ตอนที่ ๑

 

 

          “มน...เธอนี่มันสุดยอดจริงๆ” ชายหนุ่มจ้องมองเนินอกซึ่งกำลังกระเพื่อมไหวของหญิงสาวที่ขยับกายอยู่เหนือร่างเปลือยของตัวเองอย่างเพลิดเพลิน เพียงไม่นานเขาก็ได้ปลดปล่อยอย่างเต็มที่

          ฐิติมนขยับตัวลงจากเรือนกายแข็งแรงที่เธอเพิ่งทำให้เสร็จสม หญิงสาวทิ้งตัวลงนอนหนุนแขนของชายหนุ่มซึ่งไม่ใช่แฟนของตัวเอง แต่เป็นแฟนของรุ่นพี่ที่จบมาจากคณะเดียวกันและสนิทกันดีเพราะเป็นสายรหัส นอกจากนี้ตอนนี้ก็ยังทำงานอยู่ในแผนกเดียวกับเธอในบริษัทเดียวกันอีกด้วย

          “ปากหวานชมเก่ง แต่พี่ธีน่าเบื่อที่สุดเลยค่ะที่ไม่ยอมเลิกกับพี่บลูเขาสักที ถ้าพี่ยอมเลิกกับเขาเมื่อไหร่ มนก็จะเลิกกับอีตาแฟนบ้างานนั่นทันทีเลยเหมือนกัน” แม้จะทำตัวสนิทกันแค่ไหน แต่หญิงสาวก็นึกอิจฉารุ่นพี่ซึ่งหน้าตาสวยหวานรูปไข่ ตากลมโต อกเป็นอก เอวเป็นเอว ผิวขาวเนียนละเอียดอย่างบูรณิมาอยู่เสมอ แล้วยังมีแฟนหน้าตาดีแบบกฤติธี

          “นั่นว่าที่แม่ของลูกนะจะเลิกได้ยังไง อีกอย่างตอนนี้เขาก็เป็นของพี่แล้ว พี่ต้องรับผิดชอบเขาสิ”

          “เอ๊ะ มีอะไรกันแล้วเหรอคะ ไหนว่าพี่บลูเขายังไงก็ไม่ยอมมีก่อนแต่งไง” ฐิติมนเท้าแขนขึ้น เธอจ้องมองกฤติธีนิ่ง

          ชายหนุ่มรู้จักกับเธอผ่านทางบูรณิมาและเหมือนระหว่างกันจะมีแรงดึงดูด ดังนั้นทั้งสองคนจึงมักแอบคนรักของตัวเองมาเจอกันอยู่เสมอ

          “ทะเลาะกันนิดหน่อยเพราะพี่ดันไปเจอถุงยางอนามัยที่ห้องเขา เขาเถียงน่ะว่าเป็นของเพื่อนข้างห้องที่มากินข้าวด้วยกันบ่อยๆ และพี่ก็รู้ว่ามันเป็นผู้ชายด้วย พี่ก็เลยถือโอกาสวีนแล้วรวบหัวรวบหางเพราะถ้าไม่ยอมก็แสดงว่าที่พูดมาว่าแค่น้องที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กน่ะโกหก”

          “แล้วเป็นไงบ้างคะ” ฐิติมนเลิกคิ้ว “ของสดซิงดีไหม”

          “ไม่รู้สึกอะไรเลย แข็งเป็นท่อนไม้ ทำเอาพี่หมดอารมณ์ ครั้งที่สอง ครั้งที่สามแล้วก็ยังนอนนิ่งจนพี่เซ็ง”

          ฐิติมนหัวเราะคิกพลางยื่นนิ้วมือไปวนเล่นรอบยอดอกของชายหนุ่ม “ให้โอกาสพี่เขาเรียนรู้สักหน่อยสิคะ”

          “ดูท่าทางแล้วคงไม่ไหว ทำๆ ไปแล้วต้องมโนภาพเธอพี่ถึงจะเสร็จ”

          “ว้าย! พี่บลูรู้ว่าพี่ธีคิดแบบนี้คงเสียใจแย่”

          กฤติธีหัวเราะเสียงดัง “เขาจะมารู้ได้ยังไงล่ะ”

