อาจารย์คนทา ติดใจฝ่ายปกครองเหรอคะ หัวหน้าฝ่ายปกครองถามขณะพวกเขารอให้ผู้ปกครองของนักเรียนทั้งสองมาถึง ศินะกับโตวันนั่งอยู่คนละสุดฝั่งของโซฟาข้างหลัง ส่วนเขากับพี่ปราชญ์นั่งประจันหน้ากับอาจารย์อาวุโสตรงโต๊ะ โดยพี่ปราชญ์คอยเหลียวไปมองให้แน่ใจว่านักเรียนห้องตัวเองสำรวมดีแทบทุกสองนาที ส่วนโกชำเลืองมองนิดหน่อย

ไม่เชิงครับ ถึงจะไม่กลัวเท่าสมัยเรียนก็เถอะ เขาตอบตามตรง

ยิ่งผ่านไปนาน ทุกคนยิ่งหงุดหงิด โตวันขยับเข่ายุกยิกอยู่ไม่สุข เริ่มเอนตัวไหล พี่ปราชญ์เคาะนิ้วกับริมโต๊ะ

ทุกคนหันพร้อมกันตอนประตูห้องเปิด แล้วชาย-หญิงเดินเข้ามาด้วยกัน ฝ่ายหญิงสวมเครื่องแบบทับด้วยเสื้อกันหนาวสีดำ กระนั้นก็ยังเห็นพวกตรายศสารพัดสารเพแพลมตรงปกเสื้ออยู่ดี สีหน้า ท่วงทาการขยับ น้ำเสียงเมื่อแจ้งว่ามาตามที่อาจารย์โทรไปขอพบ ทุกอย่างกรีดร้องว่าให้มองแล้วสัมผัสถึงอุปนิสัยเด็ดขาด ประหนึ่งกลัวคนลืมภาพจำของพวกทหาร และความไม่พอใจที่โดนเรียกตัวมารับลูกถึงห้องปกครอง กระทั่งโตวันที่ปั้นหน้าไม่กลัวมาจนถึงเมื่อครู่ ยังยกมือไหว้ไหล่ห่อ สีหน้าติดจะหวั่น เสียงตอนพูด สวัสดีครับ ป้าลักษณ์สั่นยิ่งกว่าตอนโดนพี่ปราชญ์เรียกให้อยู่ต่อหลังเลิกเรียน

คุณแม่ของศินะใช่ไหมครับ ผมคนทาครับ เป็นอาจารย์ประจำชั้นของศินะ โกลุกขึ้นยกมือไหว้

ขอโทษด้วยนะคะสำหรับเรื่องวุ่นวาย

ไม่เลยครับ เขาผายมือเชิญให้คนทั้งสองนั่ง พลางหันเก้าอี้เข้าหาชุดโซฟาแทนแล้วกลับลงนั่งผมว่าคุณแม่ต้องขอโทษศินะมากกว่าครับ ตอนนี้เลย

เงียบกริบ โกไม่พูดอะไรเพิ่ม แค่รอ ส่วนอีกฝ่ายก็เอาแต่มองเขาอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นค่อยหันมองคนอื่น ศินะตัวแข็งทื่อ โตวันมองเขาเหมือนครูคนนี้โคตรโง่ พ่อของศินะเอาแต่ก้มมองมือตัวเอง ส่วนพี่ปราชญ์ถือคติมองมามองกลับไม่กลัว

สิ่งแรกที่พลตรีหญิงนงลักษณ์เลือกจะพูดเมื่อยอมเปิดปากอีกครั้งคือ แล้วคุณพ่อของวันอยู่ไหนคะเธอมองระหว่างอาจารย์สามคนกับโตวัน

ผู้ปกครองของนายโตวันยังมาไม่ถึงค่ะ

จะมาไม่ถึงได้ยังไงคะ ในเมื่อฉันก็มาถึงแล้ว

ลูกน้องออกหลังหัวหน้าก็เรื่องปกตินี่ครับโกเอ่ยลอยๆ

หล่อนเบือนหน้ามามองเขา จะให้ฉันขอโทษอะไรลูกฉันเองคะ

พฤติกรรมที่คุณทำกับลูกของคุณมันน่ารังเกียจครับ ผมไม่อยากพูดถึงซ้ำๆ ช่วยรอลูกน้องคุณมารับฟังทีเดียวได้ไหมครับ

อาจารย์คนทา หัวหน้าฝ่ายส่งเสียงเตือน

นายพลยกมือปางห้ามญาติใส่ทางอาจารย์หัวหน้าฝ่ายปกครอง ทำนองว่าหล่อนจะจัดการเอง หรือก็ไม่อยากให้มีใครพูดขัดตนมากไปกว่านี้อีก

หมายความว่าไง

ถ้าจะให้ผมเรียบเรียงให้ฟัง ก็รบกวนรอด้วยครับ ผมจะพูดรอบเดียว --”

พี่ปราชญ์สะกิดเขา แล้วกระแอม งั้นเอาเรื่องของผมก่อนแล้วกันครับ ผมพูดสองรอบก็ได้ เพราะยังไง ของนายโตวัน ผมคิดว่าต้องคุยจากผู้ปกครองทั้งสองฝ่าย คืออย่างงี้นะครับ คุณแม่ นายโตวันเป็นนักเรียนนะครับ มาโรงเรียนก็ควรเรียนหนังสือ เล่นกับเพื่อน ทำกิจกรรม กินข้าวให้เป็นเวล่ำเวลา เด็กวัยรุ่นนะครับ เขาไม่ควรต้องมานั่งจับผิดเพื่อนร่วมชั้น หรือทำตัวเกเรอยู่แล้ว ยิ่งทำตัวเกเรเพราะผู้ใหญ่สั่งมานี่ไม่ยิ่งประหลาดเกินไปหน่อยเหรอครับ

