เดือนมีนาคม ณ สวนไฮด์ปาร์ค กรุงลอนดอน

หิมะละลายแล้ว ต่อให้เห็นสีเขียวรุกคืบบ่งบอกสัญญาณอบอุ่นที่กำลังจะเข้ามาแทนที่ ใจกลับมิได้ยินดียินร้าย สรรพสิ่งแปรเปลี่ยนวนไปเช่นนี้เนิ่นนาน แค่สายตาของเขาจดจ่อรอเพียงผู้มาเยือนในชุดเสื้อโค้ตสีดำ ทุกย่างก้าวช่างมอบความเพลิดเพลินได้อย่างน่าอัศจรรย์เพียงเดินเนิบนาบ มือสองข้างล้วงเข้ากระเป๋าดูมิได้เร่งรีบแต่อย่างใด

ดวงตาสีฟ้าอ่านยากของลูคัสยังคงส่งผ่านไออุ่นแสนอ่อนโยนดั่งผู้อาวุโสมองเด็กน้อย แม้ปราศจากรอยยิ้มบนใบหน้านิ่งขรึม

“ครั้งที่ห้าแล้วหรือ ฮาร์เปอร์”

เขาพยักหน้า

“กี่ปีแล้ว...” ลูคัสเงียบไปคล้ายกำลังนึก

เขาจำได้แม่นจึงตอบทันที “ร้อยสี่สิบเจ็ดปี แต่คุณยังเหมือนเดิม ยังเป็นลูคัสคนเดิม ทั้งยังไม่ยอมรับคำเชิญนอกจากอยากจะมาเอง...” ถึงประโยคนี้ให้ถอนหายใจแรง “...เหมือนเดิม”

รอยยิ้มคนตรงหน้าปรากฏไม่อาจซ่อนเร้นแววขำขัน “หน้าตา รูปกาย อายุ...ก็อาจใช่ แต่ทุกครั้งที่เราพบกัน ทั้งคุณและผมต่างเปลี่ยนไป เช่นจากบาร์ธอกซ์กลายเป็นวิคลีย์”

“ผมเคืองนะนี่” แต่เพราะชักไม่แน่ใจว่าครั้งสุดท้ายได้บอกหรือเปล่าก็ส่ายหัว “เอาเถิด ว่าแต่คุณนัดผมมาพบเพื่อถามคำถามเดิม ๆ งั้นหรือ”

อีกฝ่ายโน้มคอลงเล็กน้อย “ถูกต้อง ผมยังอยากได้คนแบบคุณไปทำงานด้วยกัน รวมทั้งนาธาเนียล”

เขาส่ายหน้าทันที “บอกตามตรงว่าผมยินดีกับชีวิตแบบนี้มากกว่า องค์กรซับซ้อนเกินไป อีกอย่าง...” เขาหยิบมือถือสมาร์ตโฟนออกมาอวด “ผมไม่เคยเบื่อมันเลย”

แววตาของลูคัสจริงจังขึ้นเล็กน้อย ทั้งยังแฝงอารมณ์เสียดาย “อันที่จริงผมอิจฉาคุณนะ คุณดูมีชีวิตชีวามากกว่าแวมไพร์ทุกตัวที่ผมเคยเจอ ไม่หรอก ๆ” เขาโบกมือเมื่อฮาร์เปอร์จะค้าน “พูดจริงสิ ไม่เกี่ยวกับความพิเศษของคุณเลย เป็นที่ตัวคุณ”

“อ่า...” เขาไม่รู้จะตอบอย่างไรเหมือนกัน “โลกมันเปลี่ยนเสมอนี่นา”

“ผมถึงอยากได้คุณมาร่วมงาน” ลูคัสไม่ลืมวกกลับเข้าเรื่องได้ “เพราะคุณกลมกลืนไปกับผู้คน”

ถึงจุดนี้ ฮาร์เปอร์ได้แต่ถอนหายใจ เพราะไม่คิดจะตอบรับคำเชิญอยู่ดี

“เอาเถิด” ลูคัสยิ้มน้อย ๆ “ผมก็ไม่คิดว่าจะสำเร็จ อย่างไรก็ฝากเตือนน้องสาวคุณด้วยว่าอย่าล้ำเส้น กฎมีอยู่ทุกที่ และพวกเราก็จับตาดูอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะคนที่มีประวัติแล้วหาเหตุให้แหกกฎตลอด การมีอยู่ของพวกเราก็เพื่อพวกคุณด้วย” คำสุดท้ายเน้นย้ำเชิงคำสั่ง

“ผมจะเตือนเธอ” ทว่าน้ำเสียงของฮาร์เปอร์ไม่แน่ใจในผลลัพธ์ เพราะสิ่งที่ลูคัสขอเป็นสิ่งที่เขาพยายามทำเรื่อยมาจนถอดใจไปแล้ว “แต่พวกเราไม่ได้คุยกันหลายสิบปีแล้ว อย่างที่คุณว่า พวกเราเปลี่ยนไป รวมทั้งสายใยพี่น้องด้วย”

สีหน้าของลูคัสหม่นลงคล้ายสะเทือนใจ แต่เขาชินแล้ว “แต่ลึก ๆ คุณก็ห่วงเธอ”

“ภาวนาเสียมากกว่า” เขาตอบ

เมื่อบทสนทนากำลังจะสิ้นสุด ลูคัสจึงสวมหมวก “เอาเป็นว่าเตือนเธอให้ได้ ครั้งหน้าผมจะมาตื๊อคุณใหม่ ลาก่อน”

“เดี๋ยว...” ฮาร์เปอร์รั้ง คนที่กำลังจะหันกลับไปจึงหยุด “คุณไม่เคยกระหายเลยหรือ ผมหมายถึง ถ้าไม่ได้บาดเจ็บ จนบัดนี้...”

อีกฝ่ายส่ายหน้า ครั้นจะเดินจากไปก็ยึกยักหันกลับมาอีก “อาจจะเร็ว ๆ นี้ก็ได้ที่ผมจะเปลี่ยนไป อ้อ” เขายกมือขึ้น “เดซี่พยายามช่วยเด็กที่น่าสงสารเหล่านั้น มันอาจลดขีดจำกัดความสามารถแต่ถ้าหากนาธาเนียลอยากเห็นแสงตะวันอีกสักครั้งหนึ่ง...”

เขาหรี่ตา “อย่าขโมยคนของผม”

ลูคัสยิ้มแล้วโน้มคอลงอย่างสุภาพ “ลาก่อน...สำหรับครั้งนี้ ถ้าหากคุณเริ่มกระหายก็อย่าลืมเมลหาผมเล่า”

“คุณเคยเช็กด้วยหรือ”

แต่ลูคัสหายไปแล้ว