เสียงแป้นพิมพ์ยังคงดังต่อเนื่องราวกับเป็นจังหวะดนตรี ปลายนิ้วเรียวกดสัมผัสปุ่มลื่นมือไปเรื่อยๆเรียงร้อยตัวอักษรขึ้นเป็นคำ ประสมกันเป็นกลุ่มคำ สร้างกลุ่มคำขึ้นเป็นประโยค จากประโยคกลายเป็นสถานการณ์ จากสถานการณ์จึงกลายเป็นเรื่องราว 

หญิงสาวยกชากุหลาบขึ้นมาจิบในระหว่างวัน ดวงเนตรงามเพ่งพิศตัวอักษรซึ่งถูกผูกเป็นเนื้อเรื่องเอาไว้ โลกใบใหม่นี้หล่อนเองก็เพิ่งได้รู้จักเมื่อไม่นานมานี้ มันช่างแปลกประหลาดและน่าสนใจชวนให้ขีดเขียนขึ้นมา ถ้าไม่ใช่เพราะนักอ่านผู้หนึ่งแนะนำมา หล่อนคงไม่ได้สัมผัสโลกที่แสนประหลาดใบนี้เป็นแน่

'จะว่าไป ฉันไม่เคยเห็นคุณroseเขียนแนวโอเมก้าเวิร์สเลย อยากอ่านแนวนี้ด้วยภาษาของคุณจัง แบบPolyamoryที่เขาฮิตๆกันก็ได้นะ ถ้าเป็นคุณเขียน มันต้องออกมาดีแน่ๆ'

เพราะเป็นสิ่งที่แปลกใหม่จนน่าทดลอง ทั้งยังมีรายละเอียดปลีกย่อยเกี่ยวกับกลิ่นเฉพาะตัวทำให้หญิงสาวรู้สึกชอบมันขึ้นมา เพราะโดยส่วนตัวหล่อนก็ชื่นชอบน้ำหอมกลิ่นต่างๆอยู่ไม่น้อย

'เซควิลท์ อินิกม่าผู้เป็นครูฝึกรีคอน(หน่วยรบพิเศษ) มีกลิ่นเฉพาะตัวเป็นกลิ่นกระดังงา เขาค่อนข้างชื่นชอบการถึงเนื้อถึงตัวเป็นพิเศษ  ลีกซ์ คุณหมอกลิ่นแซนดัลวูด เขาเป็นชายหนุ่มแสนสุภาพในบรรดาเพื่อนๆทั้งห้าคน  ซอว์โรว์ นักธุรกิจเจ้าของอุตสาหกรรมโลหะและเหมืองแร่ กลิ่นมิ้นท์เผาซาบซ่าระคนเผ็ดร้อนทำให้หญิงสาวและชายหนุ่มทั้งหลายสยบยอมแทบเท้าเขาได้ไม่ยากนัก จาฟา มาเฟียใหญ่ผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในเมือง เขามีกลิ่นเฌอเอมแก่จัดเป็นกลิ่นประจำตัว เขาอยู่เบื้องหลังธุรกิจมืดมากมาย และไม่มีใครกล้าจับเขาแม้แต่คนเดียว ธีโอ เซ็กส์ครีเอเตอร์ลูกครึ่งเกาหลีอเมริกันกลิ่นมักส์ รูปร่างของเขาสมส่วนและเย้ายวนให้เหล่าโอเมก้าฝันถึง 

