หญิงสาวนั่งถอนหายใจหน้ากระจกด้วยความเหนื่อยหน่าย ต้องขอบคุณสายโทรศัพท์ปริศนาที่โทรหาจาฟาเสียก่อน ไม่เช่นนั้นหล่อนคงโดนตามแจทั้งวันแน่ๆ ไอ้มาเฟียนั่นน่ารำคาญกว่าที่คิดเอาไว้เสียอีก ฟลอสในนิยายคงรู้สึกแบบนี้เองสินะ  หล่อนแต้มเครื่องประทินผิวลงบนใบหน้า หากแต่ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าใครบางคนถือวิสาสะเดินเข้ามาในห้อง  ร่างสูงของแขกไม่ได้รับเชิญเดินดุ่มๆเข้ามาเบื้องหลังของหญิงสาว มือใหญ่รวบกลุ่มผมสีเฮเซลนัทขึ้นมาถักเป็นทรงโดยไม่เอ่ยขออนุญาตสักนิด ราวกับว่ามันเป็นเรื่องปกติ

"ไม่คิดจะขออนุญาตก่อนหรือไง?"พริมโรสเอ่ยตำหนิ หล่อนยอมรับว่าลีกซ์ทำผมได้เก่งและสวยถูกใจหล่อน แต่การโผล่มาเงียบๆแบบนี้ไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่ เกิดหล่อนโป๊อยู่จะทำยังไง?

"อ่าา นี่ฉันต้องขอเข้าห้องเธอแล้วเหรอเนี่ย? ทั้งๆที่เมื่อก่อนเธอเป็นคนอนุญาตฉันเองแท้ๆ"แม้จะเอ่ยถ้อยคำตัดพ้อ แต่เขากลับหัวเราะออกมาราวกับกำลังสนุก 

"ก็ต้องขอสิ เกิดนายหน้ามืดปล้ำฉันขึ้นมาล่ะ? โอ้ยยยย ทำไมชอบดึงแก้มฉันนัก"มือใหญ่หยิกแก้มใสอีกรอบเมื่อได้ยินคำพูดของเพื่อนสนิท เขาจะทำแบบนั้นไปทำไมกันล่ะ ในเมื่อโรสคือคนที่เขาต้องให้เกียรติมากที่สุด 

"จะแต่งตัวแบบนี้ออกจากบ้านจริงๆเหรอ?"เขาบ่ายเบี่ยงในสิ่งที่ร่างบางพูด แสร้งปรายตามองไปทางอื่นหลังจากที่เผลอสบนัยน์ตากลมโตนั่นผ่านกระจกเงา แววตาอ่อนโยนเปลี่ยนเป็นปกติที่คาดเดาไม่ได้เช่นเดิม ชายหนุ่มรู้ดีว่าหญิงสาวตรงหน้ากำลังรู้สึกสงสัย  แต่หล่อนจะไม่มีทางได้รู้หรอก เป็นแบบนั้น ความสัมพันธ์ที่มีมานานคงจบลงในทันที 

"ก็ไปกินข้าวในกลุ่มเพื่อนไม่ใช่เหรอ? แค่เสื้อเชิ้ตกับกางเกงขาสั้นก็น่าจะพอแล้วนี่"ลีกซ์ไม่ได้เอ่ยแย้ง เขาแสร้งหยิบสร้อยบนโต๊ะขึ้นมาสวมบนลำคอขาว  กลิ่นหอมหวานจางๆลอยกรุ่นออกมาจากกายเล็ก เย้ายวนให้ฝังคมเขี้ยวลงไปบนท้ายทอยสวยเหลือเกิน  โชคดีที่เขาควบคุมสติได้มากพอที่จะไม่ลุ่มหลงไปกับกลิ่นหอมนั่น เขาไม่รู้หรอกว่าโรสไปได้น้ำหอมกลิ่นหวานๆไม่ต่างจากขนมนี่มาจากไหน  เขารู้เพียงว่ามันช่างอันตรายกับหญิงสาวเหลือเกิน 

ชายหนุ่มลอบแผ่กลิ่นแซนดัลวูดฉุนกึกไว้บนกายของเพื่อนสนิท  เขาแอบชอบโรสมานาน เขาไม่ยอมให้ใครมายุ่มย่ามกับหญิงสาวได้หรอก  อย่างน้อยแค่กลบกลิ่นมอมเมาที่แสนยั่วอารมณ์นั่นได้สักหน่อย คงไม่มีใครกล้าจีบเพื่อนของเขาไปอีกสักพักใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเบต้าด้วยกันหรือแม้กระทั่งอัลฟ่าก็ตาม  จะมีก็แค่อินิกม่าเหมือนเขาที่นับจำนวนไม่เกินหลักสิบเท่านั้น และคนเหล่านั้นไม่ใช่สิ่งที่น่ากังวลเท่าเพศรองอื่นๆเสียด้วย เขามั่นใจว่าตนเองสามารถขวางคนพวกนั้นได้

"แค่ทาลิปก็คงพอแล้วเนอะ"คนตัวเล็กยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าถูกฝากกลิ่นไว้บนเรือนกาย อาจจะเพราะประสาทรับกลิ่นที่ไม่ได้พัฒนาให้รับกลิ่นฟีโรโมนเช่นเพศรองอื่นๆ หล่อนหยิบลิปสติกสีแดงขึ้นมาแตะริมฝีปากพอให้ขึ้นสีระเรื่อเท่านั้น แม้จะไม่ได้แต่งหน้ามากมาย แต่มันกลับทำให้หัวใจของคนมองเต้นไม่เป็นระส่ำ ความรู้สึกตกหลุมรักแวะเวียนมาทักทายอีกครั้งจนเผลอจ้องใบหน้าสวยนั่นไม่ละสายตา ลืมแม้กระทั่งวิธีหายใจเสียด้วยซ้ำ  เบต้าตัวน้อยกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่แสนอันตรายตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ?

