เอ...ทำไมวันนี้ยังไม่มาอีกนะ 

 

บีม รู้สึกร้อนรน กระสับกระส่าย ในหัวโฟกัสอยู่เรื่องเดียวคือเรื่องเวลา

 

ตอนนี้ผ่านไปเป็นเวลา 14 นาที หลังจากที่เขาได้กดอัพนิยายตอนล่าสุด ก่อนพาร่างตัวเองมานอนแผ่หลาเพื่อจับเวลารออะไรบางอย่างอยู่บนเตียงนุ่ม

 

29  28  27...

 

คนกำลังใจจ่อเริ่มนับถอยหลังเข้าสู่นาทีที่ 15 บรรยากาศในห้องสี่เหลี่ยมเงียบสนิทจนได้ยินเสียง จึก..จึก..จึก.. ซึ่งเป็นเสียงเข็มวินาทีของนาฬิกาแขวนผนังแบบคลาสสิคในห้องดังชัดเจน

 

15  14  13 ...

 

วันนี้อาจจะยังไม่ว่างก็ได้ คนเรามันก็ต้องมีธุระปะปังกันบ้างแหละน่า! 

 

ถึงแม้จะบอกตัวเองแบบนั้น แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ข้างในสงบลงแม้แต่น้อย

 

9  8  7 ...

 

ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่การกระทำของใครคนหนึ่ง มีอิทธิพลให้ใครอีกคนหนึ่งเกิดความคาดหวังมากถึงเพียงนี้

 

5  4  3  2 ... 

 

มาแล้ว!! ในที่สุดเสียงแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันนิยายออนไลน์ก็ดังขึ้น ปลายนิ้วรีบลากไปที่แถบแจ้งเตือนด้านบนสุดของโทรศัพท์และกดเข้าไปอย่างรวดเร็ว

 

มีคอมเมนต์ใหม่เข้ามาที่นิยายของเขา!

 

แม้จะรู้ตัวดีว่าตัวเองต้องเจอกับอะไร แต่บีมก็ยังยินดีจะได้รับมัน 

 

หลับตา สูดลมหายใจลึกๆ ก่อนสักหนึ่งเฮือกพร้อมแล้วจึงกดอ่าน

 

 

"สวัสดีอีกครั้งนะครับคุณนักเขียน ตอนนี้เรื่องกำลังสนุกตื่นเต้นเลยครับ ฆาตกรที่ฆ่าแล้วเอาศพไปจัดแสดงด้วยการเอาด้ายขาวพันศพไว้บนต้นไม้ จะใช่ฆาตกรต่อเนื่องคนเดียวกับเมื่อสิบปีก่อนที่ตำรวจปิดคดีไม่ลง ที่ชอบฆ่าแล้วเอาศพขึ้นไปพันด้วยด้ายแดงบนต้นไม้..รึเปล่า? หรือว่าจะเป็นแค่การฆาตกรรมเลียนแบบกันแน่? 

แต่คุณนักเขียนครับ ตามกฎแรงโน้มถ่วงของนิวตันแล้ว ศพที่น้ำหนักมากขนาดนั้นจะไม่สามารถจะพันมัดกิ่งไม้ด้วยเส้นด้ายเส้นบางๆ ในลักษณะนั้นได้ครับ ถึงอยู่ได้ก็แค่ชั่วคราว ยังไงต้องตกลงมาก่อนมีคนมาพบศพแน่นอน หรือฆาตกรมีเทคนิคพิเศษยังไง ผมรอลุ้นเฉลยเลยครับ

ยังไงก็เป็นกำลังใจให้คุณนักเขียนเหมือนเดิม และรออ่านตอนต่อไปเสมอครับ"

 

 

คนที่ถูกเรียกว่าคุณนักเขียน เอามือทึ้งไปที่ศีรษะตนเอง ผ่อนลมหายใจออกมาหนักๆ ตามมาด้วยการนั่งเหม่อ...

 

เทคน่ง เทคนิค อะไรกันล่ะ! เราพลาดเองแหละที่เขียนออกมาได้ไม่สมจริงอีกแล้ว! 

 

...

