"Our soulmate is the one who makes life come to life."

Richard Bach

 

ต้นเดือนเมษายน สนามบินฮีทโธรว์

อันย่า หญิงสาววัยยี่สิบหกปีลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่โดยวางกระเป๋าสัมภาระอีกชิ้นด้านบน การเดินทางมาต่างบ้านต่างเมืองเพียงลำพังครั้งแรกมีสาเหตุแรกเริ่มมาจากบิดาผู้ให้กำเนิด ชาร์ล ไรต์ ติดต่อมาทางเพจร้านอาหารสเปน มาม้าโบนิต้าที่เธอกับแม่และอาลิฟต์เปิดได้สองปี ตั้งแต่เกิด เธอทราบเพียงว่าบิดาเป็นคนอังกฤษและทิ้งแม่ไปหลังจากคบหากันไม่กี่วัน เป็นความสัมพันธ์ระยะสั้นซึ่งผลผลิตก็คือเธอ

ก่อนอายุยี่สิบเจ็ดปี ในที่สุดอันย่ากำลังจะได้รู้จักผู้ให้กำเนิดอีกคน

แม่เล่าว่าพ่อชาร์ลร้องไห้เสียใจขนาดไหน เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามีลูกอีกคน ตลอดเวลาเพียงอยากติดต่อแม่เพื่อขอโทษเรื่องวันวาน อยากขอโทษโบนิตาจากใจ ในสมัยนั้นการติดต่อสื่อสารไม่ง่ายนัก ชาร์ลเดินทางมาทำงานช่วงสั้น ๆ แต่ก่อนหน้ามีปัญหาหย่ากับภรรยา เมื่อเจอสาวน้อยวัยยี่สิบหน้าสวยคมมาพูดคุยจึงอ่อนไหวเปิดใจให้ทันที แต่เมื่อมีโอกาสได้ปรับความเข้าใจกับภรรยาเก่า ความผูกพันแสนยาวนานและบุตรสองคนที่เป็นโซ่คล้องใจส่งผลให้เขาไม่ลังเลว่าต้องเลือกใคร สุดท้ายจึงรีบบินกลับไปคืนดี

เขาบอกว่ารู้สึกผิดกับแม่ พยายามติดต่อเพื่ออธิบายเหตุผลก็ไม่เจอโบนิตาแล้ว ถึงขนาดเคยบินกลับมาเมืองไทยถึงสองครั้ง

นั่นคือยี่สิบหกปีผ่านไป จนกระทั่งคิดอยากมาเที่ยวเมืองไทยกับบุตรชาย เขานั่งค้นหาร้านอาหารแนะนำดันเจอเพจของแม่ และในนั้นมีรูปเจ้าของกับบุตรสาวที่มีลักษณะบ่งบอกว่าเป็นลูกครึ่ง เขาจึงเอะใจว่าคำขอโทษนั้น อาจไม่ได้จำกัดเพียงโบนิตาเพียงคนเดียว

ต้องยอมรับว่าบอกไม่ถูกเหมือนกันว่าการเดินทางมาเจอบิดาครั้งนี้รู้สึกอย่างไร บางทีอาจไม่ได้รู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำ ในหัวมีแต่ร้านอาหารที่แม่สู้มาจนเป็นเจ้าของ กับโฮสเทลที่เธออดทนทำงานอย่างหนักเพื่อเติมเต็มความฝันของแม่จนครบ

ในวัยสี่สิบหก แม่มีสามีใหม่อย่างอาลิฟต์ ผู้ชายที่เธอไม่ได้เรียกว่าพ่อ แต่รักเหมือนพ่อ พวกเขาแต่งงานกันมาแล้วสองปี ดังนั้น เมื่อพ่อชาร์ลช่วยจัดการเอกสารเพื่อให้เธอได้วีซ่าสำหรับพำนักในสหราชอาณาจักรถึงสามเดือน อันย่ากลับรู้สึกโหวงเหวง การเดินทางนี้ด่วนเกินไป ไหนยังห่วงบ้าน จึงไม่ได้กระตือรือร้นมากนัก แม้แต่แผนการเที่ยวยังจัดลวก ๆ ทั้งที่ผ่านมาฝันอยากเดินทางแบบนี้มาตลอด