อาจารย์อย่ามาพูดแบบนี้นะคะ แล้วฉันไปสั่งให้เขาเกเรตอนไหน

ตอนไหนที่คุณกับคุณพ่อของนายโตวันตกลงกันว่าจะให้เด็กเขาแกล้งเพื่อนล่ะครับ ก็ตอนนั้นนั่นแหละ ผมไม่ได้ไปเข้าร่วมสมัชชาบ้าบอนี่ด้วยสักหน่อย คงระบุวันเวลาให้ไม่ได้หรอกครับ แวบแรกเขาคิดว่าจะโดนรุ่นพี่เก่าเอ็ด ที่ไหนได้ อีตาพี่ปราชญ์กล้าระดับทำเป็นเอานิ้วก้อยแคะขี้หูประกอบความรำคาญ อีกนิดคือเป่าปลายนิ้วใส่ทางผู้ปกครอง เดี๋ยวผมจะคุยกับคุณพ่อของนายโตวันอีกที แต่ประเด็นกับทางฝั่งคุณคือ คุณแม่รบกวนช่วยอย่าเอาตำแหน่งงานมาลามปามถึงคนในครอบครัวลูกน้องได้ไหมครับ มันจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับเด็ก

ฉันไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น ขอโทษนะคะ แล้วนี่โรงเรียนไม่มีอะไรทำเหรอคะ ถึงเรียกให้มาฟังพวกคุณด่าปาวๆ ฉันจ่ายเงินให้โรงเรียนนี้ไปตั้งเท่าไร

คุณจ่ายเงินให้โรงเรียนดูแลลูกของคุณ ไม่ใช่ให้มาเข้าข้างเวลาคุณทำผิดต่อเขา

จะมากไปแล้ว --”

แม่คุยกับพ่อของวันกันไว้แบบนั้นไม่ใช่เหรอ แม่บอกฝากให้วันดูผมที่โรงเรียนให้หน่อย

นงลักษณ์ตวัดสายตาขวับจับที่ลูกตัวเอง ก็เราทำตัวไม่น่าไว้ใจเอง แล้วจะให้แม่ทำยังไง

ชอบเพื่อนผู้ชายนะครับ ไม่ใช่ก่อรัฐประหาร

หล่อนกลับมาที่เขาทันใด

ไม่ใช่ลูกคุณก็พูดได้สิ!”

ให้เป็นลูกผม ผมก็พูดแบบนี้ โกขึ้นเสียง มีคนอีกตั้งเยอะไม่ทำแบบนี้ ทำไมคุณเป็นแบบนั้นให้ศินะไม่ได้

เขานึกถึงรอยยิ้มคิกคักของเจนธรรม เวลาเล่าว่าพ่อแม่ตัวเองเถียงอะไรกับญาติรายอื่นเพื่อปกป้องเธอบ้าง นึกถึงสีหน้าสบายอกสบายใจขณะอธิบายสิ่งต่างๆ ให้เขาฟังของสน นึกถึงสีหน้าของแม่เขาเองที่ห่วงหาอรัณ และเข้าอกเข้าใจอรุโณทัยเป็นอย่างดี นึกถึงสายตาท่าทางของพี่ปราชญ์ที่พร้อมมีเรื่องกับรุ่นน้องผู้รู้จักกันมานานแบบเขา ถ้าเขาทำให้เจนธรรมไม่สบายใจ

เป็นอาจารย์ พูดจามักง่ายแบบนี้ได้ไง คุณไม่เห็นเหรอว่าเด็กแบบลูกฉันจะใช้ชีวิตลำบาก ใครมันจะไปมักง่ายเหมือนพวกพ่อแม่ที่ปล่อยลูกทำอะไรตามใจชอบ ไม่รู้จักระวังหน้าหลังให้ลูก คิดว่าฉันไม่เคยเห็นเหรอ ว่าคนแบบศิโดนรังแก โดนว่า โดนพูดถึงไม่ดียังไงบ้าง

แต่ตอนนี้เขาก็โดนรังแกอยู่แล้วนะ ทั้งจากเพื่อน ทั้งจากพ่อแม่เขาเอง

นงลักษณ์ลุกขึ้นยืน ฉันเนี่ยนะ รังแกลูก ฉันเนี่ยนะ!”

โกอ้าปากหมายจะสวน แต่พี่ปราชญ์เอื้อมมือมาตะครุบป้าบใส่หน้าเขาไปครึ่งหนึ่ง แล้วทำเป็นมองสลับไปมาระหว่างผู้เป็นแม่กับผู้เป็นลูกอย่างเชื่องช้า ช้ากระทั่งจังหวะกะพริบตา

ถ้าไม่ชอบคำว่ารังแก เอาเป็นข่มเหงแทนไหมครับ

โตวันมองครูประจำชั้นตัวเองตาแทบถลน น่าจะเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดเรื่องที่โกเข้าใจสักความรู้สึกของเด็กคนนี้บ้าง

กลับกัน โกยิ่งไม่เข้าใจนงลักษณ์หนักกว่าเดิมเมื่อหล่อนมองหน้าพี่ปราชญ์ปานจะฆ่ากันตาย แต่กลับหันไปด้านข้าง แวบแรกเขาคิดว่าหล่อนจะกดดันให้ครอบครัวช่วยเข้าข้างบ้าง ทว่ามือข้างหนึ่งกลับข้ามหัวสามีไปจิกผมศินะแทน โกลุกพรวดเข้าไปหา ฝ่ายสามีของนงลักษณ์ก็เอาตัวเองดันลูกชายออก ทว่ามือของเธอยึดกับหนังหัวลูกไปแล้ว เธอปีนขึ้นโซฟา พยายามเขย่าลูกชายไปมา แผดเสียง ข่มเหงเหรอ อยากเห็นข่มเหงใช่ไหม ก็ลองดูสิ ลองให้ไอ้ลูกคนนี้มันทำตัวเป็นผู้เป็นคนไม่ได้สิ จะได้เห็นใครจะข่มเหงมัน แล้วทำไมมันถึงทำไม่ได้ กับเรื่องแค่นี้ทำไมถึงทำไม่ได้ แค่ให้เป็นผู้ชาย ทำไมมันถึงทำให้แม่ไม่ได้!”