ทั้งห้าเป็นเพื่อนสนิทกันเพราะรสนิยมที่คล้ายๆกัน โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ กิจกรรมยามว่างสำหรับผ่อนคลาย พวกเขามักจะแชร์ประสบกามกันเสมอ บางครั้ง ก็มีส่วนร่วมด้วยกันราาวกับมันเป็นเรื่องธรรมดา ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังใฝ่ฝันที่จะได้ร่วมรักกับโอเมก้าควีน เพศรองที่หายากที่สุด แม้จะเปลี่ยนเพศรองอื่นๆให้กลายเป็นโอเมก้าเพื่อรองรับตัณหาความต้องการ แต่พวกเขากลับไม่เคยพบเพศรองที่ว่าเลยสักครั้ง  จนกระทั่งพวกเขาได้พบฟลอส เด็กหนุ่มสู้ชีวิตที่มีพ่อติดการพนันอย่างหนัก และนำลูกชายไปขัดดอกกับฟาโรห์ผู้เป็นเจ้าหนี้ กลิ่นดอกไม้ของฟลอสมอมเมาให้ชายหนุ่มทั้งห้าลุ่มหลงจนแทบถอนตัวไม่ขึ้น  เจ้าดอกไม้งามแปรเปลี่ยนคนที่เคยคิดว่าตนเองอยู่สูงกว่าใครให้กลายเป็นคนละคน และเป็นเพียงฟลอสคนเดียวที่ชายหนุ่มทั้งห้าคนจะสยบยอมอย่างไม่มีเงื่อนไข' พริมโรสถอนหายใจออกมาหลังจากใช้เวลาเนิ่นนานไปกับตัวอักษรบนหน้าจออิเล็กทรอนิกส์ หล่อนไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าการเขียนนิยายอีโรติกที่มีรายละเอียดปลีกย่อยมากมายนี้จะยากลำบากและเหนื่อยถึงเพียงนี้ กว่าจะจบก็แทบแย่ 

ร่างเพรียวระหงลุกขึ้นจากเก้าอี้ หล่อนตัดสินใจผละจากหน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อหาอะไรรองท้องก่อนจะเริ่มเผยแพร่เนื้อหาในส่วนของนิยาย โดยไม่รู้เลยว่ามีกลุ่มควันจากห้องข้างเคียงลอยเอื่อยๆเข้ามาในห้องอย่างช้าๆ กลุ่มควันโขมงเข้ายึดครองห้องของหล่อนในเวลาอันรวดเร็ว อารามตกใจทำให้หล่อนรีบวิ่งไปยังประตูห้อง หากแต่ความร้อนบนลูกบิดทำให้หญิงสาวต้องสลัดมือออก หล่อนวิ่งพล่านในห้องทั้งๆที่อากาศเริ่มน้อยลงไปทุกที สติเริ่มเลือนลางไปทีละน้อย จนหลุดลอยไปในที่สุด

.

.

กลิ่นแซนดัลวูดจางๆปลุกคนบนเตียงให้ลืมตาตื่นขึ้นจากห้วงนิทราอันเนิ่นนาน พริมโรสถอนหายใจออกมาเมื่อพบว่าตนเองนอนอยู่บนเตียงนุ่ม แม้จะดูแปลกตาไปมากถ้าเทียบกับห้องนอนเก่า ที่นี่อาจจะเป็นโรงพยาบาลหรือศูนย์พักพิงสักแห่ง 

"ตื่นแล้วเหรอโรส?"เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับร่างของชายตัวสูงเรือนผมสีน้ำตาลเดินเข้ามาพร้อมกับชามโจ๊กร้อนๆ เขาวางมันลงบนโต๊ะ ก่อนจะผละไปจัดยาและน้ำดื่ม หญิงสาวจับจ้องอีกฝ่ายอย่างไม่ละสายตา  จมูกโด่งได้รูป ดวงตาเรียว ปากบางสีชมพูระเรื่อ หรือแม้แต่แก้มสีซีด คนตรงหน้าช่างเหมือนกับภาพจินตนาการของลีกซ์ในหัวของหล่อนไม่มีผิดเพี้ยน 

"ที่นี่ที่ไหน?"หล่อนเอ่ยถามด้วยเสียงแห้งแหบ  ทั้งๆที่เพิ่งผ่านพ้นประสบการณ์เฉียดตายมาหมาดๆ แต่กลับรู้สึกไม่สบายใจสักเท่าไหร่ 

"เคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าไม่ควรดื่มจนขาดสติแบบนั้น ถึงจะเป็นเบต้าก็ยังอันตรายอยู่ดีนะ ถ้าตอนนั้นพวกฉันไม่เจอเธอก่อน อาจจะเจออะไรไม่ดีก็ได้"อีกฝ่ายไม่ตอบคำถามของหล่อน แต่เขาเลือกที่จะตำหนิแทน และแน่นอนว่าพริมโรสไม่เข้าใจมันเลยสักนิด  เหมือนกับว่าเขารู้จักหล่อนมานาน อาจจะสนิทกันด้วยซ้ำ แล้วบีต้าคืออะไรกัน? หรือจะเป็น....สิ่งที่มีในข้อมูลสำหรับเขียนนิยาย ไม่น่าจะมีอยู่จริงสิ หรืออันที่จริงหล่อนตายไปแล้วเพราะสูดควันพิษ แต่เพราะจิตสุดท้ายยึดติดกับนิยายที่ยังไม่ถูกเผยแพร่ หล่อนจึงมาติดอยู่ที่นี่แทน และคนตรงหน้าคือลีกซ์หนึ่งในพระเอกของเรื่อง?