          “ถามจริงๆ นะคะ ถ้าให้เลือกระหว่างมนกับพี่บลู พี่ธีจะเลือกใคร”

          “เลือกบลูไว้เป็นแม่ของลูก ส่วนเธอคือคนที่พี่ขาดไม่ได้” ชายหนุ่มรั้งหญิงสาวมากอดรัดและฝังหน้าลงกับอกนุ่ม

          “พอเลย ถ้าตอบแบบนี้ไม่ต้องเลยค่ะ” หญิงสาวตีแขนชายหนุ่มแรงจนเป็นรอยแดง “แบบมนมันเป็นยังไงเหรอคะ ถึงเป็นแม่ของลูกให้พี่ไม่ได้”

          “ไม่เอาน่ามน อย่าเอาเรื่องน่าเบื่อมาทะเลาะกันเลย เธอก็รู้ดีแก่ใจว่าทำไม”

          “ใช่สิ พี่มองว่ามนมันร่าน เพราะแบบนี้ใช่ไหมมนถึงไม่เหมาะกับว่าที่แม่ของลูกพี่” ฐิติมนตัดพ้ออีกฝ่ายพลางลุกขึ้นจากเตียงและหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวม

          “มนอย่างอนสิ เธอเองก็มีแฟนแล้ว เราแค่มาสนุกๆ กันไม่ใช่หรือไง”

          “ตอนแรกก็สนุกดี แต่ตอนนี้มนชักไม่สนุกด้วยแล้วค่ะ” 

          กฤติธีส่ายหน้าด้วยความหน่าย “ถ้าเป็นแบบนี้เลิกกันไปดีกว่า เพราะยังไงพี่ก็เลือกบลูอยู่แล้ว” 

          “พี่มันก็ดีแต่เปลือก จริงๆ แล้วเป็นคนเลวที่สุดเลย คอยดูนะมนจะบอกพี่บลู”

          “ก็ลองดูสิ” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ทั้งคลิปและภาพของเธอคงได้ไปอยู่บนเว็บโป๊แน่”

          กึก! เสียงที่ดังมาจากตู้เสื้อผ้านั้นทำให้ชายหนุ่มกับหญิงสาวซึ่งกำลังเถียงกันหันไปมองด้วยความสงสัย แต่สุดท้ายก็ไม่ใส่ใจเพราะตอนนี้อารมณ์กรุ่นโกรธคนตรงหน้าของฐิติมนมันกำลังพลุ่งพล่านไปหมด

          “พี่แม่งเลว”

          “โทษที แต่เพราะพี่ต้องปลอดภัยไว้ก่อน”

          ฐิติมนได้แต่กำหมัดแน่น “วันนี้มนจะกลับแล้ว”

          “หายโกรธแล้วโทรหาพี่นะ” น้ำเสียงของชายหนุ่มอ่อนลง 
กฤติธีดึงอีกฝ่ายมาจูบอย่างดูดดื่มก่อนจะปล่อย 

          หลังจากฐิติมนกลับไปแล้ว กฤติธีจึงเดินไปยังตู้เสื้อผ้า นึกสงสัยว่าอะไรทำให้เกิดเสียง ชายหนุ่มเอื้อมมือไปเปิดประตูตู้แล้วก็แทบจะร้องเสียงหลงออกมาด้วยความตกใจ

          “บลู! คุณมาอยู่ในนี้ได้ยังไง”

          

          เมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อน...

          บูรณิมารักและไว้ใจแฟนหนุ่มมาก นอกจากนี้เธอยังเข้าออกห้องของกฤติธีได้ตามใจ ดังนั้นบ่อยครั้งที่หญิงสาวมักจะแวะมาทำความสะอาด ทำมื้อค่ำทิ้งไว้ให้ชายหนุ่มซึ่งมักจะเลิกงานดึกเพราะติดงานด่วนที่บริษัท 

แต่วันนี้นอกจากสิ่งที่เคยทำตามปกติแล้ว บูรณิมาก็อยากทำอะไรพิเศษกว่าทุกวันให้คนรัก หญิงสาวหยิบเอาชุดนอนวาบหวิวซึ่งเธอสั่งจากร้านออนไลน์ออกมาใส่ ด้วยหวังว่าจะทำให้กฤติธีตื่นเต้นและมีความสุข