ตัวสามีหลบออก เอามือไปจับแขนภรรยา บอกให้ปล่อยลูกแทน แต่เสียงสู้เจ้าหล่อนไม่ได้สักนิด พี่ปราชญ์อ้อมโต๊ะไปดึงตัวนงลักษณ์จากข้างหลัง ทว่าก็ไม่กล้าออกแรงดึงตัวหล่อนทีเดียวเพราะกลัวศินะจะเจ็บกว่าเดิมไปด้วย ส่วนโกพยายามแกะนิ้วหล่อนออกจากหัวลูกศิษย์ หยุดนะ! หยุด!” “ทำไมห้ะ ทำไมมันต้องหาเรื่องให้แม่!” “แม่ พอก่อน!” “พวกคุณ หยุดนะ!” พวกเขาตะโกนแข่งกันไปมา

คนที่ไม่ส่งเสียงสักแอะมีแค่ศินะกับโตวัน

โกตัดสินใจ บอกให้ปล่อยไงโว้ย! เขาเหวี่ยงหมัดตัดตรงหน้านงลักษณ์

ห้องฝ่ายปกครองเหลือแค่เสียงเครื่องปรับอากาศทำงานกับเสียงหายใจหอบก้อนใหญ่ นงลักษณ์ยืนค้างในท่าสองมือยกบังหน้าตัวเอง กำปั้นของโกปักอยู่กับผนัง ท่อนแขนเกือบชนกับสันมือนายพล

โกค่อยๆ ยกมือออกแล้วปัดไปข้างตัว ถอยหลังไปยืนข้างศินะ

แกจะต่อยฉันเหรอเธอถาม นี่ขู่กันเหรอ จะทำร้ายร่างกายกันงั้นเหรอเธอหันไปขอความเห็นจากคนอื่นในห้องเห็นกันใช่ไหม

เปล่าครับพี่ปราชญ์พูด

อ๋อ นี่เข้าข้างกันเองใช่ไหม ได้ –”

ผมต่างหาก จะต่อยคุณ แต่อาจารย์คนทามาปัดมือผม เป็นผู้ปกครองประสาอะไร โกรธก็ทำร้ายลูกก่อนอันดับแรก เหี้ยมาก โคตรน่าต่อยปาก ดีนะไอ้น้องผมห้ามผมไว้

อาจารย์กันตพิชญ์!”

หัวหน้าฝ่ายปกครองสั่งยุติการพบผู้ปกครองเท่านั้น แล้วไล่พวกเขาสองคนออกมาข้างนอกก่อน

กว่าผู้ปกครองของโตวันจะมา พวกเขาก็ไม่มีโอกาสได้คุยแล้ว ตาคนนั้นโดนหัวหน้าเรียกเข้าไปข้างใน แล้วไล่โตวันกับศินะออกมา

พี่ปราชญ์

หิวน้ำว่ะ ไปโรงอาหารกันไหม สองคนจะเอาอะไร เดี๋ยวพวกครูหยิบมาฝาก ศินะกับโตวันสะดุ้ง ราวกับทั้งเย็นนี้ลืมไปแล้วว่าถึงจุดหนึ่ง ผู้ใหญ่จะพูดกับพวกเขา เด็กทั้งสองอ้อมแอ้มปฏิเสธน้ำใจ งั้นนั่งรอกันดี ๆ ละ โตวัน ออกมาให้ห่างศินะเลย แล้วถ้าครูกลับมา ศินะบอกคุณหาเรื่องเขาอีก…”

โตวันเขยิบตัวไปนั่งยืนคนละมุมบนทางเดิน พี่ปราชญ์จึงละวรรคที่เหลือไว้แล้วลากคอเสื้อโกให้มาด้วยกัน

พี่ ที่พี่พูดแบบนั้นกับแม่ของศินะ --”

มึงต่อยไปแล้ว ถึงจะต่อยกำแพงก็เหอะ อื้อหือ จะห้อเลือดไหมวะนั่นพี่ปราชญ์คีบแขนเสื้อ ยกแขนโกขึ้นมาดูหลังมือ กูยังไม่ต่อย บอกๆ คุณนายไปว่ากูจะต่อย ถือว่าหารกันแล้วกัน

หารอะไรของพี่ พี่พูดแบบนั้นต่อหน้าหัวหน้าฝ่ายปกครองด้วย เกิดโดนลงโทษ พี่โดนหนักกว่าแหง

มีเรื่องกับนายพล ไม่โดนลงโทษก็พิลึกแล้ว พี่ปราชญ์ยักไหล่

ถ้าเกิดโดนไล่ออก –”

กูก็ไม่ลำบากอะไร แต่ศินะเอย อัศวินเอย เด็กห้องมึงทั้งนั้นเลยนะ

ก็…”

เขาไม่รู้ว่าควรตอบว่าอะไร พี่ปราชญ์เองไม่ได้ดูคาดหวัง ถึงได้สาวเท้ายาวขึ้นนำลิ่วไปขอซื้อน้ำจากแม่ครัว แล้วยื่นน้ำขวดเย็นเฉียบมาให้

แทนที่จะสนเรื่องกู มึงอธิบายตัวมึงเองหน่อย เดือดอะไรขนาดนั้น กูเกือบนึกว่ามึงจะต่อยนางคุณแม่เข้าจริง ๆ แล้วนะ ห้ามมึงไม่ทันด้วย อีคุณพ่อก็โคตรไร้ประโยชน์

