1 ตอน Intro รูมเมตที่ไม่อยากมี
โดย อัญมณีสีน้ำเงิน
Intro รูมเมตที่ไม่อยากมี
เขาว่ากันว่า เกลียดอะไร มักจะได้อย่างนั้น’ ผมได้ยินคำนี้มาค่อนข้างบ่อย แต่ก็ไม่คิดว่าจะมาเจอกับตัวเหมือนกัน
สวัสดีครับ ผมตั้งต้น หรือชื่อเรียกง่าย ๆ ว่า ‘ตั้ง’ เป็นชายหนุ่มอายุ 18 ปี ตอนนี้กำลังจะเข้าศึกษาในระดับอุดมศึกษาชั้นปีที่หนึ่ง
และแน่นอน เมื่อมีการเข้าเรียนมหา’ ลัย สำหรับเด็กต่างจังหวัดที่ต้องเข้าไปเรียนในเมืองแบบผม ก็จะต้องมีการย้ายเข้าไปอยู่ในหอเกิดขึ้น สำหรับหอที่ผมเลือกอยู่ก็คือหอใน เพราะผมเล่นกีฬา คิดว่าถ้าอยู่หอในที่ติดกับสนามกีฬาแบบนี้ก็น่าจะสะดวกดี อีกอย่างคือผมจะได้เหลือเงินไปใช้จ่ายเยอะขึ้น
แต่ความเป็นหอในมันก็ไม่ได้สบายอย่างที่คิด เพื่อแลกกับความสะดวกที่ได้อยู่ในมหา’ ลัย และค่าเช่าที่ถูกแสนถูก มันก็จำเป็นจะต้องมีกฎกติกาที่มันยุ่งยากหน่อย ทั้งต้องเก็บชั่วโมงกิจกรรมให้ครบในแต่ละเทอม และยังไม่สามารถเลือกรูมเมตได้ ซึ่งไอ้ข้อที่ว่ามาทั้งหลาย ผมก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นปัญหาเท่าไร จนกระทั่งผมมายืนอยู่หน้าห้องธุรการของหอ
ที่ตรงนี้เป็นที่ที่ติดรายชื่อของคนที่อยู่ในแต่ละห้อง ผมตั้งใจแค่จะมาดูเลขห้องของผม ส่วนชื่อรูมเมตผมไม่ได้มีความคิดอยากจะดูมันเลย เพราะดูไปผมก็คงไม่รู้จัก แต่มันดันไม่ได้เป็นแบบที่ผมคิด เมื่อชื่อที่อยู่คู่กับผม มันดันเป็นชื่อที่ผมแสนจะคุ้นเคย
ธนกฤต ทุมตรี สมิท
ผมอ่านชื่อนั้นซ้ำอยู่หลายต่อหลายครั้งจนคนมามุงดูชื่อเริ่มเยอะจึงยอมถอยออก แต่ชื่อมันก็ยังก้องอยู่ในหัวผม พยายามจะบอกตัวเองว่าอ่านผิดรึเปล่า แต่มันก็ยากซะเหลือเกิน เล่นมาครบทั้งชื่อ นามสกุลไทย นามสกุลภาษาอังกฤษขนาดนั้น
ไอ้เหี้ยไฟ
ผมนึกถึงเจ้าของชื่อนั้นแล้วก็อยากจะถอนหายใจแรง ๆ ไม่คิดไม่ฝันว่าโชคชะตาจะเล่นตลกขนาดนั้น ใครจะไปคิดว่านักศึกษาหอในเป็นพัน ๆ คน ห้องพักเป็นร้อย ๆ ห้อง เจ้าหน้าที่จะดันจับผมมาคู่กับไอ้บ้านี่
ไอ้ไฟมันเป็นเพื่อนร่วมห้องของผมตั้งแต่ม.ต้น ตอนนั้นเราไม่ได้เกลียดอะไรกัน ก็แค่คนอยู่ห้องเดียวกัน ที่ไม่ได้สนิทกันเฉย ๆ แต่เรื่องมันมาเกิดเมื่อไอ้แทน เพื่อนในกลุ่มมันดันมาจีบแฟนของไอ้เจมส์ เพื่อนในกลุ่มผม ทำให้เราสองกลุ่มกลายเป็นไม่ค่อยถูกกัน
จากชนวนเล็ก ๆ นำไปสู่เรื่องอื่น ๆ เช่น แย่งสนามบอลกันตอนเย็น แข่งกันเป็นตัวแทนห้อง แข่งกันจีบหญิง มองย้อนกลับไปมันอาจจะเหมือนเรื่องเล็ก ๆ แต่มันก็คือเรื่องใหญ่มากในชีวิตวัยมัธยมของผม
พอขึ้นมหา’ ลัยก็คิดว่าจะแยกย้ายกันไปแล้ว แต่ผม ไอ้แทน ไอ้เจมส์ แล้วก็ไอ้ไฟก็ดันมาเรียนมหา’ ลัยเดียวกันอีก แล้วยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ผมก็ดันมาเป็นรูมเมตไอ้ไฟอีก เฮ้อ ผมคงหนีมันไม่พันจริง ๆ
