1 ตอน เหตุเกิดจากน้ำขัง
โดย แจนมงกุน
ปริ๊นนนนนน
ซ่า
ยังไม่ทันสิ้นเสียงบีบแตรรถ กระแสน้ำนิ่งสงบที่นอนขังอยู่ริมถนนกลับเกิดคลื่นระลอกใหญ่ด้วยฝีมือของล้อรถยนต์สีขาวคันหรู โถมเข้าใส่ ‘คิมแจฮวาน’ ที่เดินอยู่ริมฟุตบาทด้วยความรักใคร่ราวกับเพื่อนรักที่ไม่เจอกันนานสิบปี โดยที่เจ้าตัวไม่ทันได้ตั้งสติหลบกระแสน้ำเพื่อนรักใดๆ ทั้งสิ้น ส่งผลให้กระแสน้ำขุ่นคลั่กเข้าไปเกาะเสื้อเชิ้ตนักศึกษาสีขาว กางเกงยีนสีซีด รวมไปถึงใบหน้ากลมเนียนใสที่ตอนนี้เต็มไปด้วยหยาดน้ำ ไร้ซึ่งความรับผิดชอบใดๆ จากเจ้าของล้อรถยนต์คันหรูเพราะรถคันนั้นไม่ได้อยู่ในบริเวณเกิดเหตุเสียแล้ว
อ่า...คนขับรถยนต์สีขาวคันนั้นคงหวังดีอยากให้เขาอาบน้ำ เพราะเช้านี้เขาแอบเบี้ยวไม่ยอมอาบน้ำสินะ
แจฮวานคิดในใจพลางยกมือขึ้นเช็ดหน้าลวกๆ ก่อนจะก้มลงมองดูสภาพตัวเองด้วยความสมเพชอยู่นิดๆ
“ต้องกลับไปอาบน้ำใช่ไหมเนี่ย” แจฮวานพึมพำเบาๆ เห็นทีว่าเขาคงพาตัวเองในสภาพนี้ไปนั่งเรียนไม่ได้แน่ๆ ครั้นจะแบกร่างตัวเองกลับหอก็กลัวว่าจะเข้าเช็คชื่อไม่ทัน สมองประมวลผลอย่างรวดเร็วว่าเพื่อนเขาคนไหนอยู่หอใกล้ๆ จุดที่เขายืนเปียกโชกอยู่นี่บ้าง จะได้ไปขออาบน้ำและเข้าเช็คชื่อได้ทันเวลา และก็มีชื่อหนึ่งผุดขึ้นในหัว
แจฮวานถอนหายใจเฮือกใหญ่ ทำไมหอเพื่อนที่ใกล้ที่สุด..ไม่สิ หรูขนาดนั้นต้องเรียกคอนโด แล้วคอนโดที่ใกล้ที่สุดทำไมต้องเป็นคอนโดมันด้วย ถ้าวิชานี้ไม่เช็กชื่อเขาก็คงโดดกลับไปอาบน้ำที่หอตัวเองได้แล้วแท้ๆ แต่ด้วยสถานการณ์บังคับเขาคงต้องไปอาบน้ำที่คอนโด ‘เพื่อน’ ที่เขาไม่อยากไปเหยียบมากที่สุด
คอนโดของเพื่อนที่ชื่อคังดาเนียล...
เสียงออดดังขึ้นรัวๆ จนเจ้าของห้องที่กำลังนอนกอดหมอนข้างอย่าง ‘คังดาเนียล’ ต้องผงกหัวขึ้นมาดูนาฬิกาบนหัวเตียงที่เพิ่งบอกเวลา 7:21 น. เขาล้มลงนอนต่อพลางเอาหมอนขึ้นมาปิดหู แต่ดูเหมือนว่าคนกดออดห้องเขาจะยังก่อกวนเขาไม่เลิกด้วยการกดออดรัวกว่าเดิม เล่นเอาคนที่เอาหมอนปิดหูทนไม่ไหวจนต้องเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง
“รำคาญโว้ย เลิกกดได้แล้วโว้ย!” ลุกขึ้นมาโวยวายเสร็จก็ล้มตัวลงนอนต่อ ฝ่ายคนกดออดเองก็ไม่ยอมแพ้ กดออดรัวๆ จนดาเนียลต้องเด้งตัวลุกขึ้นเป็นครั้งที่สอง ก่อนจะลุกไปเปิดประตูเพื่อดูหน้าคนมาก่อกวนเขาแต่เช้า
“กดอะไรนักหนาวะ คนจะนอน! ” ทันทีที่ดาเนียลเปิดประตู เขาก็ตะคอกใส่คนมาเยือนด้วยความหงุดหงิด
“ก็ไม่ได้อยากมากดหรอกโว้ย อยากจะนอนก็ไปนอน แต่ขอยืมห้องน้ำก่อนได้ไหมวะ! ” ฝ่ายคนกดออดเองก็สวนกลับแทบจะทันที
ทันทีที่ได้ยินเสียงของอีกฝ่าย ดวงตาที่หรี่จนแทบจะปิดอยู่รอมร่อเพราะปรับแสงไม่ทันของดาเนียลค่อยๆ เบิกขึ้น และเห็นว่าคนที่มากดออดรบกวนเขาแต่เช้าคือใคร
คิมแจฮวาน
ดาเนียลไล่สายตาขึ้นลงตั้งแต่หัวลากยาวยันปลายเท้าของแจฮวานที่เปียกปอนไปด้วยน้ำพร้อมเศษหญ้า เศษใบไม้ที่เกาะติดบนเสื้อเชิ้ตนักศึกษาสีขาวอย่างเห็นได้ชัดอยู่หลายรอบ
“ยามปล่อยให้เข้ามาได้ไงวะ”
“ปากเหรอวะ...ไม่ต้องถามอะไรทั้งนั้น ขอเข้าห้องน้ำก่อน” เมื่อเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามของดาเนียล แจฮวานก็เอ่ยดักขึ้นมาก่อน เขาไม่มีเวลามาอธิบายอะไรทั้งนั้น คาบแรกจะเริ่มในอีกครึ่งชั่วโมง นั่นคือเวลาแปดโมงเช้า เขามีเวลาแค่อาบน้ำแล้วรีบออกไปมหาวิทยาลัยให้ทันเท่านั้น
“เล่าให้ฟังก่อน แล้วจะให้เข้า” ดาเนียลอาศัยความไหล่กว้างเอาตัวมาบังจนมิดประตู ยืนยิ้มกอดอกพลางยักคิ้วยียวน
ไม่อยากมาหามันก็เพราะแบบนี้ไง กวนตีน...