เสียงเพลงดังจนปอดกระตุกทำให้ร่างบางเบ้ปากในทันที แม้จะถูกพาไปยังห้องวีไอพีแต่เสียงเพลงและแสงสีของสถานที่อโคจรแห่งนี้ทำให้หล่อนรู้สึกไม่ชอบใจนัก ไหนจะสายตาของนักเที่ยวที่เอาแต่จับจ้องร่างกายของหล่อนอย่างจาบจ้วงราวกับจะปลดเปลื้องอาภรณ์ทั้งหมดให้หลุดร่วงออกจากกายเสียอย่างนั้น โชคดีที่ลีกซ์ส่งเสียงคำรามขู่ออกไป คนพวกนั้นจึงได้หยุดแทะโลมร่างกายของหล่อนสัก

"เพราะแบบนี้ไง ฉันถึงไม่อยากให้เธอแต่งตัวแบบนี้"แขนแกร่งวางพาดลงบนไหล่เล็กไม่ต่างจากแสดงความเป็นเจ้าของกลายๆ

"ฉันนึกว่านายจะพาไปไปกินที่ร้านอาหาร ใครจะคิดว่าจะพามาคลับ"หญิงสาวเบะปากในทันที ถึงจะรู้อยู่เต็มอกว่าลีกซ์กับเพื่อนๆชอบเที่ยวคลับเป็นชีวิตจิตใจ แต่หล่อนไม่คิดว่าเขาจะกระเตงหล่อนมาที่นี่ด้วย

ในห้องวีไอพีที่มีความเป็นส่วนตัวสูง เป็นโซนที่สว่างมากกว่าด้านนอก พริมโรสได้เห็นหน้าพวกเขาได้อย่างชัดเจน พวกเขาดูดีกันคนละแบบ เริ่มจากลีกซ์เขาตัวสูง ผิวขาวซีด ผมสั้นสีดำ นัยน์ตาสีดำ ปากสีชมพูระเรื่อ เป็นพระเอกอ่อนโยนในอุดมคตินักอ่านวัยเพ้อฝันหลายๆคน 

เซควิลท์เป็นผู้ชายตัวโต ผิวสีแทน ผมสีน้ำตาล ตาสีอำพัน แม้จะใส่เสื้อยืดแต่ก็ยังมองเห็นกล้ามเนื้อสวย ปากของเขาเป็นกระจับสีเนื้อ เขาดูเป็นคนนิ่งๆ ขรึมๆ ไม่ค่อยพูด แทบจะเรียกว่าพูดน้อยมากๆ 

ธีโอเป็นผู้ชายที่มีโครงหน้าเรียวสวยน่าอิจฉา เขามีผมสั้นสีบลอนด์ธรรมชาติ ตาสีเทา ผิวขาวอมชมพู ปากบางสีแดงระเรื่อ ดวงตากลมโต จมูกรั้น มีแก้มนิดๆและเขี้ยวสองข้างกับลักยิ้มเล็กๆ แม้จะดูเป็นหนุ่มดอกไม้สไตล์หนุ่มหล่อแบบเอเชียนทั่วๆไปแต่เขาก็มีกล้ามเนื้อสวยๆ อย่างคนที่ออกกำลังกายอย่างหนัก อีกทั้งยังเป็นคนนิสัยซุกซนเล็กๆ มีความขี้เล่นหน่อยๆ 

ซอร์โรว์มีโครงหน้าคม สันกรามสวย ผิวขาว ตัวโต ผมสีดำตาสีน้ำตาล ปากหนาได้รูป ดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าอายุจริง เขาดูนิสัยคล้ายกับเซควิลท์แต่พูดเยอะกว่า ดูเป็นคนที่ตัดสินใจฉับไวรอบคอบสมกับเป็นนักธุรกิจ เพราะในตอนที่หญิงสาวกำลังจะนั่งบนโซฟา เขาได้ยื่นสูทของตนให้หล่อนใช้คลุมขาเพื่อกันโป๊ นอกจากลีกซ์ก็คงจะเป็นซอร์โรว์นี่แหละที่ดูเป็นสุภาพบุรุษและน่าไว้ใจ

คนสุดท้ายคือจาฟา ผิวสีน้ำผึ้งของเขาดูเด่นมากๆซึ่งมันรับกับผมยาวสวยสีควันบุหรี่ได้อย่างดี ปากของเขาบางมาก ตาดุก็จริงแต่เมื่อได้มองชัดๆจึงได้รู้ว่าดวงตาคู่นั้นสวยเพียงใด เหมือนมีหมู่ดาววิบวับอยู่ในนั้นเลยทีเดียว  เขาดูสวยมากๆและดูดุดันมากๆเช่นกัน แม้จะไม่อยากยอมรับ แต่มาเฟียหนุ่มดูดีมากกว่าภาพในหัวของหล่อนเสียอีก 

