PROLOGUE

sds

(CR. WLOP)

 

เลดี้แคทเธอรีน เกรซ เมลฟอร์ท บุตรสาวคนโตของเจ้าผู้ครองนครโรสแลน สตรีสูงศักดิ์ผู้เฉลียวฉลาดและเถรตรง กุหลาบหนามแห่งโรสแลนและปาสคาล ผู้ทระนงซึ่งเกียรติยศของตระกูล หล่อนสะกดคำว่าหน้าที่เป็นเสียก่อนคำอื่นใด ชีวิตสมรสกับเพื่อนในวัยเยาว์ที่งอกเงยเกิดเป็นรักที่กำลังไปได้สวย หากแต่ต้องกลายมาเป็นหม้ายสาวก่อนวัยอันควรในวัยเพียงยี่สิบแปดปีเท่านั้น

อาร์คิน เมลฟอร์ท อดีตสามีผู้ปกครองแคว้นน้อยใหญ่ทั่วอาณาจักรเหนือ ข้ารับใช้ที่ซื่อสัตย์แต่กษัตริย์องค์ก่อน เสียชีวิตกะทันหันโดยปริศนาระหว่างที่พำนักอยู่ ณ เมืองหลวงเพื่อเข้าเฝ้า พระเจ้าเฮนรี่ กษัตริย์แห่งเอเดน ส่งผลให้อาณาจักรปาสคาลและเขตแดนเหนือทั้งหมดถูกยึดครองโดยตระกูลทรงอิทธิพลที่สุดของเอเดนอย่าง ลอร์ดเดวิส เบลมอนท์

             ท่านลอร์ดวัยสี่สิบหกปีผู้นี้ นอกจะเป็นเจ้าผู้ปกครองดินแดนทางทิศตะวันตกอันกว้างขวาง ลอร์ดเดวิสยังเป็นเสนาบดีอาวุโส มือขวาของกษัตริย์เฮนรี่ คาร์เตอร์ ผู้มีศักดิ์เป็นหลานชายแท้ๆ อีกด้วย

และเพราะกษัตริย์ขึ้นครองราชย์ด้วยพระชนมายุเพียง 14 พรรษา การตัดสินพระทัยในหลายๆ ด้านจึงจำเป็นต้องพึ่งการชี้แนะจากพระปิตุลา ซึ่งก็คือ ท่านอาเดวิส

บุคคลที่ได้รับการขนานนามว่า ราชสีห์ไร้ใจ และ ราชันไร้มงกุฎ  ตั้งแต่ชายาผู้เป็นที่รักเสียชีวิตหลังให้กำเนิดบุตรชายคนสุดท้องได้เพียงหนึ่งวัน ความขมขื่นและความโศกเศร้าเปลี่ยนชายที่มากพร้อมในคารมและจิตใจดีให้เยือกเย็น กลายเป็นคนเหี้ยมโหด ไร้ซึ่งความปรานี และพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อความมั่งคั่งของตระกูลอย่างไม่สนความผิดชอบชั่วดี 

ด้วยอำนาจเงินตราและกองกำลังที่เเข็งแกร่ง ลอร์ดเบลมอนท์ก่อการกบฏต่ออดีตกษัตริย์ฮิวเบิร์ทที่สอง ราชาผู้ทรงสำราญในสุรานารีจนบ้านเมืองระส่ำระสาย เมื่อความดีความชอบตกเป็นของตระกูลเบลมอนท์ ท่านลอร์ดจึงเสนอชื่อหลานชายวัยสิบสี่ปีที่เกิดแก่กษัตริย์ฮิวเบิร์ทขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์องค์ที่แปดแห่งราชอาณาจักรเอเดน 

แต่บรรดาขุนนางและคนทั้งแผ่นดินต่างรู้ดีว่า แท้จริงแล้วใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจของยุวกษัตริย์ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะพระองค์นี้ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกหากใครใครจะกลัวเกรงและไม่กล้าเข้าไปขวางทางบุรุษผู้ทรงอิทธิพลของอาณาจักรอย่าง ลอร์ดเดวิส

 

 

 

.