“ตกลงจะไม่ให้เข้า?”
“ให้เข้าดิ แต่เล่าให้ฟังก่อนว่าไปโดนตัวอะไรมา” ...แจฮวานได้แต่ข่มอารมณ์ที่เริ่มคุกรุ่นของตัวเองเพราะดาเนียลเอาแต่ถ่วงเวลาแถมกวนประสาทเขาไม่เลิก แต่อย่านึกว่าจะกวนประสาทเขาได้ฝ่ายเดียว เขาก็กวนมันคืนได้เหมือนกันนั่นแหละ
“โดนตัวที่ชื่อพี่ซองอู” ดาเนียลหุบยิ้มหน้าเหวอทันที แจฮวานอาศัยจังหวะนั้นผลักดาเนียลเข้าไปในห้องได้อย่างง่ายดาย ก่อนที่จะเอาตัวเองเดินเข้าห้องตามมาติดๆ
ไอ้หมอนี่มันมีจุดอ่อนคือพี่ซองอูจริงๆ นั่นแหละ
แจฮวานถือวิสาสะเดินไปค้นตู้เสื้อผ้าของดาเนียลเพื่อเอาผ้าขนหนูออกมาพร้อมกับชุดนักศึกษาของอีกฝ่าย
“เรียกว่าเป็นขโมยได้ไหมวะ หยิบของเจ้าของห้องโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตเนี่ย” ทันทีที่ดึงสติคืนมาได้ ดาเนียลก็เริ่มกวนประสาทแจฮวานต่อ ประโยคของแจฮวานก่อนหน้าเล่นเอาเขาเสียศูนย์ นับว่าเอาคืนเขาได้เจ็บแสบและฉลาดมากที่รู้ว่าพี่ซองอูคือจุดอ่อนของเขา
“ถ้าไม่เต็มใจ ไปขอยืมพี่ซองอูก็ได้ พี่เขาคงจะใจดีรีบหยิบให้” แจฮวานว่าพลางโยนผ้าขนหนูและชุดนักศึกษาลงพื้นแล้วทำท่าจะเดินออกจากห้องดาเนียลไปจริงๆ จนดาเนียลเอาตัวเองมาขวางไว้แทบไม่ทัน
“อย่ายุ่งกับพี่ซองอู”
“ถ้าไม่อยากให้ยุ่งก็ให้ยืมชุด โอเค๊?” ว่าพลางก้มตัวลงหอบผ้าขนหนูและชุดนักศึกษาขึ้นมาใหม่ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำด้วยความรวดเร็ว
ถ้าเขาเข้าคลาสเช็กชื่อไม่ทัน เขาจะไปวอแวพี่ซองอูจนดาเนียลมันอกแตกตายไปเลย โทษฐานที่กวนตีนและถ่วงเวลาดีนัก
ฝ่ายดาเนียล เมื่อแจฮวานเดินเข้าห้องน้ำไปแล้ว เขาก็เดินกลับไปที่เตียงพลางคว้าสมาร์ตโฟนมาเล่นเกมฆ่าเวลารอแจฮวานออกจากห้องน้ำ ใจจริงก็อยากนอนต่อ แต่ไหนๆ วันนี้ก็ตื่นเช้าแล้ว ได้ฤกษ์ออกไปกินโจ๊กที่อยากกินมาหลายวันแต่ตื่นไม่เคยทันก็น่าจะดี
เวลาผ่านไปไม่นาน แจฮวานเดินออกจากห้องน้ำมาพร้อมกับใส่ชุดนักศึกษาของดาเนียล แต่ด้วยขนาดตัวที่แตกต่างกันชุดนักศึกษาของดาเนียลบนตัวแจฮวานจึงดูรุ่มร่ามมากกว่าปกติ อีกทั้งแขนเสื้อนักศึกษามันยังยาวเลยแขนของแจฮวานจนเจ้าตัวต้องจัดการพับแขนเสื้อขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังดูใหญ่และรุ่มร่ามอยู่ดี
“ยืมชุดก่อนแล้วกัน เดี๋ยวพรุ่งนี้เอามาคืน” ไม่พูดพร่ำทำเพลง แจฮวานก้าวฉับๆ ออกไปทันที จนดาเนียลต้องทิ้งโทรศัพท์ลงบนเตียงกะทันหันก่อนจะเดินออกไปขวางแจฮวานไว้
แจฮวานจุ๊ปากอย่างไม่พอใจ มันจงใจแกล้งไม่ให้เขาเข้าคลาสทันเช็กชื่อใช่ไหม
“จะรีบไปไหน”