"ข้าวต้มเย็นหมดแล้วนะ"หล่อนสะดุ้งตัวโยนเมื่อใบหน้าหล่อขยับเข้ามาใกล้ แทบจะใช้ลมหายใจเดียวกันอยู่แล้ว เขาหล่อเป็นบ้าเลย เผลอๆจะมากกว่าภาพในหัวที่วาดเอาไว้เสียอีก

"ฉันปวดหัว"ไม่พูดเปล่า หญิงสาวยังใช้ปลายนิ้วชี้กับนิ้วกลางคลึงขมับทั้งสองข้างเพื่อเป็นการยืนยันว่าหล่อนไม่ได้โกหก คนตัวโตหลุดหัวเราะออกมาเบาๆกับภาพตรงหน้า 

"เดี๋ยวฉันเอาเครื่องดื่มแก้แฮงค์มาให้"เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความเอ็นดู ทำให้คนที่เพิ่งรวบรวมสติได้ลอบยิ้มออกมา ถ้านี่เป็นนิยายที่หล่อนเขียนขึ้นมาจริง ลีกซ์เป็นพระเอกที่น่ารักที่สุดในบรรดาพระเอกอินิกม่าทั้งห้าคนกระมัง  

"ลีกซ์ ช่วงนี้นาย....ไม่มีแพลนนัดบอร์ดเหรอ?"ถึงแม้จะรู้ว่าเป็นคำถามที่ไม่เข้าท่าสักเท่าไหร่ แต่มันน่าจะช่วยบอกไทม์ไลน์ตอนนี้ได้บ้าง หญิงสาวคิดเช่นนั้น

"ฉันยังชอบอิสระอยู่ อีกอย่าง อยู่แบบนี้มันก็ไม่ได้แย่อะไร"เขาตอบพร้อมจรดแก้วเครื่องดื่มสีสดใสจ่อบนริมฝีปากของหญิงสาว ดวงตาสีน้ำตาลสะท้อนภาพของหล่อนออกมาอย่างชัดเจน ในวินาทีนั้นเองที่พริมโรสได้เห็นใบหน้าของตนในยามนี้ หล่อนเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ สิ่งที่เห็นนั่นเป็นเหมือนภาพในจินตนาการไม่ผิดเพี้ยน ภาพที่หล่อนเฝ้าฝันเอาไว้ว่าถ้าเก็บเงินครบตามจำนวน หล่อนจะเปลี่ยนใบหน้าให้สวยแบบนี้ แต่ตอนนี้มันกลายเป็นหน้าของหล่อนจริงๆ

"ดูทำหน้าสิ"มือใหญ่หยิกแก้มใสเบาๆเพื่อหยอกเย้า แม้จะแปลกใจกับท่าทางของหญิงสาวตรงหน้าอยู่บ้าง แต่เมื่อพินิจดีๆ ลีกซ์ก็คิดว่าเพื่อนข้างบ้านที่เขาสนิทมาตั้งแต่เยาว์วัยน่าจะยังมึนงงเพราะอาการเมาค้าง โรสมักจะเป็นเช่นนี้เสมอเวลาที่ดื่มเกินลิมิต และส่วนใหญ่สิ่งที่ทำให้เพื่อนเบต้าผู้นี้กลายเป็นผู้หญิงขี้เมาก็มักจะหนีไม่พ้นเรื่องแฟนเก่าทุกคนที่เคยคบมาทั้งนั้น โรสโหยหาความรักที่หอมหวาน แต่ทุกครั้งมักจะจบลงที่การหลอกลวงและการนอกใจเสมอ แต่สิ่งหนึ่งที่โรสไม่เคยรับรู้ คงจะเป็นเรื่องที่เขาแอบแก้แค้นให้หล่อนอยู่บ่อยครั้ง เพราะเป็นหมอและเกิดในครอบครัวของนักกฎหมาย เขาย่อมรู้จักวิธีทำร้ายร่างกายให้เหมือนเป็นอุบัติเหตุ และรู้ว่าถ้าขับรถชนจุดไหนจะอาการหนักที่สุด ช่วยไม่ได้ที่คนพวกนั้นกล้าทำร้ายเพื่อนของเขาให้เจ็บปวด มันก็ต้องรับบทลงโทษแบบนี้แหละ