"เปลี่ยนน้ำหอมใหม่เหรอโรส? กลิ่นหอมดีนะ"จู่ๆเซควิลท์ที่นั่งเงียบมาสักพักก็เอ่ยขึ้น หญิงสาวเพียงคนเดียวในห้องตกเป็นเป้าสนใจของชายหนุ่มอีกสี่คนในทันที 

"กลิ่นจางขนาดนั้นยังอุตส่าห์ได้กลิ่นอีกนะ ฉันที่นั่งอยู่ตรงนี้ฉุนกลิ่นแซนดัลวูดแทบจะอาเจียนอยู่แล้ว"จาฟาเอ่ยขึ้นบ้าง ตั้งแต่ที่โรสกับลีกซ์เดินเข้ามาในห้อง ตอนแรกเขาได้กลิ่นหอมหวานจางๆจากเพื่อนผู้หญิงคนเดียวในกลุ่ม แต่เพื่อนหมอของเขานี่สิ เอาแต่แผ่ฟีโรโมนของตนเองกลบกลิ่นหอมหวานนั่นจนจางไปหมด 

"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน คงงั้นมั้ง"พริมโรสพูดไปตามความจริง แม้วันนี้แทบทั้งวันหล่อนจะยังไม่ได้ฉีดน้ำหอมก็ตามที และหล่อนก็ไม่รู้ด้วยว่ากลิ่นหอมหวานคล้ายขนมมันคือกลิ่นอะไรกันแน่? 

หญิงสาวลอบถอนหายใจออกมาในจังหวะที่ไม่มีใครสังเกต หล่อนเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าตนเองในร่างตัวประกอบของนิยายเรื่องนี้ไม่มีเพื่อนที่ไหนอีกเลยนอกจากพ่อพระเอกทั้งห้า คงเป็นเพราะสนิทกับคนพวกนี้ถึงไม่มีใครกล้าเป็นเพื่อนด้วย เป็นตัวละครที่น่าจะอาภัพกว่านายเอกกระมัง 

"ทำไมจู่ๆถึงนัดมาที่นี่วะจาฟา?"ซอร์โรว์เอ่ยถามขึ้นมา ถึงจะสนใจกลิ่นหอมหวานจากร่างเพื่อนสาวเพียงคนเดียวของกลุ่ม แต่การที่ลีกซ์แผ่กลิ่นฟีโรโมนบนกายเล็กก็ยืนยันได้ชัดเจนแล้วว่า "เจ้าของเขาหวง" ถ้าไม่เอ่ยเรื่องอื่นแทรกขึ้นมา คงได้มีเรื่องให้แตกหักกันแน่ๆ 

"ลูกหนี้ฉันคนหนึ่งเสนอเอาลูกชายที่เป็นโอเมก้ามาขัดดอก พอเจอเด็กคนนั้นก็รู้เลยว่านั่นเป็นควีนโอเมก้าแน่ๆ"ไม่ทันที่พริมโรสจะได้ฟังมาเฟียหน้าสวยเอ่ยต่อ หล่อนก็ถูกมือใหญ่ของลีกซ์ทาบทับแนบหูทั้งสองข้างเสียก่อน หล่อนไม่ได้ยินว่าพวกเขาคุยอะไรกัน นอกจากรอยยิ้มแสยะน่าขนลุกเท่านั้น 

"พวกนายกำลังวางแผนชั่วกันอยู่แน่ๆ"หญิงสาวปัดมือใหญ่ออกจากใบหู หล่อนเขียนนิยายเรื่องนี้ขึ้นมาเองทำไมจะไม่รู้จักตัวละครที่ตนสร้างขึ้นล่ะ? กลุ่มคนที่รุมปลุกปล้ำอัลฟ่ามาตั้งแต่สมัยเรียน สุดท้ายกลับตกหลุมรักนายเอกคนสวยอย่างหมดหัวใจจนกลุ่มแทบแตก  ถ้าไม่ติดว่ามีฟลอสเป็นคนกลางช่วยประสานรอยร้าว คงได้ฆ่ากันตายไปแล้ว

 อุตส่าห์ทำเลวกับคนอื่นมาทั้งชีวิต แต่แสนดีกับฟลอสแค่คนเดียวตั้งแต่แรกเห็นเสียอย่างนั้น ครั้นเมื่อนึกมาถึงตรงนี้ทำให้หล่อนนึกเอะใจถึงบางสิ่งขึ้นมา  ตอนที่หล่อนเขียนนิยาย หล่อนไม่ได้ระบุถึงควีนโอเมก้านี่นา แล้วเพศรองแปลกๆที่ว่าคืออะไรกัน? พิเศษกว่าโอเมก้าปกติยังไง?