“เรียน มีเช็กชื่อ” ดาเนียลหันไปมองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนฝาผนังก่อนจะหันมามองแจฮวาน
“อีกตั้งสิบห้านาที รอแป๊บ เดี๋ยวไปส่ง ขอไปอาบน้ำก่อน”
“ไม่ต้อง ขืนรอก็ไปสายกันพอดี ไปเองได้”
“บอกให้รอก็รอ เดี๋ยวไปส่ง” ว่าพลางเดินไปหยิบผ้าขนหนูตัวใหม่ออกมาก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป ฝ่ายแจฮวานมองดูเวลาแล้วคำนวณในใจคร่าวๆ กว่ามันจะอาบน้ำเสร็จ กว่ามันจะแต่งตัว กว่ามันจะลงลิฟต์ กว่าจะเดินไปที่รถ คอนเฟิร์มร้อยเปอร์เซ็นต์เลยว่าเขาต้องเข้าคลาสสายไม่ทันเช็กชื่อแน่ๆ
แจฮวานไล่สายตาไปทั่วห้องของอีกฝ่าย ก่อนจะไปสะดุดเข้ากับกุญแจรถยนต์สีดำที่วางหราอยู่บนโต๊ะตรงกลางห้องอย่างเชิญชวนให้ใครสักคนมาหยิบมันไป
อยากไปส่งเขานักใช่ไหม
ได้!
จะให้ไปส่งจนเข้าเช็กชื่อทันเลย!
ดาเนียลเดินออกจากห้องน้ำมา แต่ก็ไม่พบร่างคนที่มารบกวนเขาแม้แต่เงา เขาเดินตามหาจนทั่วแต่ก็ไม่เจอ สงสัยคงออกจากห้องเขาไปแล้ว
ก็บอกให้รอไม่ใช่รึไง...
ดาเนียลได้แต่ส่ายหน้ากับความหัวดื้อของแจฮวาน เขาเดินกลับไปแต่งตัวเป็นชุดนักศึกษา วันนี้เขามีเรียนตอนบ่าย แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว หลังจากกินโจ๊กเสร็จก็เข้ามอไปนั่งรอพี่ซองอูเลิกเรียนก็แล้วกัน
ดาเนียลเช็กความเรียบร้อยของตัวเอง ก่อนจะเดินมาหยิบกุญแจรถที่วางเอาไว้บนโต๊ะกลางห้องอย่างเช่นทุกที ทว่าสิ่งที่เขาเจอไม่ใช่กุญแจรถของเขา แต่กลับเป็นกระดาษสีขาวที่ถูกฉีกออกมาจากหน้าสมุดพร้อมมีลายมือของคนที่เขารู้จักดีปรากฏหราอยู่บนนั้น
ก็ลายมือคนที่มันเพิ่งมารบกวนเขาแล้วหายไปเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมานี่ไง
ดาเนียลหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมาอ่านก่อนจะขยำมันเขวี้ยงลงพื้นด้วยความโมโหและเจ็บใจ เขากับแจฮวานคงจะเป็นเพื่อนที่ญาติดีกันไม่ได้จริงๆ สินะ
เนื้อหาที่เขียนในกระดาษแผ่นนั้นมันไม่ได้เขียนอะไรยืดยาวเลย แต่สิ่งที่เขียนอยู่บนนั้นมันทำให้ปรอทความโมโหของดาเนียลพุ่งปรี๊ด มันเขียนเอาไว้ว่า ‘เห็นบอกว่าอยากไปส่ง ก็จะให้ (รถ) มึงไปส่ง แต่เราขับนะ’
เชี่ย! มันเอาเดซี่ไปขับ!! คิมแจฮวานมันเอาเดซี่ลูกรักของเขาไปขับ!!! แถมยังเสือกเขียนเป็นภาษาสุภาพปนหยาบและยังใช้สรรพนามเรียกเขาแบบที่มันเคยพูดกับเขาตอนปีหนึ่งเพราะมันมีแผนแกล้งเขาชั่วๆ ในหัวหลังจากที่มันโดนเขากวนประสาทช่วงรับน้อง
เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับเดซี่ลูกรักของเขา ในเมื่อเล่นแบบนี้ ก็เจอกันที่มหาวิทยาลัยแล้วกัน คิมแจฮวาน!
7:57 น.
