ลมหนาวของเครื่องปรับอากาศนั้นกระทบผิวกาย

ไอความหนาวนั้นแทรกซึมไปพร้อมกับความรู้สึกในเบื้องลึกที่เจ็บปวดจนยากที่จะเข้าใจ

ความเหนื่อย ความอ่อนแรงของร่างกายจากการโหมเรียนอย่างหนักนั้นทำให้อ่อนแอไปทั้งร่างกายและจิตใจ

 

 

พอย้อนกลับมาในวันนี้ เราก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดา ฉันเป็นเด็กวัยสิบห้าที่ไม่ได้มีความพิเศษ

เป็นคนธรรมดาที่ผิดพลาดเป็น อ่อนแอเป็น และร้องไห้เป็น

ดอนเด็กฉันเก่งกว่านี้เยอะมาก มีคนชมเยอะมาก มีความสามารถพิเศษหลากหลาย แต่ไยพอเติบโตมาความสามารถนั้นกลับแปรเปลี่ยนเป็นสิ่งที่คนนั้นไม่เห็นค่า

แต่ก็นั่นแหละ ช่วงเวลานั้นทำให้เราได้รู้ซึ้งถึงสัจธรรมในชีวิต ว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า ไม่มีใครที่ได้ที่หนึ่งไปได้ตลอด และเมื่ออายุมากขึ้น เราจึงมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำมากมาย

ในช่วงที่ผ่านมาตัวเองนั้นรู้สึก depress เอามาก เหตุก็คงเป็นเพราะสังคมในโรงเรียนที่ต้องแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นบ้างก็ดี การโดนรังแกบ้างก็ดี บอกเอาตามตรง ขนาดยังไม่ได้ใช้ชีวิตในวัยผู้ใหญ่ยังรู้สึกเหนื่อยไปหมด

เหมือนโดนเอาหัวใจมาขยี้ซะอย่างนั้น หัวใจแหลกเป็นจุณ ความรู้สึกเจ็บปวดมันวนกลับมาทิ่มแทงร่างกายซะเสียทุกครั้ง

น้ำตามันก็พานจะไหลรินออกมา ถูกความเจ็บปวดทิ่มตำตอกหมุดอยู่ในใจอย่างไม่รู้จบ ราวกับว่าจะไม่มีวันหาย ถูกกระทำอยู่อย่างนั้นซ้ำ ๆ เรื่อยไป

หนังสือก็ต้องอ่านเพื่อการสอบในวันข้างหน้า ความเครียดและความกดดันนั้นพานให้ตาล้าอย่างไม่รู้ตัว สุขภาพร่างกายอ่อนแรง ผิวหน้าโทรมสากลูบไล้แล้วสะดุดขรุขระอย่างที่ไม่ควรเป็น

แต่ก่อนเราเคยมีความสุขมากกว่านี้ไม่ใช่หรือ ?

คำถามที่เฝ้าถามตัวเองมานับพันครั้ง จนถึงวันนี้ยังไม่ได้คำตอบ มีเพียงก้อนสะอื้นที่จุกอยู่ในลำคอและหยาดน้ำตาที่ไหลรินลงอาบผิวแก้มปะทะกับลมจากเครื่องปรับอากาศจนทำให้ในกายหนาวพิลึก

"ทำไมกัน"

คำถามที่ก้องอยู่ในหัว เสียงครืดคราดของเครื่องปรับอากาศ ลมหนาวและความเย็นยั้นกัดกินในใจอย่างพิลึกจากคำถามที่ยังไม่ได้คำตอบ

"แล้วเราต้องทำอย่างไรต่อไป"

...ไม่มีใครรู้