 

 

บีม เป็นนักศึกษาจบใหม่จากคณะบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการตลาด หลังเรียนจบก็ตั้งหน้าตั้งตาหางานทำ เขาส่งใบสมัครงานไปทั่วแต่ก็ยังเงียบกริบไม่มีที่ไหนตอบรับ ด้วยพิษเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ในปัจจุบัน ภายใต้การบริหารงานอันล้มเหลวของรัฐบาลชุดนี้ ก่อให้เกิดปัญหาการตกงานที่เพิ่มขึ้นมากมาย หลายโรงงานหลายบริษัทแล้วที่ต้องปิดตัวลง หลายที่พนักงานเก่าๆ โดนจ้างออก เด็กที่เพิ่งจบออกมาหางานไม่ได้

.. และ ใช่ บีมคือหนึ่งในคนที่ได้รับผลกระทบนั้น 

 

 

บีม ใช้เวลาว่างที่มีไปกับการเขียนนิยายซึ่งเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เขารัก เพื่อลดความฟุ้งซ่านกดดันระหว่างรอการตอบรับจากสักบริษัทให้เรียกตัวเขาไปสัมภาษณ์

 

เรซูเม่ถูกส่งออกไป ใบแล้ว..ใบเล่า 

สลับกับนิยายที่เขียนไว้ก็ทยอยอัพ เรื่องแล้ว..เรื่องเล่า

 

การติดต่อกลับมาเรื่องงาน...เงียบ 

ผลตอบรับจากนิยายที่ลงไป...เงียบ 

 

บีมให้นิยามตัวเองว่าเป็น นักเขียนกากๆ  ไม่ได้ด้อยค่าตัวเองจนเกินจริง แต่จะไม่กากยังไงไหว ลงนิยายไปแต่ละตอนมียอดวิวแค่หลักหน่วย! และเขายังรู้ดีว่ายอดพวกนี้ก็คงไม่ได้เข้ามาอ่านจริงจังหรอก คงแค่สุ่มๆ เปิดเข้ามา แล้วก็กดออกทันทีด้วยซ้ำ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงยอดคนกดเลิฟ หรือว่าคอมเมนต์ เพราะว่ามันคือ ศูนย์ ไงล่ะ! 

 

แต่บีมยังคงไม่ย่อท้อในการเขียนนิยาย เขามีทัศนคติในด้านบวกเสมอ ว่าอย่างน้อยถ้าเขาไม่หยุดฝึกฝน วันหนึ่งก็ต้องมีการพัฒนากันบ้าง

 

คอยดูนะ ถ้ายอดวิวขึ้นหลักสิบเมื่อไหร่ แม่มจะปิดซอยเลี้ยงเลย! 

 

 

​​​​​​บีมยังคงใช้เวลาว่างเขียนนิยายไปเรื่อยๆ นิยายที่เขียนก็มีหลากหลายแนวหมุนเวียนกันไป 

แต่ก็นั่นแหละ ไม่ว่าจะแนวไหน ยอดคนให้หัวใจ ยอดคอมเมนต์ก็ยังเป็น 'ศูนย์' อยู่ดี

 

บีมได้แต่ภาวนาหวังว่า สักวันจะต้องเป็นวันของเรา 

.

.

 

 

เหมือนคำขอนั้นจะเริ่มสัมฤทธิ์ผล อยู่ดีๆ - อย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อสองอาทิตย์ก่อน บีมก็ได้รับสิ่งที่เขารอคอยมาตลอด หลังจากที่เขาอัพนิยายแนวสืบสวนซึ่งเป็นงานที่เขียนเรื่องล่าสุดได้เป็นตอนที่สาม

 

ใจเต้นโครมคราม ในที่สุด.. บีมก็ได้รับมันเสียที เราได้รับคอมเมนต์แรกจากคนอ่านแล้ว!!!

 

'ว้อยยยยยย!!! มีคนเมนต์แล้วว้อยยยย!!!'

