาณละกัน" คุณที่สติเริ่มเลือนรางจากอาการเสียเลือดพูดขึ้น เชิงประชดอีกฝ่าย... "ผมยังทำร้ายคุณตอนนี้ไม่ได้หรอกคุณเซโน เพราะยังไม่ถึงเวลาตี 4 นี่นะ" "แต่ถ้าคุณยอมรับข้อแลกเปลี่ยน...ผมจะทำให้คุณรอดจากคืนนี้ไปอย่างสบายๆเลย"

 

"อะ...อะไร" คุณถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่แผวเบา

 

"มาเป็นยามถาวรของที่นี่" คุณแวนนิชกล่าวข้อเสมอพร้อมยื่นมือมาของเขามาทางผม

 

[ถ้าไม่เลือกก็ตาย ถ้าเลือกก็ไม่รู้ว่าจะตายตอนไหนสินะ] คุณคิดในใจ ก่อนใช้แรงฮึดเฮือกสุดท้ายเอื้อมมือของตนไปจับมือของอีกฝ่าย "ดูเหมือนคุณจะตกลงสินะครับ" คุณแวนนิชยิ้มออกมา ก่อนใช้นิ้วจิ้มแล้วลากไปตามรอยแผลของคุณ 

 

แผลของคุณค่อยๆสมานตัว

"กลับไปนอนในห้องยามจนถึง 6 โมงเช้าได้เลยครับ คุณปลอดภัยแล้ว...ในตอนนี้" คุณแวนนิชพูดก่อนเดินหายเข้าไปในความมืด...