1 ตอน Arc0
โดย Ohsepin
บทนำ
สิ่งแรกที่สี่สัมผัสได้หลังจากรู้สึกตัวคือความเจ็บปวดที่เสียดแทงไปทั่วร่างจนแทบหายใจไม่ออก คล้ายกับว่ากระดูกทุกท่อนถูกบดขยี้จนแตกละเอียดแล้วทิ่มแทงอวัยวะภายในจนบอบช้ำ เขาร้องครางออกมาแต่ไม่มีเสียง กระทั่งจะขยับปลายนิ้วก็ยังทำไม่ได้
ที่นี่คือที่ไหนกันแน่ ชายหนุ่มพยายามระลึกถึงสิ่งสุดท้ายที่จดจำได้ แล้วฉันเป็นใคร มาอยู่ที่นี่ได้ไง
ทว่าความทรงจำก่อนหน้านี้ของเขากลับว่างเปล่า ราวกับเป็นแผ่นกระดาษที่ถูกลบเลือนตัวอักษรออกจนหมด ใช่แล้ว-- ลบเลือน มันหายไปอย่างผิดธรรมชาติ
ชายหนุ่มยิ่งขมวดคิ้วมุ่น ก่อนพยายามไล่เรียงสิ่งที่ยังคงตกค้างอยู่ในสมอง สี่จำได้ว่าตนเพิ่งค้นพบว่าถูกคนที่ไว้ใจที่สุดทรยศอย่างเลือดเย็นและโหดร้าย เขาแม้จะโกรธแค้นจนแทบคลั่งแต่ก็หมุนตัวจากมาโดยไม่ได้เอ่ยปากอะไร แล้วหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นอีก เขาเองก็จำไม่ได้
จดจำได้เพียงแต่เพลิงแค้นที่โหมกระหน่ำ มอดไหม้จิตใจจนกลายเป็นผุยผง และเหนือกว่านั้นคือความเจ็บปวดยิ่งกว่าหัวใจถูกกรีดคว้านออกไป จากนั้นทุกอย่างก็กลายเป็นความมืดมิด
อย่าบอกนะว่าหลังจากเดินออกมา เขาก็ประสบอุบัติเหตุตาย? สี่หลุดขำขึ้นมา คงไม่เป็นอย่างนั้นหรอกมั้ง... มุกมันเก่าเกินไปแล้ว
“สวัสดี” เสียงที่ดังขึ้นมาจากรอบตัวทำให้ชายหนุ่มสะดุ้ง ก่อนจะรู้ตัวว่าเขาสามารถขยับร่างกายได้แล้ว สี่รีบลุกขึ้นแล้วหันไปสำรวจบริเวณโดยรอบ ตอนนี้เขานอนอยู่บนพื้นปูด้วยพรมหนาในห้องชุดแบบโมเดิร์นคุมโทนขาว-ดำ การตกแต่งในห้องเป็นสไตล์เรียบๆ ไม่มีอะไรน่าดึงดูด แค่มองปราดเดียว สี่ก็ลงความเห็นว่าเจ้าของห้องคงเป็นคนเชยๆ และจืดชืด
คนประเภทที่เขาไม่ชอบเอาเสียเลย
ชายหนุ่มเหม่อลอยอยู่สักพัก จนกระทั่งเสียงเดิมเรียกเขาอีกครั้ง
“ยินดีต้อนรับโฮสต์คนใหม่ สู่ระบบอันน่าตื่นตาตื่นใจของพวกเรา”
จากนั้น ลูกบอลสีทองกลมเกลี้ยงลูกหนึ่งก็ผลุบมาจากช่องว่างกลางอากาศ มันสะบัดตัวเล็กน้อย จากนั้นปีกเล็กๆ คู่หนึ่งก็งอกออกมาจากด้านข้าง เจ้าลูกบอลประหลาดลอยตรงเข้ามาหาสี่คล้ายจะอ้อน... ละมั้ง ถ้าเทียบกับพฤติกรรมของหมาที่เขาเคยเลี้ยงไว้น่ะนะ