 

 

 

 

sds

 

หอคอยพำนักพระหัตถ์ขวาของกษัตริย์ | 05:50

 

กลิ่นซีดาร์วู้ด และ ความอบอุ่นที่ห้อมล้อมร่างของเธออยู่ในขณะนี้ปลุกให้หญิงสาวขยับกายเข้าหาแหล่งที่มาด้านหลังท่ามกลางความรู้สึกกึ่งหลับกึ่งตื่น วงแขนแกร่งที่โอบรัดเอวบางมิให้เคลื่อนไหวไปมากกว่านี้และของแข็งบางอย่างที่ดุนดันอยู่บริเวณบั้นท้ายทำให้เปลือกตาที่ปิดสนิทเบิกโพลงขึ้นมาทันที

สิ่งแรกที่ แคทเธอรีน รู้สึกก็คืออาการปวดศีรษะราวกับหัวจะระเบิด และลำคอแห้งผากคล้ายขาดน้ำมานาน ดวงตาสีมรกตค่อยๆปรับสภาวะการมองเห็นในห้องที่มืดสลัว ดูจากแสงสีชมพูอ่อนๆที่เล็ดลอดเข้ามาผ่านหน้าต่างขนาดใหญ่ที่มีม่านขาวบางปลิวไสวเอื่อยๆ

เวลานี้คงเป็นยามเช้าก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้นเป็นแน่ 

สายตาของเจ้าหล่อนสอดส่องไปทั่วบริเวณที่แสงสาดถึง ให้พอทราบถึงขนาดห้องชุดที่มีขนาดใหญ่เสียยิ่งกว่าห้องนอนของเธอและอดีตสามีที่ปราสาทในเมืองปาสคาลอีก เรียวคิ้วสวยขมวดเข้ากันจนแทบผูกเป็นโบเมื่อเริ่มสังเกตเห็นถึงชุดเกราะสีทองอร่ามที่แขวนตั้งอยู่ที่มุมห้อง เพ่งพินิจตราประจำตระกูลที่สลักนูนเด่นขึ้นเป็นราชสีห์แยกเขี้ยวน่าเกรงขาม ทับทิมเม็ดโตสีแดงเลือดนกประดับแทนตาทั้งสองข้างของสิงโตตัวนั้น 

ทองและแดง

สีประจำตระกูลที่ทั่วทุกพื้นที่ของเอเดนต่างทราบดีว่ามีผู้ใดเป็นผู้ครอบครอง 

สิ่งของเครื่องใช้ ทั้งโซฟาบุหนังกำมะหยี่แดงที่มิใช่ของพื้นเพทั่วๆ ไปที่สามารถหาได้ในเมืองอันใกล้ ข้าวของเครื่องใช้รวมถึงโต๊ะเขียนหนังสือที่ล้วนคำรามออกมาถึงความมั่งคั่งของวงศ์ตระกูลด้วยวัสดุที่ทำด้วยทองคำสมกับเป็นตระกูลที่ร่ำรวยจากเหมืองทองและเเร่อัญมณีอย่าง เบลมอนท์ ทั้งสิ้น

บุคคลผู้เป็นเจ้าของมือแกร่งที่กอดรัดเธอแน่นจนแทบหายใจไม่ออกในขณะนี้เริ่มรู้สึกตัว สังเกตได้จากลมหายใจที่เป่ารดรินท้ายทอยของเธอที่เริ่มเพิ่มจังหวะขึ้น แคทเธอรีนข่มตาเรียกความมั่นใจและขอให้สิ่งที่เธอคาดคิดเป็นเพียงแค่ความฝันที่อีกไม่นาน สาวรับใช้ก็คงจะมาเปิดม่านให้แสงแดดยามเช้าสาดส่องโลมเลียเนื้อผิว ปลุกให้เธอตื่นดังเช่นในทุกๆวัน หญิงสาวตัดสินใจขยับร่างทีละนิด ทีละน้อย หันไปเผชิญหน้าร่างของอีกคนที่นอนกอดเธออยู่

กลุ่มผมสีบลอนด์ซีดเป็นสิ่งแรกที่ทักทายสายตาของแคทเธอรีน จมูกโด่งคมสัน และคิ้วหนาที่ขมวดเข้าหากันแม้ในยามหลับ ดวงหน้าของบุรุษผู้ทรงอิทธิพลที่สุดของเอเดน ชายผู้เป็นที่หวาดกลัว ราชันไร้มงกุฎที่พรากสามีสุดที่รักและบ้านเมืองของเธออย่างไร้ความปรานี ลอร์ทเดวิส เบลมอนท์