พี่ไม่โกรธรึไง

ก็โกรธ แต่คนละแบบกับมึงแน่ๆ กุโกรธที่เขาทำแบบนี้กับลูกได้ยังไงวะ แต่มึงเหมือนโกรธอย่างอื่นด้วย

ทำไมผมต้องมีอย่างอื่นด้วย

ก็ถ้ามึงโกรธเพื่อศินะ ไหงมึงแทบไม่มองนักเรียนมึงเลย พี่ปราชญ์วางแก้วน้ำตัวเองลงบนโต๊ะ เด็กมันกลัวนะ มึง นั่นแม่กับครูประจำชั้น

เรื่องนั้น…”

เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม

กูไปเข้าส้วมก่อนละ เผื่อกลับไปแล้วยาว โก มึงไปนั่งรอที่ห้องพักไป ฝากแก้วน้ำกูด้วย

เดี๋ยว แล้วทำไมจะให้ผมไปรอข้างบนล่ะ พี่!”

พี่ปราชญ์มองเหมือนเขาก็กล้าถาม จะให้ศินะเห็นมึงสภาพนี้ต่อเหรอ เด็กมันได้ขวัญเสียกว่าเดิมสิ ไปนั่งเถียงกับตัวเองให้เสร็จก่อนไป

เขานึกถึงคืนที่อรัณเข้าโรงพยาบาล นึกถึงสีหน้ากังวลของเจนธรรม นึกถึงเสียงไม่มั่นใจของอรุโณทัย

เขานึกถึงความรู้สึกขาดห้วงเมื่อตอนอายุสิบเจ็ด เพียงหนึ่งวันหลังงานปัจฉิม พี่ปราชญ์มาหาถึงบ้านในยามบ่ายร้อนอบอ้าว แวบแรกโกตั้งใจว่าต่อให้ธุระเป็นอะไรก็ต้องลากรุ่นพี่ไปหาน้ำแข็งไสกินด้วยกัน

แล้วพี่ปราชญ์ก็ยื่นเครื่องเล่นเทปมาให้ พึมพำอธิบายว่าเด่นปองฝากเอามาคืน เพราะหมอนั่นไม่ว่างมาคืนเอง เพราะหมอนั่นไม่สะดวกมาคืนเอง เพราะหมอนั่นขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศแล้ว

พี่ ปองมันก็ แบบนี้ใช่ไหม

ถามมันสิพี่ปราชญ์ตอบทันควันดั่งว่ารอมาตลอด กูว่ามันอยากเล่าให้มึงฟังมากกว่าตีตั๋วไปอเมริกาอีก

 

เขาเลยกลับขึ้นห้องพักโดยดี แล้วมองตรง tap for details ก่อนต่อสายหาเด่นปอง

 

มึง มึงว่านี่น้าโกปะ

สน ได้กี่หน้าแล้วเหรอ

หยาบคาย ใจทราม กล้าดียังไง

สองหนุ่มมองเพื่อนของพวกตนยืนเท้าสะเอวอยู่บนบันไดที่หล่อนในตอนแรกเถลือกถลนลงมาเสียเกือบสะดุดขาตัวเอง ทว่าพอเจอคำถามเสียงเนิบทีเดียว คุณเธอถึงกับกลับไปยืนตรงนิ่งกลางทาง อรัณนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น รายล้อมด้วยเบาะซึ่งเคยกองบนโซฟา ทว่าโดนอรุโณทัยนอนอืดเอื่อยพลางเขี่ยตกลงพื้นทีละใบ

สนฟื้นตัว เธอขยับต่อ กูไถทวิต

แล้วตอนไหนที่มึงเขียนบท

หญิงสาวกัดฟันข่มเสียงสบถประมาณ อีสัส แล้วหยิบหมอนใบใกล้มือทั้งหมดปาใส่อรุโณทัย อรัณฉวยใบหนึ่งทันกลับมากอดไว้บนตัก เขายกเข่าขึ้นกันแล้วขดตัวงอกันไม่ให้โดนแย่งไปขณะที่หมอนหลายใบลอยข้ามหัวไปอัดใส่เป้าหมายบนโซฟา

อีพวกเหี้ย นี่น้าพวกมึงนะ

อรัณนิ่งคิดไป แล้วไหวไหล่

ตะกี้มึงยังถามอยู่เลยว่าใช่น้าโกไหมอรุโณทัยท้วงเสียงอู้อี้จากใต้กองหมอน เขายกหัวโผล่ขึ้นมาในที่สุด ไหน อะไร

มีคนไปแคปเฟสมาลงในกรุ๊ปศิษย์เก่า ผู้ปกครองเด็กคนหนึ่งอัพสเตตัสเล่าว่า มีอาจารย์สองคนพยายามหลอกให้ลูกเขาเชื่อว่าลูกเขาเป็นตุ๊ด จะได้โดนเพื่อนแกล้ง แล้วมาหาเรื่องเขา บอกโดนทั้งขึ้นเสียง ทั้งโดนด่าแรงมาก นี่ไม่ใช่แค่ไม่มีมารยาทต่อกันนะคะ แล้วยังคิดจะทำร้ายร่างกายกันด้วย คงหวังอะไรสักอย่าง แต่ทางนี้ก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่าหวังอะไร ไม่รู้ว่ามีอาจารย์รวมหัวกันอีกมากแค่ไหน ตอนนี้คุยกับทางโรงเรียนแล้ว แล้วเนี่ยเธอพลิกโทรศัพท์มือถือให้อรุโณทัยดู อ่านคอมเมนต์นี้สิ