ด้วยความตื่นเต้น บีมเผลอตะโกนสุดเสียง วิ่งไปวิ่งมารอบห้องแคบๆ โดดขึ้นเตียงกระแทกขาปังๆๆๆ

'เงียบๆ หน่อยคุ๊ณณ! ลูกฉันหลับอยู่!!' ห้องข้างๆ ตะโกนกลับมาต่อว่า

'ครับๆ ขอโทษครับ' บีมบอกขอโทษกลับไป ไม่ได้เก็บมาเป็นเรื่องที่ทำให้หมองใจ เพราะใจกำลังพองกับสิ่งที่เพิ่งได้รับมากกว่า

 

กลับมาสนใจกับสิ่งตรงหน้า ใช้นิ้วสัมผัสไปที่หน้าจอ เรียกคอมเมนต์นั้นขึ้นมาอ่าน

 

 

โห..ยาวซะด้วยแฮะ

 

นักเขียนเจ้าของเรื่องตั้งใจจะค่อยๆ ละเลียดอ่านให้คุ้มค่าในทุกตัวอักษรที่ได้รับ

 

"สวัสดีครับ..คุณนักเขียน ..

 

เอ๋..สวัสดีครับ..คุณนักเขียน งั้นเหรอ? 

 

บีมไม่เคยได้รับคอมเมนต์ แต่บีมเคยเห็นผ่านตาในนิยายของคนอื่น คนอ่านส่วนใหญ่จะเรียกคนเขียนนิยายเรื่องนั้นๆ ว่า 'ไรท์' หรือ 'ไร้เต้อ' หรือ 'ไล้' ก็ยังมี เป็นการวิบัติภาษาให้ดูน่ารัก หรือเพื่อความสนุกสนานเป็นกันเอง ก็แตกต่างกันไปตามสไตล์ของแต่ละคน

 

แต่คนอ่านคนนี้ของเราใช้คำเป็นทางการจัง แปลกดี? ..เอ๊ะ หรืออาจจะไม่แปลก จะว่าไปคุณนักเขียนก็เท่ดี ฮิฮิ.. 

 

ในวินาทีนั้นอะไรก็ดีงามไปหมด..

 

..ผมได้อ่านนิยายของคุณแล้วนะครับ ขอโทษทีที่เพิ่งได้ทักทายมา เพราะผมเพิ่งได้อ่านวันนี้เอง ทั้งสามตอนรวด เป็นเรื่องที่สนุกแล้วก็ตื่นเต้นมากๆ ครับ

แต่ว่าผมก็มีเรื่องคาใจอยู่จุดนึงครับ คือฉากที่คนร้ายไปดักรอบฆ่าพ่อของนากเอก โดยใช้รถกระบะสีขาวสวมทะเบียน ขับไปขนาบข้างรถเบนซ์สีบรอนซ์ของพ่อนางเอกแล้วพุ่งเข้าชนจากทางด้านข้างก่อนจะเหยียบคันเร่งหลบหนีไป  การพุ่งชนในลักษณะนี้ องศานี้ แรงเท่านี้  (เท่าที่คนร้ายจะขับต่อไปได้) ไม่น่าทำให้รถเบนซ์พลิกตลบคว่ำจนหงายท้องขึ้นมาได้ครับ ถ้าจะพลิกในลักษณะนั้นได้ รถต้องพุ่งเข้ามาด้วยมุมตั้งฉาก 90องศา โดยใช้ความเร่งแบบเหยียบสุด ซึ่งจะทำให้คันที่พุ่งชนเองก็เกิดความเสียหายจนไม่สามารถใช้งานต่อได้เลยครับ แต่ถ้าคุณนักเขียนจะเขียนให้เป็นชนจากแฉลบข้างๆ ควรเปลี่ยนให้รถเบนซ์ถลาพุ่งชนเกาะกลาง หรือเสาไฟฟ้า หรือตกข้างทางจนเสียชีวิต จะทำให้เนื้อเรื่องดูมีความสมจริงมากกว่าครับ  

..หรือผมเองอาจจะอ่านแล้วจินตนาการภาพในหัวผิดไปเอง ยังไงมาแลกเปลี่ยนความเห็นกันได้นะครับ 

เป็นกำลังใจให้คุณนักเขียนและรอติดตามตอนต่อไปครับ "

 

เหมือนขากรรไกรพลันอ่อนแรง บีมถึงกับอ้าปากค้างโดยไม่รู้ตัว รู้สึกปลิดปลิว เคว้งคว้าง ไม่รู้ว่า..ควรจะรู้สึกอย่างไรดีเมื่ออ่านจบ

 

จะให้เอาข้อมูลอะไรไปแลกเปลี่ยน มันก็แค่ความโง่เง่าของเรา ที่เขียนฉากอุบัติเหตุไม่สมจริงต่างหากล่ะ!