“แม่อุตส่าห์เล่นบทนางร่ำไห้จนเขายิ่งรู้สึกผิด ตอกย้ำให้เจ็บปวดเพื่อให้เขาสงสารลูก อยากเจอลูกไว ๆ แล้วนี่ไง ลูกจะได้ไปต่างประเทศถึงสามเดือน ได้เจอพ่อสักทีไงลูก” โบนิตาเล่าวีรกรรมดราม่าเพื่อให้พ่อชาร์ลจ่ายค่าเดินทางทั้งหมดให้ ทั้งยังจับไหล่แน่นให้เธอมีไฟอยากเจอพ่อ

จะให้ทำอย่างไรเล่า ความอยากเรียนต่างประเทศ อยากเที่ยว อยากเจอพ่อล้วนเป็นฝันของเด็กน้อยเพียงเท่านั้น โฮสเทลกับร้านอาหารคือสิ่งที่เธอจดจ่อในปัจจุบัน หรืออาจเป็นเพราะชินกับการได้มาด้วยตัวเอง และมันก็ใช้เวลาเหลือเกิน

“สิบปอนด์”

เธอหยิบเงินแล้วรีบรับซิมมาเปลี่ยน จนเมื่อใช้เน็ตได้ก็มีเสียงข้อความทักเข้ามาทันที บ่ายสามครึ่งแล้ว เธอจึงกดวิดีโอคอล

ผ่านด่านเข้าเมืองมาแล้ว แถมยังต้องนั่งรอพ่อชาร์ลมารับอีก คุยกับแม่ก็แล้วกัน

ไม่นานเห็นหน้าดีใจของแม่กับอาลิฟต์

“ว่าแล้วว่าตื่น” เธอยิ้มโบกมือ

ทั้งคู่อายุเท่ากัน ยังสวยหล่อกันทั้งคู่ แม่...หรือที่ใคร ๆ เรียก มาม้าโบนิต้า เป็นผู้หญิงที่เธอชื่นชมมาตลอด แม่ทั้งเก่งและเแกร่ง ในที่สุดก็ได้เจอคนรักที่ดี เหลือแต่ลูกนี่แหละ

“อัน เดินทางเป็นอย่างไรบ้างลูก/ลูกอัน ๆ หลับบนเครื่องได้หรือเปล่า”

เห็นพวกเขาแย่งกันพูดก็ลั่นหัวเราะออกมา อาลิฟต์ชอบเรียกเธอว่าลูกอัน ฟังแล้วน่ารักดี “พอได้ค่ะ แต่หลับไม่ค่อยสนิท ตอนนี้ถึงสนามบินแล้ว รอพวกเขาอยู่”

แม่ดีดนิ้วเจ็บใจ “จองไฟลต์ให้แท้ ๆ แทนที่จะมารอลูก อีตาแก่ชาร์ล!

“ไม่เป็นค่ะ ที่นี่อาจรถติดเหมือนกรุงเทพมั้ง”

“ฮึ่ย” แม่ยังดูหงุดหงิดก่อนเปลี่ยนเสียงหวาน “ดูแลตัวเองดี ๆ นะลูก มีอะไรโทรหานะ ส่งข้อความทุกอย่างมาเลย” ตอนพูด อาลิฟต์กอดอกพยักหน้าทำหน้าเข้มงวดเหมือนคุณพ่อหวงลูก

“ลูกอัน อย่าไว้ใจใครง่าย ๆ ก่อนจะนัดเจอใครก็สกรีนให้ดีก่อน ให้ลิซ่าช่วยดูนะลูก”

“อาลิฟต์ก็!” เธอค้อน เขารู้ทันอีกว่าลูกสาวเล่นแอปหาคู่ตั้งแต่ที่เมืองไทยแล้ว “อันเล่นเพราะอยากโชคดีแบบแม่ จะได้เจออย่างอาลิฟต์ไงคะ อุ๊ย!” มือถือหล่นเมื่อมีคนเดินมาชน

“อัน!