"ฉันว่าฉันดีขึ้นแล้ว ชักอยากจะกลับบ้านแล้วสิ"เพราะสังเกตุเห็นว่าในห้องมีรูปของอีกฝ่ายเต็มไปหมด หล่อนจึงอนุมานไปว่าที่นี่น่าจะไม่ใช่บ้านของตน

"เดี๋ยวฉันไปส่ง อาา จริงสิ น้ำหอมกลิ่นใหม่หอมดีนะ"เขาเอ่ยขึ้นหลังจากเอาชามโจ๊กและแก้วน้ำดื่มไปเก็บ กลิ่นหอมจางๆจากกายเล็กทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายอย่างน่าประหลาด เป็นกลิ่นที่ทำให้รู้สึกดีเสียจนน่ากลัว ถ้าไม่ติดว่าเพศรองของเพื่อนรักเป็นเบต้า เขาคงนึกว่าหล่อนเป็นโอเมก้าที่กำลังเข้าสู่ช่วงฮีทเสียอีก

.

.

ในคราแรกก่อนที่จะถูกพาส่งที่คฤหาสต์หลังใหญ่ พริมโรสคิดว่าจะสำรวจรอบๆบ้านสักหน่อย แต่เมื่อมาเห็นบ้านหลังโตที่แวดล้อมไปด้วยเหล่าสาวใช้และบอดิการ์ดทำให้หล่อนเปลี่ยนใจอยากออกไปเที่ยวเล่นสักหน่อย ทำไงได้ในเมื่อเงินในบัญชีจากหลายธนาคารมันล่อตาล่อใจจนไม่อาจอยู่เฉยๆได้ เงินเก็บจากการเขียนนิยายมันไม่เยอะเท่าเงินของตัวประกอบตัวนี้เลยนี่นา ไม่รู้ว่าตอนเขียนตัวละครตัวนี้ขึ้นมา หล่อนคิดอะไรอยู่กันนะ?

ห้างที่นี่ดูไม่ต่างจากโลกความเป็นจริงสักนิด นับว่าเป็นข้อดีที่ทำให้หล่อนไม่ต้องปรับตัวอะไรมากนัก ลองใช้ชีวิตเป็นคนรวยแบบนี้มันก็คงจะเข้าท่าดีเหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้น หล่อนยังค้นพบอีกว่า ยิ่งใช้เงินไปมากเท่าไหร่ เงินในบัญชีกลับเพิ่มขึ้นมากกว่านั้นสองเท่า ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่มันช่วยให้สุรุ่ยสุร่ายได้ตามใจอยากไม่ต้องคอยระแวงว่าจะต้องทำงานหลังแข็ง อดหลับอดนอนแลกรายได้น้อยนิดอีกแล้ว นี่คงเป็นเหตุผลที่ทำให้โรสคนเก่าแทบจะไม่ต้องทำงานอะไรนอกจากใช้ชีวิตสุขสบายจากมรดกมหาศาลที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้

กลิ่นเฌอเอมแก่กระทบโสตประสาททำให้พริมโรสตาลุกวาว ให้ตายสิ หล่อนลืมไปเสียสนิทว่า ถ้าที่นี่เป็นนิยาย เมื่อเจอลีกซ์ ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะเจอคนอื่นๆด้วย และไม่น่าเชื่อว่าหล่อนจะเจอพระเอกคนที่เกลียดที่สุด เรียกได้ว่าเป็นไอ้โบ้ลูกชังของนักเขียนเช่นหล่อนเลยทีเดียว

"เหมือนเราจะชอบสร้อยเส้นเดียวกันนะ"เสียงดุดันแข็งกร้าวที่ใครต่อใครได้ยินก็ต้องยอมสยบ แต่ไม่ใช่กับคนที่ใช้ปลายนิ้วพิมพ์ตัวอักษรสร้างตัวละครตัวนี้ขึ้นมา พริมโรสแทบจะอยากตวาดคำว่าไอ้เวรเอ๊ยใส่หน้าของอีกฝ่ายเสียด้วยซ้ำ