อรุโณทัยสะบัดหมอนให้หมดไปจากตัว รับโทรศัพท์มาอ่านออกเสียง “‘ไม่จริง น้องเราตอนนี้เรียนม.หกที่นี่ วันนี้น้องมาเล่าให้ฟัง ลูกอีนี่อะ น้องเขาเป็นตุ๊ดมาตั้งแต่ม.สองแล้ว แล้วก็โดนผู้ชายกลุ่มนึงในชั้นตามแกล้งมาตลอด วันนี้คือเล่นใหญ่มากค่ะ เอารูปมาแปะประจานกันเลยสักอย่างนี่แหละ น้องบอกเห็นพวกอาจารย์โกรธอีคนทำมาก ตบได้คือตบหัวหลุดไปแล้ว เอ่อ น้าโกเนี่ยนะ กูว่านี่น้าปราชญ์มากกว่ามั้ง

แต่นี่มันเรื่องของเพื่อนน้องเมย์เมื่อเช้าเลยนะ เด็กห้องน้าโกทั้งนั้น น้าเขาจะไม่เกี่ยวเลยเหรอ

ผมว่าก็เป็นอย่างสนว่านั่นแหละ

น้าโกเนี่ยนะ

น้าโกเหรอ

ทั้งสามมองหน้ากัน

โณคว้ากระเป๋าพุ่งไปประตูเพื่อใส่รองเท้าคนแรก อรัณพับจอคอมพิวเตอร์ลง หอบเครื่องไล่ตามอรุโณทัยไป ปล่อยสนยืนเก้อ อ้าว พวกมึง ของกูอยู่บนลอฟต์!”

มึงก็ตามมาแล้วกัน ฝากปิดสตูดิโอด้วย พวกกูกลับบ้านก่อนอรุโณทัยทิ้งท้าย

พวกเขากลับบ้านไปเจอน้าโกตามคาด ญาติผู้ใหญ่ทั้งสองนั่งกินทอดมันข้าวโพดกันอยู่ที่โต๊ะ มือข้างขวาประคบห่อเจลแช่เย็นสีฟ้าเข้ม อรัณหันมองอรุโณทัยอ้าปากค้าง ไม่ทันได้ยกมือไหว้สวัสดีนกยูง คนข้างกายก็ชี้นิ้ว ร้องดังลั่น น้าต่อยคน!”

ต่อยกำแพงเฟ้ย!” ฝ่ายน้ารีบแก้ จ้ำพรวดมาลากพวกเขาเข้าบ้านเพื่อปิดประตู ไปรู้มาจากไหนอีก กนกพรกลับบ้านไปก่อนนานแล้วไม่ใช่เรอะ รึแอบฟังอยู่ในกำแพง

ข่าวลงเน็ตมาสามชั่วโมงแล้วครับอรัณตอบ ผู้ปกครองน่าจะของเด็กคนนั้น เขาเขียนลงในเฟส

โกกลับลงไปนั่งข้างมารดา เอาหน้าซบผิวโต๊ะกินข้าว

แล้วนางบอกว่าคุยกับโรงเรียนแล้ว น้าโดนอะไร โดนไล่ออกเหรอ

เปล่า

คนทั้งสองตื่นตระหนกน้อยลง แม้ท่าทีแสดงออกจะต่างกันก็ตาม แต่ก็มีเสียงผ่อนลมหายใจโล่งอกอยู่เบา ๆ

โดนให้พักงานหนึ่งอาทิตย์

อ้าว ไหงงั้นอรุโณทัยปลดสายกระเป๋า ปล่อยให้กองลงกับพื้น พวกเขาเดินลงไปล้างมือก่อนกลับมาคุยต่อ สองชายหนุ่มเบียดกันนั่งใกล้จาน

ลงโทษที่พูดจาไม่ดีต่อหน้านักเรียน แถมพูดใส่ผู้ปกครองของนักเรียนด้วย เขาถือว่าสร้างความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของนักเรียนโกถอนหายใจ

แต่ยังดีกว่าถ้าโรงเรียนเชื่อตามที่ผู้ปกครองเขียนด่าใช่ไหม

อันนั้นไม่ค่อยมีผลกับน้าหรอก ครูฝ่ายปกครองก็อยู่ด้วยตลอด เห็นหมดใครทำอะไรโกส่ายศีรษะ แต่พี่ปราชญ์อาจโดนไล่ออก

อรัณวางคืนชิ้นทอดมันข้าวโพด หมดความอยากอาหารกะทันหัน

ทำไมน้าปราชญ์ –”

อาจน้าโกย้ำเสียงดังฟังชัด ทั้งหนักแน่นทั้งกลัดกลุ้ม ตอนนี้โดนพักงานไปก่อนเหมือนกัน ต้องมีสอบสวนก่อน เห็นว่าจะมีจัดกระบวนการประเมินคุณภาพบุคลากรด้วย คงใช้เวลาสองรึสามวันกว่าจะตัดสิน

หรือว่าคนที่จะทำร้ายร่างกายอะไรนั่น...

ไม่ใช่ว้อย นี่ยายคนนั้นเขียนอะไรไปบ้างเนี่ย

น้าโกอย่าเพิ่งอ่านตอนนี้เลยครับอรัณเตือนไว้ก่อน เขาเพียงฟังที่สนเล่าโดยสังเขปยังคิดว่าไม่เจริญโสตประสาท

งั้นป้าอ่านได้ไหม

สองหน่อนึกถึงนกยูงในคืนที่อรัณต้องเข้าโรงพยาบาล คุณป้ายิ่งอย่าเห็นเลยจะดีกว่าครับคนโปรดบอกเสียงอ้อนเสียงวอน มีหลานชายส่ายหน้าพั่บๆ ช่วยเสริมย้ำให้เชื่อคำแนะนำ ไม่อยากเห็นยายตนหยิบเครื่องรามชามไหไปไล่ทุบนายพลที่ไหนเข้า

ออดดัง หยุดจินตนาการฟุ้งซ่านเอาไว้ชะงัก อรุโณทัยหันไปสนใจที่มาเสียง ห่ะ สนมันทำอะไรของมันพวกเขาไม่กดออดบ้านกันมาเป็นชาติแล้ว หรือคุณเธอเกิดงอนที่โดนทิ้งไว้ให้ปิดสตูดิโอก็ไม่ทราบ ชายหนุ่มปีนออกจากเก้าอี้ไปเปิดประตูรับเพื่อน โกมองหลานชายเดินออกไป

แล้วกลับเข้ามาพร้อมคนที่ไม่ใช่สน

ศินะ?”