มือเล็กออกแรงผลักไปที่อกแกร่งที่เปลือยเปล่าอย่างแรง แต่ร่างกำยำของเขากลับขยับออกห่างไปเพียงไม่กี่คืบเท่านั้น เปลือกตาของคนที่หลับอยู่เบิกกว้าง นัยน์ตาสีฟ้าครามขุ่นหมองจากการที่โดนปลุกให้ตื่นอย่างถือวิสาสะ ก่อนจะค่อยๆเเปรเปลี่ยนเป็นความตกใจสะท้อนแววตาของหญิงสาวตรงหน้า

แววตาที่สอดประสานของคนทั้งคู่เต็มไปด้วยหลากหลายอารมณ์ที่ผสมปนเป

 

ตกใจระคนสับสน

หงุดหงิด และ โกรธเคือง

แต่เหนือสิ่งอื่นใด เกลียดชัง

 

เดวิสกะพริบตาสองครั้งกลิ่นกุหลาบแรกแย้มของคนในอ้อมแขนเย้ายวนโชยมาแตะที่ปลายจมูกโด่งยามลมพัดผ่าน ก่อนจะคิดได้ว่าแขนของเขายังคงโอบกอดชายาแห่งเมลฟอร์ทแน่น วงแขนแกร่งรีบคลายออกทันควัน

ไม่จำเป็นต้องเสียแรงที่จะพูดจากับคนตรงหน้าในเมื่อสิ่งเดียวที่เเคทเธอรีนต้องการในตอนนี้คือไปให้ไกลจากบุคคลอันตรายผู้นี้ให้เร็วที่สุด ร่างบางพรวดลุกขึ้นแต่ก็ต้องรู้สึกเสียใจในการกระทำเช่นนั้นทันทีเมื่อสายตาเย็นชาของเขาลากไล้ไปทั่วเรือนร่างที่เปล่าเปลือยอย่างอุกอาจ หญิงสาวกระชากผ้าห่มมาคลุมร่างทันทีก่อนจะลุกขึ้น แต่ทันทีที่ก้าวเดินความเจ็บปวดที่บริเวณหว่างขาก็แล่นขึ้นมาจนล้มลงนั่งที่เตียง ร่างบอบบางถึงกับผงะ ค่อยๆหันหลังกลับไปมองนัยน์ตาสีฟ้าครามที่กำลังสอดส่องมองดูความเสียหายบริเวณรอบๆเตียง

ความรู้สึกนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับเธอ ไม่เคยแม้แต่กับอาร์คิน

แสงแดดจางๆที่เริ่มเพิ่มความสว่างชี้ชัดให้เห็นว่า ห้องนอนขนาดใหญ่นี้มีสภาพราวกับผ่านเหตุการณ์แผ่นดินไหวก็ไม่ปาน เมื่อข้าวของกระจัดกระจาย เสื้อผ้าอาภรณ์ถูกกองทิ้งไว้ไม่เป็นที่เป็นทางนับตั้งแต่ทางเดินตรงเข้ามายังเตียงนอน ไม่บอกก็พอจะเดาได้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น

เรียวขายาวพยายามก้าวเดินอย่างสกัดกั้นความรู้สึกไม่ให้แสดงออกทางสีหน้า การอ่อนแอต่อหน้าศัตรูเป็นสิ่งที่ท่านหญิงแห่งเมลฟอร์ทไม่พึงปรารถนา 

 

"มีอะไรให้ช่วยไหม" สุ้มเสียงทุ้มต่ำก้องกังวานประโยคแรกที่คนชั่วช้าอย่างเขาเอ่ยปากถาม ริมฝีปากบางเฉียบที่เหยียดตรงยกขึ้นเค้นขำในลำคอเมื่อเห็นท่าทีของเธอ 

 

แคทเธอรีนไม่ตอบดวงหน้างามเงยขึ้นมองซ้ายมองขวาอย่างพยายามหาห้องน้ำ เเล้วเราจะไปรู้ได้ยังไงว่ามันอยู่ตรงไหน ในเมื่อห้องของเขาใหญ่ขนาดนี้

 