ผมยืนทำหน้าเซ็งอยู่หน้าห้องสักพัก ก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป ที่ต้องทำใจไม่ใช่ว่าผมกลัวไอ้ไฟมันหรอก แต่แค่รำคาญที่ต้องอยู่ร่วมกับมันมากกว่า แต่ให้ทำไงได้ จะยอมทิ้งค่าหอมันก็ใช่เรื่อง เอาเป็นว่าอยู่ ๆ ไปก่อน ปีหน้าค่อยว่ากันใหม่แล้วกัน
แกร็ก
ผมเปิดประตูเข้าไป พบว่าห้องไม่ได้ล็อก แล้วข้างในก็มีไอ้ไฟอยู่จริง ๆ มันกำลังเก็บเสื้อผ้าของมันเข้าตู้อยู่ มันไม่แม้แต่จะหันมามองทั้ง ๆ ที่ได้ยินเสียงประตู แต่ถึงมันจะไม่หันกลับมา ผมก็จำมันได้ดี ไอ้ส่วนสูงร้อยเก้าสิบ กับกล้ามที่ใหญ่กว่าท่อนซุง ผิวที่ขาวโอเวอร์แบบไอ้หนุ่มลูกครึ่งนั่น มีมันคนเดียวแหละ
เมื่อมันไม่หันมาสนใจผม ผมก็ไม่คิดจะพูดกับมันเหมือนกัน ผมเดินหน้าตึง ๆ เอาของเข้าห้อง แล้วหยิบเป้ไปวางบนเตียงที่อยู่ฝั่งติดผนัง แต่ยังไม่ทันวาง ไอ้ลูกครึ่งตัวยักษ์นั่นมันก็หันมาพูดกับผมเสียงนิ่ง ๆ ว่า
“เตียงนั้นของกู”
“ไหนป้ายชื่อมึง”
“กูมาก่อน กูจองแล้ว นั่นไง โทรศัพท์กูวางอยู่ แล้วตามมารยาท คนมาทีหลังอย่างมึงควรถามก่อน หรือสังเกตสักหน่อย”
“ไอสัสอย่าเยอะ ก็กูไม่เห็น จะบ่นอะไรนักหนา”
ผมหัวเสียแล้วเดินไปอีกเตียงแทน หงุดหงิดกับคำพูดมันเหลือเกิน ทีด่านี่ใช้คำพูดเก่ง ทีตอนเรียนภาษานะมันตกตลอด แล้วก็ชอบอ้างว่าผมเป็นลูกครึ่ง ไม่ถนัดภาษาไทย
เหตุผลที่เราเป็นศัตรูกัน แต่ผมกลับยอมไอ้ไฟง่าย ๆ เพราะถึงผมจะไม่ชอบมัน แต่ผมไม่ใช่สายไฟต์แบบไอ้แทน ถ้าเป็นไอ้แทนกับไอ้เจมส์มันจะเถียงกันให้ถึงที่สุด แต่กับผมแล้ว ถ้าผมไม่ชอบใครผมจะไม่อยากยุ่ง และคิดว่าไอ้ไฟก็เป็นเหมือนกัน ทุกวันนี้ถ้าไม่มีไอ้แทนกับไอ้เจมส์คอยหาเรื่องกันก่อน เราก็คงจะเป็นแค่คนสองกลุ่มที่เกลียดกันแล้วแยกกันอยู่ ไม่ได้ยุ่งอะไรกัน แต่พอมีหัวโจกของกลุ่มเป็นสายลุยทั้งคู่ เลยทำให้เรามีเรื่องกันอยู่บ่อย ๆ แบบนี้
แต่ในห้องนี้มีแค่ผมกับไอ้ไฟ นี่เป็นสิ่งนึงที่ทำให้ผมคิดว่าเราอาจจะทนอยู่ด้วยกันได้ครบปี เพราะที่นี่ไม่มีไอ้แทนกับไอ้เจมส์ที่จะหาเรื่องให้เราตีกัน ดังนั้นผมกับมันก็จะเป็นแค่คนที่เกลียดกัน แต่เราจะต่างคนต่างอยู่ ไม่หาเรื่องกัน นั่นน่าจะทำให้ผมแค่รำคาญสายตา แต่ไม่ได้หงุดหงิดจนประสาทเสียขนาดนั้น
ส่วนที่เหลือก็ทนเอาหน่อย แค่ปีเดียวเองเนอะ
------------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีค่ะทุกคน มาฝากลูกคนใหม่ค่ะ
เรื่องนี้เป็นเน้นพอร์น เบาสมอง ก็อยากจะให้ทุกคนที่จะอ่านเรื่องนี้ ผ่อนคลาย วางทิ้งความน่าปวดหัวทุกอย่าง แล้วมาสนุกด้วยกันให้เต็มที่เลยนะคะ หวังว่าจะรักและเอ็นดู ไฟกับตั้งนะคะ จะพยายามลงให้บ่อย ๆ เพื่อฝึกให้ตัวเองกลับมาแต่งนิยายได้รัว ๆ เหมือนเดิมนะคะ
ขอบคุณค่ะ
Comments (0)