 

ศินะเข้ามาในบ้านพร้อมกับพ่อ สามีไร้ประโยชน์ตามคำเหน็บลับหลัง ต่อหน้าโกตอนนี้เองเขาก็ดูเหมือนยังหวั่นเกรงไปหมด เขาอายุมากกว่าโกไม่เท่าไร แต่อากัปกิริยาเหมือนคนหนุ่มอายุน้อย ในห้องปกครอง เขาก็แทบจะตัวตนเลือนหาย โกเดาว่าสถานะเช่นนี้ดำเนินไปถึงภายในครอบครัวด้วย เขาเคยเจอผู้ปกครองสารพัดแบบ ทั้งครอบครัวประเภทที่คนเป็นแม่รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับนักเรียน มานัดพบผู้ปกครองคนเดียวไม่ว่าจะทำงานเองเช่นกันหรือเป็นแม่บ้าน บางครอบครัวที่ผู้ปกครองผลัดกันมาตามตารางชีวิตลงตัวอย่างไร หรืออย่างที่ฝ่ายพ่อมาดูแลชีวิตลูกข้างเดียว เหตุผลต่างไปตามแต่ละบ้าน ธุระปะปังรัดตัวบ้าง ระยะห่างทางกายภาพมากเกินไปบ้าง สถานะสมรสกับหย่าร้าง ไม่ก็แยกกันอยู่

เขามักจะพยายามไม่มองลึกลงไปในมุมประเภทลักษณะความเป็นไป รายละเอียดเช่นใครมีลักษณะเป็นผู้นำของครอบครัวมากกว่า แล้วคิดเสียแค่ว่าคนในนั้นคงแบ่งปันความรับผิดชอบกันเอง เช่นว่าแม่ที่ได้รับความไว้วางใจให้ตัดสินใจเรื่องบุตรเองทั้งหมด ไม่ต้องปรึกษาคู่ชีวิต แต่ตอนนี้หลังจากผ่านเรื่องวุ่นวายมา โกมองชายแปลกหน้า ผู้ปกครองอีกคนหนึ่งของนักเรียนที่เขาไม่ได้พยายามต่อยเข้าที่หน้า ปล่อยจินตนาการของตนแกะร่องรอยความอึดอัดของศินะ

สามีที่ท่าทางขี้เกรงใจภรรยา รวมไปถึงเกรงใจทุกคนไปหมด แต่นั่นคือเรื่องของการเกรงใจไม่เลือกหน้า ได้แต่หงอใส่ทุกอย่าง หงอใส่ถ้อยคำ การกระทำโหดร้าย แล้วก็หงอใส่น้ำตาของลูกที่ควรปกป้องไปด้วย

ขอโทษแทนภรรยาของผมด้วยนะครับ

ผมบอกแล้วไงครับว่า --”

พ่อเขาขอโทษผมแล้วครับ อาจารย์ ทั้งขอโทษแทนแม่ กับขอโทษเองด้วย ศินะพูดขึ้น สีหน้าเขาดูดีขึ้นมา

โกอ้ำอึ้งไป ก่อนจะมองนักเรียนของตนตรงๆ บังคับไม่ให้ตนหันมองคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งอรัณ มิเช่นนั้นเขาอาจจะอยากให้คนที่โทรศัพท์มาพูดคุยอย่างเข้าอกเข้าใจช่วยรับมือเรื่องนี้แทน

ศินะเป็นนักเรียนของเขา เด็กนักเรียนที่กับวิชาอื่นก็ทราบว่าทำงานส่งไม่มีปัญหา เขากลับไม่ถามเลยสักครั้งว่าทำไมถึงชอบลอกวิกิพีเดียมาส่งเขาโต้งๆ ไม่ปรับไม่แปล มัวคิดว่าไม่อยากทำตัวเป็นอาจารย์ที่เข้มงวด อบรมสั่งสอนวินัยเด็ก อยากเป็นแค่คนสอนความรู้และเพื่อนคุย ถึงได้ทำเป็นว่าตัวเขาไม่มีเรื่องต้องทำมากไปกว่าเรียกศินะมาเขียนงานใหม่ส่งทุกครั้ง ไม่เคยนึกสงสัยทำไมเด็กนักเรียนสักคนจะอยากมานั่งห้องอาจารย์ทั้งที่มีเพื่อนกำลังพักก่อนเข้าเรียน

บางทีนั่นอาจเป็นวิธีหนีความรับผิดชอบแบบหนึ่งของเขาเอง เขาไม่ใช่เพื่อนของนักเรียน เขาเป็นผู้ใหญ่กว่าเด็กพวกนี้เป็นสิบยี่สิบปี

เพื่อนรักของเขาอาจไม่มีรอยยิ้มแบบที่เขาได้เห็นผ่านทางหน้าจอโทรศัพท์ ถ้าดีสุดของผู้ใหญ่รอบตัวหมอนั่นตอนนั้นทำได้แค่เขาตอนนี้

ครูต้องขอโทษคุณด้วยเหมือนกัน ที่ต้องทำให้มันเป็นเรื่องของตัวเองก่อน ถึงจะใส่ใจคุณให้เหมาะสม แล้วยังไม่ดูแลให้ถูกต้องในทันทีด้วย