"ตรงไปสุดทางเดินอยู่ทางขวามือ ถ้าห้องน้ำ..เป็นสิ่งที่ ท่านหญิง กำลังตามหา"

 

ไม่แม้แต่จะขอบคุณ หญิงสาวเดินตรงเข้าห้องน้ำไป ก่อนจะปิดประตูและลงกรอย่างแน่นหนาทันที ร่างบางยืนจ้องใบหน้านวลผ่องและรอยจ้ำสีแดงตามซอกคอและเนินอกอย่างสะพรึง แทบอยากจะเอาใยบวบขัดถูให้มันจางหายไปเสียเดี๋ยวนั้น มือเล็กกำเเน่น

มันเกิดขึ้นได้อย่างไรกัน..

เรามาอยู่บนเตียงและร่วมหลับนอนกับศัตรูที่เกลียดชังผู้นั้นได้อย่างไร

 

 

 

.

 

 

 

เมื่อเปิดประตูออกมาอีกครั้งหญิงสาวเตรียมใจที่จะต้องแลกเปลี่ยนบทสนทนากับเขา หรือแย่ไปกว่านั้นเขาอาจจะรอให้เธอทำกิจกรรมบนเตียงซ้ำเป็นหนที่สองก็เป็นได้ คนจิตใจอำมหิตย์แบบนั้น อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น

แต่แคทเธอรีนกลับพบเพียงชุดเดรสผ้าลินินสีชมพูอ่อน สีประจำตระกูลโรสแลนของเธอ หาใช่สีฟ้าที่เป็นสีประจำตระกูลเมลฟอร์ทของอดีตสามีไม่ บนชุดที่พับไว้มีโน้ตเล็กๆที่เขียนด้วยลายมือสวยสะดุดตา หมึกปากกาที่ตวัดขึ้นลงอ่อนช้อยแต่ดุดันในเวลาเดียวกัน ข้อความบนนั้นอ่านได้ชัดแจ้ง 'ใส่ชุดนี้แล้วเคาะประตูสามครั้ง คนรับใช้จะพาท่านหญิงไปยังตำหนักใน' 

ฮ่ะ! หญิงสาวพ่นลมหายใจออกทางจมูกอย่างนึกขำ ตบหัวแล้วลูบหลังอย่างนั้นรึ 

เมื่อวางกระดาษสีครีมที่มีอักษรย่อดีบีอยู่ที่มุมล่างลง สายตาก็พลันสังเกตเข็มกลัดรูปสิงโตขนาดเล็กที่กลัดไว้บนอกเสื้อลินินสีชมพูอ่อน หญิงสาวเบ้ปากอย่างสะอิดสะเอียน ก่อนจะดึงเข็มกลัดออกแล้วโยนทิ้งลงพื้นทันที

ถ้าหวังให้กุหลาบหนามดอกนี้สวมใส่ข้าวของที่บ่งบอกถึงราชสีห์ล่ะก็ ฆ่าข้าให้ตายเสียจะดีกว่า

 

 

 

.

 

 

 

sds

 

08:00

 

โต๊ะเสวยวันนี้มีสมาชิกราชวงศ์และตระกูลใหญ่มากมายร่วมโต๊ะอย่างหนาแน่น ส่วนหนึ่งก็คงเป็นเพราะคืนนี้กำลังจะมีงานเลี้ยงเฉลิมพระชนมพรรษาครบสิบห้าปีของกษัตริย์เฮนรี่ 

หลังจากที่อาร์คินเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ บุรุษนักรบเช่นเขาไม่น่าพลั้งท่าทำให้ตัวเองตกอยู่ในอันตรายจนถึงแก่ชีวิตหากไม่ใช่เพราะสถานการณ์ที่บีบบังคับ หรือการล่อลวงจากใครคนใดคนหนึ่ง เมื่อปาสคาลเมืองหลวงเเห่งอาณาจักรเหนือที่ตระกูลเมลฟอร์ทปกครองถูกพวกเบลมอร์ทเปิดศึกยึดอำนาจไปเมื่อสามเดือนก่อน แคทเธอรีนถูกพามาเป็นตัวประกันสำคัญไม่ให้เมืองอื่นๆ ในอาณาจักรเหนือคิดแข็งข้อต่อองค์กษัตริย์ แต่ถึงกระนั้นเธอก็เพิ่งจะได้เข้ามาอาศัยอยู่ในตำหนักในเพียงห้าวันเท่านั้นหลังจากถูกกักบริเวณยังห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ มาเกือบสองสัปดาห์ แค่ห้าวันก็มีเรื่องให้ชวนปวดหัวได้ถึงเพียงนี้  อาร์คินทนอยู่ที่นี่ได้อย่างไรตั้งเป็นหลายสัปดาห์