แจฮวานมาถึงห้องเรียนก่อนถึงเวลาเรียนได้ทัน นั่นหมายความว่าเขาจะไม่ถูกเช็กว่ามาเรียนสาย อย่างน้อยก็ยังรักษาคะแนนเข้าห้องได้ ต้องขอบคุณเจ้าเดซี่ ทำหน้าที่แทนพ่อมันได้ดีจริงๆ แจฮวานเดินไปนั่งที่นั่งประจำที่มี ‘ฮวังมินฮยอน’ นั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“วันนี้มึงมาช้า” มินฮยอนเอ่ยทักเพื่อน ทุกทีแจฮวานจะมานั่งรอในห้องก่อนเขามาถึงด้วยซ้ำ แต่วันนี้กลับมาสายกว่าทุกที แถมเกือบจะไม่ทันเวลาแล้วด้วย
“มีเรื่องนิดหน่อย แต่ช่างมันเถอะ ยังไงวันนี้กูก็มาทันเช็กชื่อ”
“ว่าแต่ทำไมวันนี้มึงใส่เสื้อไซส์ใหญ่กว่าตัว ซื้อใหม่?” แจฮวานก้มมองเสื้อที่อยู่บนตัว ก่อนจะหันไปตอบมินฮยอน
“เปล่า ยืมเพื่อนมา” มินฮยอนเลิกคิ้ว ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นแจฮวานยืมชุดใครมาใส่ มีครั้งหนึ่งที่แจฮวานกับเขาตากฝนเพราะไม่ได้พกร่มมาเรียน เขาพาแจฮวานไปหลบฝนที่หอเขาก่อนเพราะมันใกล้มหาวิทยาลัย พอบอกให้เอาชุดเขาไปเปลี่ยน แจฮวานก็ไม่ยอมเปลี่ยน บอกว่าไม่ชอบใส่ชุดของใคร แล้วทำไม...
“มึงไม่ต้องส่งคำถามผ่านสายตามาให้กูขนาดนั้น วันนี้กูจำเป็น” แจฮวานว่า เมื่อเห็นว่ามินฮยอนเอาแต่จ้องเขา
“จำเป็นกว่าตอนที่มึงตากฝนแล้วไม่ยอมเปลี่ยนไปใส่ชุดของกูจนไข้แดกวันถัดมาอ่ะนะ”
“เออ แล้วก็เลิกจ้องกูได้แล้ว อาจารย์มาแล้ว” ถึงแจฮวานจะบอกอย่างนั้น แต่มินฮยอนก็อดสงสัยไม่ได้อยู่ดี อะไรที่ทำให้แจฮวานต้องยืมชุดเพื่อนคนอื่นมาใส่ เขาเริ่มตงิดใจแปลกๆ ว่ามันอาจจะเกี่ยวข้องกับการที่เช้านี้แจฮวานมาช้ากว่าทุกที สมองมินฮยอนประมวลผลอย่างรวดเร็วจนเผลอโพล่งออกมา
“เชี่ยแจน มึงไม่ได้ไปโดนตัวอะระ...” แจฮวานรีบเอามือมาตะครุบปากเพื่อนทันที
“หยุดสิ่งที่มึงคิดเดี๋ยวนี้นะเชี่ยมิน จะพูดดังทำไม! ” แจฮวานพูดเสียงลอดไรฟันโดยที่ยังไม่ยอมเอามือออกจากปากมินฮยอนเพราะเห็นว่าอาจารย์จอมเขี้ยวเริ่มส่งสายตาพิฆาตมาทางเขากับมินฮยอนอยู่เนืองๆ
“อึงอ้อออกอูอิ” มินฮยอนตอบกลับด้วยเสียงอู้อี้
“พูดอะไรของมึงวะ กูไม่รู้เรื่องกับมึงหรอกนะ และกูจะปิดปากมึงแบบนี้จนกว่ามึงจะสัญญาว่าจะไม่พูดดัง กูถึงจะเอามือกูออก โอเค๊?” มินฮยอนพยักหน้ารัวๆ แล้วชูนิ้วก้อยขึ้นมาเป็นสัญญาณว่าสัญญา แจฮวานจึงค่อยๆ ลดมือลง
“สรุปมึงไม่ได้ไปโดนตัวอะไรมาใช่ไหม! ?” มินฮยอนลดระดับเสียงให้เหลือเป็นเพียงเสียงกระซิบ
ให้ตายสิ ทำไมถึงมีแต่คนคิดว่าเขาต้องไปโดนใครทำมิดีมิร้าย ตั้งแต่คังดาเนียลแล้วนะ หน้าเขามันเหมือนคนที่โดนล่อลวงง่ายรึไง!
“กูไม่ได้โดนอะไรทั้งนั้นแหละ กูรู้ว่าจินตนาการมึงล้ำเลิศแต่ไม่ต้องเอากูไปมโน และตอนนี้มึงควรจะจดจ่อกับชีทบนโต๊ะมึง ไม่ใช่เรื่องของกู โอเค๊?” เมื่อแจฮวานพูดแบบนั้น มินฮยอนก็สบายใจ อย่างน้อยเพื่อนเขาก็ไม่ได้โดนอะไรอย่างที่เขาคิดในหัวเมื่อกี้ล่ะนะ
เดซี่ลูกพ่อ!
ดาเนียลแทบจะวิ่งพลิกแผ่นดินหาลูกรักทั่วมหาวิทยาลัย ลูกรักเขาอยู่ที่ไหน คิมแจฮวานมันเอาลูกเขาไปไว้ที่ไหน!