"อย่าใส่ร้ายกันแบบนั้นซี มันไม่ใช่แผนชั่วอย่างที่เธอสักหน่อย เธอก็รู้ว่าควีนโอเมก้าน่ะหายากสุดๆ ใครๆก็ยากครอบครอง แต่ปกติการเกิดของเพศนี้น้อยมากๆ  เราก็แค่ต้องแย่งชิงกันสักหน่อย"ธีโออธิบายยืดยาวด้วยรอยยิ้มสดใส คำพูดของเขาไม่ได้ทำให้ดูดีขึ้นเลยสักนิด 

"ฉันขอผ่าน พอดีมีคนที่ชอบอยู่แล้ว"ลีกซ์กล่าวเลี่ยงอีกครั้ง ถึงควีนโอเมก้าจะเป็นเพศรองที่หายากและพิเศษ แต่เขาไม่ต้องการอีกแล้ว สิ่งที่น่าสนใจกว่าคนที่ไม่เคยแม้แต่เห็นหน้าก็คงจะเป็นเพื่อนข้างบ้านผู้เดียวเท่านั้น

"น่าสนใจดีนี่"เซควิลท์ที่นั่งจิบเครื่องดื่มเงียบๆได้สักพักเปรยขึ้นมาบ้าง หลังจากที่โรสดื่มหนักจนเกือบจะโดนทำร้าย ลีกซ์ก็ดูเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด อย่างว่า คนเราจะรู้ว่าสิ่งใดสำคัญก็ต่อเมื่อมันเกือบจะหลุดลอยจากอุ้งมือไปเท่านั้น

ในขณะที่ชายหนุ่มทั้งห้ายังคงพูดคุยกันถึงฟลอส เด็กหนุ่มที่กำลังจะก้าวเข้ามาทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาสั่นคลอน พริมโรสกลับรู้สึกสงสัยในสิ่งที่ได้ยินมากขึ้นไปอีก หล่อนไม่ได้วางไว้ให้ฟลอสเป็นควีนโอเมก้าเลย หล่อนไม่รู้จักเพศรองที่ว่านี้เสียด้วยซ้ำ ตรงกันข้าม หล่อนวางให้ตัวละครตัวนี้เป็นเพียงโอเมก้าธรรมดา ความธรรมดาที่แสนใสซื่อไร้เดียงสานั่นแหละที่ทำให้พระเอกทั้งห้าผู้มีเพศรองเป็นอินิกม่าลุ่มหลงจนถอนตัวไม่ขึ้น 

"ทำหน้าเหม่ออีกแล้วนะ ง่วงเหรอ?"มือใหญ่ของลีกซ์ดึงไหล่เล็กให้เอนพิงกับไหล่แกร่งของตน หากแต่ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง มือสีน้ำผึ้งของร่างสูงอีกฝั่งกลับดึงกายเล็กให้เอนไปนอนบนตักของตนแทน  มาเฟียหน้าสวยกรีดยิ้มแสยะเย้ยหยันเพื่อนสนิทที่ความไวด้อยกว่า 

"ถ้าง่วงก็นอนไปก่อน เดี๋ยวฉันจะปลุกเธอเอง"เขาไม่รอให้หญิงสาวเอ่ยแย้ง มือสีน้ำผึ้งบรรจงลูบกลุ่มผมนุ่มบนตักอย่างแผ่วเบา แม้ปากบางเฉียบนั่นจะเริ่มบทสนทนาเกี่ยวกับเด็กหนุ่มที่ชื่อฟลอสก็ตาม 

"ดูท่าจะมีอะไรสนุกๆแล้วสิ ชักอยากเล่นบทนักสืบแล้วล่ะ"ธีโอยกเครื่องดื่มรสร้อนขึ้นจิบ ดวงตาขี้เล่นยังคงจับจ้องการกระทำของคนทั้งสามอย่างไม่ละสายตา เขาชักอยากสวมบทนักสืบเล่นๆเสียแล้วสิ

.

.

แสงสว่างสาดกระทบเปลือกตาเร่งเร้าให้ร่างบางตื่นจากห้วงภวังค์ฝันอันหอมหวาน เสียงดังนอกห้องปลุกความสงสัยให้ตื่นขึ้นอย่างง่ายดาย หญิงสาวลุกขึ้นจากเตียงสวมสลิปเปอร์คู่ใหญ่อย่างลวกๆ ก้าวเดินออกไปนอกห้องแม้มันจะไม่คุ้นตาเลยสักนิด ประตูบานหนึ่งจากหลายสิบบานเปิดแง้ม ราวกับเสียงเพรียกหาให้หล่อนเดินไปแอบส่องด้วยความใคร่รู้  ภาพตรงหน้าทำให้พริมโรสผงะจนแทบหงายหลัง เพื่อนๆในกลุ่มแต่งตัวเรียบร้อยกันดี แต่มีใครสักคนที่หล่อนไม่คุ้นหน้า นั่งตาลอยอยู่บนเตียงกว้าง ดวงตาคมกริบเหม่อลอยไม่ต่างจากคนไร้สติ ปากหนาได้รูปอ้าหวอค้างอยู่อย่างนั้น ตามเรือนกายกำยำด้วยมวลกล้ามเนื้อเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบของเหลวสีขาวขุ่น แม้แต่ใบหน้าหรือปากก็ถูกของเหลวนั่นเลอะเทอะเต็มไปหมด มองแค่ปราดเดียวก็รู้แล้วว่าชายหนุ่มบนเตียงเพิ่งผ่านอะไรมา 