 

"เป็นอย่างไรบ้างท่านหญิงเกรซ เมื่อคืนเจ้าหลับสบายดีไหม"

 

สุรเสียงของกษัตริย์หนุ่มที่ตรัสถามอย่างเย้ยหยันท่ามกลางหมู่ชนชั้นสูงที่กำลังรับประทานอาหารเช้าพร้อมหน้าพร้อมตา การที่พระองค์หันเหพระราชหฤทัยมาให้กับชายาของอดีตเจ้าผู้ครองนครเหนือ ทำให้สายตาทุกคู่หันมาจับจ้องเธอเช่นกัน

สตรีสูงศักดิ์ที่โดนบ่มเพาะมาอย่างดีถึงกิริยามารยาทและการสงวนท่าทางเมื่อเสวนากับผู้อื่นโดยเฉพาะกษัตริย์ที่อยู่เหนือปวงชนทั้งหมด วางช้อนที่ข้างจานอย่างเบามือ หยิบผ้าเช็ดปากสีขาวสะอาดขึ้นเช็ดที่มุมปากก่อนจะหันไปสบพระเนตรกษัตริย์เฮนรี่ 

 

"หม่อมฉันหลับสบายดีเพคะ เป็นเพราะน้ำพระทัยและบารมีของฝ่าบาทที่ทำให้ใต้หล้าสงบสุขเช่นนี้"

 

เเม้จะนึกชิงชังราชาหนุ่มที่ไม่ได้ได้บัลลังก์มาด้วยความสามารถของตน ดีแต่กลั่นแกล้งข้ารับใช้และเล่นสนุกไปวันๆ โยนความรับผิดชอบการบริหารบ้านเมืองให้เหล่าเสนาบดีเป็นผู้ดูแลนัก แคทเธอรีนก็จำใจต้องพูดชมเชยเพื่อให้ไม่กระทบต่อประชาชนในเขตอาณาจักรเหนือของเธอ ในเมื่อทุกย่างก้าวของพาราเวลแห่งนี้มีตาและหูของพระราชารวมถึงกลุ่มคนที่อิจฉาริษยาพร้อมจะนำเรื่องราวและกิริยาของเธอไปทูลเกล้าฯทุกเมื่อ

 

ราชาหนุ่มขำพลางปรบมืออย่างชอบพอ

 

"ที่เจ้าหลับสนิทมิใช่เพราะเหน็ดเหนื่อย กับกิจกรรมเข้าจังหวะที่ไม่ได้สัมผัสมานานตั้งแต่กลายมาเป็นแม่หม้ายมากกว่ากระมัง"

เสียงหัวเราะของขุนนางและข้าบริพารที่ประจบประแจงดังขึ้นสมทบ มือที่สอดประสานอย่างเรียบร้อยบนตักของแคทเธอรินบีบเข้าหากันแน่น เรื่องเมื่อคืนที่แท้เป็นการร่วมมือของไอคนชั่วคนนั้นกับฝ่าบาทงั้นหรือ 

 

"ยังไงดีล่ะ แม่หม้ายของสามีที่สนับสนุนฮิวเบิร์ทที่ไม่เอาไหนก็ไม่ต่างจาก กบฏ นักหรอก

ทหาร!"