"ขอโทษด้วยนะคุณมาเฟีย บังเอิญว่าสร้อยเส้นนี้ฉันจองมันแล้วสิ คุณคงต้องพาเด็กของคุณไปหาเส้นใหม่แล้วล่ะ"หญิงสาวแสร้งหันไปเหยียดยิ้มให้อีกฝ่าย ดวงตาคู่งามเหลือบมองร่างของเด็กสาวของกายสูงที่ถูกรายล้อมไปด้วยเหล่าบอดิการ์ด หล่อนเพิ่งเห็นว่าชายผิวเข้มตัวโตตรงหน้ายกมือเป็นเชิงห้ามเหล่าบริวารเอาไว้ ไม่ให้รุมฉุดหล่อนโยนออกไปนอกห้าง  ขณะเดียวกันหล่อนก็ยอมรับว่าผมยาวสีควันบุหรี่ที่รวบตึงของอีกฝ่ายดูสุขภาพดีเป็นบ้า ช่างน่าอิจฉาเสียจริง 

"พาหล่อนไปส่งแทนฉันที"พ่อหนุ่มมาเฟียเอ่ยกับลูกน้องก่อนจะผละจากมา เขาแสร้งเดินประกบกับหญิงสาวที่เพิ่งแสดงอาการยียวนยั่วโมโหเขาไปหมาดๆ เขารู้ว่าหล่อนเป็นเพื่อนข้างบ้างของลีกซ์เพื่อนสนิทในกลุ่มของเขา เคยเจอกันเป็นครั้งคราว และไม่ค่อยกินเส้นกันสักเท่าไหร่ เพราะเขาเคยเอาแฟนหนุ่มของอีกฝ่าย ซึ่งเขามั่นใจว่าเขาไม่ผิด อัลฟ่าผู้นั้นอ่อยเขาเอง เขาก็แค่สนอง 

"ให้ตายสิ ทำไมฉันต้องมาเจอไอ้เวรนี่ตอนที่กำลังอารมณ์ดีด้วยนะ ขอเจอคนอื่นไม่ได้เหรอ? เป็นเซควิลท์หรือธีโอก็ได้ ทำไมต้องหมอนี่ด้วยนะ"ปากน่ารักบ่นงึมงำกับตนเอง ทำให้คนตัวโตแอบขำ  

"น้ำหอมกลิ่นใหม่ของเธอมันหอมดี ฉันก็แค่อยากรู้ว่าเธอซื้อจากที่ไหน?"ถึงจะแกล้งเดินตาม แต่กลิ่นหอมหวานจางๆจากกายเล็ก มันละมุนเสียจนเขาอดที่จะถามไม่ได้

"นี่จาฟา นายคิดว่าหน้าฉันเหมือนsaแบรนด์น้ำหอมไหม? เหมือนไหม?"หญิงสาวถลึงตาใส่คนตัวโต ไม่มีความเกรงกลัวใดๆออกมานอกจากความรู้สึกหงุดหงิดระคนรำคาญเช่นทุกครั้งที่เจอกัน 

"เธอนี่มันเหมือนลูกแมวเสียจริง ลีกซ์ทนคบกับอย่างเธอได้ยังไงเป็นสิบปี เป็นฉันคงทนเสียงแง้วๆของเธอได้ไม่ถึงห้านาทีแน่ๆ"พริมโรสแทบจะอยากตะโกนใส่หน้าอีกฝ่ายให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปว่า ทีกับคนเหี้ยๆอย่างนายลีกซ์มันยังคบได้เลยเถอะ แต่ก็ต้องยั้งปากเอาไว้เมื่อนึกขึ้นได้ว่ากลุ่มพระเอกศีลเสมอกันหมด 

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

Talk. มาแบบเบาๆก่อน พระเอกโผล่มาแค่สองคนเอง ตอนหน้า น่าจะครบห้าคน หวังว่าจะชอบนะคะ อ้ออออ ลืมบอกไปว่านิยายเรื่องนี้ไม่เน้นพล็อตนะคะ เน้นให้ศีลให้พอร์นค่ะ  ว่าแต่.........คิดว่านางเอกเป็นอะไรกันแน่

เบต้าแหละ กด 1 

เกิดใหม่ก็ต้องเป็น โอเมก้าสิ กด 2 

ตอนหน้าจะมาเฉลยนะคะ