"แอบมองคนอื่นแบบนี้ นิสัยไม่ดีเลยนะ"ซอร์โรว์เปรยขึ้น เขาเดินใกล้ประตูขึ้นเรื่อยๆ วงแขนแกร่งวางทาบลงบนไหล่เล็กอย่างถือวิสาสะ 

"ลีกซ์กับจาฟาล่ะ?"พริมโรสรีบเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าทั้งคู่ไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย 

"พวกมันมีงานน่ะสิ อา จริงๆฉันยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย ไปหาอะไรรองท้องกันเถอะ"แรงมหาศาลฉุดดึงกายบางให้เคลื่อนตามไป แม้ดวงตาคู่งามจะยังคงจ้องคนที่นั่งนิ่งเป็นรูปปั้นอยู่บนเตียงก็ตามที 

"แล้วเขาล่ะ?"หล่อนเอ่ยถาม อย่างน้อยถ้าพาเขามาหลับนอนด้วย ก็ควรจะดูแลดีๆไม่ใช่เหรอ? 

"ห่วงตัวเองก่อนเถอะ ถ้าฉันเป็นเธอ ฉันจะเลิกใช้น้ำหอมกลิ่นนี้นะ เพราะมันทำให้เธอโคตรน่าเอาเลย"ซอร์โรว์ไม่เพียงแต่เมินเฉยต่อคำถามของหญิงสาว แต่เขายังเอ่ยถึงกลิ่นหอมหวานบนเรือนกายเล็กด้วยน้ำเสียงแหบพร่า โรสช่างเข้าใจเลือกกลิ่นน้ำหอมเสียจริง กลิ่นมันหอมหวานกระตุ้นอารมณ์ได้ดีประหนึ่งฟีโรโมนของโอเมก้าจริงๆ หากแต่ดูเหมือนจะรุนแรงกว่าเสียด้วย คาดไม่ถึงว่าคนที่เคยน้อยใจว่าตนเป็นเพียงเบต้าจึงถูกเมินหลายครั้งจะใช้วิธีนี้เพื่อเรียกร้องความสนใจ กลิ่นหอมรุนแรงที่ชวนเข้าใจผิดได้ง่ายๆ กลิ่นที่ชวนให้เข้าใจผิดว่าเป็นโอเมก้า 

"ฉันไม่เห็นจะรู้สึกอะไรเลย น้ำหอมก็คือน้ำหอม มันไม่เหมือนกับฟีโรโมนปกติสักเท่าไหร่หรอก"ธีโอเอ่ยแทรกขึ้นบ้าง เขาคว้ากายของหญิงสาวมาโอบกอดไว้แทน  กลิ่นมัสก์เข้มข้มถูกแผ่ออกมากลบกลิ่นหอมหวานไม่ต่างจากขนมเสียมิด เขาแสร้งพูดกลบเกลื่อนไปอย่างนั้นแม้กลิ่นจางๆจากกายเล็กเพียงน้อยนิดกำลังทำให้เขารู้สึกกระสับกระส่ายก็ตามที ซอร์โรว์พูดถูกทุกอย่าง กลิ่นหอมหวานจากร่างกายของหญิงสาวทำให้หล่อนน่ารังแกขึ้นอีกเป็นเท่าตัว แต่เขาไม่คิดว่ามันเป็นกลิ่นน้ำหอมนี่สิ  ด้วยความที่ต้องดูแลรูปร่าง ผิวพรรณ หรือแม้แต่ใบหน้าอยู่เสมอ นั่นทำให้ต้องใช้สกินแคร์และเครื่องประทินผิวจำนวนไม่น้อย เขาจึงคุ้นเคยกับเครื่องสำอางอย่างน้ำหอมไปด้วย เขาไม่เคยเจอน้ำหอมชนิดไหนที่กลิ่นเข้มข้นข้ามวันข้ามคืนเช่นนี้มาก่อน และเท่าที่จำได้ รู้สึกว่าตั้งแต่เมื่อคืน จนถึงตอนที่จาฟาอุ้มหญิงสาวไปนอนในห้อง เขาไม่เห็นโรสหยิบน้ำหอมขึ้นมาฉีดเลยสักนิด ไม่สิ ในตอนที่เขาช่วยถือกระเป๋าของหญิงสาว เขาไม่รู้สึกว่าข้างในนั้นมีน้ำหอมสักขวด มีเพียงแป้งกับลิปสติก แต่จะด่วนสรุปเพราะแค่นี้ก็คงจะดูใจร้ายไปสักหน่อย คงต้องดูกันต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะมั่นใจว่าเป็นจริงดังที่สงสัยเท่านั้น

มื้อเช้าแสนอึดอัดถูกเสิร์ฟลงบนโต๊ะ แม้จะดูน่าอร่อย แต่หญิงสาวกลับรู้สึกไม่อยากอาหารขึ้นมาเสียอย่างนั้น เพราะสายตาของธีโอเอาแต่จับจ้องมาที่หล่อนราวกับกำลังจ้องจับผิด ราวกับว่าเขากำลังสงสัยอะไรบางอย่างในตัวหล่อน แต่ไม่คิดจะเอ่ยถามตรงๆออกมา นอกจากจับสังเกตเท่านั้น