เธอรีบหยิบเก็บ โชคดีหน้าจอไม่แตก ต้องขอบคุณเคสซิลิโคน “ไม่เป็นไรค่ะ หนูวางก่อนนะ เป็นความผิดหนูเอง คนเยอะน่ะค่ะ เดินไปเดินมาเกะกะเขา” เธอโบกมือลาแม่กับอาลิฟต์อีกครั้ง ก่อนจะมองหาที่นั่ง “เอ พ่อบอกว่าจะมารอ แต่ยังไม่เห็นป้ายหรือคนเรียกเลย รอตรงไหนดีนี่”

มองซ้ายขวาจนมือถือขึ้นเตือน เธอยิ้มออกมาเพราะเป็นข้อความจากแอป

 

Wesley: Have you arrived?

Anya: Yes!

Wesley: See you soon, baby girl.

Anya: See ya.

 

เตรียมตัวให้ดีก่อนไม่ใช่เรื่องเสียหาย จะแปลกอะไรหากปักหมุดหาคนคุยในแอปแต่แรก คุยมาได้เกือบสองอาทิตย์แล้วด้วย เอาเถิด เธอเริ่มเล่นแอปหาคู่หลังจากเลิกกับแฟนเก่าคนล่าสุดไป ความสัมพันธ์ที่ผ่านมาไม่เคยรอดก็เลยหวังว่าหานอกราชอาณาจักรไทยคงจะมีดวงกับเขาบ้าง

เช่นคนนี้ จากข้อมูลในแอป เวสลีย์มีผมสีทอง ดวงตาสีเขียว เห็นว่าทำงานกับNHS[1] สูงร้อยแปดสิบห้า (พวกคนต่างชาติชอบระบุความสูง ขอบคุณจริง ๆ) อีกอย่างมีเพื่อนสนิทอยู่ที่นี่แต่แรก อันย่าเห็นว่าไม่อันตรายเท่าไร

“อันย่า!

“นั่นอันย่า อันย่า!

เธอมองตามที่มาของเสียง เห็นฝรั่งตัวสูงผอมกระโดดเหยง ๆ สองมือชูป้าย ขอต้อนรับอันย่าน้องรัก!’ ข้างกายมีชายสูงวัยกว่าสวมแว่นทรงรียกมือสองข้างกวักเรียกในลักษณะเดียวกัน ชั่วพริบตานั้นในอกของเธอกลับเต็มไปด้วยก้อนมวลประหลาด

พ่อกับพี่ชายต่างแม่

เธอเดินไปหาพวกเขาทั้งที่ยังอึนในหัว

“ขอโทษนะลูก พ่อรู้สึกผิดมากเหลือเกิน” จู่ ๆ ชาร์ลโพล่งไม่พอยังระเบิดน้ำตาต้อนรับ “พ่อมารอลูกจริง ๆ แต่เมื่อครู่...โฮ!

คลื่นอารมณ์ซัดเข้าหน้าแทบตั้งตัวไม่ทัน หนุ่มที่ชูป้ายเอาแขนลงแล้วม้วนกระดาษเก็บ “พ่อตื่นเต้นจนท้องเสีย พี่กลัวเขาเป็นลมก็เลยไปเฝ้า”

โธ่

ชาร์ลหันไปตวาดบุตรชายทั้งที่ใบหน้าแดงก่ำ “บอกให้รอแทน เดี๋ยวน้องหาไม่เจอ เป็นไงเล่า!” ก่อนหันมาน้ำตาแตกใส่ลูกสาวต่อ “พ่อขอโทษ อันย่า พ่อไม่ได้จะให้รอเลย”

“พ่อ...แล้วก็...” เธอยกมือให้คนทั้งสองใจเย็น สายตายังมองพี่ชายต่างมารดาให้แนะนำตัวเอง