 

ทหารองครักษ์สองนายเดินตรงเข้ามาฉุดร่างของแคทเธอรีนลุกออกจากที่นั่งแล้วลากร่างที่ขัดขืนมากลางห้อง ให้สายตาของชนชั้นสูงทุกตระกูลมองเห็นอย่างแจ่มแจ้ง 

 

"คุกเข่า!" ท่านหญิงที่หยิ่งทระนงในศักดิ์ศรีที่บัดนี้โดนเหยียบย่ำจนแทบไม่เหลือเคล้าความเป็นราชนิกุลขัดขืนคำสั่งนั้น จนโดนไม้ตะบองป้องใหญ่ฟาดเข้าให้ที่น่อง ทรุดตัวคุกเข่าลงในที่สุด

 

"โอหังนักนะนังผู้หญิงคนนี้! ฉีกเสื้อมันซะให้ดูเป็นเยี่ยงอย่าง"

 

ทันทีที่องครักษ์หนุ่มทำตามรับสั่ง ยื้อยุดฉุดกระชากเสื้อลินินสีชมพูจากหญิงสาวจนเริ่มแหวกขาด เสียงเก้าอี้ที่เลื่อนออกขูดกับพื้นกะทันหันก็ดังขึ้น

 

"ฝ่าบาท เห็นทีอาหารเช้ามื้อพิเศษนี้จะชืดหมดเสียแล้วกระมัง ให้คนครัวยกมาตั้งให้ใหม่ดีไหมพ่ะย่ะค่ะ"

 

เสียงทุ้มหนาที่เธอคุ้นหูจากเมื่อรุ่งสางดังขึ้นหยุดการกระทำของทหารลง รวมทั้งสายตาของคนทั้งห้องที่หันไปหาพระหัตถ์ขวาของราชา ผู้เป็นหลานแม้จะขัดใจไม่น้อยที่จู่ๆ ท่านอาก็มาขัดความสนุก เขาดันลิ้นที่กระพุ้งแก้มอย่างไม่สบอารมณ์นัก

 

"ท่านอาอยากจะให้ใครไปจัดอะไรมาก็สุดแล้วแต่เถอะ ข้ายังสนุกกับ-"

 

"ฝ่าบาท ราชาที่ดีนั้นควรมีเมตตาธรรม ท่านหญิงเกรซเองก็เป็นราชนิกุลที่เป็นถึงอดีตชายาของเจ้านครเหนือ อย่างไรพระองค์ก็ควรไว้ซึ่งเกียรติของท่านหญิงผู้เป็นตัวแทนของปาสคาลและอาณาเขตเหนือที่ไกลโพ้น"

 

"เหตุใดข้าต้องให้เกียรติกบฏ.."

 

นัยน์ตาเยือกเย็นของลอร์ดเดวิสราวกับมีลูกไฟที่พร้อมจะลุกโหมเมื่อโดนสวนกลับจากเด็กที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างเฮนรี่ กษัตริย์ที่ไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางเลยว่าควรวางตัวเช่นไรต่อหน้าเสนาบดีที่กุมอำนาจทั้งราชอาณาจักรเช่นเขา ด้วยใบหน้าเรียบเฉยเดวิสผ่อนลมหายใจช้าๆ ยิ้มบางที่ดูน่าสะพรึงกลัวมากกว่าอัธยาศัยดีแล้วเอ่ยตอบ

 

"เพื่อแสดงเป็นเยี่ยงอย่างแก่ประชาชนว่าพระองค์ทรงมีพระเมตตา"

 

"อย่างนั้นหรือ งั้นข้าก็ควรจะตบรางวัลให้นาง.."

พระองค์ตรัสก่อนจะลุกขึ้นเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าร่างบางที่คุกเข่าอยู่ ยกพระหัตถ์บีบไปที่คางมนให้เงยศีรษะขึ้น พระสรวลและพระเนตรราวกับกำลังสำราญในสิ่งที่กำลังจะรับสั่งต่อไป  

 

"แต่งงานกับท่านอาของข้า.. 

เผื่อวันไหนท่านอาเหนื่อยข้าจะสนองความต้องการของเจ้าให้เอง"

 

รับสั่งของพระองค์ทำเอานัยน์สีมรกตที่ขุ่นเคืองก่อนหน้าเบิกโต ริมฝีปากอิ่มอ้าค้างด้วยความตกใจไม่คาดคิดว่าสิ่งนี้จะออกจากพระโอษฐ์ของกษัตริย์ 

 

"ฝ่าบาท.." เดวิสที่ได้ยินดังนั้นถึงกับกัดฟันกรอด เอ่ยประท้วงแต่ราชาหนุ่มยกพระหัตถ์ขึ้นปรามคำพูดของเขาเอาไว้

 