"พวกนายก็ต้องไปทำงานไม่ใช่เหรอ? น่าจะรีบๆกินได้แล้วนะ"จู่ๆธีโอก็เอ่ยขึ้นมาท่ามกลางความเงียบโดยไม่ไว้หน้าเจ้าของบ้านอย่างซอร์โรว์เลยสักนิด หากแต่เพื่อนทั้งสองกลับไม่มีกิริยาโต้ตอบใดๆ ทำให้เขารวบช้อนหลังจากแตะมื้อเช้าไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หนุ่มลูกครึ่งเอเชียนผุดลุกจากเก้าอี้เดินออกไปจากตรงนั้น มือเรียวหยิบมือถือขึ้นมากดส่งข้อความหาใครบางคนในทันที 

เสียงข้อความดังเตือนขึ้นกลางโต๊ะอาหารจากมือถือสีขาวเรียบๆของหญิงสาวเพียงผู้เดียวบนโต๊ะ หล่อนหยิบมันขึ้นมาอ่านด้วยความสงสัย มันถูกส่งมาจากคนที่เพิ่งเดินออกไปเมื่อครู่  เขากล่าวขอโทษที่เอาแต่จ้องหล่อนมากไปสักหน่อย เพียงแต่เขาแค่มีเรื่องอยากปรึกษา แต่ไม่กล้าเอ่ยถามตรงๆสักเท่าไหร่ 

'ฉันอยากให้ช่วยคิดคอนเท้นสำหรับวันครบรอบ5ปี สำหรับแฟนคลับของฉัน แต่การปรึกษาเรื่องแบบนี้กับผู้หญิง มันค่อนข้างจะแปลกๆไปสักหน่อย ฉันกลัวว่าเธอจะมองฉันในแง่ไม่ดีหรือเปล่า ก็เลยจ้องเธอนานไปสักนิด ต้องขอโทษจริงๆ แต่นอกจากเธอ ฉันไม่มีเพื่อนที่ไหนให้ปรึกษาอีกแล้ว'ข้อความนั้นทำให้พริมโรสหลุดหัวเราะออกมาด้วยความเอ็นดูกับท่าทางน่ารักราวกับเด็กผู้ชายของธีโอ พ่อหนุ่มลูกครึ่งเกาหลีผู้นี้ช่างดูใสซื่อไร้เดียงสาจริงๆ

"อย่าไว้ใจซังฮุนให้มาก ความน่าเอ็นดูของมันหลอกเด็กมาเชือดได้เยอะอยู่นะ"เซควิลท์เปรยขึ้นบ้าง เขารู้จักกับธีโอหรือชเว ซังฮุนมานาน นานกว่าที่รู้จักลีกซ์กับโรสเสียอีก นิสัยของหมอนั่นเขารู้ดี และเพื่อนคนนี้ชอบทำตัวไร้เดียงสาไว้หลอกล่อเหยื่อเสียด้วยสิ 

"ฉันจะระวังก็แล้วกัน"หญิงสาวคลี่ยิ้มจางๆก่อนจะขอตัวกลับ หล่อนไม่ใช่นางเอกสักหน่อย ไม่มีทางที่หล่อนจะต้องเจอกับสิ่งไม่คาดคิดหรอก คนที่น่าเป็นห่วงคงจะเป็นฟลอสเสียมากกว่า ซึ่งหล่อนก็คงได้เจออีกฝ่ายเร็วๆนี้แน่นอน

.

.

ทั้งๆที่เซ็กส์ครีเอเตอร์หนุ่มชวนออกมาซื้ออุปกรณ์สำหรับคอนเท้นครบรอบห้าปี แต่กลายเป็นว่าพริมโรสถูกชายหนุ่มจูงเข้าร้านเครื่องสำอางบ้าง ร้านน้ำหอมบ้าง ไม่มีทีท่าว่าเขาจะเริ่มทำงานสักที 

"เพิ่งรู้ว่ามีน้ำหอมกลิ่นป๊อปคอร์นคาราเมลบนโลกใบนี้ด้วย"หญิงสาวที่เอาแต่ตื่นตากับน้ำหอมกลิ่นแปลกๆพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น หล่อนหยิบเทสเตอร์ขึ้นมาพรมกลิ่นหอมของมันลงบนข้อมือ ตรงกันข้ามกับชายหนุ่มร่างสูง เขาลอบสูดดมกลิ่นหอมหวานไม่ต่างจากขนมบนกายเล็กในขณะที่มือหยิบเทสเตอร์ขึ้นมาดมเทียบกลิ่น  ไม่มีกลิ่นไหนคล้ายกลิ่นหหอมจากกายเล็กเลยสักอัน ราวกับว่ามันเป็นกลิ่นเฉพาะของหญิงสาวเท่านั้น