บูรณิมาข่มกลั้นความอายและเปลี่ยนชุด ระหว่างนั้นกฤติธีก็โทรมา “ว่าไงคะพี่ธี” 

“ไม่มีอะไร พี่แค่คิดถึง วันนี้ทำอะไรให้พี่กินบ้าง อยากกลับไปกินเร็วๆ จัง” ที่ชายหนุ่มโทรหา คงเพราะก่อนหน้านี้เธอส่งข้อความไปบอกว่าจะเข้ามาทำความสะอาดและทำอาหารไว้ให้

          “ทำแกงเขียวหวานกับผัดผักรวมมิตรค่ะ แล้วก็มีขนมหวานในตู้เย็นด้วยนะคะ” หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงร่าเริงขณะมองดูตัวเองในกระจก แล้วภาพตอนถูกชายหนุ่มเคล้นคลึงลูบไล้ร่างเปลือยของเธอก็วาบเข้ามาในหัวให้รู้สึกเขินอาย

          บูรณิมาอายมากจริงๆ อายจนทำอะไรไม่ถูกเลยได้แต่นอนนิ่ง

          “ขอบใจนะ พี่ชอบกับข้าวฝีมือบลูที่สุดเลย”

          “กินให้อร่อยนะคะ วันนี้บลูขอกลับก่อน พรุ่งนี้ถ้าพี่ธีเลิกงานไม่ดึกเราไปดินเนอร์ที่ร้านอาหารกันดีไหมคะ”

          “ดีครับ”

          หลังจากวางสายแล้ว บูรณิมาก็ขึ้นไปนอนรอชายหนุ่มบนเตียง 

          นอนไปได้พักหนึ่งก็ตื่นขึ้นมาเพราะเสียงบางอย่างที่ประตูห้องนอน เธอกำลังจะเดินไปเปิดประตูแต่กลับได้ยินเสียงของผู้หญิงเสียก่อน ดังนั้นจึงถอยและรีบวิ่งเข้าไปแอบในตู้เสื้อผ้าของชายหนุ่มด้วยหัวใจระทึก

          “เร็วหน่อยสิคะ”

          “ใจร้อนจัง จะไม่รอให้ถึงเตียงก่อนเหรอ” 

          เสียงที่ได้ยินนั้นบูรณิมาแน่ใจว่าเป็นของกฤติธีอย่างแน่นอน และเสียงที่ตอบโต้กันก็คุ้นมาก

          “แหม ก็เราไม่ได้ทำแบบนี้นานแล้วนะคะ พี่ธีมัวแต่โอ๋พี่บลูอยู่ได้”

          “ไม่เอาน่ามน อย่าพูดถึงเขาตอนที่พวกเรากำลังเข้าด้ายเข้าเข็มแบบนี้สิ” 

          บูรณิมารู้แล้วว่านั่นเป็นเสียงของฐิติมน รุ่นน้องที่สนิทกันมากทั้งตอนเรียนมหาวิทยาลัยและในที่ทำงาน เธอไม่คิดเลยว่าทั้งสองคนนี้จะทำกับเธอได้ 

          หญิงสาวทนฟังทั้งสองคนมีอะไรกันอย่างเงียบๆ ในขณะที่น้ำตาไหลพราก ครุ่นคิดถึงอดีตหวานชื่นกับกฤติธีด้วยความเจ็บปวด เพราะตอนนี้ทั้งหมดนั่นเหมือนกลายเป็นแค่เรื่องโกหกไปแล้ว

เธอขยับขาเพราะเมื่อย แต่บังเอิญหัวเข่าไปกระแทกเข้ากับประตูตู้เสื้อผ้า บูรณิมายกมือขึ้นปิดปากพลางกลั้นหายใจโดยอัตโนมัติ พอข้างนอกเงียบไปก็หายใจออกมาอย่างโล่งอก คิดว่าหากกฤติธีเข้าไปอาบน้ำเมื่อไหร่เธอก็จะหนีออกไปเงียบๆ 

ผ่าง! แต่ประตูตู้เสื้อผ้ากลับถูกเปิดออกโดยกฤติธี

“บลู! คุณมาอยู่ในนี้ได้ยังไง”

          กฤติธีใจหายวาบ ในหัวกำลังทำงานอย่างหนักเพราะหาข้อแก้ตัวอะไรไม่ได้สักอย่าง

          “ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”

          “พี่...”