เหงื่อหยาดใสผุดขึ้นทั่วใบหน้าและลำตัวของดาเนียลราวกับคนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จแล้วยังไม่ได้เช็ดตัว อันเป็นผลจากการวิ่งตามหารถสุดที่รักมาร่วมชั่วโมง แน่นอนว่าเสื้อนักศึกษาสีขาวที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อไม่ได้ทำให้ความหล่อและเสน่ห์ของดาเนียลลดน้อยลงเลย ตรงกันข้ามยิ่งเหงื่อดาเนียลออกเยอะมากเท่าไหร่มันยิ่งเซ็กซี่และมีเสน่ห์ดึงดูดมากกว่าเวลาปกติ คอนเฟิร์มได้จากสายตาสาวๆ ที่มองเขาตาเป็นมันตลอดทางที่เขาวิ่ง
ดาเนียลหยุดพักเหนื่อยใต้ต้นไม้ใหญ่ เขาไม่รู้ว่าแจฮวานเรียนอะไรและเรียนตึกไหนเพราะอยู่กันคนละคณะ รู้จักกันตอนรับน้องรวมและยังโคจรมาเจอกันบ่อยๆ เพราะเขากับมันดันอยู่ชมรมอาสาเหมือนกัน แถมพี่รหัสเขาและพี่รหัสแจฮวานดันเป็นเพื่อนรักซี้ปึ้กกันอีก เวลาจะเลี้ยงสายก็ชอบพาสายตัวเองไปเลี้ยงด้วยกันทั้งๆ ที่อยู่คนละคณะ แต่ก็อย่างว่า เวลาที่เขากับแจฮวานเจอกันทีไรก็เหมือนไม้เบื่อไม้เบา คุยกันดีๆ ได้ไม่นานหรอก ไม่เขากวนตีนมัน มันก็กวนตีนเขา ไม่เขากัดมัน ก็มันนั่นแหละกัดเขา
และครั้งนี้มันเปิดศึกกับเขาก่อน!
ดาเนียลรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาไล่หาชื่อแจฮวานที่เคยเมมเก็บเอาไว้แต่ไม่เคยคิดจะโทรออก แต่วันนี้เขาคงต้องโทรหามันเป็นครั้งแรกและอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตแล้วก็ได้ แต่แล้วดาเนียลก็เจ็บใจเพิ่มมากขึ้นเพราะพอเขากดโทรออกกลับพบว่าเบอร์นี้ปิดไปแล้ว
คิมแจฮวานมันเปลี่ยนเบอร์!
บ้าฉิบ! ถ้ามันไม่กระตุ้นความโกรธของเขาด้วยการเอาเดซี่ลูกรักออกมา เขาก็คงจะไม่อะไรกับมันแล้วแท้ๆ แต่ครั้งนี้มันต้องจงใจเอาเดซี่ไปซ่อนแน่ๆ เขาถึงหาลูกรักเขาไม่เจอ
ดาเนียลระงับความโกรธที่พุ่งสูงขึ้นชนิดที่ว่าถ้าเอาปรอทมาวัดมันคงจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ได้ในทันที เขากดโทรหาพี่รหัสตัวเองเพื่อที่จะถามเบอร์พี่รหัสแจฮวานเพื่อเอาเบอร์ใหม่แจฮวานมาอีกที
“ว่าไงมึง มีไรถึงโทรหากู ให้เลี้ยงเหล้าไม่ได้นะโว้ย ช่วงนี้กูช็อต” พี่รหัสเขา ‘ฮาซองอุน’ กดรับสายก่อนจะออกตัวห้ามหากว่าน้องรหัสคิดจะโทรมาขอให้เลี้ยง
“เห็นน้องเป็นคนแบบไหนวะถึงจะมาขอพี่กินฟรีทุกรอบที่โทรมา”
“ก็เกือบทุกรอบที่มึงโทรมาคือจะให้กูเลี้ยง ห่า! รวยก็รวยกว่ากูเสือกมาเกาะกูแดกฟรี”
“เป็นพี่เลี้ยงน้องมันก็ถูกแล้วป่ะ ไม่เห็นจะเกี่ยวเลยว่ารวยมากกว่าหรือรวยน้อยกว่า”
“เออๆ ๆ แล้วมีไร กูบอกแล้วไงช่วงนี้กูช็อต”
“ปากบอกช็อต เมื่อคืนเห็นเช็กอินพร้อมพี่จีซองอยู่เลย” …ใช่ พี่จีซอง พี่รหัสแจฮวานนั่นแหละ
“ห่า รู้ความเคลื่อนไหวกูอีก สรุปมีไร” ซองอุนเข้าเรื่อง เซ้นส์เขาในวันนี้บอกว่าดาเนียลไม่ได้โทรมาขอให้เขาเลี้ยงอะไรแน่ๆ ไม่งั้นมันไม่กวนตีนเขาแบบนี้หรอก
“ขอเบอร์พี่จีซองหน่อยสิ”
“เอาไปทำไรวะ มีเรื่องจะคุยกับมันเหรอ มันอยู่ข้างๆ กูนี่ จะคุยไหม”
“คุยดิ ตอนนี้เลยพี่” ดาเนียลได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากปลายสาย เขาจับใจความไม่ได้ว่าอีกฝ่ายโวยวายอะไรกัน แต่ช่างเถอะนั่นไม่ใช่เรื่องที่เขาอยากรู้ แล้วคนที่เขาอยากคุยด้วยก็มารับสายต่อ