 

 

เดิมที ก่อนกดเข้ามาอ่าน บีมคิดคำแถลงขอบคุณอย่างยาวเหยียดเพื่อตอบแทนคนอ่านคนสำคัญที่มอบคอมเมนต์แรกเพื่อต่อลมหายใจให้แก่นักเขียนกากๆ อย่างเขา

 

แต่ตอนนี้บีมอายเกินกว่าจะทำเป็นพิมพ์ตอบแต่เนียนหลบเลี่ยงประเด็นที่ตัวเขาผิดพลาด เลยเปลี่ยนใจทำเพียงกดไลก์ แล้วตั้งปณิธานกับตัวเองว่าตอนหน้าๆ บีมจะตั้งใจทำการบ้านมากให้ขึ้น จะไม่เขียนอะไรให้เกิดข้อผิดพลาดอีก

.

.

หลังจากวันนั้นบีมยังคงอัพงานเขียนทุกวันเพราะเวลาว่างตอนนี้มีมาก และทุกครั้งที่อัพก็จะได้คอมเมนต์มาตลอด

มองจากชื่อแล้ว คนอ่านเป็นการเข้ามาใช้แอปแบบไม่ได้ล็อคอิน แต่บีมมั่นใจว่าที่ส่งมาทุกวันนั้นคือคนเดียวกัน เพราะสำนวนภาษาและการคอมเมนต์ที่เป็นเอกลักษณ์เหมือนลายเซ็นต์ประจำตัวผู้เขียน

คอมเมนต์ที่ภาษาค่อนข้างดูเป็นทางการ ที่มักจะสงสัยในสถานการณ์ต่างๆ หรือปมของเรื่อง ที่บีมเขียนแล้วไม่เข้าท่า-ไม่เมคเซ้นส์ ไปพร้อมกับการให้กำลังใจ วันไหนที่บีมไม่มีจุดผิดพลาดก็ยังคงให้กำลังใจกันอย่างสม่ำเสมอ 

 

จนบางทีบีมก็สงสัยในตัวคนอ่านคนนี้

 

จะว่า...เป็นใครมาป่วนเล่นก็ไม่น่าใช่ เพราะคนนี้ต้องติดตามและอ่านนิยายเขาอย่างละเอียด ถึงสามารถวิเคราะห์เรื่องต่างๆ ได้ขนาดนี้ 

 

จะว่า..เป็นพวกชอบจับผิดอวดภูมิตัวเองก็ไม่น่าใช่อีก เพราะทุกอย่างที่คนอ่านคนนี้ตั้งคำถามขึ้นมา ก็เป็นสิ่งที่บีมผิดพลาดทุกครั้งจริงๆ แถมภาษาที่ใช้ก็ยังสุภาพมากติดจะถามแบบซื่อๆ ตรงไปตรงมาด้วยซ้ำ 

 

อย่างที่เคยบอก บีมเป็นคนที่ทัศนคติค่อนข้างดีเลย ถ้ามีใครติหรือแนะนำในสิ่งที่เขาผิดพลาดจริง ขอแค่เข้ามาพูดมาบอกกันดีๆ บีมจะรับฟังและพร้อมจะแก้ไขเพื่อพัฒนาตัวเองเสมอ และคนอ่านคนนี้เป็นเช่นนั้น บีมสัมผัสได้จากตัวอักษรว่านี่ไม่ใช่การมาแกล้งกันเล่น หรือเป็นคนที่มาแบบไม่หวังดี ไหนจะกำลังใจที่ส่งมาให้ทุกวันอีก บีมรู้สึกว่าคนๆ นี้จริงใจ.. 

 

เหตุการณ์ก็วนอยู่แบบนี้วันแล้ววันเล่า จนกระทั่งบีมเริ่มจับทางได้อีกอย่างว่า เขาจะได้รับคอมเมนต์กลับมาหลังจากที่อัพนิยายไม่เคยเกิน 15 นาทีเลย!