เขารู้ว่ามันเป็นไปได้ยาก ตั้งแต่สมัยมอปลายจนตอนนี้อายุย่างเข้ายี่สิบเจ็ด ตลอดเวลาที่รู้จักกับโรสมา หญิงสาวน้อยใจบ่อยครั้งที่ตนเป็นเพียงเบต้าที่ไร้ซึ่งความพิเศษ หลายครั้งที่หล่อนร่ำไห้ซบกับอกของเขาเพื่อระบายความเจ็บปวดจากความธรรมดา ความธรรมดาที่ทำให้ความรักถูกคนพิเศษกว่าช่วงชิงเอาไป ทำให้พวกเขาต้องแอบแก้แค้นแทนหญิงสาวอยู่บ่อยครั้ง ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน แต่มันช่างเป็นสิ่งที่น่าขำสิ้นดี อินิกม่าที่สูงส่งทั้งห้าคนทำอะไรเลวร้ายลงไปในบางครั้งเพียงเพราะมีสาเหตุมาจากความเจ็บปวดของเบต้าที่ไร้ความสำคัญในห่วงโซ่ ทั้งๆที่มองว่าเป็นแค่เพื่อนธรรมดาเท่านั้น ทำไมพวกเขาถึงต้องทำร้ายคนพวกนั้นเพื่อให้ได้เห็นรอยยิ้มบางๆจากปากเล็กน่าจูบนี่กันแน่?

"ถ้าชอบก็หยิบไปสักขวดสิ ฉันจะจ่ายให้เอง ตอบแทนที่เธออุตส่าห์รับปากว่าจะช่วย"ธีโอเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นดวงตาคู่สวยจ้องมองขวดน้ำหอมกลิ่นป๊อปคอร์นไม่วางตา หลังจากที่เขาเทียบกลิ่นทั้งร้านแต่ยังไม่พบกลิ่นที่ใกล้เคียงเลยสักกลิ่น

"ขอบใจนะ"คนตัวเล็กเอ่ยด้วยรอยยิ้ม หล่อนหยิบขวดสีชมพูใสใส่ในตะกร้าด้วยความดีใจราวกับเด็กน้อยได้ของเล่น 

"คุณผู้หญิง ผมต้องการน้ำหอมกลิ่นแบบเดียวกับกลิ่นที่อยู่บนตัวของเธอคนนั้น พอจะเทียบกลิ่นหาให้ผมได้ไหม?"ธีโอคลี่ยิ้มให้เพื่อนสาวตัวเล็ก ก่อนจะเดินไปกระซิบพนักงานหญิงคนหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลด้วยรอยยิ้มน่ารักตามแบบฉบับของผู้ชายขี้เล่น 

"นั่นไม่น่าใช่กลิ่นน้ำหอมนะคะ กลิ่นนั้นเหมือนกลิ่นเฉพาะตัวมากกว่ากลิ่นน้ำหอมน่ะค่ะ และจากที่ฉันได้กลิ่น มันน่าจะเป็นกลิ่นที่สกัดไม่ได้เสียด้วย มันหอมหวานเหมือนขนมก็จริง แต่ไม่สามารถเทียบได้ว่าเป็นกลิ่นขนมชนิดไหน มันหอมหวานคล้ายกับขนมทุกชนิดจนแยกไม่ออก ฉันเองก็เป็นโอเมก้า ขอโทษนะคะ แต่กลิ่นของเธอมันทำให้รู้สึกไม่พอใจสักเท่าไหร่"พนักงานร้านน้ำหอมพูดด้วยความสุภาพ ตั้งแต่หญิงสาวผู้นั้นกับชายหนุ่มตรงหน้าเดินเข้ามา โอเมก้าหลายคนในร้านก็มีปฏิกิริยาแปลกๆ ยิ่งกลิ่นหวานๆนั่นฟุ้งกระจายรุนแรงกว่าเดิม ก็ยิ่งทำให้หงุดหงิดจนทนไม่ไหว ราวกับว่ากลิ่นนั้นจะแย่งชิงจุดสนใจจากพวกตนไปเสียหมด

"นายว่าคนในร้านมองฉันแปลกๆไหม?"พริมโรสเอ่ยถามด้วยความสงสัย ตั้งแต่อยู่ในร้าน หล่อนรู้สึกว่าถูกแอบมองด้วยความไม่พอใจ และมันยิ่งชัดขึ้นตอนธีโอแยกตัวไปจ่ายเงิน สายตาเขม็งจากลูกค้าและพนักงานหลายคนทำให้หล่อนลอบกลืนน้ำลายหนืดๆลงลำคออย่างยากลำบาก ทำไมดูน่ากลัวกันอย่างนั้นนะ

"คงเป็นแฟนคลับของฉันน่ะ อย่าใส่ใจเลย"ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆในลำคอราวกับว่ามันเป็นเรื่องขบขันเรื่องหนึ่งเท่านั้น เขาไม่ได้พูดในสิ่งที่เพิ่งพูดคุยกับพนักงานให้หญิงสาวฟัง เพราะดูท่าโรสเองก็ไม่รู้ตัวสักนิดว่าโอเมก้าเหล่านั้นมีปฏิกิริยากับกลิ่นของหล่อนเอง

"จริงสิ ฉันมีเรื่องสงสัย เกี่ยวกับควีนโอเมก้า พวกนายดูกระตือรือร้นกันมาก จนฉันอยากรู้ว่าทำไม?"ไม่ทันที่หล่อนจะได้เอ่ยถาม ชายหนุ่มข้างกายก็ชิงเอานิ้วทาบปากของตนพร้อมส่งเสียงชูว์ออกมาเบาๆแทนสัญญาณให้หล่อนเงียบ มือใหญ่จูงแขนเล็กให้เดินตามตนเข้าไปยังร้านขายชุดคอสเพลย์สำหรับผู้ใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลนัก 