“ฮัลโหลๆ แดนเหรอ ได้ยินรึเปล่า”
“ได้ยินครับพี่”
“เออ มีไร เห็นไอ้อุ่นมันบอกว่ามึงอยากคุยกะกู”
“พี่มีเบอร์ใหม่แจฮวานไหม ผมขอหน่อยดิ” ดาเนียลเข้าเรื่องทันที เขาต้องรู้ให้เร็วที่สุดว่าเดซี่ลูกรักของเขาอยู่ที่ไหนในตอนนี้
“มีๆ รู้ได้ไงว่ามันเปลี่ยนเบอร์ มันเพิ่งเปลี่ยนอาทิตย์ที่แล้วนี่เอง ปกติกูเห็นมึงสองคนกัดกันตลอด ไม่นึกว่าจะติดต่อกันด้วย”
“ก็เพิ่งคิดจะติดต่อนี่แหละพี่ พี่รู้ไหม น้องรักของพี่มันเอาลูกรักผมไปซ่อน! ” ดาเนียลเผลอตะคอกใส่ปลายสาย พอเป็นเรื่องเดซี่ทีไรเขาก็ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ทุกที
“ลูกรัก? อ๋อออ น้องเดซี่”
“ผมขอเบอร์มันเลยได้ไหมพี่ ผมตามหาลูกผมเป็นชั่วโมงแล้วยังไม่เจอเลยเนี่ย”
“แป๊บๆ จดนะ 09x-xxxxxxx มันเอาลูกรักมึงไปซ่อนแบบนี้ไปกวนตีนหรือทำอะไรขัดใจมันรึเปล่าวะ ไอ้แจนแม่งยิ่งชอบทำอะไรแผลงๆ อยู่ด้วยเวลามีคนไปขัดใจหรือกวนตีนมัน”
“เปล่าครับๆ ขอบคุณมากพี่ แค่นี้ก่อนนะครับ ผมต้องไปหาลูก” ดาเนียลวางสายทันทีที่ได้เบอร์เป้าหมาย เขาไม่รอช้าโทรไปหาแจฮวานทันที
แจฮวานเพิ่งเลิกเรียน เขาแยกกับมินฮยอนหน้าตึก วันนี้เขามีเรียนอีกทีตอนสิบเอ็ดโมงเลยกะจะไปหาข้าวกินพลางๆ จะได้กลับไปเปลี่ยนชุดใหม่ด้วย จริงๆ มินฮยอนก็ชวนเขาไปกินข้าวแล้วเดินเล่นฆ่าเวลาที่ห้าง แต่ด้วยความที่เขาอยากกลับหอเปลี่ยนชุดก็เลยปฏิเสธไป ก็พอจะรู้เหตุผลว่าทำไมมันถึงชวนเขาไปห้าง
คงกะจะให้เขาเปิดปากเล่านั่นแหละว่าไปเอาชุดใครมาใส่ มันคงนึกว่าเขาคงจะยอมเล่าถ้าได้ออกไปเที่ยวผ่อนคลาย
แต่ขอโทษ ถ้าเขาไม่เล่าก็คือไม่เล่า ใครมันจะไปอยากเล่าว่าเอาชุดคังดาเนียลมาใส่ ขืนบอกคนอื่นแบบนั้นคงได้คิดว่าเขาไปนอนค้างคอนโดมันแน่ๆ แค่คิดก็สยองแล้ว นี่ถ้าไม่จำเป็นเขาไม่มีทางไปเหยียบคอนโดมันแล้วเอาชุดมันมาใส่ให้เป็นเสนียดหรอก
อ้อ...เว้นของอย่างหนึ่งที่เป็นของดาเนียลแล้วเขาไม่คิดว่ามันเป็นเสนียด ออกจะชอบและอยากใช้บ่อยๆ ด้วยซ้ำไป
น้องเดซี่ลูกรักของมันไงล่ะ หึ!
แจฮวานควงกุญแจรถเดินไปหาเดซี่ เขาอุตส่าห์เอารถดาเนียลมาจอดทิ้งไว้หลังหอใน แล้วนั่งรถรางของมอไปตึกเรียน ถ้าดาเนียลมันจะตามหามันคงตามหาแถวตึกเรียน คงไม่มีทางมาหาแถวหอในได้หรอก เขาปลดล็อกประตูก่อนจะเข้าไปนั่งประจำที่คนขับ
รถหรูๆ นี่มันขับสบายจริงๆ
แจฮวานไม่มีรถใช้ ทั้งมอเตอร์ไซค์และรถยนต์ ทำยังไงได้ บ้านเขาไม่ได้รวย เงินค่าเทอมและค่าครองชีพก็ได้มาจากการทำพาร์ทไทม์ทั้งนั้น ถึงจะไม่มีรถแต่เขาขับรถเป็นทั้งมอเตอร์ไซค์และรถยนต์นั่นแหละเพราะเคยทำงานเป็นคนขับรถส่งของมาก่อน และคนที่ฝึกเขาขับรถและไปส่งสอบใบขับขี่ก่อนไปหาพาร์ทไทม์เป็นคนขับรถส่งของก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ฮวังมินฮยอนเพื่อนเขานั่นแหละ
เป็นคนที่มีใบขับขี่โดยที่ไม่มีรถเป็นของตัวเองสักคัน