“เล่นตลกอะไร” สี่แค่นเสียงแล้วลุกขึ้นยืน เขาเดินไปรอบๆ ห้อง พยายามสำรวจว่ามีไมค์หรือกล้องซ่อนไว้ตรงไหน เผื่อว่านี่อาจจะเป็นรายการเล่นตลกสักรายการที่เคยเห็นในยูทูป
แต่เมื่อคิดถึงความทรงจำที่หายไปอย่างเป็นปริศนา เขาก็คิดว่าเรื่องนี้คงไม่ค่อยตลกสักเท่าไหร่แล้ว
“ระบบอย่างไรล่ะ ระบบที่โฮสต์จะต้องเข้าไปสวมบทบาทของตัวละครในเรื่อง ฟังดูน่าสนุกใช่ไหม” แม้ว่าลักษณะการพูดของอีกฝ่ายจะมีจังหวะจะโคน เป็นเสียงสูงต่ำคล้ายกำลังรื่นเริง แต่น้ำเสียงกลับเรียบนิ่งจนน่าขนลุก
“ระบบ?” ชายหนุ่มทวนคำ “เพื่ออะไร”
“เพื่อทำภารกิจบางอย่าง เมื่อเสร็จสิ้นแล้วก็เปลี่ยนเรื่อง เปลี่ยนบทบาท ง่ายๆ แค่นั้น”
“ไม่ล่ะ ขอบคุณ แต่จะขอบคุณมากกว่านี้ถ้านายจะพาฉันกลับไปที่เดิม” สี่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย แต่เรื่องที่ต้องเผชิญอยู่ก็สาหัสพอแล้ว ยังจะให้เขามานั่งสวมบทบาทบ้าบอ เต้นไปตามเกมของใครก็ไม่รู้อีกหรือ
“แม้ว่าระบบนี้จะมีรางวัลรออยู่น่ะหรือ? ไม่เอาน่า ถ้าทำภารกิจสำเร็จเรียบร้อย ผมรับรองว่าจะให้ทุกสิ่งที่คุณขอทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นไปไม่ได้แค่ไหนก็ตาม”
“สิ่งที่ผมอยากได้ที่สุดคือออกไปจากที่นี่ แค่นี้คุณคงให้ได้ใช่ไหม”
“คุณจะได้ออกไปแน่ ถ้าคุณทำภารกิจได้สำเร็จ”
หลังจากสำรวจจนแน่ใจแล้วว่าที่นี่ไม่มีทางเข้าหรือทางออก และมั่นใจว่าไม่ใช่รายการปาหี่แน่ๆ ในที่สุดสี่ก็ยกมือขึ้นยอมแพ้ “เอาเถอะ อย่างไรผมก็หนีไปไม่ได้อยู่แล้วนี่นะ”
“รู้ตัวก็ดี” เสียงนั้นตอบกลับมา “ผมรู้มาว่าคุณถูกทรยศ ไม่แค่นั้น พวกเขายังแทงข้างหลังคุณอย่างเจ็บแสบทีเดียว ผมไม่ได้เข้าใจอะไรผิดใช่ไหม”
สี่ขบกรามแน่น มือที่วางข้างลำตัวกำแน่นเสียจนได้ยินเสียงกระดูกดังกร๊อบ ทว่าเขาไม่ได้โต้ตอบอะไรกลับไป และที่จริง มันก็ไม่มีอะไรให้โต้ตอบ ในเมื่ออีกฝ่ายพูดถูกต้องทุกประการ
“ผมจะช่วยให้คุณแก้แค้น ดีไหม” ผู้อ้างตัวเป็นระบบว่าต่อ “ในเมื่อคุณเจ็บแค้นเจียนตาย แล้วทำไมฝ่ายนั้นถึงยังมีความสุขอีก ไม่ยุติธรรมเลย”