"ที่นี่เป็นร้านลับ ไม่ค่อยมีใครเข้ามาในช่วงสายแบบนี้สักเท่าไหร่ มันน่าจะเงียบพอที่ฉันจะเล่าให้เธอฟังแบบที่ไม่มีอะไรมารบกวนเรา ถึงจะไม่เข้าใจว่าเธอสนใจเรื่องนี้ทำไมนัก และลีกซ์ก็ห้ามพวกฉันเล่าให้เธอฟัง เพราะแบบนั้น ที่ผ่านๆมาเธอถามทีไรพวกฉันก็บ่ายเบี่ยงไม่ตอบสักที"เขาเอ่ยยืดยาวในมุมที่เต็มไปด้วยหูสัตว์กับชุดเลียนแบบสัตว์น่ารักๆ เพราะโซนนี้มีชั้นวางสูงบดบังร่างของพวกเขาเอาไว้

"ควีนโอเมก้า ก็คือโอเมก้านั่นแหละ แต่พิเศษกว่าโอเมก้าปกติ เพราะมีกลิ่นฟีโรโมนที่รุนแรง และมันมีผลกับทุกเพศ ทั้งเบต้า อินิกม่า อัลฟ่า หรือแม้แต่โอเมก้าด้วยกันเอง แต่มันจะต่างกันออกไปตรงที่กับเพศรองอื่นๆ กลิ่นฟีโรโมนนั้นจะกระตุ้นรุนแรงกว่าโอเมก้าทั่วไป แม้ไม่ใช่ช่วงฮีทก็ตาม  ที่สำคัญ มีเรื่องเล่าว่าควีนโอเมก้าเวลามีเซ็กส์น่ะ โคตรดีเลยล่ะ เพราะแบบนั้น ถึงมีคนพยายามหาเพศรองเพศนี้อยู่บ่อยครั้ง แต่ก็มีแค่0.01%เท่านั้นแหละ แทบจะหนึ่งในล้านเลยมั้ง แล้วที่น่าสนใจ กลิ่นของควีนน่ะ คล้ายจะข่มโอเมก้าด้วยกันได้ ถ้าอยู่ใกล้ๆกัน ควีนจะเรียกเร้าหาเพศอื่นๆด้วยกลิ่นที่รุนแรงกว่า เพราะแบบนี้หลายๆคนถึงอยากได้ควีนโอเมก้ามาครอบครอง"เขาอธิบายโดยที่ใบหน้าหวานๆยังเปื้อนด้วยรอยยิ้ม

"รวมถึงนายด้วยใช่ไหม?"พริมโรสที่เพิ่งเข้าใจในสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อนเอ่ยถามในทันที เพราะแบบนี้ทั้งห้าคนจึงกระเหี้ยนกระหือรือกับควีนโอเมก้ากันนัก

"ไม่หรอก ฉันแค่ชอบอะไรที่มันสนุก จะควีนหรือเพศรองอื่น มันไม่สำคัญว่าสนุกหรือเปล่า? แต่ในเมื่อเพื่อนฉันอยากได้ ฉันก็ไม่ขัดหรอก ฉันก็แค่อยากชิมเพื่อพิสูจน์สิ่งที่เขาพูดกันมา ก็แค่นั่นแหละ อาา หูจิ้งจอกสีเท่านี่สวยจัง ว้าวววว พอดีกับหัวเธอเลย"เพียงครู่เดียวเขาก็ละความสนใจไปจากบทสนทนา มือเรียวหยิบหูจิ้งจอกแบบคาดผมมาสวมบนหัวของหญิงสาวแทน โรสในตอนนี้ช่างเหมือนนังจิ้งจอกตัวแสบที่แสร้งทำตัวไร้เดียงสาไม่มีผิด และในคราวเดียวกันนี้เองที่ธีโอรู้สึกว่าดวงตาคู่สวยของหญิงสาวนั้นดึงดูดเขาเหลือเกิน 

"เอามันไปจ่ายเงินเถอะ ฉันนึกคอนเท้นออกแล้วล่ะ เดี๋ยวฉันตามไป"เขาโบกมือให้หล่อนไปที่เคาท์เตอร์ ดวงตาของเขามองสิ่งที่ห้อยอยู่ด้านบนสุดของชั้นอย่างไม่ละสายตา คล้อยหลังของหญิงสาว มือเรียวเอื้อมไปหยิบTail Buttplug หางจิ้งจอกขนฟูฟ่องสีเทาออกมาจากชั้น สายตาขี้เล่นเปลี่ยนไปจากที่เคย ริมฝีปากที่เปื้อนยิ้มเป็นมิตรก็เปลี่ยนเป็นยิ้มแสยะแทนเช่นกัน 

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

Talk.หวังว่าจะชอบนะคะ ถ้าดูมึนๆก็ขอโทษด้วยนะคะ ไม่เคยเขียนพระเอกเยอะขนาดนี้มาก่อนเลย อาจจะมีเกลี่ยบทยังไม่เท่ากันบ้าง เขียนไม่สมูทบ้าง

 

คำเตือน อย่าไว้ใจพ่กอินิกม่า 

สปอย ตอนหน้ามีเอ็นซีครับ ให้ทายว่ายัยกับพระเอกคนไหน?