          “ทำแบบนี้ลับหลังบลูมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” บูรณิมาถามย้ำด้วยความปวดใจพลางก้าวออกมาจากตู้เสื้อผ้า 

ชายหนุ่มซึ่งได้เห็นหญิงสาวในชุดเย้ายวนกลืนน้ำลายลงคอ ตั้งใจจะเข้าไปประคองแต่ถูกบูรณิมาปัดมือเขาทิ้งด้วยความรังเกียจ

“บลูพี่ผิดไปแล้ว แต่บลูจะให้พี่ทำยังไงล่ะ ในเมื่อก่อนหน้านี้เธอไม่ยอมมีอะไรกับพี่ พี่เป็นผู้ชายนะ พอถูกเขายั่วยวนเข้าหน่อยมันก็เผลอตัว”

บูรณิมาเม้มริมปากแน่น “ค่ะ บลูผิดเอง” หญิงสาวหยิบกระเป๋าของตัวเองที่วางทิ้งไว้ข้างเตียงนอนของกฤติธี ก่อนจะเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำ ชายหนุ่มคงสนุกสนานจนไม่ลืมหูลืมตาถึงมองไม่เห็นมัน 

กฤติธีพยายามขวางไม่ให้บูรณิมาเดินออกไปจากห้องของเขา “บลูฟังพี่ก่อน” ชายหนุ่มโอบกอดหญิงสาวจากด้านหลัง

“ทุกอย่างมันชัดเจนอยู่แล้วนี่คะ แล้วจะให้บลูฟังอะไรอีก” หญิงสาวดิ้นหนีจากอ้อมกอดแข็งแรง 

ในที่สุดชายหนุ่มก็ยอมปล่อยหญิงสาว “พี่ว่ารอให้บลูใจเย็นก่อนดีกว่า แล้วเราค่อยมาคุยกันนะ” กฤติธีพยายามปลอบ

“ไม่ต้องหรอกค่ะ บลูอยากให้เราไม่ต้องมาพบมาเจอกันอีกเลย” บูรณิมาเดินจากไปทันทีโดยไม่ยอมหันกลับไปมองคนรักของเธออีก

 

ภูริชเอนกายพิงโซฟาพลางดื่มท่ามกลางเสียงเพลงและผู้คนในปาร์ตี้ริมสระน้ำของเพื่อนอย่างไมตรี ที่มักจะจัดอยู่บ่อยๆ แม้ว่าจะไม่ใช่วันสำคัญอะไร หากแต่วันนี้พิเศษกว่าทุกทีเพราะเป็นวันเกิดครบยี่สิบห้าปีของเจ้าตัว

“ไอ้หมีมึงเป็นอะไร ท่าทางเบื่อๆ” พิธุซึ่งนั่งอยู่ไม่ไกลกันเอ่ยปากถามเพื่อน 

“เปล่า” ภูริชตอบเสียงเบา

“น่าเชื่อตายห่าเลยมึง”

ชายหนุ่มถอนหายใจ “กูก็ไม่รู้เหมือนกัน ก็แค่เบื่อไปหมด ผู้หญิงมานอนแก้ผ้าตรงหน้ายังไม่อยากเอาเลย”

พิธุหัวเราะเสียงดัง “ถ้าถึงขนาดนี้แสดงว่ามึงอาการหนักมากแล้วนะ”

ปาร์ตี้วันนี้จัดขึ้นฉลองวันเกิดและฉลองความโสดแบบเจ็บๆ ของไมตรีด้วย เพราะแฟนสาวที่เคยรักๆ เลิกๆ กันนั้น สุดท้ายแล้วก็ไปได้ดีมีใหม่และกำลังจะแต่งงานในไม่ช้านี้กับผู้ชายอีกคนที่มักจะคอยอยู่เคียงข้างกันเวลาที่เธอทะเลาะกับไมตรี

ถึงพวกเขาจะสงสารเพื่อน แต่ก็สมน้ำหน้าด้วย ตอนมีเขาอยู่ไม่สำนึก พออีกฝ่ายไปจริงๆ ก็มานั่งเศร้าเหมือนหมา