อาจารย์ก็พูด --”

แล้วแม่ของคุณก็ทำร้ายคุณแทน ต่อให้ครูคิดจะพูดทุกอย่างเหมือนเดิม ควรจะสำนึกได้ก่อนว่าไม่ควรให้คุณมาเห็นเรื่องพวกนี้ ศินะ ฟังนะ พวกคุณคงเคยเห็นคำคมอะไรพวกนั้นมาเยอะ ว่ามนุษย์เรามีด้านน่าเกลียด แต่ประเด็นคือ ไม่ใช่ทุกด้านน่าเกลียดอย่างจำเป็น และยิ่งกว่านั้นคือ ไม่ใช่สิ่งที่คนเป็นเด็ก คนเป็นลูก ควรมารับรู้ด้านนั้นของคนที่รับผิดชอบชีวิตพวกเขา คนเราอ่อนแอและแสดงความไม่สมบูรณ์แบบได้โดยไม่ต้องทำตัวน่ารังเกียจ ตัวครู พ่อของคุณ แม่ของคุณ ล้มเหลวต่อความรับผิดชอบนั้นกันแบบพินาศสุดๆ ครูขอโทษด้วย

ศินะเหมือนอยากจะพูดอะไร แต่เปลี่ยนใจเข้าก่อน แล้วเลือกเพียงพยักหน้าแทนโดยไม่ยอมเงยหน้าขึ้น กระนั้นโกก็ยังเห็นน้ำตาหยดลงเพราะแสงหลอดไฟ

อาจารย์คนทาครับ ผมพาศินะมานี่เพราะมีเรื่องอยากขอให้อาจารย์ช่วยด้วย พ่อของศินะเอ่ยขึ้น ผมตกลงกับภรรยาว่าจะให้ศินะไปอยู่ที่อื่นกับผมสักระยะ แต่ความจริงคือ...เขาเม้มปาก หลุบตาอย่างยากลำบากเพราะรอบตัวมีคนมองอยู่เต็มไปหมด ผมไม่มีเพื่อนเป็นของตัวเองครับ

หมายถึง...โกนิ่วหน้า พยายามเข้าใจให้เร็วที่สุด

ผมได้ภรรยาช่วยใช้เส้นให้ได้เข้ารับราชการกับเลื่อนตำแหน่งครับ นั่นถึงทำให้ผมมากรุงเทพ พอย้ายมาก็ห่างกับเพื่อนเก่าไปหมด รอบตัวผมมีแต่เพื่อนหรือคนรู้จักของนง นี่ผมก็ได้เพื่อนของเขาอีกทีมาโทรชวนให้ไปพักบ้านเขาสักระยะ ซึ่งมันไม่ใช่เพื่อผมหรือเพื่อศิหรอกครับ แต่เขาแค่เป็นห่วงว่าภรรยาของผมจะยิ่งอารมณ์ไม่ดี ซึ่งผมไม่สบายใจจะให้ศิไปพักกับคนแบบนั้น

ก็เลย... โกเริ่มเดาออก

จะเป็นอะไรไหมครับ ถ้าจะให้ศิพักกับอาจารย์คนทาสักระยะ

น้าโกจะไม่โดนข้อหาลักพาตัวใช่ไหมอรุโณทัยถามยายนกยูงเสียงดังทั้งที่ทำมือป้องปากกระซิบ ไอ้คนการกละคร

แม่ไม่สนใจหรอกครับว่าผมจะไปอยู่ที่ไหน ตอนที่พ่อบอกว่าจะออกไปจากบ้านสักพัก แม่ก็แค่บอกให้รีบๆ เก็บของออกไป

แต่เขาอาจจะตกลงกับเพื่อนไว้แล้วก็ได้ ถ้าเกิดรู้เข้าว่าคุณไม่ได้ไปค้างที่เดียวกับคุณพ่อล่ะ

ถ้ามีปัญหา ผมจะรับผิดชอบเองครับ ได้ไหมครับ ให้ศิพักกับอาจารย์ได้ไหม

ทำไมถึงไว้ใจให้ลูกมาพักกับผมครับโกอดระแวงมิได้ เขาไม่คิดว่าคนท่าทางหงอไม่กล้าปกป้องลูกจะเกิดบรรลุความกล้าท้าทายคนรอบข้างขนาดนั้น

ผมกลัวว่าถ้าไปพักกับเพื่อนของนงแล้ว ศิจะโดนแย่งพวกนี้ไปทิ้งอีกครับเขาล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบเอากำปากกากับดินสอกดออกมาแสดงบนฝ่ามือโดยยื่นไปทางลูก ทุกแท่งแม้จะมองจากตรงนี้ก็เห็นว่าเป็นลวดลายน่ารักสวยงาม สีพาสเทลเน้นไปที่ชมพูกับขาว ตรงก้นมีทั้งรูปทรงสัตว์กลมน่าเอ็นดู ดอกไม้ และหัวใจ ลูกยังชอบอยู่ไหม

พ่อ...ไปเอามาจากไหนศินะค่อยๆ หยิบไปดูเอง

ตอนแวะเติมน้ำมันตรงปั๊มใกล้รถไฟฟ้าขากลับบ้าน พ่อวิ่งไปดูว่าในสถานีมีแผงขายพวกเครื่องเขียนไหมเขาแค่นยิ้ม ขอโทษนะที่ทำได้เท่านี้ พ่อสัญญาว่าพ่อกับแม่จะทำให้ดีขึ้น

แล้ว -- แล้วศิต้องทำอะไร

กระทั่งสิ่งมีชีวิตนุ่มนวลในความคิดโกอย่างอรัณยังถลึงตาแข็งกร้าว ร่วมมองพ่อของศินะกับทุกคนในห้อง ส่งแรงกดดันให้เขาตอบให้ดี

มีความสุข?