“อลัน พี่ชายของเธอไง” ดวงตาของเขาเป็นสีฟ้าและมีผมสีน้ำตาลอ่อน รูปลักษณ์คล้ายพ่อชาร์ลแต่ต่างกันที่สีตา เพราะพ่อมีดวงตาสีน้ำตาล และตอนนี้แววตาของพี่ชายระยิบระยับมาก ตอนเขายิ้มมองเธอพาให้นึกถึง Joy ใน Inside Out ยิ่งท่ากระโดดเรียกเมื่อครู่ยิ่งเหมือน ถ้าหากเขาทำผมสีฟ้าแล้วสวมชุดสีเหลืองละก็...แค่คิดก็ตลกแล้ว

เธอจำได้ว่าพี่ชายอายุมากกว่าถึงแปดปี ตอนนี้เขาก็คงสามสิบสี่ ดูเด็กกว่าที่คิด

“อันย่า พ่อขอโทษจริง ๆ” ชาร์ลดึงมือลูกสาวจับแนบแก้ม น้ำตาไหลกระซิก ๆ น่าสงสารและน่าเอ็นดูมากนัก เห็นแล้วนึกถึงตัวเองที่ชอบร้องไห้ออกมาก่อนใครเพื่อน นิสัยอ่อนไหวง่ายส่งผ่านดีเอ็นเอหรืออย่างไร แถมมือของเขายังอุ่นมาก

“ไม่มีพ่อ ว้าย อันญาไม่มีพ่อ”

“อีอันเป็นลูกกะหรี่ หลานกะหรี่ ทั้งยายและแม่เป็นกะหรี่!

“หากแม่กูไม่เห็นใจแม่มึงคงไม่รับเลี้ยงหรอก แล้วสุดท้ายแม่มึงก็หนีไม่พ้น เลือดร่านมันร้อน”

ถ้อยคำวาจาด่าทอดูถูกตั้งแต่เด็กดังขึ้นในหัว ยิ่งมองพ่อชาร์ล ดวงตาของเธอยิ่งพร่ามัว น้ำตาหลั่งออกมาเช่นกัน

“อ้าว” อลันดูตกใจเมื่อเห็นทั้งพ่อและน้องสาวที่เพิ่งพบกันงอแง “โอ๋ ๆ” สวมกอดคนทั้งคู่

“พ่อขอโทษ อันย่า”

“ไม่เป็นค่ะ” เธอตอบในที่สุดทั้งที่ยังสะอึกสะอื้น “หนู..ฮึก...ดีใจ”

เพราะแท้จริงแล้วเธอไม่เคยลืม ปมที่ว่าตัวเองไม่เคยมีพ่อถูกกดไว้ตั้งแต่เด็กเพื่อบังคับให้แสดงออกว่าเข้มแข็ง ไม่หวาดหวั่นต่อถ้อยคำร้าย ๆ ของพวกผู้ใหญ่ และเด็กที่ซึมซับจากพ่อแม่อีกที บัดนี้ก้อนมวลอารมณ์นั้นพรั่งพรูออกมาเมื่อได้เจอพ่อ แท้จริงแล้ว เธอเองก็ต้องระบายความน้อยใจที่สั่งสมมานานและถูกฝังไว้ลึกสุดกู่

ได้พบพ่อครั้งนี้กลับอบอุ่นกว่าที่คาด เป็นครั้งแรกหลังจากทราบว่าต้องมาอังกฤษที่รู้สึกว่า ดีแล้วที่ได้มา! ในใจของเธอยินดีอย่างแท้จริง

พ่อชาร์ลยกมือปาดน้ำตาแห่งความสุข “ขอต้อนรับสู่บ้านอีกแห่งนะลูก”

เธอพยักหน้า ทั้งหัวเราะทั้งเช็ดน้ำตา เป็นเรื่องดีมิใช่หรือ ในเมื่อเธอมีครอบครัวอยู่ทั้งสองซีกโลก



[1] ระบบบริการสุขภาพแห่งชาติของอังกฤษ