"ยังไงซะเมื่อคืนท่านอาก็ได้ลิ้มรสชาติของนางไปแล้วมิใช่หรือ คิดเสียว่า..มีนารีให้เชยชมเล่นในวัยเกษียณจะเป็นไรไป"

 

กษัตริย์เฮนรี่ตรัสก่อนจะลั่นเสียงหัวเราะกึกก้องไปทั่วห้องเสวยแล้วเดินออกจากห้องไปพร้อมข้าราชบริพาร

เดวิสกำหมัดแน่น เมื่อทราบแน่ชัดแล้วว่าตนโดนสวมเขา หลอกให้ร่วมหลับนอนกับผู้หญิงคนนั้นเมื่อคืนแล้วยังตกหลุมพรางให้แต่งงานกับนางอีก สายตาคมนิ่งงัน ปรายตามองคนที่ยังคงคุกเข่าอึ้งในเหตุการณ์ที่เกิด 

ไออุ่นจากผ้าคลุมหนาผืนแดงที่คลุมร่างของเธอทำให้แคทเธอรีนหันไปมองผู้เป็นเจ้าของ นัยน์ตาสีฟ้าครามของเขาหันมามองนัยน์ตาสีมรกตเพียงคู่เดียวก่อนจะประคองร่างบางให้ลุกขึ้นแล้วพาเดินออกจากห้องเสวยไปท่ามกลางเสียงอื้ออึงของคนในห้องที่ต่างลือกันอย่างสนุกปาก

แต่แค่เพียงสบตาเดียวของสายตาเย็นยะเยียบของบุรุษผู้ทรงอำนาจ ทั่วทั้งห้องก็เงียบสงัดทันที

 

 

 

.

 

 

 

หอคอยพำนักพระหัตถ์ขวาของกษัตริย์ | 09:00

 

 

 

"ถ้าเจ้าไม่เอาเข็มกลัดที่ติดอกเสื้อออก เรื่องนี้ก็คงไม่เกิด!"

 

ทันทีที่ประตูห้องพักปิดลงเดวิสตะโกนตำหนิผู้หญิงตรงหน้าอย่างเหลืออด 

 

"แล้วมันจะเกี่ยวกันอย่างไร ในเมื่อตัวประกันสงครามอย่างข้าก็จะถูกดูหมิ่นเกียรติอยู่ดี"

 

"เกี่ยว! เพราะจะไม่มีใครในพาราเวลนี้กล้าแตะต้องของที่เป็นของข้า"

 

คนร่างบางปล่อยผ้าคลุมที่คลุมร่างออกลงไปกองที่พื้นทันที ด้วยสายตาที่โกรธแค้นสุดจะทนหญิงสาวก้าวเท้ามาหาบุรุษผู้เป็นที่เกรงขามอย่างไม่เกรงกลัว 

 

"ไม่ว่าจะในฐานะสิ่งของ หรือภรรยาอย่างที่กษัตริย์ที่มิคู่ควรกับบัลลังก์ผู้นั้นตรัส

ข้าก็ไม่มีวันเป็นเบี้ยล่าง เป็นของของท่าน"

 

เดวิสแสยะยิ้มที่มุมปากก้าวเท้าเข้าไปใกล้ชายาแห่งเมลฟอร์ทจนเกินเขตมารยาททางสังคม กระซิบที่ข้างหูข่มขู่หล่อนอย่างเยือกเย็น

 

"ระวังคำพูดหน่อยดีกว่านะท่านหญิง ในพาราเวลเเห่งนี้หน้าต่างมีหูประตูมีช่องทั้งนั้น

หากทราบถึงพระกัณฐ์เข้า ระวังหัวจะหลุดจากบ่า ถึงตอนนั้นจะมาร้องเรียกให้ใครช่วย

แม้แต่สามีที่โง่เขลาของท่านก็ฟื้นจากหลุมมาช่วยไม่-" 

 

จึก

 

ปิ่นปักผมถูกชักออกจากเหนือศีรษะปักลงที่ไหล่ขวาของคนพูด เส้นผมดำขลับยาวสรวยถูกปล่อยแผ่สยายถึงสะโพก ด้วยสัญชาตญาณที่ดีเลิศเดวิสเอี้ยวตัวหลบทำให้ปิ่นหยกปักลงไปไม่ลึกมากนัก เขาจับร่างบางไปชิดกับฝาผนังอย่างแรงด้วยความโมโหทันที