เพราะฉะนั้นทุกเช้าก่อนมาเรียน เขาต้องเผื่อเวลาเดินทางออกจากหอประมาณหนึ่งชั่วโมงเป็นอย่างน้อย เพราะหอเขาค่อนข้างไกลจากตัวมหาวิทยาลัยมาก มินฮยอนเองก็เคยเสนอตัวว่าจะมารับเขาไปเรียนแต่เขาก็ปฏิเสธไปอีกนั่นแหละ โดยให้เหตุผลว่ามันเปลืองน้ำมัน และเขาก็ชอบที่จะถีบจักรยานไปมหาวิทยาลัยเองมากกว่า
อ่าใช่...จักรยาน หอเขามีจักรยานให้ยืมใช้โดยไม่คิดค่าบริการ เจ้าของหอใจดีให้ใช้ฟรี เพราะมันไม่มีใครใช้นอกจากเขา ทุกคนที่อยู่หอเดียวกับเขามีมอเตอร์ไซค์เป็นของตัวเองทั้งนั้น แต่วันนี้จักรยานคู่หอคันเดิมถูกจอดอยู่ที่หอเพราะยางรั่ว สงสัยเมื่อคืนวานเขาคงถีบจักรยานไปเหยียบใส่อะไรแหลมๆ สักอย่างโดยไม่ทันได้ระวัง ยางรั่วเฉย ถีบไปถีบมาแล้วก็ถีบต่อไปไม่ได้จนต้องเดินเข็นกลับหอ แถมเวลานั้นร้านปะยางก็ปิดหมดแล้ว เช้านี้ก็ยังเอาไปปะยางไม่ได้เพราะเช้าเกินไปร้านยังไม่เปิด นั่นคือเหตุผลที่ทำให้เขาไม่อาบน้ำและออกจากหอเร็วกว่าเดิมเพื่อเดินไปมหาวิทยาลัยก่อนจะโดนรถเหยียบน้ำขังกระเด็นใส่จนต้องแบกหน้าไปขอยืมใช้ห้องน้ำที่คอนโดคังดาเนียลไงล่ะ
แจฮวานขับออดี้สีขาวที่ชื่อเดซี่ออกไปนอกมหาวิทยาลัย เขาจะกลับไปเปลี่ยนชุดที่หอตัวเอง หาข้าวกินแล้วค่อยเอาเดซี่ไปคืนดาเนียล แต่ก่อนจะคืนก็ขอใช้เดซี่ให้หนำใจหน่อยละกัน หวงมากนักใช่ไหม รักมากนักใช่ไหม โทษฐานที่ถ่วงเวลาและกวนตีนเขาไม่เลิก มันก็ต้องเล่นแบบนี้แหละถึงจะสาสม
พลันความคิดชั่ววูบก็แวบเข้ามาในหัว แจฮวานยิ้มร้ายขึ้นมาทันทีเมื่ออะไรแผลงๆ ที่มันแวบเข้ามาในหัวเมื่อกี้กระตุ้นให้แจฮวานอยากทำตาม
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดความคิดแผลงๆ ของคนที่กำลังขับออดี้สีขาว เบอร์โทรสิบหลักที่ไม่มีชื่อคนโทรเข้ามาบ่งบอกได้ว่าเป็นเบอร์แปลกหน้า แต่ดูจากเลขสี่ตัวหลังสุด แจฮวานก็จำได้ว่านั่นเป็นเบอร์ใคร
เบอร์พ่อเดซี่ไง
แจฮวานยังไม่ยอมรับสายเพราะต้องการเล่นสงครามประสาทกับอีกฝ่าย จนดาเนียลโทรมาเป็นสายที่สี่ แจฮวานจึงกดรับ
“สวัสดีครับ ใครครับ?” แจฮวานแกล้งทำเป็นไม่รู้ว่าใครโทรมาหา เพื่อความเนียนหน้าซื่อๆ
“กูเอง”
“กู? ใครครับ ไม่มีคนรู้จักชื่อนี้ครับ” ดาเนียลพยายามระงับอารมณ์ตัวเอง ก่อนจะกัดฟันพูดอย่างใจเย็น
“ดาเนียล...มึงเอาลูกกูไปไว้ที่ไหนแจฮวาน มึงบอกมาเดี๋ยวนี้! ”
“อ้าวมึงเองเหรอ ไปกินรังแตนไหนมา ทำไมโมโห” แจฮวานพูดยียวนก่อนจะกลั้นขำกับตัวเองที่กวนประสาทดาเนียลจนทำให้ดาเนียลหัวหมุนสำเร็จ
“อย่าลีลาได้ไหมวะ! เอาเดซี่ไปไว้ไหน! ” ดาเนียลตะคอก
“บนถนน หลังมอ” แจฮวานยอมบอกที่อยู่ของเดซี่แต่โดยดี แต่คำตอบนั่นกลับทำให้ดาเนียลแทบคลั่ง
“เชี่ย! ตรงไหน เดซี่อยู่ส่วนไหนของถนนหลังมอ! ”
“ถ้าเป็นนาทีก่อนหน้าอยู่หน้าร้านไก่ทอด ถ้าเป็นตอนนี้อยู่หน้าร้านขายข้าวมันไก่ และถ้าเป็นอีกหนึ่งนาทีข้างหน้าจะอยู่หน้าร้านขายนมปั่น”
“มึงขับเดซี่อยู่เหรอแจฮวาน! เชี่ย มึงจอดเดี๋ยวนี้เลยนะ เอาลูกกูคืนมา! ” พอได้ยินเสียงอีกฝ่ายโกรธหนักมากเข้า แจฮวานจึงเลิกแกล้ง เกิดมันโกรธมากๆ แล้วดักรอฆาตกรรมเขาเอาศพยัดท่อระบายน้ำจะทำไง เขาแค่อยากกวนตีนมัน ไม่ได้อยากตายด้วยฝีมือมันสักหน่อย
แต่ความคิดแผลงๆ ที่แวบมาเมื่อกี้เขายังไม่ล้มเลิกหรอกนะ มันน่าสนุกเกินกว่าจะยกเลิกซะด้วยสิ หึ!