“ไม่จำเป็น เรื่องแบบนั้นผมจัดการเองได้ ขอบคุณที่อุตส่าห์สอดมือเข้ามาเกี่ยว”
เสียงนั้นนิ่งไปสักพัก ก่อนหัวเราะออกมา “ไม่ได้หรอก คุณตายไปแล้ว ตายไปนานแล้ว ร่างของคุณก็ถูกเผาไปเรียบร้อยแล้ว จะไปทำอะไรได้อีก”
ตาย... ตายไปแล้ว? สี่ยืนนิ่งงันอยู่ตรงนั้น เขาคิดอะไรต่อไม่ออก คล้ายว่าสมองรวนไปครู่หนึ่ง
สัญชาตญาณบอกเขาว่ามีบางสิ่งไม่ถูกต้องเท่าไหร่นัก แต่เป็นอะไรที่ไม่ถูกต้อง เขาเองก็ไม่ทราบเช่นเดียวกัน ทุกอย่างในตอนนี้ดูสับสนคลุมเครือ หาที่มาที่ไปไม่ได้ไปเสียหมด
เหมือนว่าอีกฝ่ายจะรับรู้ถึงความสับสน จึงไม่ได้เอ่ยเซ้าซี้อะไรอีก มันนิ่งเงียบคล้ายรอให้เขาตัดสินใจ
“แล้วทำไมต้องเป็นผม” สุดท้ายสี่ก็ทำลายความเงียบแล้วเอ่ยถาม
ระบบนิ่งไป ก่อนจะตอบด้วยเสียงเรียบเรื่อย “ทุกอย่างย่อมมีเหตุผล แต่เหตุผลนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้... อย่างน้อยก็ในเร็วๆ นี้”
“แล้วภารกิจคือ?”
“ถ้าคุณไปถึงก็จะรู้เอง”
สี่ขมวดคิ้วอย่างขัดใจ ลูกบอลสีทองยังคงบินวนรอบตัวเขาเหมือนดาวเคราะห์โคจรรอบดาวฤกษ์ สุดท้ายเขาเลยเอื้อมไปคว้าจับมันเพื่อตัดรำคาญ
และในที่สุดเขาก็ตัดสินใจ “ได้ ผมตกลง”
เพราะความปรารถนาของเขานั้นมีอยู่ มันชัดเจน แจ่มแจ้ง ราวกับดวงไฟที่ลุกโชนท่ามกลางความมืดมิด ทว่าก็ไม่เคยได้เป็นจริง
หากระบบโง่เง่านี่สัญญาว่าจะทำให้สิ่งนั้นเป็นจริงได้ เขาย่อมเต็มใจคว้าไว้ ไม่ว่าหลังจากนี้ตนเองจะถูกแผดเผาสักเท่าใดก็ตาม
“ดี ดีมาก” ระบบร้องเสียงแหลมสูง ก่อนว่าต่อด้วยท่วงทำนองรื่นเริง “อย่างนั้น ระบบ ‘ก็มันเป็นแค่นิยาย’ ขอเชิญคุณสี่ ‘โฮสต์’ คนใหม่เริ่มต้นภารกิจตั้งแต่ตอนนี้! ขอให้โชคดี!”
ก็มันเป็นแค่นิยาย? ยังไม่ทันได้ทำความเข้าใจกับชื่ออันแสนแปลกประหลาด สติสัมปชัญญะของสี่ก็ดับวูบไปทันที พร้อมกับร่างที่แตกสลายเป็นอนุภาคเล็กๆ ลอยละล่องออกไปตามทางเชื่อมของมิติ
“แล้วเราจะได้พบกันอีก” ชายผู้เฝ้ามองกระซิบ ก่อนที่เขาจะโบกมือ หน้าจอนับร้อยพันที่ฉายภาพแตกต่างกันถูกลบเลือนหายไป เหลือเพียงความมืดมิดที่โอบล้อมเขาไว้ราวกับเครื่องพันธนาการ “ในวันสุดท้าย”
Comments (0)