“มิน่ามึงถึงปฏิเสธผู้หญิงที่มาทอดสะพานให้มึงจนหมด แต่มีคนหนึ่งที่มึงอาจจะปฏิเสธยากหน่อยนะ”

“ใคร”

“น้องสาวไอ้ม่อนไง” พิธุว่าพลางพยักพเยิดหน้าไปทางน้องสาวเจ้าของปาร์ตี้ ซึ่งมาในชุดเดรสสั้นเกาะอกและกำลังเดินตรงมาด้วยท่าทางมั่นใจ

โมรียาเป็นน้องสาวของไมตรีจึงรู้จักมักคุ้นกันดี เพราะสมัยเรียนมหาวิทยาลัยพวกเขาชอบมาสุมหัวกันที่บ้านหลังนี้ ตอนนั้นเธอยังเป็นแค่เด็กนักเรียน ม.ปลายอยู่เลย แต่ตอนนี้เป็นหญิงสาวเต็มตัวในวัยยี่สิบปีแล้ว

หญิงสาวนั่งลงข้างกายภูริช “สวัสดีค่ะพี่ลูน” เธอทักทายพิธุก่อน “สวัสดีค่ะพี่หมี คิดถึงจังเลยค่ะ”

พิธุได้แต่อมยิ้ม เพราะรู้ว่าคำว่าคิดถึงไม่ได้เผื่อแผ่มาถึงเขาด้วย ดังนั้นตอนที่เห็นคนหน้าคุ้นๆ เลยเอ่ยปากขอตัว

“พี่ไม่อยู่เป็นก้างขวางคอแล้วก็ได้ พอดีเห็นคนรู้จัก” พิธุไม่รอให้ภูริชเอ่ยปากพูดอะไรก็ลุกพรวดแล้วก้าวยาวๆ หายไปจากสายตาของทั้งภูริชและโมรียาทันที

โมรียาขยับตัวเข้าไปใกล้เพื่อนของพี่ชายที่เธอแอบชอบมานานแล้วอีกเล็กน้อย “โมคิดถึงพี่หมีจริงๆ นะคะ คิดถึงจนทนไม่ไหว ตอนนี้ก็เลยลาออกจากมหาลัยที่อเมริกาแล้วค่ะ กลับมาเรียนที่นี่ดีกว่า”

ภูริชรู้มาตลอดว่าน้องสาวของเพื่อนคิดยังไงกับตัวเอง เพราะเจ้าตัวแสดงออกอย่างชัดเจนจนพี่ชายเอ่ยปากยกน้องสาวให้เขาแล้วด้วยซ้ำ แต่ชายหนุ่มเป็นคนที่จัดผู้หญิงประเภทแฟนเก่าเพื่อน น้องสาวพี่สาวของเพื่อนให้อยู่ในกลุ่มที่เขาจะไม่ยุ่งด้วยให้ปวดหัว

“เธอสิ้นคิดชะมัด บ้าผู้ชายจนทิ้งการเรียนเลยเนี่ยนะ” 

คนฟังไม่ได้โกรธแถมยังหัวเราะอย่างร่าเริง “พูดจาร้ายกาจเหมือนเดิมเลยนะคะ แต่โมก็ชอบที่พี่หมีเป็นแบบนี้” หญิงสาวพยายามส่งสายตายั่วยวนชายหนุ่ม

ภูริชเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีคมเข้ม รูปร่างสูงโปร่งแข็งแรง ภายใต้เสื้อยืดตัวหลวมนั่นเธอรู้ดีว่าเต็มไปด้วยมัดกล้าม เพราะชายหนุ่มทำอาชีพที่ต้องใช้เรือนร่างในการทำมาหากิน ดังนั้นจึงต้องดูแลอย่างดี ยิ่งเห็นภาพที่เขาถ่ายแบบชุดว่ายน้ำในคอลเลกชันล่าสุดแล้วเธอก็ทนรอจนเรียนจบไม่ไหว โมรียาอยากเป็นเจ้าของผู้ชายคนนี้จนทนอยู่เฉยไม่ได้

“พี่เคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าพี่ไม่คิดคิดจะยุ่งกับน้องสาวของเพื่อน”