“ยืมก่อนได้ไหมล่ะ กลับไปเปลี่ยนชุดที่หอแป๊บ มีเรียนสิบเอ็ดโมง เดี๋ยวเอาไปคืนพร้อมชุดนักศึกษาเลย” ฟังจากน้ำเสียงของแจฮวานที่ดูจริงจังไม่ได้ดูเล่นๆ เหมือนประโยคก่อนหน้าก็พอทำให้ความโกรธของดาเนียลทุเลาลง
“คืนที่ไหน” พอแจฮวานบอกจะคืนแต่โดยดี ดาเนียลจึงลดระดับเสียงลง
“รออยู่ในมอนั่นแหละ นี่เบอร์มึงใช่ไหม ถ้าถึงมอละจะโทรหา ไม่ต้องห่วงลูกมึงหรอกน่า กูขับรถเป็นมีใบขับขี่ กูไม่แกล้งเอาลูกมึงไปชนเสาไฟฟ้าหรอกเพราะกูไม่มีปัญญาหาเงินมาชดใช้ลูกมึง” พอได้ยินอย่างนั้น ความโกรธที่สะสมมาร่วมชั่วโมงกลับปลิวหายไปเหมือนไม่เคยโกรธมาก่อน ดาเนียลรู้สึกว่าแจฮวานพูดจริง เขาจึงยอมอ่อนลง
โดยที่ไม่รู้ว่าแจฮวานกำลังจะทำอะไรแผลงๆ ที่ไม่ใช่การทำร้ายเดซี่ แต่เป็นการทำให้ดาเนียลปวดหัวซะมากกว่า
“โอเค แล้วตอนเช้ามึงเอาลูกกูออกไปทำไม ก็บอกแล้วไงว่าจะไปส่ง”
“ขืนรอมึงกูก็เข้าคลาสสายสิ อาจารย์แม่งเช็กชื่อเจ็ดโมงห้าสิบเก้า กว่ามึงจะแต่งตัวอีก แถมวันนี้กูต้องเดินเข้ามอ กูกลัวไม่ทัน เห็นกุญแจรถมึงวางบนโต๊ะเลยรีบเขียนบอกไม่ให้มึงตกใจว่ากุญแจรถหาย กูผิดด้วยเหรอวะ” แจฮวานแทบจะละมือจากพวงมาลัยรถแล้วปรบมือให้กับการแสดงของตัวเองดังๆ เอารางวัลตุ๊กตาทองมาให้เขาสักสี่ปีซ้อนยังได้เลย
“ก็มึงเล่นเขียนข้อความทิ้งไว้แบบนั้นกูก็นึกว่ามึงจะเอาลูกรักกูไปแกล้ง แถมตอนกูไปหาลูกกูในมอก็ไม่เจอเลยนึกว่ามึงเอาไปซ่อน”
ฉลาด ฉลาดมากที่รู้ว่าเขาเอาเดซี่ไปซ่อน คิมแจฮวานขอปรบมือให้คังดาเนียลเลย
“เอ้า มึงหาไม่เจอเองแล้วมาหาว่ากูเอาไปซ่อนเนี่ยนะ ตลกละ” แจฮวานยังคงตีเนียนต่อไป
“เออกูขอโทษ กูยอมรับกูใจร้อน นั่นลูกรักกูเลยนะ แถมคนเอาไปก็เป็นมึงอีก”
“อ้าว คือกูดูไม่น่าไว้ใจขนาดนั้น?”
“ถ้าเป็นมึงในแบบที่พูดดีๆ กับกูเกินสิบประโยคกูก็คงไม่คิดแบบนั้น”
คิดถูกแล้วเพื่อน...เพราะจะให้เขาพูดดีๆ กับดาเนียลมันคงเป็นไปได้ยากหน่อยล่ะ ถ้าเขาจะพูดดีกับดาเนียลนั่นคือเขามีแผนจะแกล้งป่วนประสาทมันซะมากกว่า อย่างเช่นในตอนนี้
“สิบโมงครึ่ง กูจะเอาไปคืนให้ที่มอ โอเคนะ แค่นี้ล่ะกูขับลูกมึงอยู่”
แจฮวานกดวางสายทันที ทันทีที่ถึงหอ แจฮวานก็จัดการเปลี่ยนชุก่อนจะเอาชุดนักศึกษาของดาเนียลยัดลงถุงก๊อบแก๊บสีเขียวที่เพิ่งเอาพวกของใช้ที่อยู่ในถุงออกวางบนพื้นห้อง
เอาไปซักเองละกันนะเพื่อน จะรีบคืนให้มันจบๆ ไป อย่าให้ได้มายุ่งเกี่ยวกันอีกเลย!
แจฮวานโยนชุดของตัวเองที่เปียกน้ำขังลงกะละมังในห้องน้ำแล้วแช่ทิ้งไว้ ค่อยกลับมาซักหลังเลิกเรียนก็แล้วกัน
สเต็ปต่อไปก็ต้องไปกินข้าว แต่ถ้าไปกินข้าวคนเดียวเหมือนทุกทีมันก็น่าเบื่อแย่
หาคนไปกินข้าวด้วยดีไหมนะ?
#รัก_ไม่รู้ตัว
Comments (0)