ให้อภัยพ่อกับแม่สักวัน?

เป็นเด็กดี?

เชื่อว่าทุกอย่างจะโอเค?

รอ?

เป็นศิแบบนี้แหละ

อย่ามองคนอื่นเหมือนอยากเช็คสิลุงว่าพูดถูกไหม มองลูกลุงสิ --” อรุโณทัยแหว อรัณตะครุบมือปิดปากเพื่อนแม้จะไม่ทันแต่ก็ปิดเผื่อไว้ ส่วนคุณนายนกยูงหยิกข้อศอกหลานชาย ดังนั้นอย่างน้อยมืออรัณก็ได้ช่วยอุดเสียงร้องโหยหวน

ถ้าศินะต้องการแบบนั้น ให้พักที่บ้านผมไปก่อนก็ได้...เนอะหางเสียงอ่อยพอนึกขึ้นได้ว่าต้องขออนุญาตพระมารดาด้วย

คุณนายนกยูงเท้าเอวทั้งบนเก้าอี้ ทำเสียงฮึดฮัด ยื่นหน้าออกมาคล้ายกล้าดีอย่างไรมองดั่งว่าตนจะไม่อนุญาตให้เขาช่วยเหลือนักเรียน อันที่จริงคุณนางอัดอั้นคำถามประจำใจเวลามีใครเข้าบ้านไว้นานเกินขีดจำกัดแล้ว

หนู กินข้าวยังลูก

 

เพราะเห็นว่าศินะต้องมาพักอยู่ด้วย อรัณทำท่าจะขอตัวกลับก่อนเพื่อไม่ให้มีคนเยอะเกินไป ซึ่งไม่มีใครยอมรับเหตุผลพรรค์นั้น กระทั่งสนผู้สารภาพว่ามัวนั่งไถอ่านคอมเมนต์ต่อเพลินจึงตามมาช้าโผล่มาในที่สุด ก็แค่ต้องสรรหาของจะเป็นเก้าอี้มานั่งให้รอบโต๊ะเพื่อกินอาหารเย็นด้วยกันพร้อมหน้า มีเพียงพ่อของศินะที่กลับไปแล้วหลังจากเอากระเป๋าเสื้อผ้าของลูกชายมาวางไว้ตรงโซฟา

งั้นจะให้น้องเขานอนไหนอะสนถาม ศินะนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างเธอกับอรุโณทัย ไม่ทันสังเกตเช่นกันว่าไปโดนสองตัวที่โหวกเหวกที่สุดขนาบได้อย่างไรตอนจัดที่นั่งกัน

โซฟาก็ได้ครับ

ไม่ได้ ต้องอยู่ไปสักพักเลยนี่นา ก็ต้องมีห้องไงอรุโณทัยตอบเอง

ห้องหนังสือข้างบนสิ เดี๋ยวโกก็ย้ายฟูกของเตียงพ่อไปจัดให้เขานะนกยูงตัดสินใจให้แทน เด็ดขาด ฉับไว ใส่ใจลูกบ้าน

ฝุ่นห้องนั้นเยอะไม่ใช่เหรอ

เดี๋ยวพวกโณช่วยทำความสะอาดเอง!” นี่ก็กระตือรือร้นเหมือนเด็กดีใจมีเพื่อนมาค้างบ้านครั้งแรก โกเดาว่าอรัณมาบ่อยเสียจนหลานชายลืมไปแล้วว่าอีกฝ่ายไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่

ไม่ต้องก็ได้ครับ --”

น่า เด็กมัธยมน่าจะมีการบ้านเปล่า นั่งทำตรงโซฟาไปก่อนนะ

หลังกินมื้อเย็นเสร็จ จึงเป็นโกกับสนช่วยกันย้ายฟูกออกมารอบนทางเดินหน้าห้องหนังสือ เดิมห้องนี้เป็นห้องทำงานของพ่อกับแม่เขาเอง แต่ทั้งสองเปลี่ยนเป็นห้องเก็บของตั้งแต่โกยังเล็ก ต่อมาก็โดนพี่กับหลานเปลี่ยนเป็นห้องเก็บหนังสือ จะเรียกว่าห้องสมุดทุกคนก็กระดากใจเพราะไม่มีส่วนมุมใดบนชั้นหรือตั้งตามพื้นผิวต่างๆ รวมถึงพื้นที่เรียงจัดหนังสือเลย ไม่มีการใช้ระบบแบ่งหมวด แบ่งชื่อ แบ่งนักเขียน แค่ยัดตามพื้นที่ว่างไปเรื่อย ใช้ความจำเอาว่าเล่มไหนของอรัณเอามาทิ้งไว้ ซึ่งเขาก็ไม่ทราบเช่นกันจะจำเช่นนั้นไปทำไม

อรัณกับโณช่วยกันย้ายพวกตั้งหนังสือนอกตู้ออกมาไว้ข้างนอก เช็ดปัดฝุ่นแล้วเปิดทางให้โกกับสนดันฟูกเข้ามาวาง

น้าโก แล้วน้าปราชญ์จะเป็นยังไงเหรอ

ยังไม่รู้เลย โกตอบตามตรง น้าเป็นคนเหวี่ยงหมัดก็จริง พี่ปราชญ์แค่อ้างว่าน้าทำเพื่อปกป้องนางคุณแม่ เพราะพี่ปราชญ์ต่างหากที่เป็นคนจะต่อย คือภาพที่เห็นมันไม่ใช่หรอก แต่คำพูดน่ะมันชัดกว่าไงถึงจะโกหกโต้งๆ ก็เถอะ

เจนธรรมจะทำหน้าอย่างไรนะ ตอนค้นพบว่าสมาชิกห้องพักครูอีกสองคนโดนพักงานกันหมด