 

ความรู้สึกหลากหลายเกิดขึ้นตีกันทุกครั้งที่ได้อ่านคอมเมนต์จากนักอ่านนิรนามท่านนี้

 

บางทีก็คิดว่าตัวเองช่างมั่นหน้าเหลือเกิน ประสบการณ์ไม่เยอะพอแต่ก็ดันมาสะเออะเขียนงานยากแบบแนวสืบสวน

 

บางทีก็โกรธตัวเองที่พยายามจะทำการบ้านหาข้อมูลเยอะๆ แล้ว แต่ก็ยังพลาดนู่นนี่ไม่หยุด จนแอบมีความคิดบ๊องๆ แวบขึ้นมาว่า ถ้าได้รี้ดคนนี้มาเป็นที่ปรึกษาในการเขียนนิยายก็คงดีสินะ

 

แต่ที่แน่ๆ ข้อความเหล่านั้นกลับทำให้ทุกวันของบีมมีแรงฮึดและมีพลังใจในการเขียนงานขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ

 

อย่างน้อยก็ยังมีคนรออ่านงานของเราอยู่..

​​​​​​เฮ้อ..เป็นความรู้สึกดีที่งงๆ เหมือนกันแฮะ...

 

ไปๆ มาๆ ตอนไหนไม่รู้ ที่มันกลายมาเป็นความคาดหวัง ตื่นเต้น และรอที่จะได้อ่าน 

 

เป็นแบบนี้มากว่าสองอาทิตย์แล้ว จวบจนวันนี้ก็เช่นกัน...

.

.

.

​​​​เทคน่ง เทคนิค อะไรกันล่ะ! เราพลาดเองแหละที่เขียนออกมาได้ไม่สมจริงอีกแล้ว! 

 

 

 

ทิ้งตัวตูมลงบนที่นอน สายตาทอดมองออกไปอย่างเรื่อยเปื่อยไร้จุดหมาย ความสงสัยคล้ายดั่งตะกอนที่พอกพูนทับถมมากขึ้นทุกวัน บีมเคยพยายามจะปล่อยวางแล้ว บอกว่าเองว่าอย่าล้ำเส้น หยุดทำตัวเป็นคนอยากรู้อยากเห็นเสียที

 

แต่อดไม่ได้.. ความคิดที่อยากจะรู้จักตัวตนของคนอ่านคนนี้ก็มักวนเวียนกลับมาไม่หยุด

 

ไม่ใช่อะไร บีมรู้สึกอยากขอบคุณเขาจากใจจริง ถามสิ่งที่สงสัยมานานหลายจุด หรือถ้าบังเอิญเจอคนใจดี จะได้ขอคำปรึกษาในบางจุดเพื่อมากลบหลุมในนิยายตัวเองซะเลย บีมให้เหตุผลตัวเองแบบนั้น 

 

จะเป็นไปได้ไหม? ที่เราได้คุยกันมากขึ้น โดยไม่ผ่านกล่องคอมเมนต์ของนิยาย เพราะมันเป็นอะไรที่ไม่ส่วนตัวเอาซะเลย!

..หรือเราจะลองขอไลน์? 

..จะดูยุ่มย่ามวุ่นวายรบกวนชีวิตส่วนตัวเขาไปหรือเปล่านะ?

 

บีมกำลังว้าวุ่นใจ จริงๆ ในแอปนี้ก็มีช่องให้แชทคุยแหละ แต่บีมไม่เคยใช้งาน เลยกลัวว่าจะใช้ไม่ถนัด อีกอย่างก็ไม่รู้ด้วยว่าสำหรับคนอ่านที่ไม่ได้ล็อคอินมันจะสามารถทักเขาไปได้ไหม บีมไม่เคยลอง เพราะไม่เคยทักใครไป แล้วก็ไม่เคยมีใครทักบีมมา เศร้า...

 

ก็ไม่รู้ความกล้าบ้าบิ่นหรือผีตนใดมาเข้าสิง รู้ตัวอีกทีบีมก็พิมพ์ลงกล่องคอมเมนต์ไปเรียบร้อย

 

"ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ส่งมาให้ทุกวันนะครับ ถ้าไม่เป็นการรบกวนจนเกินไปผมขอไลน์คุณได้ไหมครับ? ผมอยากแลกเปลี่ยนข้อมูลเรื่องการเขียนนิยาย /

 

สายตาจ้องเคอร์เซอร์ที่กำลังกระพริบวิบๆ แข่งกับจังหวะการเต้นของหัวใจ

 

ความสงสัย..ย่อมระงับด้วยการถาม! 