โมรียาหน้าบึ้งขึ้นมาทันที “พี่ม่อนเขาก็ไม่ได้ห้ามนี่คะ แล้วทำไมพี่หมีจะมายุ่งกับโมไม่ได้”

“ถ้ามีปัญหาขึ้นมาคนที่ลำบากใจมากที่สุดก็คงเป็นเพื่อนอย่างไอ้ม่อน เพราะฉะนั้นตัดไฟตั้งแต่ต้นลมแบบนี้แหละดีแล้ว” ภูริชเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงเนือยๆ เบื่อจะอธิบายเรื่องนี้ให้น้องสาวหัวดื้อของไมตรีฟัง

“แล้วพี่จะรีบคิดว่าเราจะต้องเลิกกันทำไมล่ะคะ ไม่คิดบ้างเหรอคะว่าโมอาจจะทำให้พี่รักจนโงหัวไม่ขึ้นเลยก็ได้”

“อ๋อ พี่มั่นใจว่ามันไม่มีวันนั้นหรอก เพราะถ้าเธอสามารถทำแบบนั้นได้ ตอนนี้พี่คงหลงรักเธอไปนานแล้ว”

“ลองก่อนสิคะ” โมรียาวางมือลงบนต้นขาของชายหนุ่ม “โมน่ะอุตส่าห์เก็บครั้งแรกไว้ให้พี่นะคะ”

ภูริชปัดมือของหญิงสาวออกจากต้นขาของตัวเองทันที “ถ้ายังซิงก็เก็บไว้ให้แฟนเธอเถอะ เพราะจะครั้งแรกหรือครั้งที่ร้อยสำหรับพี่มันก็ไม่ต่างกันหรอก เอาๆ แล้วก็จบ เสร็จแล้วก็แยกย้าย” 

ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินหนีจากหญิงสาวทันที แม้ว่าโมรียาจะลุกเดินตามมา แต่เขาก็ไม่สนใจ อีกทั้งไม่คิดจะไปบอกลาเจ้าภาพด้วย 

หลังจากขึ้นรถได้ชายหนุ่มก็ขับตรงกลับไปยังคอนโดของตัวเองทันที แม้ว่าตอนนี้เขามีเงินมากพอจะไปซื้อคอนโดที่หรูกว่านี้อยู่ แต่สุดท้ายก็ยังเลือกจะอยู่ที่เดิมเพราะอาลัยอาวรณ์พี่สาวข้างห้องซึ่งมักจะชวนเขาไปกินอาหารที่เธอทำมาตั้งแต่เด็กๆ จนกระทั่งป่านนี้

เสียงสะอึกสะอื้นของผู้หญิงทำให้ชายหนุ่มซึ่งกำลังไขกุญแจเข้าห้องตัวเองหยุดชะงัก ภูริชหันไปมองทางต้นเสียง แล้วก็พบกับบูรณิมาที่กำลังเดินร้องไห้ไป เช็ดน้ำหูน้ำตาไปจนเครื่องสำอางเละเทะไปหมด

“เป็นอะไรเจ๊ ทะเลาะกับแฟนหรือไง”

“เขา นะ...นอกใจ แล้ว กะ...ก็ เขา...หาว่า...พี่ ปะ...เป็นท่อนไม้” บูรณิมาพูดในขณะที่สะอึกสะอื้นไปด้วยจนฟังแทบไม่รู้เรื่อง

ภูริชถอนหายใจยาว “เอากุญแจห้องเจ๊มาสิ”

หญิงสาวส่งกุญแจของตัวเองให้กับชายหนุ่ม ภูริชไขกุญแจก่อนจะเปิดประตูห้องของบูรณิมาแล้วพาเธอไปนั่งยังโซฟาที่เขามักจะมานั่งเล่นขณะรอเธอทำอาหารให้กิน

ชายหนุ่มนั่งลงก่อนจะจับให้เธอนอนหนุนตักของตัวเอง “ร้องไห้ให้พอ เดี๋ยวผมอยู่เป็นเพื่อน”

พอได้ยินแบบนั้นบูรณิมาก็ปล่อยโฮออกมา หญิงสาวร้องไห้สะอึกสะอื้นจนตัวโยน สุดท้ายจึงหลับไปทั้งที่นอนอยู่บนตักของภูริชด้วยความเหนื่อยล้า