 

"พิษสงเยอะนักนะ! อย่าสำคัญตัวผิดหน่อยเลย

ข้าไม่นิยมชมชอบสะสม กุหลาบหนาม ที่รังแต่จะทิ่มแทงผู้เลี้ยงดูได้ทุกเมื่อเชื่อวันไว้ครอบครอง

ต่อให้จำต้องแต่งงานกับเจ้าจริงๆ เจ้าก็เป็นได้แค่แม่วัวสืบพันธุ์ออกลูกออกหลานสืบสกุลเบลมอนท์เพียงเท่านั้น"

 

เมื่อแขนทั้งสองข้างถูกเขาตรึงแน่น ความเกลียดชังในตัวส่งให้หญิงสาววางซึ่งยศถาบรรดาศักดิ์ ถุยน้ำลายใส่หน้าลอร์ดเบลมอนท์อย่างจัง ร่างสูงผ่อนลมหายใจออกช้าๆ พยายามระงับโทสะที่พร้อมจะบดขยี้คนตรงหน้าที่บังอาจมาทำกิริยาต่ำทรามเช่นนี้ใส่เขา

 

มือแกร่งบีบล็อกคอระหงแน่น คนตรงหน้าพยายามทุบตีอกแกร่ง ประท้วงการกระทำอย่างบ้าดีเดือดสุดพลัง

 

"อย่าริอาจเอากิริยาเลวทรามที่เจ้าถนัดที่ปาสคาลหรือโรสแลนบ้านเกิดมาใช้ที่พาราเวลสูงศักดิ์แห่งนี้อีก จำเอาไว้ด้วยว่า ข้าเป็นใคร เจ้าเป็นใคร"

 

พูดจบเขาก็ปล่อยร่างบางที่ใบหน้าซีดเผือดจนเริ่มแดงจากการขาดอากาศเป็นเวลานาน แคทเธอรีนไอคอกแคกตบไปที่หน้าอกเพื่อให้การหายใจเป็นปกติดีขึ้น ลอร์ดเดวิสเดินไปส่องกระจกตรวจดูบาดแผลที่คนร่างเล็กฝากเอาไว้ที่ไล่ขวาก่อนจะดึงเสื้อมาปิดทับแล้วเดินออกจากห้องไป 

 

แคทเธอรีนทรุดตัวลงทันทีที่ประตูถูกปิดสนิท ลมหายใจสั่นระริกทั้งเคียดแค้นและหวาดผวา แต่กระนั้นหญิงสาวก็พยายามกลั้นไม่ให้หยดน้ำใสๆ ที่รื้นขึ้นมาที่กระบอกตาไหลออกมารดหลั่งยังแผ่นดินที่สามีเธอเอาชีวิตมาทิ้งไว้เมื่อสามเดือนก่อนเป็นอันขาด

เธอจะทำทุกวิถีทางให้เขาผู้นั้นชดใช้หนี้ชีวิตที่ก่อกับปาสคาล !

 

 

 

 

 

 

 

sds

 

#ColdComfort #กุหลาบหนามแห่งปาสคาล

.

.

.

---------------------------

 

ꔛ Greeting from writer ?✨

สวัสดีค่ะ ไรท์จีนะคะ เป็นไรท์เตอร์สายดราม่าค่ะ จากนิยายทั้ง 5 เรื่องของจีขอหยิบยกเรื่องนี้มาประเดิมใน platform ใหม่เป็นครั้งแรกค่ะ 

เรื่องนี้มาแปลกแหวกแนวจากทุกเรื่องที่เคยเขียนมา ด้วย setting และ story แบบพีเรียด เกี่ยวพันกับเกมการเมืองและอำนาจ ระดับภาษาที่ใช้จึงต้องเปลี่ยนตามไปด้วย

เขาและเธอ เริ่มต้นจากการเป็นศัตรู เกลียดกันอย่างสุดโต่ง ไม่บอกก็รู้ว่าจะต้องใช้เวลาเพียงใดกว่าความสัมพันธ์จะพัฒนา (?)

ยังไงฝาก พิแคท และ ท่านลอร์ด ด้วยนะคะ ?

 

— G

24.03.22

 


Twitter : https://twitter.com/greycashmere21