 

คงเป็นปรัชญาใหม่ที่เขาคิดขึ้นมาเอง บีมรู้สึกว่าต้องขยี้ให้ตรงจุด ไม่งั้นเขาตั้งคำถามซ้ำๆ เดิมๆ กับตัวเองทุกวัน กลายเป็นคนย้ำคิดย้ำทำโดยไม่รู้ตัว 

 

​​​​อืมมม.. เขียนแบบนี้คงไม่แย่เนอะ  บีมอ่านประโยคที่ตัวเองพิมพ์ซ้ำไปซ้ำมา ภาษาสุภาพใช้ได้ คุณรี้ดคงจะไม่กลัวเรานะ

 

ใจยังสั่นตึกตัก สูดลมหายใจกักไว้จนเต็มปอด ฮึบ.. ก่อนกดส่งมันออกไป

 

เพื่อลดความกดดันระหว่างรอ บีมจะให้เวลาหนึ่งการอาบน้ำแล้วกัน! 

 

ถ้ากลับมาแล้วมันแป้ก แสดงว่าเขาคงไม่อยากให้ เราค่อยแอบลบเนียนๆ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

 

..แล้วถ้าระหว่างนี้มีคนอ่านคนอื่นมาเห็นล่ะ จะโดนแหกว่าเป็นนักเขียนไร้มารยาทเต๊าะคนอ่านเปล่านะ?

 

ไม่หรอกมั้ง..ปกตินิยายเรา ก็ไม่ค่อยมีคนอ่านอยู่แล้วนี่ ใครจะเข้ามาเห็นกัน.. 

 

น้ำอุ่นที่ไหลกระทบผ่านร่างกาย ไม่ได้ช่วยลดความว้าวุ่นใจลงแต่อย่างใด..

 

ก้าวขาออกมาจากห้องน้ำ พยายามหลอกตัวเองว่าไม่ได้คาดหวัง แสร้งทำตัวสบายๆ เช็ดตัวอย่างอ้อยอิ่งไปจนแห้งสนิท เดินหาชุดนอนมาใส่ หาผ้าผืนเล็กมานั่งเช็ดผม ถึงอย่างนั้นพอถึงจังหวะที่เอื้อมไปหยิบโทรศัพท์เข้าจริงๆ มือเล็กๆ ก็ยังสั่นระริก 

 

กดไปที่ปุ่มด้านข้างเพื่อปลดล็อคหน้าจอ จากนั้นตามด้วยการใส่รหัสทีละตัว..ทีละตัว

 

!!!!

 

ด้านบนสุดของหน้าจอ ปรากฏสัญลักษณ์แจ้งเตือนที่มาจากแอปนิยาย!

 

ดวงตาพลันเบิกกว้าง มือรีบตะปบอุดไปที่ปากอัตโนมัติ เพราะกลัวจะหลุดลั่นเสียงดังจนโดนด่าเหมือนคราวก่อน

 

"ยินดีมากเลยครับคุณนักเขียน

 ID Line ของผมคือ Nawat2530

 

บีมลอบอมยิ้ม รู้สึกว่ามันเชยนิดๆ ที่สมัยนี้ยังมีคนเอาพ.ศ.เกิดมาตั้งชื่อนู่นนี่

 

อืม..แต่ก็ไม่รู้จะใช่ พ.ศ.เกิดจริงรึเปล่า? ถ้าใช่..คุณรี้ดคนนี้ก็แก่กว่าเราสิบสองปี โห..สิบสองปีแหน่ะ! 

 

ระหว่างคิดคำนวณในใจเสร็จสรรพ สายตาก็ค่อยๆ ไล่เรียงอ่านต่อในบรรทัดถัดมา..

 

.. ​​แต่ว่าวันนี้ ผมทำงานใช้สายตามาเยอะมาก แล้วก็เพิ่งอ่านฟิคของคุณนักเขียนจบไปอีก ตอนนี้กำลังปวดตา ถ้าเป็นไปได้ผมอยากให้คุณนักเขียนเปลี่ยนเป็นการโทรมาแทนนะครับ ที่เบอร์นี้  08192785XX "

 

 

***

 

ขอฝากเจ้าบีม ลูกชายคนล่าสุดของเราเองไว้ในอ้อมใจทุกคนด้วยค่า > <